ใต้หน้ากากซูเปอร์สตาร์ – ภาค 2 เล่ม 1 ตอนที่ 1-2

ภาค 2 เล่ม 1 ตอนที่ 1-2

กรรมการผู้จัดการคิมมองเข้าไปในกระจกด้วยสีหน้าพึงพอใจก่อนกลั้นลมหายใจดังเฮือก

“โธ่เว้ย นี่มันอะไรอีกเนี่ย”

เขาเจอริ้วรอยที่เป็นร่องลึกตรงใต้ตาจึงเดาะลิ้นขึ้นมาทันที ในทุกๆ วันเขาเชื่อมั่นในตัวเองว่าผิวของตนไม่ได้ด้อยไปกว่าพวกนักแสดงเลย

ในการตรวจสุขภาพเมื่อไม่นานมานี้ เขาก็เพิ่งจะได้รับคำแนะนำจากหมอว่าให้ดูแลตัวเอง เพราะกระเพาะอาหารของเขาเป็นแผล หัวหน้าทีมชาที่อยู่ข้างๆ ก็ตำหนิว่า ‘เพราะแบบนี้ไงครับ ผมถึงบอกให้ดื่มเหล้าสูบบุหรี่อย่างพอดีๆ’ แต่แล้วเขาก็บอกว่า ‘ไม่ใช่สิ’ พลางส่ายหัว เพราะเขาเป็นเพื่อนที่รู้ดีกว่าใครว่าสาเหตุของเหล้า และบุหรี่คืออะไร

ไอ้เฮงซวยอีอูยอน

กรรมการผู้จัดการคิมขบเขี้ยวเคี้ยวฟันก่อนจะหันหน้าไปมา เขาประกาศกร้าวว่าให้ยกเลิกตารางงานตอนบ่ายวันนี้ให้หมด และต้องจองคิวที่คลินิกเสริมความงามได้แล้ว

“กรรมการผู้จัดการ…”

กรรมการผู้จัดการคิมที่ตกใจกับเสียงต่ำๆ ที่เรียกตนดีดตัวขึ้นมาพร้อมกับส่งเสียงกรีดร้อง

“โอ๊ย ตกใจหมด”

พอหันหลังไปมอง ชเวอินซอบก็ทำมือขอให้เขาเงียบทั้งๆ ที่ยังทำหน้าซีดอยู่

“โอ๊ย ไอ้นี่นิ ทำไมนายถึงแอบเข้ามาทำให้คนอื่นเขาตกใจแบบนี้หา”

“ขอโทษครับ”

อินซอบก้มหัวปลกๆ พลางกล่าวขอโทษ

“ว่าแต่จู่ๆ มีอะไรล่ะ”

เมื่อห้านาทีก่อนอีกฝ่ายเพิ่งจะบอกว่าตนจะออกไปกับอีอูยอนชัดๆ

“ผมบอกเขาว่าผมลืมบางอย่างไว้ และจะขึ้นมาเอาแป๊บหนึ่งน่ะครับ คุณอีอูยอนเขารออยู่ด้านล่างครับ พอดีว่าผมมีเรื่องจะพูดด้วย”

“โทรศัพท์เอาก็ได้นี่”

“เป็นเรื่องสำคัญน่ะครับ”

แม้จะอยู่กันแค่สองคนในห้องน้ำ แต่อินซอบก็ยังลดเสียงให้เบาที่สุด อย่างไรก็ตามการที่หันไปมองด้านหลังอยู่ตลอดเวลาและทำท่ากระวนกระวายนั้น ดูเหมือนว่าอีกฝ่ายจะแอบอีอูยอนขึ้นมา กรรมการผู้จัดการคิมเดาเหตุผลนั้นได้ เขาถอนหายใจก่อนจะทำให้บอกให้อีกฝ่ายพูด

“คือที่พูดไปเมื่อสักครู่นี้น่ะครับ”

อินซอบพูดอย่างระมัดระวัง

“ผมไม่เป็นไรจริงๆ ครับ”

“หมายถึงอะไรล่ะ”

“ถึงจะไม่มีประกันก็ไม่เป็นไรครับ ผมทราบดีครับว่าประกันสำหรับการว่าจ้างหรืออะไรเทือกๆ นั้นมันยุ่งยาก เพราะผมเป็นชาวต่างชาติ เพราะฉะนั้นผมเข้าใจดีครับ…”

แม้กรรมการผู้จัดการคิมจะเจอคนมามากมายในระหว่างที่ทำงานเป็นเอเจนซี่ให้กับดารา แต่เขาไม่เคยเห็นคนที่ตาสะอาดเท่ากับชเวอินซอบมาก่อนเลย ดวงตาของอินซอบสะอาดและใสเหมือนกับเด็กเล็กๆ จนมองไม่เห็นเส้นเลือดที่ตาขาวสักจุด เพราะฉะนั้นถ้าอินซอบพูดพร้อมกับทำตาใสใส่เขา เขาก็จะรู้สึกเหมือนตัวเองเป็นผู้ใหญ่ที่ใช้ไม่ได้

“ขอร้องล่ะครับ ช่วยจ้างผมโดยไม่มีประกันด้วยเถอะนะครับ”

“…”

การขอร้องของอินซอบทำให้กรรมการผู้จัดการคิมลืมคำที่จะพูดไปชั่วขณะหนึ่ง เขาตั้งสติอย่างลำบากยากเย็น และพูดว่า ‘นี่’

“อินซอบดูเหมือนนายจะฟังผิดนะ เมื่อกี้ฉันบอกว่า…”

“ผมได้ยินดีแล้วครับ”

อินซอบตอบด้วยสีหน้าแน่วแน่

จะต้องอธิบายจากตรงไหนล่ะเนี่ย กรรมการผู้จัดการคิมเบะปากให้กับการตัดสินใจลำบาก การที่ไอ้เฮงซวยอีอูยอนนั่นพูดถึงประกันสำหรับการว่าจ้างผู้จัดการส่วนตัวเป็นคำข่มขู่ ว่าคุณจะจ้างใครก็ได้ตามใจคุณ แต่มันอาจจะเกิดปัญหาที่น่ากลัวขึ้น

“ถึงไม่มีประกัน ผมก็ไม่ว่าอะไรครับ”

“ไม่นะ การจ้างงานนายโดยไม่มีประกันจะเป็นเรื่องใหญ่เลยล่ะ”

“ไม่ครับ ผมจะขับรถอย่างปลอดภัยครับ”

แววตาของอีกฝ่ายจริงจังราวกับว่าการขับขี่ปลอดภัยเป็นเป้าหมายในชีวิต

“อีอูยอนไม่ได้ถามถึงประกันการจ้างงานของนาย…เฮ้อ”

กรรมการผู้จัดการคิมกลั้นหายใจ

ตอนที่เขารู้ความจริงว่าความสัมพันธ์ของอินซอบกับอีอูยอนแปลกๆ ก็คือตอนที่อินซอบที่กลับอเมริกาไปแล้วกลับมาที่เกาหลี อีอูยอนเองก็จะใช้เวลาเกือบทั้งหมดหลังเสร็จงานในแต่ละวันไปกับชเวอินซอบ เขาทำแม้กระทั่งจองตั๋วเครื่องบินไปมัลดีฟส์ และไปเที่ยวพักร้อนกับอินซอบถึงสิบห้าวันทันทีที่ละครที่กำลังถ่ายทำอยู่ปิดกล้อง

แม้กระทั่งตอนนี้กรรมการผู้จัดการคิมก็ยังไม่เลิกรู้สึกเหลือเชื่อ ไม่สิ เขาทำไม่ได้ ต่อให้เอาหลักฐานที่กองสูงเท่ากับภูเขาเอเวอร์เรสมาวางตรงหน้า เขาก็ไม่อยากจะเผชิญหน้ากับความจริงอยู่ดี หัวหน้าทีมชาเองก็ไม่พูดอะไรออกมาเลย คนทั้งคู่มองข้ามความจริงที่ว่าคนอย่างอีอูยอนไม่มีทางสร้างความสัมพันธ์ที่จริงจังหรอก แต่จุดสิ้นสุดของการหลอกตัวเองกลับมาหาเขาเร็วกว่าที่คาดไว้

***

หลังจากจดทะเบียนเข้าตลาดหลักทรัพย์ บริษัทก็เติบโตอย่างรวดเร็ว พวกเขารับนางแบบนายแบบตลอดจนนักร้องเข้ามา และกำลังขยายอาณาเขตไปเรื่อยๆ กรรมการผู้จัดการคิมเป็นคนใจกว้างพอที่จะแบ่งปันความยินดีกับคนรอบข้าง เขาจ่ายโบนัสให้กับพนักงานทั้งหมด และให้ของขวัญเป็นการเช่ารีสอร์ตหรูที่เกาะเชจูทั้งรีสอร์ต และพาพนักงานไปเที่ยว ถ้าเจ้านายอยู่ด้วย พวกพนักงานคงจะไม่สามารถสนุกกันได้อย่างเต็มที่ กรรมการผู้จัดการคิมจึงตั้งใจที่จะโผล่หน้าไปแค่ช่วงมื้อเย็นวันนั้น และแยกตัวออกมา เขาคงจะได้ทำตามแผนถ้าหากเขาไม่เจออีอูยอนอยู่ท่ามกลางฝูงชนเสียก่อน

‘ทำไมนายมาอยู่ที่นี่’

อีอูยอนยิ้มโดยไม่พูดอะไรให้กับคำถามที่เต็มไปด้วยความตกใจของกรรมการผู้จัดการคิมพลางใช้สายตาชี้ไปทางชเวอินซอบ

หัวหน้าทีมชาบอกว่า ‘ก็ต้องเรียกอินซอบมาด้วยสิครับ เด็กนั่นก็ลำบากมามากเหมือนกัน’ และดื่มโซจูอยู่คนเดียวตรงมุมห้อง

อีอูยอนไม่ได้ทำอะไรเป็นพิเศษ เขาแค่นั่งดื่มเหล้าอยู่ที่โซฟา และพูดคุยกับคนอื่นๆ เป็นบางครั้งเท่านั้น ปัญหาก็คือสายตาของเขา อีอูยอนที่เป็นไอ้สารเลวนั่นตามที่หัวหน้าทีมชาพูดกำลังมองชเวอินซอบด้วยสายตาที่อ่อนโยนเป็นที่สุด

อีอูยอนเป็นนักแสดงที่มีทักษะทางการแสดงที่โดดเด่น เขาเป็นมนุษย์ประเภทที่ว่าไม่มีอะไรยากเลยสำหรับการซ่อนนิสัยโสมมนั่นไว้ด้วยความใจดี ซ้ำยังไม่มีความน่าตะขิดตะขวงใจอีกด้วย

แต่กรรมการผู้จัดการคิมรู้โดยสัญชาตญาณว่าสายตานั้นไม่ใช่การเสแสร้ง

…ไม่ใช่ ต้องไม่ใช่อย่างแน่นอน ไม่มีทางเป็นแบบนั้น นี่เป็นแค่จินตนาการ เราไปดื่มวอดก้าสักแก้ว ลืมเรื่องที่ได้ยินได้เห็นที่นี่วันนี้ให้หมดและเข้านอนดีกว่า

กรรมการผู้จัดการคิมตัดสินใจก่อนจะหันกายออกไป

‘อย่าดื่มเหล้าเยอะนะครับ หน้าแดงหมดแล้ว’

ดวงตาของกรรมการผู้จัดการคิมสั่นไหวอย่างสิ้นหวังเมื่อเห็นอีอูยอนว่าพลางใช้หลังมือตีแก้มที่แดงซ่านของอินซอบเบาๆ หัวหน้าทีมชาที่นั่งอยู่ตรงมุมห้องเองก็เช่นกัน

กรรมการผู้จัดการคิมถือขวดเหล้าเดินอย่างอ่อนแรงไปอยู่ข้างๆ หัวหน้าทีมชา แม้เขาจะอยากเป็นท่านประธานที่อ่านสถานการณ์ไม่ออกและไม่มีเซ้นส์ แต่มันก็ช่วยไม่ได้ เขาไม่สามารถทิ้งอีอูยอนกับชเวอินซอบไว้ตรงนี้และจากไปได้ สุดท้ายกรรมการผู้จัดการคิมก็นั่งยองๆ ลงข้างๆ หัวหน้าทีมชา และเริ่มดื่มเหล้าพรวดๆ พร้อมกับอีกฝ่าย

พอตั้งสติได้ พวกพนักงานก็กระจัดกระจายไปตามห้องของตัวเองหมดแล้ว หัวหน้าทีมชาบ่นกรรมการผู้จัดการคิมที่นอนแผ่อยู่ที่พื้นว่าให้เข้าไปนอน กรรมการผู้จัดการคิมพึมพำว่าเหมือนจะอ้วกด้วยใบหน้าซีดเซียว หัวหน้าทีมชาจึงรีบพาเขาไปที่ห้องน้ำที่อยู่ติดกับห้องใหญ่ หัวหน้าทีมชาลูบหลังกรรมการผู้จัดการคิมที่อ้วกทุกอย่างข้างในออกมาหมดพลางเอ่ยถาม

‘อ้วกหมดแล้วหรือยังครับ’

กรรมการผู้จัดการคิมตอบว่า ‘เออ’ หลังจากเงยหน้าขึ้นมาทำตาแดงๆ พอกลั้วปากเสร็จ กรรมการผู้จัดการคิมก็ถอนหายใจออกมา ความเงียบก่อตัวขึ้นในห้องน้ำ คนทั้งคู่ไม่สามารถพูดคำที่อยากจะพูดออกมาได้ เป็นหัวหน้าทีมชาที่เปิดปากพูดก่อน

‘นี่กรรมการผู้จัดครับ อีอูยอนน่ะ…’

แต่เขาก็ไม่สามารถพูดได้จนจบ เขารู้สึกว่ามีใครบางคนเข้ามาในห้อง เป็นนิสัยของคนที่มักจะป่าวประกาศข้อมูลที่ตนรู้และอยากจะได้รับความสนใจ ดังนั้นฝ่ายที่ควรจะปิดปากให้ดีที่สุดในแวดวงนี้จึงไม่ใช่ใครอื่น แต่เป็นพนักงานในบริษัท กรรมการผู้จัดการคิมทำมือสั่งให้หัวหน้าทีมชาเงียบ พอสบโอกาสเขาก็ส่งสัญญาณเพื่อให้อีกฝ่ายออกไปตามลำดับ หากไม่ได้ยินเสียงนั้นเสียก่อน

‘เป็นอะไรหรือเปล่าครับ’

เป็นอีอูยอนนั่นเอง

กรรมการผู้จัดการคิมกับหัวหน้าทีมชาถลึงตามองหน้ากัน

‘ม่ายเปนรายคับ’

ส่วนคนที่ตอบทั้งๆ ที่ลิ้นยังพันกันก็คือชเวอินซอบ

‘ผมบอกแล้วไงครับว่าไม่ให้ดื่มเยอะขนาดนี้’

‘ก็ผมอารมณ์ดีนี่นา…’

เขาได้ยินเสียงอีอูยอนหัวเราะเบาๆ ให้กับคำตอบที่ฟังดูเหมือนคนลิ้นไก่สั้นนั้น กรรมการผู้จัดการคิมใช้มืออีกข้างถูแขนที่ขนลุกซู่ หัวหน้าทีมชาเองก็เบ้ปาก

‘คุณอินซอบรู้ตัวหรือเปล่าครับว่าน่ารักขึ้นตอนดื่มเหล้า’

‘ม่ายรู้คับ’

เสียงหัวเราะของอีอูยอนดังตามมาติดๆ พวกเขาไม่สามารถฟังได้อีกต่อไปแล้ว คนทั้งสองคนในห้องน้ำส่งสายตาบอกกันว่า ‘ออกไปกันเถอะ’ แต่คราวนี้พวกเขากลับพลาดโอกาสนั้นไป

แกร๊ก

เสียงลูกบิดประตูดังขึ้น ซวยแล้ว

‘คุณอินซอบมานี่ครับ’

บทสนทนาเองก็ฟังดูไม่ดีเช่นกัน มิหนำซ้ำเสียงประกอบที่ได้ยินตามมายังเพิ่มความน่ากลัวขึ้นไปอีก มันเป็นเสียงริมฝีปากบดเบียดกัน เสียงลมหายใจที่ขาดห้วง และเสียงเสื้อผ้าที่ตกลงมาที่ปลายเท้า

และสิ่งที่น่าสยองขวัญที่สุดก็คือ

‘ผมขอดูดยอดอกของคุณอินซอบได้ไหมครับ เฮ้อ…แม่งเอ๊ย รู้ไหมครับว่ามันเร้าอารมณ์จริงๆ’

คนทั้งคู่รู้ดีว่าอีอูยอนพูดจาหยาบคาย แต่พวกเขาเพิ่งได้รู้วันนี้เองว่าปากที่สกปรกนั้นกลับสกปรกขึ้นไปอีกเมื่ออยู่บนเตียง สีเลือดหายไปจากใบหน้าของคนทั้งคู่

‘ไม่เป็นไรครับ ผมจะยังไม่ใส่เข้าไปตรงนี้หรอก เพราะฉะนั้นอย่าร้องไห้นะครับ คุณก็รู้นี่ครับว่าผมมีอารมณ์กับใบหน้าตอนร้องไห้ของคุณอินซอบ แฮ่ก อ้าขาหน่อยครับ เพราะผมอยากจะเสร็จในขณะที่ถูไปกับไอ้นั่นของคุณอินซอบ’

คนทั้งคู่นั่งหดตัวอยู่ในห้องน้ำ และต้องฟังเสียงงานเลี้ยงของเรื่องลามกหยาบคายที่เกิดขึ้นต่อจากนี้ไปจนจบ

ชาติก่อนเราทำอะไรไว้นะ ถึงต้องมารับบทลงโทษแบบนี้ คนเราจะหยาบคายได้ถึงไหนกัน ทำไมไอ้เฮงซวยอีอูยอนนั่นถึงได้ตัดสินใจแบบนี้…น่ากลัวจัง

ผ่านไปนานแค่ไหนแล้วนะ หลังจากที่ได้ยินเสียงบทสนทนาเบาๆ พวกเขาก็ได้ยินเสียงฝีเท้าดังตามมา ประตูห้องน้ำถูกเปิดออก ผู้ชายวัยกลางคนสองคนที่อายุเลยสี่สิบกลางๆ ไปแล้วเงยหน้าขึ้นด้วยความตกใจเหมือนเด็กที่โดนจับได้ว่าทำเรื่องไม่ดี พวกเขาสบตากับอีอูยอนที่สวมกางเกงในตัวเดียว อีอูยอนที่ช่วงนี้ทุ่มเทให้กับการออกกำลังกายเป็นพิเศษมีหุ่นที่สมบูรณ์แบบถึงขนาดที่ผู้ชายด้วยกันยังรู้สึกอาย และเจ้าตัวก็กำลังยิ้มพราย

‘เป็นอะไรไปเหรอครับ’

อีอูยอนตอบคำถามของอินซอบที่เดินเข้ามาในห้องนอนว่า ‘ไม่มีอะไรครับ’ กรรมการผู้จัดการคิมและหัวหน้าทีมชาไม่สามารถทำอะไรได้ พวกเขาจึงทำได้เพียงเงยหน้ามองอีอูยอนในสภาพที่ตัวแข็งอยู่กับที่

ชู่

ฝ่ายนั้นส่งเสียงเบาๆ พร้อมกับเอานิ้วที่งดงามนั่นแตะไว้ที่ริมฝีปาก รอยยิ้มของอีกฝ่ายที่ทำให้ผู้ชมและพวกนักแสดงหญิงที่แสดงคู่กันตายได้ทำให้กรรมการผู้จัดการคิมและหัวหน้าทีมชาถึงกับลืมสถานการณ์เฮงซวยที่พวกเขาเผชิญหน้าอยู่โดยไม่ตั้งใจ

‘เหมือนห้องน้ำที่นี่จะเสียน่ะครับ เดี๋ยวผมไปเอาน้ำจากอ่างอาบน้ำตรงโน้นมาให้นะ’

อีอูยอนบอกกับอินซอบก่อนจะปิดประตูห้องน้ำลง หลังจากที่แน่ใจว่าสองคนนั้นออกไปนอกห้องแล้ว ชายทั้งสองคนก็ออกจากห้องน้ำ พวกเขาย้ายไปที่โรงแรมข้างๆ และเอาแต่ดื่มเหล้าตลอดสองวันหนึ่งคืน พวกเขาไม่สามารถเผชิญหน้ากับความจริงได้อีกต่อไปแล้ว

ใต้หน้ากากซูเปอร์สตาร์

ใต้หน้ากากซูเปอร์สตาร์

Status: Ongoing

นิยายวายแปลเกาหลี ดารา x ผู้จัดการ วงการบันเทิง นายเอกใสซื่อ พระเอกเจ้าเล่ห์ และ “คลั่ง” รักหนักมาก

ข้อเสียเพียงหนึ่งเดียวของ ‘อีอูยอน’ นักแสดงที่ได้ชื่อว่าเป็นสุภาพบุรุษผู้แสนดี และไม่เคยมีแอนตี้แฟน คือการเปลี่ยนผู้จัดการส่วนตัวบ่อย

หลังจากเปลี่ยนผู้จัดการไปแล้ว 5 คนในปีเดียว ‘ชเวอินซอบ’ แฟนคลับของอีอูยอนก็ได้เข้ามาเป็นผู้จัดการส่วนตัวคนใหม่ และสามารถปรับตัวเข้าได้กับทุกรสนิยมที่จู้จี้จุกจิกของอีอูยอนได้อย่างไร้ที่ติ

ทว่าสำหรับอีอูยอนแล้ว ผู้จัดการส่วนตัวแบบนั้นน่าสงสัยเป็นที่สุด

เขารู้สึกสนใจในการกระทำของอีกฝ่าย ในขณะเดียวกันความรู้สึกบางอย่างก็เริ่มก่อตัวขึ้นโดยไม่รู้ตัว

ทว่าในตอนที่เขารู้สึกดีกับอินซอบมากขึ้นเรื่อยๆ อีกฝ่ายก็ (ลอบ) แทงข้างหลัง (เบาๆ) และพยายามจะหนีไป

“ถ้าผมปล่อยคุณอินซอบไป แล้วผมจะอยู่ยังไงล่ะครับ”

TW : Coercion / Dubious Consent / Dirty talk / Toxic relationship / Violence / Rape

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท