ตอนที่ 18 กระบี่นั่นคือพลังของเจ้า! (รีไรท์)
ภายในพระราชวังจักรพรรดินี เมื่อเผชิญหน้ากับการยั่วยุของจักรพรรดิปีศาจทวนซื่อและลี่ฉิงเทียน หนิงฝานปลดปล่อยปราณกระบี่ที่สองออกไปอย่างเย็นชา!
ด้วยเพลงกระบี่นี้ เขาหยุดการใช้สัมผัสเทวะและทุ่มกำลังทั้งหมดที่มีลงไป!
นี่เป็นครั้งแรกที่เขาใช้พลังทั้งหมดที่มีนับตั้งแต่ฝึกฝนมา
ฮ่า!
เพลงกระบี่ร่ายรำอย่างน่าอัศจรรย์ ปราณกระบี่พร่างพราวบนท้องฟ้าเหนือดินแดนศักดิ์สิทธิ์
ลำแสงกระบี่สว่างวาบราวสุริยัน
ปราณกระบี่เพิ่มขึ้นราวกับเมฆาหลั่งไหล
เจตจำนงแห่งกระบี่เดือดพล่านราวมหาสมุทรคลั่ง
ปราณกระบี่ขนาดใหญ่ชวนสะพรึงปกคลุมทั่วดินแดนศักดิ์สิทธิ์ทั้งหมด!
ท้ายที่สุด ปราณกระบี่พุ่งทะยานแหวกอากาศมาพร้อมกับพลังไร้เทียมทาน มันสับฟันจักรพรรดิปีศาจทวนซื่อและลี่ฉิงเทียนโดยตรง
“หยุด!”
“เป็นไปไม่ได้!”
หลังจากได้เห็นปราณกระบี่นี้ จักรพรรดิปีศาจทวนซื่อและลี่ฉิงเทียนที่เคยมั่นใจก่อนหน้า ถึงกับแปรเปลี่ยนสีหน้าเป็นหวาดหวั่นอย่างรวดเร็ว!
ปราณกระบี่นี้แตกต่างจากปราณกระบี่ในคราวแรกโดยสิ้นเชิง
เพราะเพลงกระบี่นี้ พวกเขาสัมผัสได้ถึงพลังศักดิ์สิทธิ์อันสุกสกาว และมันทำให้จักรพรรดิปีศาจทั้งสองรู้สึกราวกับตนเป็นเพียงมดปลวกเท่านั้น
ลำแสงกระบี่เผยประกายเจิดจ้า พวกเขายิ่งมองเห็นภาพใหญ่เคลื่อนตัว ภูเขาพินาศ มหาสมุทรคลั่ง พลังเซียนฉีกสวรรค์
ต้องหนี!
ต้องหนีเท่านั้น!
แต่พลังมหาศาลตรงหน้าทำให้พวกเขาไม่อาจเคลื่อนไหวได้
เพลงกระบี่นี้
ไม่อาจหลีกเลี่ยง
มันเป็นพลังแห่งอมตะ
“ชีวิตข้าจบสิ้นแล้ว!”
ในเวลานี้ ทั้งจักรพรรดิปีศาจทวนซื่อและลี่ฉิงเทียนต่างยอมรับชะตากรรมอย่างสิ้นหวัง
พวกเขาไม่มีเรี่ยวแรงแม้จะต่อต้านมัน!
ตู้ม! ตู้ม!
ฉับพลันที่ปราณกระบี่สับฟันร่างแห่งจักรพรรดิปีศาจทวนซื่อและลี่ฉิงเทียน ทั้งสองเลือนหายไปในความว่างเปล่าทันที ภายในพริบตานั้นไร้ซึ่งร่องรอยของพวกมัน และไม่มีแม้แต่เสียงกรีดร้องด้วยซ้ำ
เพียงกระบี่เดียว!
สังหารจักรพรรดิยุทธ์ถึงสอง!
ภัยพิบัติก่อเกิดขึ้นอย่างไม่ทันได้ตั้งตัว และภายในเพลงกระบี่เดียว มันกลับจบลงอย่างไม่ตั้งตัวด้วยเช่นกัน!
“มันตายแล้ว! สวรรค์! จักรพรรดิปีศาจทวนซื่อและลี่ฉิงเทียนตายแล้ว!”
“มหาอำนาจที่ซุกซ่อนอยู่ในดินแดนศักดิ์สิทธิ์ของพวกเราแข็งแกร่งเกินไปแล้ว เขาสังหารผู้ฝึกยุทธ์ขอบเขตจักรพรรดิยุทธ์ได้ในกระบวนท่าเดียว!”
“ข้าเกรงว่าแม้แต่จักรพรรดินีก็ยังไม่อาจแข็งแกร่งถึงเพียงนี้!”
“เร็ว! รีบกล่าวขอบคุณอาวุโสแห่งดินแดนศักดิ์สิทธิ์ผู้นั้น!”
“…”
ในเวลานี้จิตใจของศิษย์และอาวุโสจำนวนนับไม่ถ้วนในดินแดนศักดิ์สิทธิ์ถึงกับสั่นสะท้าน
ณ พระราชวังจักรพรรดินี
หนิงฝานไม่ได้เก็บกระบี่ เพราะเขารู้สึกถึงบางสิ่งในใจ พลันทอดสายตาออกไปนอกดินแดนศักดิ์สิทธิ์
“เฮ้ย! ไอ้ตาเฒ่านั่นมันจะเหลี่ยมหนาเกินไปแล้ว!”
พรึ่บ!
วินาทีต่อมา เขายกกระบี่ขึ้นก่อนจะหายไปจากพระราชวังจักรพรรดินีอย่างรวดเร็ว
ด้านนอกดินแดนศักดิ์สิทธิ์ ในป่าทึบบนภูเขา
วูบ!
มิติบิดเบี้ยวไปชั่วขณะ ร่างชราย่อตัวลงทรุดนอนกองอยู่บนพื้น เขาไม่ใช่ใครอื่นนอกจากลี่ฉิงเทียนที่ถูกทำร้ายจนบาดเจ็บสาหัสโดยปราณกระบี่เมื่อครู่
เวลานี้ใบหน้าของชายชราซีดขาว ไร้ซึ่งร่องรอยเลือด แต่ร่างกายกลับสั่นสะท้านรุนแรง เห็นได้ชัดว่าเขายังไม่พ้นเส้นแห่งความตาย
“อ๊าก! บัดซบ!”
“โชคดีที่ชายชราผู้นี้ฝึกฝนทักษะโบราณไว้ จึงไม่อาจตายได้ในคราวนี้ ไม่เช่นนั้นข้าคงตายตกไปแล้วอย่างแท้จริง!”
แม้เขาจะยังมีชีวิต แต่เมื่อนึกถึงปราณกระบี่อันน่าสะพรึงกลัวก่อนหน้านี้ ใบหน้าของลี่ฉิงเทียนเผยความสยดสยองออกมา
อย่างไรก็ตาม หลังจากความหวาดกลัวบนใบหน้าของเขาหายไป สุดท้ายมันค่อย ๆ แปรเปลี่ยนเป็นความขุ่นเคือง!
“ดินแดนศักดิ์สิทธิ์ไท่เสวียน รอชายชราผู้นี้ก่อนเถิด เมื่อข้าได้ขึ้นครองตำแหน่งเจ้าแห่งเก้าสำนักมหาอสูร ข้าจะก่อตั้งกองกำลังและกลับมาล้างแค้นแน่นอน!”
ลี่ฉิงเทียนกล่าวพร้อมขบฟันแน่น
จากนั้นเขาก็หันกลับมาและต้องการออกจากดินแดนแห่งนี้
“คิดจะหนีไปงั้นหรือ?”
ทันใดนั้น เสียงแผ่วเบาดังขึ้น ร่างหนึ่งหยุดยืนขวางหน้า ปราณกระบี่ไร้ลักษณ์กำลังโอบล้อมร่างกายของเขาไว้หนาแน่น
“ตายเสีย!”
จิตใจของลี่ฉิงเทียนถึงกับสิ้นหวัง
เขาทราบได้ทันทีว่าบุคคลตรงหน้าคือปรมาจารย์กระบี่!
เมื่อเผชิญหน้ากับเขาในเวลานี้ ต่อให้มีอีกสิบชีวิต ก็ไม่อาจหลบหนีพ้น!
“ท่านผู้ยิ่งใหญ่ ปล่อยข้าไปได้หรือไม่? ตราบใดที่ท่านปล่อยข้าไป ข้ายินยอมมอบทรัพย์สมบัติที่มีทั้งหมด!”
ลี่ฉิงเทียนพยายามอ้อนวอน
ร่างนั้นไม่กล่าวคำเพียงแค่เดินตรงเข้ามาทีละก้าวอย่างเชื่องช้า
“ได้โปรดเถิด อย่าสังหารข้าเลย ตราบใดที่ท่านไม่สังหารข้า ให้ข้าทำสิ่งใดก็ยอม!”
ลี่ฉิงเทียนคุกเข่าพร้อมกับร้องขอความเมตตา ในฐานะผู้ฝึกยุทธ์ขอบเขตจักรพรรดิยุทธ์ มันไม่ง่ายเลยที่เขาจะมาถึงวันนี้ได้ แน่นอนว่าเขายังไม่ต้องการตายอย่างไร้ความสำเร็จ
อย่างไรก็ตาม ร่างนั้นยังคงไม่กล่าวคำและเดินตรงเข้ามาอย่างต่อเนื่อง
จิตสังหารรุนแรงเผยกดดันทำให้ลี่ฉิงเทียนยิ่งสิ้นหวังมากขึ้น เมื่อเขารู้ว่าตนเองต้องตายอย่างไร้หนทางหลีกเลี่ยง เขาลุกขึ้นพร้อมคำรามอย่างอับจนปัญญา “เจ้าเป็นใคร! เป็นผู้ใดเหตุใดจึงไม่ปล่อยข้า!”
“อาวุโสลี่ ท่านไม่รู้จักข้างั้นหรือ?”
ในเวลานี้หนิงฝานก้าวออกจากเงามืดและปรากฏต่อสายตาของลี่ฉิงเทียน
“เป็นเจ้า!”
ลี่ฉิงเทียนตกตะลึง
เขาจะไม่ทราบนามของหนิงฝานได้อย่างไร ไม่ต้องพูดถึงตัวตนของเขาเลย ไม่มีใครในดินแดนศักดิ์สิทธิ์ไม่รู้จักคนผู้นี้
หนิงฝาน!
สามีผู้ไร้ประโยชน์แห่งจักรพรรดินี!
หลายปีมานี้หนิงฝานมักจะเดินไปรอบ ๆ ดินแดนศักดิ์สิทธิ์พร้อมเหรียญตราจักรพรรดินี ดูเหมือนว่าเขาเพียงแค่รับประทานอาหารและเฝ้ารอความตายไปวัน ๆ
แน่นอนว่าลี่ฉิงเทียนมองเห็นเขาเสมอ และมักจะคิดว่าหนิงฝานเป็นเพียงเศษขยะที่ได้ลิ้มรสหวานของจักรพรรดินี
อย่างไรก็ตาม ในขณะนี้เขาปรากฏตัวขึ้นด้วยท่าทางที่เต็มไปด้วยความภาคภูมิ
“เดี๋ยว!”
“เป็นไปไม่ได้!”
“จะเป็นเจ้าได้อย่างไร เจ้าเป็นเพียงสามีไร้ประโยชน์ของหลัวชิงเซียน ศิษย์ช่างซ่อมบำรุง จะเป็นมหาอำนาจซุกซ่อนในดินแดนศักดิ์สิทธิ์ได้อย่างไร!”
ลี่ฉิงเทียนกลายเป็นบ้าคลั่ง
ในจินตนาการของเขา อีกฝ่ายควรจะเป็นมหาอำนาจที่มีอายุมากกว่าหลายร้อยปี
แล้วหนิงฝานอายุเท่าใด?
“เป็นไปได้หรือไม่ว่า เจ้าคือผู้ที่ผ่านพ้นชั้นที่สิบของหอคอยสวรรค์ทะนงมหาลึกล้ำ และเปิดความภาคภูมิแห่งสวรรค์มาสู่โลกใบนี้?”
ลี่ฉิงเทียนคล้ายนึกได้ เขาจับจ้องคนตรงหน้า
หนิงฝานไม่ตอบกลับ
เมื่อเห็นว่าหนิงฝานยอมรับแล้ว ลี่ฉิงเทียนถึงกับระเบิดอารมณ์อีกครั้ง
เพราะนับตั้งแต่วันที่ความภาคภูมิแห่งสวรรค์ปรากฏ มันผ่านมาเพียงเจ็ดปีเท่านั้น!
ในเวลาเจ็ดปี หนิงฝานเติบโตจากศิษย์ช่างซ่อมบำรุงสู่มหาอำนาจไร้เทียมทาน และสามารถสังหารผู้ฝึกยุทธ์ขอบเขตจักรพรรดิยุทธ์ได้ง่ายดาย!
พลังของเขาคงถูกขัดเกลาจนบริสุทธิ์แล้ว!
“จบสิ้น”
“สำนักอสูรถึงคราวจบสิ้นแล้ว”
หัวใจลี่ฉิงเทียนสั่นสะท้าน และเวลานี้เขาไม่มีความปรารถนาที่จะเอาชีวิตรอดแล้ว
เมื่อหนิงฝานยืนอยู่ตรงหน้า เขาจะรอดพ้นไปได้อย่างไร
แล้วการจัดตั้งสำนักอสูรที่สิบ…
“ไปตายซะ!”
เวลานี้หนิงฝานเคลื่อนไหว ด้วยเพลงกระบี่ในมือ ชายหนุ่มตัดขาดพลังชีวิตของลี่ฉิงเทียนโดยตรง
หนอนบ่อนไส้จากสำนักอสูรตายตกโดยสมบูรณ์แล้ว
“บาปทั้งหมดมอบให้สวรรค์จัดการ เจ้าไม่อาจมีชีวิตอยู่ต่อไปได้เพราะอาชญากรรมที่ก่อมันเลวร้ายเกินไป!”
“อาวุโสสูงสุดแห่งดินแดนศักดิ์สิทธิ์ทำผิดมหันต์ต่อดินแดนศักดิ์สิทธิ์ อีกทั้งยังต้องการทรยศต่อสำนักอสูร!”
หนิงฝานส่ายศีรษะ ขณะที่กำลังจะเก็บกระบี่ เขาสัมผัสถึงสิ่งหนึ่งได้
เขามองไปยังทิศทางหนึ่ง
“จิตใจชั่วช้าตายยากนัก ข้าจะส่งเจ้าสู่ประตูนรกเอง!”
หลังกล่าวจบ เขาสับฟันกระบี่ออกไป ก่อนจะหันหลังกลับสู่ดินแดนศักดิ์สิทธิ์ไท่เสวียนโดยไม่คิดเหลียวมอง
…
ในป่าทึบที่ห่างไกล
ภายใต้การนำของเจ้าสำนักเฉาเทียนสยง ซึ่งเป็นมหาอำนาจเพียงหนึ่งเดียวที่เหลืออยู่ของสำนักอสูรกลืนกิน เขากำลังรอโอกาสที่จะเข้าสู่ดินแดนศักดิ์สิทธิ์เพื่อโต้กลับ ในมือของเขามีตะเกียงวิญญาณสองดวง
นี่คือธรรมเนียมปฏิบัติของสำนักอสูร ที่สมาชิกทุกคนในสำนักอสูรจะต้องเก็บวิญญาณไว้ในตะเกียงนี้ แน่นอนว่าตะเกียงวิญญาณทั้งสองเป็นของจักรพรรดิปีศาจทวนซื่อและลี่ฉิงเทียน
ในเวลานี้ เฉาเทียนสยงสัมผัสได้ถึงพลังชั่วร้ายปะทุออกจากดินแดนศักดิ์สิทธิ์ไท่เสวียน และก่อนที่เขาจะทันได้ชื่นชมกับสิ่งนั้น ตะเกียงวิญญาณในมือก็ค่อย ๆ ดับสูญไป!
“อะไรกัน!”
“เจ้าสำนักคนก่อนตายตกแล้ว!”
“ลี่ฉิงเทียนก็ไม่รอดพ้นเช่นกัน!”
“เป็นไปได้อย่างไร!”
เฉาเทียนสยงถึงกับตื่นตระหนก
อย่างไรก็ตาม ก่อนที่เขาจะทันได้ทำอะไร พื้นที่โดยรอบพลันสว่างขึ้นในทันตา
เมื่อเงยหน้าขึ้นมอง ปราณกระบี่ก็มาหยุดตรงหน้าเขาแล้ว…