ตอนที่ 8 สำนักฝ่ายธรรมทั้งสิบ ไท่เสวียนมิใช่อ่อนแอ! (รีไรท์)
ในเวลาเดียวกัน สำนักจันทร์กระจ่าง สำนักดาราเมฆา สำนักอัคคีสีชาด สำนักเจ้าโอสถ และสำนักอื่น ๆ ล้วนตอบรับคำเชิญจากดินแดนศักดิ์สิทธิ์!
เดิมที สำนักเหล่านี้ก็มีท่าทีเช่นเดียวกับสำนักหมื่นกระบี่ในคราวแรก พอได้ทราบว่าดินแดนศักดิ์สิทธิ์จะหารือเกี่ยวกับการกำจัดปีศาจ ทั้งหมดเผยท่าทีไม่ต้องการเข้าร่วม
อย่างไรก็ตาม ทั้งหมดไม่อาจต้านทานสิ่งล่อลวงได้
ท้ายที่สุดแล้ว ดินแดนศักดิ์สิทธิ์ไท่เสวียนก็มีรากฐานที่แข็งแกร่ง หากพวกเขาได้รับสมบัติจากดินแดนศักดิ์สิทธิ์สักชิ้น พวกเขาจะทำเงินได้มหาศาล
ส่งผลให้สำนักทั้งสิบตกลงและสัญญาว่าจะมาร่วมงานที่ดินแดนศักดิ์สิทธิ์ไท่เสวียน เพื่อเข้าร่วมงานดินศักดิ์สิทธิ์รวมยุทธ์ในอีกหนึ่งเดือนข้างหน้า!
เมื่อสำนักทั้งสิบอันดับแรกตกลงที่จะมาเข้าร่วม ภายในดินแดนศักดิ์สิทธิ์ไท่เสวียนพลันเดือดพล่านทันที
ศิษย์ชั้นสูงหลายคนของสวรรค์ทะนงเตรียมพร้อมที่จะต่อสู้ พวกเขาทั้งหมดต้องการที่จะสั่งสอนศิษย์สำนักอื่นอย่างจริงจังในวันงาน ทั้งหมดต้องการบอกกล่าวให้โลกรู้ถึงพลังของดินแดนศักดิ์สิทธิ์!
แต่เมื่อเรื่องนี้ถึงหูของหนิงฝาน เขาถึงกับส่ายศีรษะ แล้วจึงฝึกฝนเพื่อทะลวงผ่านขั้นสุดแห่งขอบเขตเจ้ายุทธ์ต่อไป
หนึ่งเดือนผ่านพ้นไปอย่างรวดเร็ว นี่คือวันแห่งความหวังของศิษย์จากดินแดนศักดิ์สิทธิ์ วันที่จะได้ประลองวิทยายุทธ์มาถึงแล้ว!
ในวันนี้ คบเพลิงถูกตั้งไว้ทุกหนแห่งภายในดินแดนศักดิ์สิทธิ์ ผ้าไหมสีแดงสดปลิวไสวในทุกพื้นที่
ใบหน้าของศิษย์ทุกคนเต็มไปด้วยความตื่นเต้นที่จะได้รับชัยชนะ
ท้ายที่สุดแล้ว ช่องว่างระหว่างดินแดนศักดิ์สิทธิ์และสำนักอื่นนั้นยังกว้างมากในทุกยุคสมัย!
แม้ในสายตาของศิษย์ทั้งหลายจะรู้สึกว่านี่ไม่ใช่การหารือเกี่ยวกับวิทยายุทธ์ แต่เป็นการกินรวบฝ่ายเดียวเสียมากกว่า
ในเวลานี้ ทั้งศิษย์และอาวุโสจำนวนมากมารวมกันอยู่ที่ประตูภูเขาหยกขาว
บนจตุรัสแห่งนี้มีลานขนาดใหญ่ซึ่งแข็งแรงพอที่จะรองรับการต่อสู้ของจักรพรรดิยุทธ์ได้
การประลองวิทยายุทธ์จะถูกจัดขึ้นที่นี่!
เวลานี้ หนิงฝานก็อยู่ท่ามกลางฝูงชนด้วยเช่นกัน
เดิมทีเขาไม่ต้องการมารับชม แต่หลังจากประสบความสำเร็จในการทะลวงผ่านเข้าสู่ขั้นสุดของขอบเขตเจ้ายุทธ์ได้ การฝึกฝนของเขาจึงช้าลงมาก
ด้วยเหตุนี้ ชายหนุ่มจึงไม่มีอะไรทำ นอกจากมารับชมความตื่นเต้นเหล่านี้
พรึ่บ พรึ่บ พรึ่บ!
และแล้วพลันปรากฏลำแสงหลายดวงพุ่งทะยานผ่านลานประลอง เป็นจักรพรรดินีหลัวชิงเซียน อาวุโสสูงสุดลี่ฉิงเทียน และกลุ่มอาวุโสระดับสูงแห่งดินแดนศักดิ์สิทธิ์เข้าสู่ลานหยกขาว
“เคารพเจ้านิกาย!”
“เคารพอาวุโสสูงสุด!”
“เคารพท่านอาวุโส!”
ทันทีที่หลัวชิงเซียนและคนอื่น ๆ มาถึง เหล่าศิษย์ทั้งหมดจึงโค้งคำนับทันที ส่วนใหญ่จับจ้องหลัวชิงเซียนด้วยแววตาที่เปี่ยมไปด้วยความรัก และความหลงใหลอย่างมิอาจควบคุมได้
แม้ทุกคนในดินแดนศักดิ์สิทธิ์จะทราบดีว่าจักรพรรดินีผู้นี้แต่งงานแล้วก็ตาม!
ทว่าทุกคนยังคงยกย่องให้นางเป็นเทพธิดาที่ไร้ผู้ใดเทียบเทียม!
“ภรรยาของข้านับว่ายอดเยี่ยมแล้ว!”
ภายในฝูงชน หนิงฝานไม่ได้คุกเข่าลง ขณะที่สายตาเหลือบมองรอบข้าง หมาป่าหิวโหยมากมายกำลังจับจ้องเขาราวกับจะฉีกเนื้อหนัง
“ไอ้บัดซบ เจ้ายังไม่คุกเข่าต่อหน้าจักรพรรดินีของข้าอีก!”
ในเวลานี้ ศิษย์ตัวอ้วนที่อยู่ด้านหลังถีบก้นของเขาพร้อมกับมองหนิงฝานด้วยแววตาเกรี้ยวกราด
หนิงฝานหันกลับมาพร้อมตวาดเสียงดัง “ให้ตาย! นั่นภรรยาของข้า หากข้าคุกเข่า นางก็ต้องคุกเข่า…”
“…”
เมื่อได้ยินเช่นนี้ ศิษย์อ้วนผงะไปครู่หนึ่ง จากนั้นเขาโต้เถียงทันที “ไอ้บัดซบ! เจ้ามันไร้ประโยชน์ ไม่คู่ควรกับจักรพรรดิ—”
ตุ้บ!
อย่างไรก็ตาม ก่อนที่เขาจะทันได้ดุด่าเสร็จสิ้น หนิงฝานหายตัวไปจากสายตา
น้ำเสียงของเจ้าอ้วนหยุดลงทันที ดวงตาเบิกกว้างราวกับเห็นผี
“เจ้า… เจ้า???”
…
ร่างของหนิงฝานปรากฏขึ้นอีกครั้งอย่างเงียบเชียบ และไม่มีใครให้ความสนใจกับการเปลี่ยนแปลงของเขา
ไม่นานหลังจากนั้น
ตู้ม! ตู้ม! ตู้ม! …
นอกประตูของดินแดนศักดิ์สิทธิ์ ออร่ายิ่งใหญ่จากสำนักทั้งสิบแผ่ซ่านไปทั่วแผ่นดินทันที
“ตามคำเชิญจากดินแดนศักดิ์สิทธิ์ สำนักหมื่นกระบี่มาเข้าร่วมงานแดนศักดิ์สิทธิ์รวมยุทธ์แล้ว!”
“ตามคำเชิญจากดินแดนศักดิ์สิทธิ์ สำนักจันทร์กระจ่างมาเข้าร่วมงานแดนศักดิ์สิทธิ์รวมยุทธ์แล้ว!”
“ตามคำเชิญจากดินแดนศักดิ์สิทธิ์ สำนักทองคำมาเข้าร่วมงานแดนศักดิ์สิทธิ์รวมยุทธ์แล้ว!”
…
เสียงตะโกนดังขึ้นจากสิบทิศ จากนั้นผู้คนก็หลั่งไหลเข้ามาจากทุกทิศทาง ทั้งหมดล้วนอยู่ในชุดของสำนักตนเอง ฝีเท้ามุ่งหน้าผ่านประตูภูเขาหยกขาวมาอย่างพร้อมเพรียง
แต่ละกลุ่มมีมากกว่าร้อยคน บางคนมาด้วยกระบี่บิน บางคนมาจากท้องฟ้า บางคนขี่สัตว์ร้าย พวกเขาทั้งหมดล้วนแตกต่าง
ทว่าไม่ใช่การมาเยือนที่ดี!
เมื่อได้เห็นเช่นนี้แล้ว ทุกคนภายในดินแดนศักดิ์สิทธิ์ไท่เสวียนถึงกับขมวดคิ้วแน่น!
ดังที่ทราบว่าสำนักทั้งสิบตั้งอยู่ในทุกทิศทาง และระยะทางก็ใกล้มาก แต่เวลานี้พวกเขามาถึงพร้อมกัน เห็นชัดแจ้งว่ามีการเจรจาลับ
หลัวชิงเซียนสังเกตเห็นท่าทีเหล่านี้โดยธรรมชาติ แต่นางเพียงส่ายศีรษะเบา ๆ พร้อมกล่าวเย้ยหยัน “โอ้ งานประลองยุทธ์คราวนี้ ดูเหมือนว่าสิบสำนักอันดับแรกจะอยากจัดการพวกเราอย่างยิ่งใหญ่ เช่นนั้นมาดูกันเถิดว่าพวกเขาจะมีความสามารถหรือไม่!”
“ไปเชิญสิบสำนักอันดับแรกเข้ามา!”
ในที่สุดผู้คนจากดินแดนศักดิ์สิทธิ์ก็ต้อนรับผู้คนจากสิบสำนักอันดับแรก
โดยปกติแล้วศิษย์แห่งสำนักทั้งสิบเดินตามผู้นำของตน เมื่อเผชิญหน้ากับฝูงชนที่เป็นศิษย์แห่งดินแดนศักดิ์สิทธิ์ไท่เสวียนแล้ว พวกเขาย่อมไม่กล่าวคำปรามาส
อย่างไรก็ตาม สิ่งที่ไม่คาดคิดก็คือศิษย์ของสิบสำนักกลับเชิดหน้าชูคอขึ้นราวกับพยัคฆ์มาเยือนดินแดนศักดิ์สิทธิ์ ดูเหมือนความเย่อหยิ่งจะฉายชัดในสายตาทุกคน
“เรื่องนั้น…”
เมื่อเห็นเช่นนี้ อาวุโสระดับสูงหลายคนภายในดินแดนศักดิ์สิทธิ์ไท่เสวียนถึงกับตกใจเล็กน้อย
แต่ใบหน้าของหลัวชิงเซียนยังคงสงบนิ่ง
พวกเขาจะไม่เห็นความเย่อหยิ่งที่ผิดปกติของศิษย์เหล่านั้นได้เช่นไร
“ฮ่าฮ่า! หลิงอวิ๋นเทียน เจ้าแห่งสำนักหมื่นกระบี่ได้พบจักรพรรดินีไท่เสวียนแล้ว!”
เมื่อสำนักสิบอันดับแรกมาถึงสนามประลอง เจ้าสำนักหมื่นกระบี่เดินออกมาพร้อมกับทำความเคารพหลัวชิงเซียน
แม้เขาจะเหยียดหยามดินแดนศักดิ์สิทธิ์ไท่เสวียน แต่เขาก็ไม่กล้ายั่วยุเมื่อต้องเผชิญหน้ากับจักรพรรดินีไท่เสวียนที่เข้าสู่ขั้นสุดของขอบเขตจักรพรรดิยุทธ์ ตั้งแต่อายุยังน้อยผู้นี้
หลังจากหลิงอวิ๋นเทียน ก็เป็นสำนักจันทร์กระจ่าง สำนักดาราเมฆา และสำนักอื่น ๆ ต่างก้าวออกไปด้านหน้าเพื่อทำความเคารพทีละคน
อย่างไรก็ตาม เมื่อผู้นำสำนักทองคำก้าวไปด้านหน้า เขาจับจ้องหลัวชิงเซียนด้วยแววตาเป็นประกาย ก่อนจะระเบิดเสียงหัวเราะบ้าคลั่ง “ข้าได้ยินนามของจักรพรรดินีไท่เสวียนมานานแล้ว รูปลักษณ์ไร้ผู้ใดเทียบเทียบ และการได้พบกันในวันนี้ก็ทราบว่าที่เลื่องลือกันนั้นเป็นความจริง แต่ข้าได้ยินว่าเมื่อไม่กี่ปีก่อน ท่านได้แต่งงานกับช่างซ่อมบำรุงไร้ประโยชน์ภายในดินแดนศักดิ์สิทธิ์ของตนเอง โอ้… เหตุใดจึงทำเช่นนั้นเล่า แล้วคนไร้ประโยชน์ผู้นั้นไม่คิดจะออกมาปรากฏตัวในโอกาสสำคัญของดินแดนศักดิ์สิทธิ์หรือไร?”
“หืม?”
เมื่อได้ยินเช่นนั้น ใบหน้าของหลัวชิงเซียนพลันกลายเป็นเย็นชา
หลิงอวิ๋นเทียนกับคนอื่น ๆ ต่างตกตะลึงเช่นกัน แม้เขาจะทราบว่าสำนักทองคำเป็นเพียงคนโง่เขลา และใช้กำลังเป็นส่วนใหญ่ แต่ก็ไม่คิดมาก่อนว่าเจ้าสำนักผู้นี้จะกล่าววาจาขวานผ่าซากเช่นนี้
“ตบปาก!”
ก่อนที่หลัวชิงเซียนจะอ้าปาก ลี่ฉิงเทียนที่อยู่ด้านข้างคำรามลั่น จิตสังหารขอบเขตจักรพรรดิยุทธ์เผยออกกดดัน เขาตบหน้าจักรพรรดิทองคำอย่างรุนแรง
เพียะ!
จักรพรรดิทองคำยกมือขึ้นปิดใบหน้า ก่อนจะถอยหลังกลับไป ในใจพลันโกรธจัดแต่การตบครั้งนี้ทำให้เขาได้สติกลับมา และมันทำให้เขาทราบว่าแม้ดินแดนศักดิ์สิทธิ์โดยรวมจะอ่อนแอ แต่ดินแดนแห่งนี้ก็ยังมีจักรพรรดิยุทธ์ผู้แข็งแกร่งอยู่ และนั่นไม่ใช่บุคคลที่เขาจะสามารถยั่วยุได้
“ต้องขอโทษแล้ว เป็นความผิดข้าทั้งสิ้น หวังว่าจักรพรรดินีจะยกโทษให้ข้าผู้นี้!”
จักรพรรดิทองคำรีบกล่าวขอโทษ แม้จะรู้สึกโกรธ แต่เขาก็คิดว่าในการประลองวิทยายุทธ์ขั้นต่อไป เขาจะให้ศิษย์สำนักทองคำชำระแค้นดินแดนศักดิ์สิทธิ์ให้ย่อยยับ
ดังที่ทราบ ในบรรดาศิษย์ของสำนักทองคำ มีอัจฉริยะมากความสามารถอยู่ผู้หนึ่ง!
“นี่เป็นเพียงตัวอย่าง!”
หลัวชิงเซียนกล่าวคำเย็นชา จากนั้นโบกมือพร้อมกล่าวต่อ “ทุกท่านเชิญนั่งลงก่อน งานแดนศักดิ์สิทธิ์รวมยุทธ์เริ่มได้!”