ตอนที่ 35 อยู่ในวังองค์จักรพรรดินีมาสิบสามปีก็เป็นผู้ไร้เทียมทาน (รีไรท์)
“ฮ่า ๆ”
“เป็นแค่เด็กน้อย ยังอาจหาญเรียกตัวเองว่าไร้เทียมทานต่อหน้าข้า”
สิ้นคำพูดของหนิงฝาน บรรพบุรุษอสูรศักดิ์สิทธิ์ก็ไม่สามารถหยุดความขบขันของตนลงได้ ดวงตาเย็นเยียบแปรเปลี่ยนเป็นแววตาของความหยามเหยียด
“งั้นหรือ เช่นนั้นลองเจอกระบี่นี้หน่อยแล้วกัน”
หนิงฝานไม่โต้เถียง แต่ตอบกลับด้วยการเรียกกระบี่ออกมาฟาดฟัน
ตู้ม!
พลังทำลายล้างของกระบี่เล่มนั้นมหาศาลจนน่าตกใจ ลำแสงพิสุทธิ์ราวกับทางช้างเผือกแล่นตรงจากกระบี่นั้นปราบเหล่าอสูรโลหิตนับล้านโดยตรง!
ปัง! ปัง! ปัง!
พลังจากกระบี่แผ่กระจายไปทั่วทุกสารทิศ เหล่าอสูรที่โดนพลังการทำลายล้างจากกระบี่ ก็เริ่มหลอมละลายราวหิมะต้องน้ำมันเดือด
อสูรร้อยตนถูกกำจัด!
พันตน!
หมื่นตน!
แสนตน!
…
ชั่วอึดใจลำแสงพิสุทธิ์จากกระบี่นั้นก็เลือนหายไป อสูรโลหิตนับล้านที่คำรามอย่างบ้าคลั่งเมื่อครู่นี้ถูกปราบจนหมดสิ้นอย่างสมบูรณ์
เพียงกระบี่เดียว… อสูรโลหิตนับล้านถูกกำจัด!
“อะไรกัน!”
“มหาพลังแห่งฟ้าดิน!”
“เจ้า…เจ้าคือปราชญ์ยุทธ์!”
เมื่อได้เห็นกระบี่ของหนิงฝาน ท่าทางดูแคลนของบรรพบุรุษอสูรศักดิ์สิทธิ์เมื่อครู่พลันหายไปทันที แทนที่ด้วยความหวาดหวั่นอย่างควบคุมไม่อยู่
นั่นคือมหาพลังแห่งฟ้าดิน!
กระบี่ที่มอบพลังอำนาจแห่งฟ้าดินเล่มนี้มีเพียงปราชญ์ยุทธ์เท่านั้นที่จะควบคุมมันได้
หลายพันปีก่อน ในวันที่สำนักอสูรศักดิ์สิทธิ์ถูกกวาดล้าง ก็เป็นเพราะมหาพลังแห่งฟ้าดินของปรมาจารย์ไท่เสวียน!
ไม่คาดเลยว่าหลายพันปีผ่านไปจะได้สัมผัสกับพลังเช่นนั้นอีกครา
“อะไรกัน!”
“ปะ…ปราชญ์ยุทธ์!”
“สวรรค์! หนิงฝานเป็นปราชญ์ยุทธ์ผู้ไร้เทียมทานจริง ๆ!”
“…”
เมื่อได้ยินเสียงอุทานของบรรพบุรุษอสูรศักดิ์สิทธิ์ ชาวดินแดนศักดิ์สิทธิ์ไท่เสวียนทั้งหมดก็อยู่ในอาการตกตะลึง สีหน้าของพวกเขาแสดงอาการเหลือเชื่อออกมา
โดยเฉพาะองค์จักรพรรดินีหลัวชิงเซียน ดวงตาคู่งามเปล่งประกายขึ้นมาด้วยความคาดไม่ถึง ใบหน้าผุดผาดมีแต่อาการเหลือเชื่อ
เดิมทีตัวตนของหนิงฝานในฐานะท่านผู้อาวุโสนิรนาม ก็สร้างความประหลาดใจให้กับผู้คนมากพออยู่แล้ว ที่น่าตกใจยิ่งกว่าคือเขายังเป็นถึงปราชญ์ยุทธ์ผู้ไร้เทียมทานในตำนานอีกด้วย!
ปราชญ์ยุทธ์เชียวหรือ!
ผู้ไร้เทียมทานเช่นนี้ ไม่มีผู้ใดสามารถไปถึงมานับพันปีแล้ว
แม้แต่บรรพบุรุษอสูรศักดิ์สิทธิ์ อสูรผู้เฒ่าที่มีอายุยาวนานนับพันปีก็ยังไปไม่ถึงขั้นนี้
หนิงฝานอายุเพียงเท่านี้ ไม่ถึงสามสิบปีด้วยซ้ำ เขากลับไปถึงปราชญ์ยุทธ์ในตำนานได้แล้ว!
ช่างเป็นการพลิกตำนานของเหล่าผู้ฝึกยุทธ์อย่างแท้จริง!
“หึ ๆ ถึงคราวข้าผู้นี้ส่งเจ้าไปที่ชอบที่ชอบแล้ว!”
หนิงฝานยิ้มอย่างเย็นชา แล้วจัดการกับบรรพบุรุษอสูรศักดิ์สิทธิ์ด้วยกระบี่
ตู้ม!
พลังอันน่าพรั่นพรึงแห่งฟ้าดินปราบปรามศัตรูจากบรรพกาลเข้าอย่างจัง ส่งบรรพบุรุษอสูรศักดิ์สิทธิ์ให้ตกลงไปสู่ธารน้ำแข็งแห่งปรโลก
“…”
“ไม่จริงน่า!”
“ไม่!”
หลังจากรับการโจมตีที่แข็งแกร่งเกินต้านทาน บรรพบุรุษอสูรศักดิ์สิทธิ์ก็ร่วงหล่น ภาพที่เห็นมีเพียงท้องนภาเบื้องบนและกรีดร้องออกมา
ราวกับโชคชะตาที่หมุนวนกลับมาซ้ำอีกคราที่จุดเดิมกับเมื่อหลายพันปีก่อน ซึ่งเป็นวันที่สำนักอสูรศักดิ์สิทธิ์ได้ถูกทำลายจนสูญสิ้น
หมดสิ้นซึ่งหนทาง!
ไร้ซึ่งความหวัง!
ลมหายใจจากมัจจุราชมาเยือน!
เมื่อหลายพันปีก่อน ตัวเขาอยู่ห่างจากการเป็นปราชญ์ยุทธ์เพียงก้าวเดียวเท่านั้น แต่กลับถูกปรมาจารย์ไท่เสวียนทำลายทั้งร่างกายและวิญญาณจนแทบแหลกสลาย
หลายพันปีกว่าจะกลับมาได้ แต่ก็ยังต้องกลับมาเจอกับเหตุการณ์เช่นเดิมซ้ำอีก!
ราวกับชะตากรรมของเขาคือ การกลับมาถูกทำให้พ่ายแพ้อีกครั้ง!
“ไม่! ไม่! เป็นไปไม่ได้! หลายพันปีที่แล้วปรมาจารย์ไท่เสวียนได้ทำลายหนทางสู่ปราชญ์ยุทธ์ของข้า ข้าสู้ทนเอาชีวิตรอดมาจนถึงตอนนี้ และอีกเพียงก้าวเดียวข้าก็จะบรรลุขอบเขตนั่นอีกครั้งแล้ว จะจบสิ้นในตอนนี้ไม่ได้ ข้าจะยังตายไม่ได้!”
เสียงร้องตะโกนของบรรพบุรุษปีศาจดังขึ้นครั้งแล้วครั้งเล่า ราวกับกำลังเสียสติ พลังปีศาจท่วมท้นในม่านตาสีโลหิต
ตู้ม! ตู้ม! ตู้ม!
ในตอนนั้นเอง ร่างของบรรพบุรุษอสูรที่กลั่นจากสระอสูรศักดิ์สิทธิ์พลันสั่นสะท้าน พลังศักดิ์สิทธิ์ที่เปลี่ยนมาจากปราณปีศาจนั้นกำลังพลุ่งพล่านอยู่ภายในอย่างดุเดือด จนทำให้ร่างกายที่เป็นแหล่งของวิญญาณโลหิตนับพันระเบิดออกอย่างรุนแรง
“ม่าย!”
“อ๊ากก!”
“ช้าก่อน!”
“ขอโอกาสให้ข้าก่อน!”
บรรพบุรุษอสูรศักดิ์สิทธิ์คำรามอย่างบ้าคลั่ง อำนาจปราชญ์ทั้งสามเดือดพล่าน ปราณปีศาจมหาศาลพวยพุ่งออกจากร่าง ราวกับเป็นเงาแห่งมัจจุราชที่สะท้อนอยู่ด้านหลัง
ตอนนี้บรรพบุรุษอสูรศักดิ์สิทธิ์ยอมแลกทุกอย่างได้ เพื่อพลิกชะตากรรมของตนจากสังสารวัฏ
เฮือก!
ชั่วพริบตาที่กำลังจะหมดหวังนั้นเอง บรรพบุรุษอสูรศักดิ์สิทธิ์พลันเกิดความรู้แจ้ง ดั่งมีแสงอุษาลอดผ่านเมฆามาปรากฏต่อหน้า
ตู้ม! ตู้ม! ตู้ม!
วินาทีนั้น ปราณที่เดือดพล่านในกายพลันดับสิ้น เกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างกะทันหันในร่างนั้น พลังอันน่าสะพรึงกลัวที่ไม่เคยรู้สึกมาก่อนไหลท่วมออกมาทั้งกายของร่างชรา
“นี่มัน…ปราชญ์ยุทธ์งั้นหรือ!”
“ข้าบรรลุขั้นปราชญ์ยุทธ์แล้ว!”
“หึ ๆ….ฮ่า ๆ!”
เมื่ออาการบรรลุเกิดขึ้น บรรพบุรุษอสูรศักดิ์สิทธิ์ก็ชะงักไปชั่วขณะ ตามมาด้วยการหัวเราะอย่างบ้าคลั่ง เสียงหัวเราะเต็มไปด้วยพลังอำนาจหลังจากเอาตัวรอดจากความตายอันน่าสิ้นหวัง
“แย่แล้ว!”
“หา!”
“บรรพบุรุษอสูรศักดิ์สิทธิ์บรรลุได้แล้วจริง ๆ!”
“…”
ชาวดินแดนศักดิ์สิทธิ์ไท่เสวียนพากันหน้าถอดสี
บรรพบุรุษอสูรศักดิ์สิทธิ์ที่ควรจะตายเป็นแน่แท้ กลับใช้แรงกดดันจากภายในจิตใจ จนบรรลุสู่ขั้นปราชญ์ยุทธ์ในขั้นสุดท้ายได้เมื่อได้รับลมหายใจจากมัจจุราช
สถานการณ์ที่ดูเหมือนจะคลี่คลายลงแล้ว กลายเป็นเลวร้ายขึ้นอย่างไม่อาจคาดคิด
“โอ้ ทะลวงเข้าสู้ขั้นปราชญ์ยุทธ์ได้แบบนี้แล้ว ก็ไม่ต้องออมมือกับเจ้าแล้วสินะ”
เห็นเช่นนั้น หนิงฝนเพียงเลิกคิ้วและแสดงทีท่าเอาจริงเอาจังกับการต่อสู้ขึ้นมา
ตู้ม!
ชั่วพริบตาที่ชายหนุ่มใช้ออกพลังทั้งหมดของตัวเอง ปราณกระบี่ของเขาก็แผ่ขยายสาดกระเซ็นราวน้ำตกสีคราม แต่บรรพบุรุษอสูรศักดิ์สิทธิ์กลับรับมันเอาไว้ได้!
“ฮ่า ๆ! ตอนนี้ทั้งเจ้าและข้าต่างเป็นปราชญ์ยุทธ์ ชัยชนะของเจ้าไม่แน่นอนอีกต่อไปแล้ว!”
เมื่อได้บรรลุถึงขั้นปราชญ์ยุทธ์แล้ว ชายชราก็มีสีหน้าที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความมั่นอกมั่นใจต่างจากก่อนหน้า
ตู้ม!
เขาก้าวเข้ามาทีละก้าว มหาพลังแห่งฟ้าดินไหลวนราวกับกระแสน้ำ ควบแน่นเป็นหมัดจากหยาดโลหิต ตรงเข้าปะทะกับปราณกระบี่
“ข้าได้สั่งสมพลังมานับพันปีจนแข็งแกร่ง และในตอนนี้ก็ได้เป็นปราชญ์ยุทธ์แล้ว ผู้น้อยอย่างเจ้าจะมาเทียบชั้นได้อย่างไร จงสูญสิ้นไปซะ!”
บรรพบุรุษอสูรศักดิ์สิทธิ์หัวเราะอย่างบ้าคลั่ง และโจมตีปราณกระบี่อย่างดุเดือดด้วยหมัดโลหิต!
ตู้ม!
ปราณกระบี่และหมัดโลหิตปะทะกันไปมาอย่างรุนแรง มองดูราวกับหมู่ดาวตกเหนือท้องนภา ทว่าทันใดนั้นบังเกิดเสียงดังก้องสะเทือนเลือนลั่น
ม่านตาของบรรพบุรุษอสูรศักดิ์สิทธิ์หดเล็กลงและเสียงหัวเราะพลันเงียบไป!
ปราณกระบี่ไร้ขอบเขตได้ทำลายหมัดโลหิตไปเกือบจะในทันที จากนั้นปราณกระบี่ก็ฟาดฟันลงมากลางอากาศ เสียงหายใจจากมัจจุราชได้คืบคลานสู่บรรพบุรุษอสูรศักดิ์สิทธิ์อีกครา ซ้ำแล้วมันยังแข็งแกร่งยิ่งกว่าครั้งที่ผ่านมา
“ไม่!”
“เป็นไปไม่ได้!”
บรรพบุรุษอสูรศักดิ์สิทธิ์ตะโกนอย่างบ้าคลั่ง
ต่อให้ตอนนี้อยู่ในขั้นปราชญ์ยุทธ์แล้ว เขาก็ยังไม่สามารถรอดพ้นจากความตายที่ปราณกระบี่นั่นมอบให้ได้อีกหรือ!?
ตู้ม!
ไม่ทันที่จะได้คิดถึงสิ่งใดอีก ปราณกระบี่ที่สาดกระเซ็นเข้ามาราวกระแสน้ำตกไหลทะลัก สาดแสงสว่างราวหมู่ดาวในทางช้างเผือก ความสว่างพิสุทธิ์ที่กว้างใหญ่ไร้ขอบเขตกลืนกินร่างของเขาโดยตรง
อะไรกัน!
ใจกลางพลังแห่งกระบี่นั้น เกิดเสียงร้องโหยหวนด้วยความเจ็บปวดแห่งการทำลายล้างทั้งกายและวิญญาณ ที่บรรพบุรุษอสูรศักดิ์สิทธิ์ต้องเผชิญทีละส่วน ๆ ไม่นานหลังจากนั้น ร่างและวิญญาณของอสูรจากบรรพกาลก็ถูกทำลายจนดับสิ้นไป หลงเหลือเพียงไอจาง ๆ ของโลหิตเท่านั้น
บรรพบุรุษอสูรศักดิ์สิทธิ์ดับสิ้นแล้ว!
“ถูกกำจัดได้ด้วยกระบี่เดียว บรรพบุรุษอสูรศักดิ์สิทธิ์อ่อนแอกว่าที่คาดไว้งั้นสิ?”
หนิงฝานขมวดคิ้วเล็กน้อย เมื่อเห็นว่าบรรพบุรุษอสูรศักดิ์สิทธิ์หายไปด้วยการโจมตีเพียงครั้งเดียวก็รู้สึกผิดหวังเล็กน้อย
ตั้งแต่มาที่นี่ เขาไม่เคยได้ทดสอบความแข็งแกร่งของตัวเอง เพียงแค่ฝึกฝนไปเรื่อย ๆ ในตอนแรกก็หวังว่าการต่อสู้กับอสูรที่ทะลุขั้นปราชญ์ยุทธ์ครั้งนี้จะสมน้ำสมเนื้อบ้าง
“อ้อ ข้าอยู่ในวังขององค์จักรพรรดินีมาสิบสามปีแล้ว ก็คงเข้าสู่ความเป็นผู้ไร้เทียมทานแล้วสินะ”
หนิงฝานถอนหายใจเบา ๆ ใบหน้าเผยความว่างเปล่าออกมา