ตอนที่ 48 เริ่มต้นงานเลี้ยงเทพขนนก ศาสตร์แห่งกระบี่! (รีไรท์)
เหง่งหง่าง!
ยามรุ่งอรุณมาเยือน เสียงระฆังก้องกังวาลสดใสราวกับเสียงจากสรวงสวรรค์ดังขึ้นภายในตำหนักเทพขนนก คล้ายกับมันกำลังทำให้นครเทพขนนกทั้งหมดสั่นคลอน!
จากเสียงระฆัง ผู้คนนับไม่ถ้วนที่รออยู่ด้านนอก ต่างเดินเท้าเข้ามาในตำหนักเพื่อเข้าร่วมงานเลี้ยง
งานเลี้ยงเทพขนนกจัดขึ้นที่ลานกว้าง ประดับประดาด้วยหยกขาวบริสุทธ์
ในเวลานี้ มีโต๊ะและเก้าอี้หลายร้อยตัวเรียงรายอยู่ในจตุรัสหยกขาว
แน่นอนว่าที่นั่งด้านบนสุดย่อมเป็นตำแหน่งของจักรพรรดิเทพหลินไท่ซู
ตำแหน่งทางด้านซ้ายคือพระญาติของจักรพรรดิ เหล่ากองทัพทหารและพลเรือน
ตำแหน่งทางด้านขวาคือที่นั่งของเหล่าขุนนาง และคณะทูตจากดินแดนต่าง ๆ
ส่วนด้านล่างคือบุคคลสำคัญจากสามพันดินแดน
“ระฆังยามเช้าดังกึกก้อง งานเลี้ยงแห่งเทพขนนกจึงเริ่มต้น และเหล่าผู้รับใช้ของทวยเทพได้รับเชิญให้เข้าร่วมงาน!”
เมื่อขุนนางตุลาการป่าวประกาศ เหล่าขุนนางพลเรือนและกองทัพทหารทั้งหมด รวมถึงเหล่าขุนนางอาวุโสจากทั่วดินแดนที่รออยู่ด้านนอก พลันก้าวเท้าเข้าสู่งานเลี้ยงในทันที
“อัครมหาเสนาบดีหวัง!”
“โอ้ ปรมาจารย์หลี่ ไม่ได้พบเจอกันเสียนาน ท่าทางของท่านช่างสง่างามยิ่ง!”
“ทำความเคารพองค์ชาย กลิ่นอายของท่านยิ่งมายิ่งแข็งแกร่ง!”
“…”
เมื่อฝูงชนเข้าสู่งานเลี้ยง ภายในจตุรัสเต็มไปด้วยเสียงเซ็งแซ่ เหล่าผู้คนเดินไปมาและเริ่มกล่าวทักทายกัน
ยิ่งบุคคลผู้นั้นมีอำนาจมากเพียงใด ผู้คนก็ยิ่งห้อมล้อมเขามากขึ้นเท่านั้น
อย่างเช่น ผู้ปกครองตุลาการ อัครมหาเสนาบดีหวัง และปรมาจารย์หลี่
อีกด้านคือเหล่ากษัตริย์ ขุนนางอาวุโสผู้ครองอำนาจสูงสุดทั้งสิบในบรรดาข้าราชบริพารมากมาย
“องค์จักรพรรดิเทพเข้าสู่งานเลี้ยง!”
ไม่นานหลังจากนั้น พลันมีเสียงตะโกนดังขึ้นจากขุนนางดำเนินพิธีการ ก่อนหน้าที่เคยเสียงดังก็เงียบลงในทันที
ทุกสายตาล้วนจับจ้องไปยังทิศทางเดียวกัน
หลินไท่ซูพร้อมชุดคลุมมังกรทองม่วง ดวงตาเปล่งประกายน่าเกรงขาม ทุกท่วงท่าสง่างามไม่ต่างจากพยัคฆ์
ขณะที่ด้านหลังนั้นคือบุรุษและสตรีผู้มากด้วยเกียรติยศ ทั้งหมดคือองค์ชายแห่งราชวงศ์เทพขนนก
ในหมู่พวกเขา ผู้ได้รับฉายามังกรทั้งเก้าโดดเด่นเป็นสง่ากว่าผู้ใด
ในบรรกระบีุ่ตรหลานของหลินไท่ซู มีการขนานนามถึงมังกรทั้งเก้าและหนึ่งหงส์อยู่เสมอ!
มังกรทั้งเก้านามว่า จิ่วหลง ส่วนหนึ่งหงส์คือ หลัวชิงเซียน
เวลานี้หลัวชิงเซียนยังไม่ปรากฏตัว
“ขอให้ฝ่าบาทอายุยืนหมื่นหมื่นปี!”
เมื่อหลินไท่ซูมาถึง เหล่าพลเรือนและบุคคลสำคัญทั้งหมดต่างก็คุกเข่าลงกับพื้น
“โอ้สหายเอ๋ย เชิญนั่งเถิด!”
หลินไท่ซูนั่งลงพร้อมกับโบกมือ ทุกคนจึงนั่งลงทันที
“สตรีแห่งราชวงศ์เทพมาถึงแล้ว!”
ในขณะที่ขุนนางผู้ดำเนินพิธีการยังคงตะโกน ในเวลานั้นนางสนมของหลินไท่ซู นางสนมขององค์ชาย และคนอื่น ๆ ต่างก็ก้าวขาเข้ามา เช่นเดียวกันกับหลัวชิงเซียน ในฐานะองค์หญิงแห่งราชวงศ์เทพขนนก นางก็ถือเป็นสมาชิกสตรีภายในตระกูลด้วยเช่นกัน
ทว่าหลัวชิงเซียนควงแขนบุรุษเข้ามาในงานด้วย และนั่นคือหนิงฝาน
“โอ้ นั่นองค์หญิงแห่งราชวงศ์เทพขนนกใช่หรือไม่? นางกลับมาสู่ราชวงศ์แล้วหรือ?”
“หืม? ข้าว่าข้าจำไม่ผิดแน่ แต่เหตุใดองค์หญิงจึงต้องควงแขนบุรุษข้างกายด้วย?”
“สวรรค์! มันเป็นผู้ใดกัน? เหตุใดจึงออกมาพร้อมกับองค์หญิงได้!”
“หรือว่านั่นคือพระสวามีของนาง?”
“ข้าไม่เคยได้ยินว่าองค์หญิงเข้าพิธีเลือกคู่ครองเลยสักครั้ง แล้วมันเกิดอันใดขึ้น?”
“…”
บุรุษท่ามกลางกลุ่มสตรี เขาถูกควงแขนโดยสตรีผู้งดงามที่สุดในแผ่นดิน
เมื่อหนิงฝานก้าวเท้าออกมา เขาก็กลายเป็นจุดสนใจของทุกคนแทบจะในทันที และมีสายตานับไม่ถ้วนที่จับจ้องมาที่เขา
สำหรับเรื่องนี้
หนิงฝานไม่คิดแยแสแม้แต่น้อย เขาเดินเคียงข้างหลัวชิงเซียนมายังที่นั่งของตนเอง
“ทุกท่าน บุรุษผู้นี้นามว่าหนิงฝาน และเขาคือสามีขององค์หญิง!”
ในยามนี้เอง หลินไท่ซูเปิดปากเพื่อคลายความข้องใจให้กับทุกคน นี่เป็นครั้งแรกที่เขายืนยันสถานะของหนิงฝานภายในราชวงศ์เทพขนนกต่อหน้าสาธารณะชน
“โอ้! สามีขององค์หญิง เป็นบุตรเขยของราชวงศ์เทพขนนกหรือนี่!”
“ไม่คิดเลยว่าองค์หญิงแห่งราชวงศ์เทพของข้าจะแต่งงานแล้ว!”
“ฮ่า ๆ คนอื่นจะไม่ทราบได้อย่างไร องค์หญิงของเรานั้นมีสายตากว้างไกล บุคคลที่เป็นถึงความภาคภูมิแห่งสวรรค์ยังไม่กล้าดูถูกนาง แล้วเช่นนี้นางจะแต่งงานเงียบ ๆ ได้อย่างไร!”
“หนิงฝานผู้นี้เป็นใครกัน เหตุใดองค์หญิงจึงโปรดปรานเขา!”
“…”
ในขณะนี้ ผู้คนจำนวนมากเริ่มสงสัยและพวกเขาทราบชื่อหนิงฝานแล้ว
เมื่อเห็นเช่นนี้ หนิงฝานอดไม่ได้ที่จะขมวดคิ้วแน่น
อย่างไรก็ตาม เขาไม่ได้เคลื่อนไหวอะไร
แม้จะไม่ชอบเป็นจุดสนใจ แต่เขาทราบดีว่าเรื่องราวในวันนี้ไม่ใช่สิ่งที่จะหลีกเลี่ยงได้
ยิ่งไปกว่านั้น เขามาที่นี่ไม่ใช่เพราะต้องการรับฟังความเห็นของผู้ใด แต่มาเพื่อลงชื่อเข้าสู่ระบบต่างหาก
‘ระบบ ข้าสามารถลงชื่อเข้าใช้ที่งานเลี้ยงเทพขนนกได้หรือไม่?’
[ได้แน่นอน! งานเลี้ยงอันทรงคุณค่าและมีประวัติศาสตร์ยาวนานย่อมมีวิถีอุบัติมากมาย!]
‘งั้นก็จัดการเลย!’
หนิงฝานกล่าวในใจ
[ติ๊ง! ท่านลงชื่อเข้าใช้ที่งานเลี้ยงเทพขนนกสำเร็จ และได้รับศาสตร์แห่งกระบี่!]
ทันทีที่เสียงของระบบเงียบลง จู่ ๆ คาถาประหลาดก็ปรากฏขึ้นในใจของหนิงฝาน ด้วยความช่วยเหลือของระบบ ทักษะการควบคุมกระบี่ของเขาจึงกลายเป็นเชี่ยวชาญในพริบตา
ปรากฏว่านี่คือศาสตร์แห่งกระบี่ มันคือทักษะการควบคุมกระบี่ ผู้ใช้จะสามารถควบคุมกระบี่ของผู้อื่นได้ตราบใดที่แข็งแกร่งเพียงพอ ไม่ว่าจะเป็นหนึ่ง สิบ ร้อย พัน หมื่น หรือแสน ผู้ใช้จะสามารถบังคับสิ่งเหล่านั้นได้ ซึ่งอาจกล่าวได้ว่าพลังนี้แทบไร้ขีดจำกัด
ทว่ามันก็มีข้อเสียที่เด่นชัดคือ มันสามารถควบคุมอาวุธประเภทกระบี่ได้เท่านั้น และไม่มีผลกับอาวุธประเภทอื่น
‘ศาสตร์แห่งกระบี่!’
หนิงฝานยังคงยินดี
เพียงแค่ฟาดฟันออกไปคราวเดียวก็สามารถดึงดูดอาวุธกระบี่ของศัตรูได้ ยิ่งมีกระบี่มากมายเท่าไร พลังยิ่งแข็งแกร่งมากขึ้นเท่านั้น เงื่อนไขของพลังนี้แทบจะเรียกได้ว่าเป็นอมตะอย่างแท้จริง
ส่วนข้อบกพร่องแม้จะชัดเจน แต่หากมีกระบี่ติดตัวในตลอดเวลา ยังจะต้องหวาดกลัวสิ่งใดอีกเล่า?
‘งานเลี้ยงเทพขนนกนี่ไม่ใช่เรื่องไร้สาระสินะ!’
หนิงฝานพยักหน้าด้วยความพึงพอใจ ก่อนจะหันกลับมามีสมาธิจดจ่ออยู่กับงานเลี้ยง
เป็นอย่างที่หลัวชิงเซียนกล่าวไว้ แม้งานเลี้ยงเทพขนนกจะยิ่งใหญ่ที่สุดของราชวงศ์เทพขนนก แต่มันก็มากไปด้วยผ้าแพรสีแดงละลานตา เอาเป็นว่า… มากเกินไป!
เวลาล่วงเลยตั้งแต่เช้าตรู่จนถึงเที่ยงวัน ไม่มีบริการอาหารหรือเครื่องดื่มในงานเลี้ยง
‘เรื่องเช่นนี้มันน่าเบื่อเสียยิ่งกว่าชีวิตที่แล้วเสียอีก!’
หนิงฝานลอบบ่นในใจอย่างเบื่อหน่าย
ในที่สุด เมื่อสุริยันเคลื่อนคล้อยมาตรงกลางศีรษะ
เจ้าหน้าที่ดำเนินพิธีตะโกนอีกครั้ง “ขอเชิญคณะทูตจากทุกดินแดนเข้าร่วมงานเลี้ยง!”
สิ้นเสียง กลุ่มคนที่แตกต่างกันทั้งเสื้อผ้าและรูปร่าง ต่างก็เดินเข้ามาจากด้านนอกของงานเลี้ยง บางคนถึงกับมีศีรษะเป็นสัตว์ด้วย
“โอ้! นั่นคือปีศาจในตำนานใช่หรือไม่?”
เมื่อได้เห็นเหล่าทูตจากดินแดนอื่น ๆ หนิงฝานพลันรู้สึกสนใจขึ้นมาเล็กน้อย
อย่างไรแล้วโลกใบนี้ก็เต็มไปด้วยสิ่งเหนือจินตนาการ นับตั้งแต่ข้ามโลกมาที่นี่ เขาไม่เคยพบเจอก็อบลินในตำนานเลยสักครั้ง
“หนิงฝาน นั่นไม่ใช่ปีศาจที่แท้จริง เขาเป็นลูกครึ่งระหว่างมนุษย์กับปีศาจ หรือที่เรียกกันว่าครึ่งปีศาจ และครึ่งปีศาจเหล่านี้มาจากดินแดนเล็กของราชวงศ์เทพ เราเรียกมันว่าดินแดนครึ่งปีศาจ”
หลัวชิงเซียนเปิดปากเพื่ออธิบาย
“โอ้ เข้าใจแล้ว!”
หนิงฝานเผยสีหน้าตกใจ
จากนั้นหลัวชิงเซียนจึงแนะนำหน้าที่ของดินแดนต่าง ๆ ให้เขาฟังอย่างช้า ๆ
ดินแดนครึ่งปีศาจเป็นเช่นไร อาณาจักรคนเถื่อนแดนเหนือ เทศมณฑลหนานโถว อาณาจักรบูชาจันทรา และอื่น ๆ
ในฐานะราชวงศ์เทพ ราชวงศ์เทพขนนกมีบริวารอยู่มากมาย และแต่ละดินแดนหรืออาณาจักรต่าง ๆ ก็มีความสามารถพิเศษที่เฉพาะแตกต่างเป็นเอกลักษณ์ของตนเอง