ตอนที่ 58 นักฆ่าแห่งหอคอยเมฆาโลหิต (รีไรท์)
“ถูกต้อง!”
ขณะที่หนิงฝานกำลังจะทะยานออกจากห้องโถงพร้อมกับหลัวชิงเซียน เขาก็หันมามองผู้คนด้านล่างพร้อมกับเอ่ยด้วยน้ำเสียงเคร่งขรึม “ข้าขอเตือนพวกเจ้าว่ายังมีปราชญ์ยุทธ์อีกหนึ่งคนในห้องโถงนี้!!!”
“ว่ากระไรนะ!”
เมื่อได้ยินเช่นนั้น ทุกคนในห้องโถงพลันตกตะลึง
“หึ ๆๆ…”
เสียงหัวเราะเย็นยะเยือกดังกึกก้องไปทั่วห้องโถง แล้วสัมผัสอันตรายก็พวยพุ่งออกมา ความโหดเหี้ยมที่ไร้ความปรานีแผ่ซ่านไปทั่วกระดูกสันหลัง
พรึ่บ!
เงาดำปรากฏขึ้นจากเงามืดภายในห้องโถง และในทันทีที่ชายชุดดำควบแน่นร่างกายสำเร็จ ก็ปรากฏเป็นชายชุดดำสวมหน้ากากเมฆาโลหิต ในมือถือกระบี่ยาวเปรอะเปื้อนเลือดสีแดงฉาน แรงกดข่มอันหนักหน่วงแห่งปราชญ์ยุทธ์ทะลักออกจากร่างกายของเขา
“อันใดกัน!”
“ปราชญ์ยุทธ์!”
“มีปราชญ์ยุทธ์อยู่ที่นี่!”
เมื่อเห็นเช่นนี้ ใบหน้าของทุกคนภายในห้องโถงพลันบิดเบี้ยวทันที
“หน้ากากโลหิต นักฆ่าแห่งหอคอยเมฆาโลหิต!!!”
“หอคอยเมฆาโลหิต กลุ่มนักฆ่าอันดับหนึ่งของโลก มีพรรคพวกกระจัดกระจายไปทั่วดินแดนของราชวงศ์เทพขนนกมากมาย มีข่าวลือว่าตราบใดที่มีเงินรางวัลมากพอ พวกมันกล้าที่จะลงมือสังหาร ต่อให้เป็นองค์จักรพรรดิราชวงศ์เทพขนนกก็ไม่มีข้อยกเว้น!”
“หึ! เวลานี้ขันทีเว่ยและคนอื่น ๆ กำลังต่อสู้กับศัตรูทรงพลัง แล้วผู้ใดจะหยุดยั้งนักฆ่าจากหอคอยเมฆาโลหิตนี้ได้!”
“…”
ใบหน้าของทุกคนเผยความหวาดกลัวออกมา
เมื่อเผชิญหน้ากับปราชญ์ยุทธ์ พวกเขาเป็นได้เพียงมดปลวกเท่านั้น
ไม่จำเป็นต้องกล่าวถึงนักฆ่า!
หากไม่มีใครขวางกั้น โลหิตอาจหลั่งไหลไม่ต่างจากแม่น้ำเชี่ยวกราก และไม่อาจมีผู้ใดรอดชีวิตไปได้!
หนิงฝาน!
ทุกสายตาจับจ้องหนิงฝานที่กำลังจะจากไปโดยไม่รู้ตัว!
ตอนนี้ขันทีเว่ยกับคนอื่น ๆ กำลังต่อสู้กันอยู่ด้านบน และผู้เดียวที่จะช่วยชีวิตพวกเขาได้คือหนิงฝานเท่านั้น
“ฮ่า ๆ ดูทำเข้าสิ ข้ากำลังจะไปช่วยเหลือขันทีเว่ยและคนอื่น ๆ เพราะหากไม่ไป ข้าจะถูกมองว่าเป็นคนขี้ขลาดเอาได้!”
เมื่อเห็นว่าทุกสายตาของทุกคนกำลังร้องขอความช่วยเหลือ หนิงฝานพลันยกยิ้มเย็นชาขึ้นมา
พรึ่บ! พรึ่บ! พรึ่บ!
ในตอนนี้เอง ทุกคนหันมองหลินหลงเซี่ยงและองค์ชายทั้งหมด สายตาของพวกเขาเต็มไปด้วยความรังเกียจ ราวกับอยากจะบีบคอองค์ชายปากเสียให้ตายตกไปเสีย
หากไม่ใช่เพราะหลินหลงเซี่ยงกับคนอื่น ๆ ที่ยืนกรานบังคับให้หนิงฝานเข้าร่วมการต่อสู้อย่างชอบธรรม ในเวลานี้พวกเขาคงไม่ตกอยู่ในสถานการณ์ที่อันตรายเช่นนี้
ท้ายที่สุดแล้ว แม้หนิงฝานจะไม่ใช่คู่ต่อสู้ของนักฆ่าจากหอคอยเมฆาโลหิต แต่อย่างไรก็สามารถถ่วงเวลาไว้ได้ชั่วคราว และเพียงพอให้พวกเขามีเวลาหลบหนี
เวลานี้หากหนิงฝานยืนกรานที่จะจากไป พวกเขาทั้งหมดคงจะต้องจบชีวิตลงแล้ว
หลินหลงเซี่ยงตกใจกับการปรากฏตัวอย่างกะทันหันของนักฆ่าจากหอคอยเมฆาโลหิต มาตอนนี้เมื่อได้รับสายตาเหยียดหยามจากฝูงชน นี่ยิ่งทำให้เขารู้สึกอึดอัดเป็นอย่างมาก
“ไอ้บัดซบ!”
“ข้าคือองค์ชาย พวกเจ้ากล้าดีอย่างไรถึงมองข้าเช่นนี้!”
หลินหลงเซี่ยงคำรามลั่น จากนั้นก็หันไปมองหนิงฝานแล้วกล่าวคำ “หนิงฝาน ในฐานะองค์ชายแห่งราชวงศ์เทพขนนก ข้าขอสั่งให้เจ้าลงมาหยุดนักฆ่าจากหอคอยเมฆาโลหิตเดี๋ยวนี้!”
“ถูกต้อง! เจ้าห้ามไปที่อื่น!”
“หากเราพบเจอปัญหาเพราะเจ้า เป็นเจ้าที่จะถูกตัดศีรษะ!”
“รีบลงมาช่วยพวกเรา!”
องค์ชายคนอื่น ๆ รีบตะโกนอย่างบ้าคลั่ง
“ไอ้พวกโง่!”
หนิงฝานเย้ยหยัน ก่อนจะหันหลังจากไป
ฮ่า ๆ!
ตอนนี้เอง นักฆ่าแห่งหอคอยโลหิตพุ่งทะยานเข้าหาหลินหลงเซี่ยงที่กำลังคำรามบ้าคลั่ง ในขณะเผยรอยยิ้มเย้ยหยัน เขาก็สับฟันกระบี่เปื้อนเลือดในมือออกไปทันที
ฉึบ!
องค์ชายสองสามคนข้างกายหลินหลงเซี่ยงไม่ทันแม้แต่จะกรีดร้อง ศีรษะของพวกเขาถูกตัดขาด แล้วโลหิตก็สาดกระเซ็นไปทั่ววิหารทองคำ
อันใดกัน!
เมื่อเห็นเช่นนี้แล้ว วิหารทองคำทั้งหมดพลันตกอยู่ในความวุ่นวายทันที ทุกคนไม่คิดสนใจสิ่งใดอีก ต่างหาทางหลบหนีเอาชีวิตรอดกันทั้งสิ้น
“ฮ่า ๆ องค์ชายสี่พระองค์… หนึ่งคนต่อหินวิญญาณห้าหมื่นก้อน เพียงกระบี่เล่มเดียว ข้าก็สามารถเก็บเกี่ยวหินวิญญาณสองแสนก้อนได้อย่างง่ายดายแล้ว!”
หลังจากตัดศีรษะองค์ชายทั้งสี่คนด้วยการโจมตีเพียงครั้งเดียว ลำแสงน่าหวาดกลัวเปล่งประกายออกจากดวงตาของนักฆ่าแห่งหอคอยเมฆาโลหิต
ทว่าเขายังไม่ออกเคลื่อนไหวต่อ แต่เงยหน้าขึ้นมองหนิงฝานที่กำลังจะจากไปแทน
“องค์ชายมีค่าเท่ากับหินวิญญาณห้าหมื่นก้อน”
“และปราญช์ยุทธ์มีค่า… หนึ่งล้านก้อน!”
“ตามข่าวที่ได้รับมา คนผู้นี้ตกอยู่ภายใต้คำสาปอมตะ ฮ่า ๆ หนึ่งล้านนี้หาได้ง่ายดายยิ่งนัก!”
ไป!
เมื่อตระหนักได้เช่นนี้ เขาก็ทะยานเข้าหาหนิงฝานพร้อมสับฟันกระบี่ออกไปอย่างรวดเร็ว
“ไอ้เวรเอ๊ย!”
หนิงฝานขมวดคิ้ว เมื่อเห็นว่านักฆ่าจากหอคอยเมฆาโลหิตไม่ได้สังหารหมู่ผู้คนภายในวิหารทองคำ แต่กลับพุ่งเข้าหาเขาแทน
เขาผลักหลัวชิงเซียนออกอย่างเบามือก่อนจะชี้นิ้วออกไป
ฟึ่บ!
ฉับพลันนั้น ปราณกระบี่ทั้งสองฟาดฟันกันจนบังเกิดเสียงระเบิด ก่อนที่วิหารทองคำจะพังทลายลงจากคลื่นพลังที่ปะทุออกมาของหนิงฝาน แล้วเขาในเวลานี้ก็ทะยานออกจากห้องโถงพร้อมกับพุ่งขึ้นไปในอากาศ
“จะหนีไปไหน!?”
นักฆ่าแห่งหอคอยเมฆาโลหิตไล่ตามไปติด ๆ ในสายตาของเขา หนิงฝานเปรียบเสมือนหินวิญญาณนับล้านที่เดินได้ และแน่นอนว่าเขาจะไม่ปล่อยอีกฝ่ายไปเป็นอันขาด!
ไป! ไป!
เช่นเดียวกัน ในขณะที่ทั้งสองทะยานขึ้นสู่ท้องฟ้า พวกเขาก็หายไปจากสายตาของทุกคนในพริบตา
“หนิงฝานระวังตัวด้วย!”
เมื่อเห็นร่างของสามีพุ่งขึ้นไปกลางเวหาโดยมีนักฆ่าไล่ตามหลังไปด้วย หลัวชิงเซียนก็ตะโกนออกมาพร้อมกับใบหน้าเป็นกังวล
“หึ! ไปเสีย… ไปให้พ้น!”
“เหอะ! ปราชญ์ยุทธ์นั้นน่าหวาดกลัว แต่นักฆ่าจากหอคอยเมฆาโลหิตนั้นน่าพรั่นพรึงยิ่งกว่า!”
“โชคดีที่ราชบุตรเขยหนิงอยู่ที่นี่ หากเขาไม่ล่อให้นักฆ่าออกไป พวกเราคงไม่รอดเป็นแน่”
“…”
ขุนนางและกองทัพทหารแห่งราชวงศ์เทพเงยหน้ามองท้องฟ้าด้วยความหวาดกลัว
สำหรับคนที่ตายตกไปอย่างหลินหลงเซี่ยง ไม่มีผู้ใดคิดสนใจเลยแม้แต่น้อย
…
หึ!
หนิงฝานพุ่งทะยานขึ้นสู่ความสูงระดับสามพันจั้ง เมื่อเห็นว่าไม่มีสิ่งใดอยู่รอบข้างนอกจากเมฆาหนาทึบแล้ว เขาก็พยักหน้าเล็กน้อยอย่างพึงพอใจก่อนจะหยุดเคลื่อนไหว
พรึ่บ!
ขณะที่หนิงฝานหยุดลง นักฆ่าจากหอคอยเมฆาโลหิตก็ไล่ตามเขาทัน
“ฮ่า ๆ ไยไม่หนีต่อเล่า!?”
นักฆ่าหอคอยเมฆาโลหิตยกยิ้มเย็นชา ก่อนจะกระชับกระบี่โลหิตในมือไว้แน่น
“หนี? ไม่ ๆๆ! ข้าแค่ไม่อยากให้คนอื่นเห็นความแข็งแกร่งที่แท้จริงของข้าก็เท่านั้น!”
เวลานี้หนิงฝานรีบโบกมือปฏิเสธอย่างรวดเร็ว
เมื่อได้ยินวาจานี้ก็ราวกับได้รับฟังเรื่องขบขัน นักฆ่ากล่าวเย้ยหยันทันทีว่า “ความแข็งแกร่งที่แท้จริง? ฮ่า ๆ น่าขันยิ่งนัก เจ้ามีพลังอันใดกัน? เวลานี้เจ้าเป็นเพียงเศษขยะเพราะถูกคำสาปอมตะจัดการต่างหาก!”
“เป็นเรื่องน่ายินดีที่เจ้าจะได้สัมผัสกับความแข็งแกร่งของปราชญ์ยุทธ์ผู้นี้ ข้าสังหารคนไปแล้วนับหมื่นในชั่วชีวิตนี้ กระบี่ของข้ารวดเร็วไร้ผู้ใดเทียบ รับรองได้ว่าเจ้าจะไม่ทรมานแม้แต่น้อย!”
นักฆ่าจากหอคอยเมฆาโลหิตเผยรอยยิ้มน่าหวาดกลัว ก่อนจะเริ่มวาดกระบี่ในมือ
“งั้นหรือ!”
หนิงฝานเย้ยหยันอย่างเย็นชา แล้ววินาทีต่อมาขอบเขตปราชญ์ยุทธ์สวรรค์ขั้นที่สามก็ระเบิดออก เขาไม่ซุกซ่อนพลังอีกต่อไป มวลพลังมหาศาลปะทุออกมาอย่างรุนแรงจนอากาศรอบข้างสั่นสะเทือน มิหนำซ้ำ แรงกดดันหนักอึ้งยังกดทับนักฆ่าจากหอคอยเมฆาโลหิตจนแทบสิ้น
“อันใดกัน!”
“สวรรค์ขั้นที่สาม!!!”
เมื่อเห็นฉากนี้ การเคลื่อนไหวของนักฆ่าจากหอคอยเมฆาโลหิตถึงกับแข็งข้างไปในบัดดล รูม่านตาหดลงอย่างรวดเร็ว
ก่อนที่นักฆ่าจากหอคอยเมฆาโลหิตจะลงมือสังหารผู้ใด เขาจะต้องรวบรวมข้อมูลของเป้าหมายเสียก่อน และแน่นอนว่าก่อนจะมาที่นี่ เขาย่อมทราบถึงสถานการณ์ของหนิงฝานเป็นอย่างดีแล้ว
แม้จะมีพรสวรรค์ไร้ผู้ใดเทียบ แต่ก็ตกอยู่ภายใต้คำสาปอมตะและเป็นเพียงคนไร้ประโยชน์เท่านั้น!
แต่ตอนนี้คนที่ถูกเรียกว่า ‘ไร้ประโยชน์’ กลับปะทุพลังขอบเขตปราชญ์ยุทธ์สวรรค์ขั้นที่สามออกได้ ซ้ำยังแข็งแกร่งกว่าเขาหนึ่งระดับด้วย!
นี่มันเรื่องบ้าอะไรกัน!
“แล้วอย่างไร?”
“ข้าผู้นี้จะสังหารปราชญ์ยุทธ์สวรรค์ขั้นที่สามให้ได้เห็นเอง!”
นักฆ่าแห่งหอคอยเมฆาโลหิตคำรามลั่น ก่อนจะปลดปล่อยพละกำลังทั้งหมดสับฟันออกไปด้วยความเกรี้ยวกราด
ชิ้ง!
ปราณกระบี่สีเลือดทะยานเข้าหาหนิงฝานด้วยความเดือดพล่าน ความรุนแรงของมันสามารถตัดอากาศออกเป็นสองส่วนได้อย่างง่ายดาย
ตู้ม!
แต่ในเวลาต่อมา ภายใต้แววตาเกรี้ยวกราดของนักฆ่าแห่งหอคอยเมฆาโลหิต หนิงฝานก็ปลดปล่อยปราณกระบี่ออกมาเช่นกัน แล้วลำแสงสว่างวาบก็ทำลายปราณกระบี่ที่ยิ่งใหญ่ของอีกฝ่ายทันที ซ้ำยังแยกตัวออกนับไม่ถ้วนด้วย
ปราณกระบี่กลับกลายเป็นพายุห่าฝน
แล้วพุ่งเข้าหานักฆ่าโดยฉับพลัน!