ระบบล็อกอินสู่สวรรค์ [苟在女帝宫我举世无敌] – ตอนที่ 60 สามปราชญ์ยุทธ์ บุตรชายหลงเซี่ยง

ตอนที่ 60 สามปราชญ์ยุทธ์ บุตรชายหลงเซี่ยง

ตอนที่ 60 สามปราชญ์ยุทธ์ บุตรชายหลงเซี่ยง (รีไรท์)

ตู้ม!

นักฆ่าหมายเลขสิบสามสับฟันกระบี่ออกไปเพียงหนึ่งครั้ง ปราณกระบี่แยกออกเป็นสามสาย พร้อมกับเผยพลังทำลายล้างพุ่งเข้าใส่ทั้งสามคนอย่างโหดเหี้ยม

“ไอ้สิบสาม เจ้าคิดทำสิ่งใด!?”

“เป็นบ้าไปแล้วหรือ!?”

“ไม่ต้องการรางวัลแล้วหรือไร!?”

“…”

เมื่อเห็นว่านักฆ่าหมายเลขสิบสามกำลังจะสับฟันพวกเขาโดยไม่บอกกล่าว ทั้งสามก็คำรามอย่างรุนแรงและคิดว่านักฆ่าหมายเลขสิบสามคิดจะเอาเปรียบผู้อื่น

“ไอ้บัดซบ!”

“ไม่มีทางที่เจ้าจะสังหารเราทั้งสามได้โดยลำพัง!”

“หากคิดลงมือ อย่ากล่าวโทษว่าพวกเราหยาบคาย เพียงสังหารเจ้า รางวัลที่เหลือจะตกเป็นของพวกเราทันที!”

ค้างคาวสวรรค์เหล่าหมัว เซวี่ยเซียวจื่อ และกระบี่ภูตผีชางหมิงไม่คิดเผยน้ำใจใด ๆ ความชั่วร้ายปรากฏขึ้นบนใบหน้าของพวกเขาทันที

ตู้ม! ตู้ม! ตู้ม!

ในชั่วพริบตา พวกเขาทั้งสามต่อสู้กลับอย่างเกรี้ยวกราด อสูรค้างคาวจงมา ฟ้าดินหลอมโลหิต และกระบี่ภูตผีจงผ่าปรากฏขึ้นเป็นพลังงานมหาศาลแล้วระเบิดออกมาคล้ายมังกรพิโรธ

ตู้ม! ตู้ม! ตูม!

ทว่าชั่วพริบตานั้น มีสิ่งหนึ่งที่ทำให้ใบหน้าของทั้งสามแปรเปลี่ยน นั่นคือการโจมตีของพวกเขาถูกทำลายลงอย่างง่ายดายโดยปราณกระบี่ของนักฆ่าหมายเลขสิบสาม จากนั้นปราณกระบี่ก็พุ่งทะยานเข้าหาทั้งสามอย่างบ้าคลั่ง!

“อ๊ากกกกกก!”

เสียงกรีดร้องดังขึ้น แล้วทั้งสามก็กระเด็นออกไปพร้อมกับสายโลหิตที่สาดกระเซ็นออกมาจากหน้าอก

ทันทีที่ร่วงหล่นสู่พื้นดิน ทั้งหมดพลันตระหนักได้ว่าตนเองบาดเจ็บสาหัส!

“หึ!”

“เป็นไปไม่ได้!”

“เจ้าไม่ใช่นักฆ่าหมายเลขสิบสาม หมายเลขสิบสามไม่มีวันสังหารพวกเราได้ภายในกระบวนท่าเดียว!”

สายตาของทั้งสามเผยความตื่นตระหนก

แม้ว่านักฆ่าหมายเลขสิบสามจะเป็นนักฆ่าของหอคอยเมฆาโลหิตที่เชี่ยวชาญในการลอบสังหาร ซ้ำยังทรงพลังยิ่ง แต่สุดท้ายแล้ว เขาก็อยู่ในระดับสวรรค์ขั้นที่สองของขอบเขตปราชญ์ยุทธ์เท่านั้น ด้วยเหตุนี้ อีกฝ่ายจะทำร้ายทั้งสามจนบาดเจ็บสาหัสในกระบวนท่าเดียวได้อย่างไร?

“พวกเจ้าทั้งสามต้องตายอยู่แล้ว ไม่จำเป็นต้องรู้ว่าข้าคือผู้ใด!”

ในเวลานี้นักฆ่าหมายเลขสิบสามกล่าวขึ้น แน่นอนว่านี่เป็นคำพูดของหนิงฝาน

เมื่อครู่หนิงฝานเป็นคนสับฟันทั้งสามเอง

มิฉะนั้นแล้ว เพียงแค่ความแข็งแกร่งของนักฆ่าหมายเลขสิบสาม มันย่อมไม่อาจทำให้ทั้งสามได้รับบาดเจ็บสาหัสได้

“หนี!”

เมื่อเห็นปราณกระบี่ของนักฆ่าหมายเลขสิบสามพุ่งเข้ามา ทั้งค้างคาวสวรรค์เหล่าหมัว เซวี่ยเซียวจื่อ และกระบี่ภูตผีชางหมิงต่างก็ไม่คิดจะต้านรับไว้ ตรงกันข้าม พวกเขาหลบหนีด้วยพละกำลังทั้งหมดที่มี

ค้างคาวสวรรค์เหล่าหมัวกลายเป็นค้างคาวนับหมื่นพันทะยานขึ้นสู่ท้องฟ้า

เซวี่ยเซียวจื่อควบแน่นโลหิตในกายก่อนจะวิ่งด้วยความเร็วเหนือแสงเข้าสู่ป่าทึบ

กระบี่ภูตผีชางหมิงวิ่งออกไปโดยตรง และหายไปจากสายตาในเพียงพริบตาเดียว

ทั้งสามคือจอมวายร้ายที่เหี้ยมโหดและยังเป็นนักโทษหลบหนีที่ทางการต้องการตัวมากที่สุด พวกมันอยู่ในห้าอันดับแรกของบุคคลที่ราชวงศ์เทพขนนกต้องการตัว และเหตุผลที่มันยังครองอันดับเช่นนี้ก็เพราะพวกมันมีทักษะการหลบหนีที่ยอดเยี่ยม

ในเวลานี้ ความเร็วของทักษะการหลบหนีที่ถูกใช้งานโดยทั้งสามนั้นรวดเร็วยิ่ง ไม่ต้องกล่าวถึงผู้ฝึกยุทธ์ที่แข็งแกร่งในระดับเดียวกัน แม้แต่ผู้ฝึกยุทธ์ในระดับสวรรค์ขั้นที่สามก็ยังไม่อาจไล่ทันได้

“หึ! เจ้ายังไร้เดียงสาเกินไปที่จะวิ่งหนีข้า!”

หนิงฝานอดไม่ได้ที่จะเยาะเย้ย จากนั้นร่างของนักฆ่าหมายเลขสิบสามก็สับฟันออกไปสามครั้ง ในสามครั้งเขาใช้ทักษะที่ได้รับจากการลงชื่อเข้าใช้มา มันคือ… สลายความว่างเปล่า!

พรึ่บ! พรึ่บ! พรึ่บ!

ปราณกระบี่ทั้งสามพุ่งทะยานออกมาราวกับอุกกาบาตสีแดงสด มันปรากฏขึ้นภายในความว่างเปล่าก่อนจะหายลับไป แล้วจึงปรากฏอีกครั้งที่ด้านหลังของศัตรูทั้งสาม

“เป็นไปไม่ได้!!!”

เมื่อเห็นการโจมตีจากปราณกระบี่ที่มาอย่างกะทันหัน ไม่ว่าจะเป็นค้างคาวสวรรค์เหล่าหมัวที่อยู่บนท้องฟ้า เซวี่ยเซียวจื่อที่กำลังวิ่งอยู่ในป่าทึบ หรือกระบี่ภูตผีชางหมิงที่กำลังหลบหนีอยู่บนพื้นดิน ทั้งหมดล้วนหวาดกลัวจนแทบตายตก ใบหน้าเผยสีหน้าความไม่เชื่อ!

อ๊าก! อ๊าก! อ๊าก!

ท้ายที่สุด ปราณกระบี่ติดตามทั้งสามไปได้ทันกาล สุ้มเสียงกรีดร้องดังขึ้นจากสามทิศทาง ก่อนที่เสียงพวกนั้นจะเงียบหายไปในที่สุด…

หนึ่งอสูร หนึ่งสังหาร หนึ่งภูตผี ตายคาที่!

หลังจากสังหารทั้งสามจนสิ้นแล้ว หนิงฝานเก็บกระบี่ก่อนจะเอ่ยขึ้นมาว่า “แขวนศพของพวกมันไว้ที่ประตูเมืองหลวงเทพขนนก แล้วเจ้าก็กลับไปยังที่ที่เจ้าจากมาเสีย หากมีอะไร ข้าจะติดต่อเจ้าผ่านพระราชลัญจกร!”

เมื่อได้ยินดังนั้น นักฆ่าหมายเลขสิบสามประสานฝ่ามือและคุกเข่าลงพื้น ก่อนจะกล่าวอย่างเคารพ “ทราบแล้ว นายท่าน!”

ภายในตำหนักสูงเสียดฟ้า หนิงฝานค่อย ๆ ลืมตาขึ้น

สี่ปราชญ์ยุทธ์ที่มาสร้างความวุ่นวายภายในวิหารทองคำ ตอนนี้หนึ่งคนกลายเป็นทาสรับใช้ ส่วนอีกสามตายตก และในที่สุดความวุ่นวายก็จบสิ้นลง

“เฮ้อ”

หนิงฝานถอนหายใจเบา ๆ ก่อนจะเดินลงมาข้างล่าง

เดิมทีด้านล่างของวิหารทองคำดูใหญ่โตและโอ่อ่ายิ่ง ทว่าบัดนี้มันกลับถูกทำลายลงจากสงครามของปราชญ์ยุทธ์เมื่อครู่

องค์ชายและเหล่าขุนนางพร้อมด้วยกองกำลังทหารเคลื่อนตัวออกมาด้านนอกของห้องโถง

ถึงกระนั้น ใบหน้าของผู้คนก็ยังคงซีดเซียวและยังดูสับสนอยู่ เห็นได้ชัดว่าพวกเขายังไม่เลิกหวาดกลัวความตายที่ได้เผชิญก่อนหน้า

ขันทีเว่ยและคนอื่น ๆ เพิ่งกลับมา เมื่อพวกเขาทราบว่าตนเองถูกหลอก คล้ายกับคำโบราณที่ว่า ล่อเสือออกจากถ้ำ จากนั้นนักฆ่าของหอคอยเมฆาโลหิตก็ปรากฏตัวในวิหารทองคำ ทั้งหมดกลายเป็นตื่นตระหนกขึ้นมาทันที

แต่เมื่อได้ยินว่าหนิงฝานล่อนักฆ่าออกไปด้านนอกแล้ว พวกเขาก็พลันโล่งใจมากขึ้น

ทั้งหมดทราบดีว่าหากหนิงฝานไม่ได้อยู่ที่นี่ภายในวันนี้ องค์ชาย ขุนนาง และกองทัพทหารภายในวิหารทองคำย่อมไม่อาจเอาชีวิตรอดได้ เมื่อต้องเผชิญหน้ากับนักฆ่าจากหอคอยเมฆาโลหิต!

หากเรื่องราวไปถึงจุดนั้น ราชวงศ์เทพขนนกอาจถึงคราวล่มสลายได้!

แม้องค์ชายทั้งสี่รวมถึงหลินหลงเซี่ยงจะตายตก แต่เมื่อเทียบกับสถานการณ์ที่เลวร้ายที่สุด มันก็นับว่าเป็นพรอันประเสริฐแล้ว

“ผู้เฒ่าเว่ย แม้หนิงฝานจะอยู่ขอบเขตปราชญ์ยุทธ์ แต่เขามีคำสาปอมตะอยู่ในตัว ข้าเกรงว่าเขาจะไม่ใช่คู่ต่อสู้ของนักฆ่าผู้นั้น ท่านรีบไปช่วยเขาเถิด!”

หลัวชิงเซียนกล่าวอย่างร้อนรน และแววตาก็เผยความกังวลออกมาอย่างชัดเจน

“ทราบแล้ว!”

ขันทีเว่ยกับคนอื่น ๆ พยักหน้าตอบรับว่า พวกเขาจะไปช่วยราชบุตรเขยหนิงประเดี๋ยวนี้

“ไม่เป็นไร ข้ากลับมาแล้ว!”

ทันใดนั้น สุ้มเสียงแผ่วเบาดังขึ้น แล้วร่างของหนิงฝานก็ค่อย ๆ ทะยานลงมาข้างล่างซึ่งเป็นพื้นที่ด้านหน้าของวิหารทองคำ

“หนิงฝาน!”

เมื่อเห็นสามีกลับมาแล้ว หลัวชิงเซียนพุ่งเข้าไปกอดเขาไว้ทันที ดวงตาคู่งามแดงก่ำ แล้วหยาดน้ำตาก็ไหลอาบแก้มทั้งสอง “เป็นอะไรหรือไม่? เจ็บตรงไหนบ้าง?”

“ภรรยาเอ๋ย ไม่ต้องกังวล ข้าไม่ได้รับบาดเจ็บอันใด!”

หนิงฝานยิ้มให้นางอย่างอ่อนโยน

ขันทีเว่ยและทั้งสามรีบเดินตรงเข้ามาถามไถ่เขา “หนิงฝาน แล้วนักฆ่าจากหอคอยเมฆาโลหิตอยู่ที่ใดหรือ?”

เมื่อได้ยินเช่นนี้ หนิงฝานก็กล่าวคำพูดที่เขาตระเตรียมเอาไว้ “หลังจากที่นักฆ่าผู้นั้นติดตามข้าไป ข้าไม่คิดเผชิญหน้ากับเขา จึงพยายามหนีเพื่อถ่วงเวลาให้นานที่สุด และเมื่อเห็นว่าเวลาผ่านไปนาน มันคงเกรงว่าพวกท่านจะติดตามมา เลยเร่งรีบหนีไปแล้ว!”

“สุดท้ายกลายเป็นมันที่หลบหนีไป!”

ถ้อยคำของหนิงฝานไร้ช่องโหว่ใด ๆ ขันทีเว่ยกับคนอื่น ๆ ก็ไม่ติดใจเอาความ

“หนิงฝาน วันนี้ต้องขอบคุณเจ้าแล้ว หากเจ้าไม่หลอกล่อนักฆ่าผู้นั้นออกไป พวกเราคงต้องประสบกับหายนะ!”

“ถูกต้องแล้ว หากขุนนางและเหล่าราชวงศ์ทั้งหมดถูกสังหาร พวกเราทั้งสามคงจักต้องรับโทษแม้ตายตก!”

“หนิงฝาน ขอขอบคุณท่าน!”

ทั้งสามกล่าวขอบคุณหนิงฝานอย่างจริงใจ

การกระทำของหนิงฝานไม่เพียงแต่ช่วยเหลือกองกำลังและเหล่าราชวงศ์เท่านั้น ทว่ายังช่วยเหลือพวกเขาทางอ้อมด้วย

ในเวลานี้ ทั้งองค์ชายและข้าราชบริพารที่รอดชีวิตต่างก้าวเดินมาด้านหน้าเพื่อแสดงความขอบคุณเขา

“ราชบุตรเขยหนิง ขอบคุณแล้ว!”

“บุญคุณในวันนี้ ข้าจักไม่มีวันลืมเด็ดขาด!”

“ราชบุตรเขยหนิง ข้าเป็นหนี้ชีวิตท่านแล้ว!”

“ราชบุตรเขยหนิง ขอบคุณที่ช่วยกอบกู้เมืองเทพขนนก!”

“…”

ไม่ว่าจะจริงใจหรือไม่ แต่เสียงขอบคุณยังคงดังกึกก้องไม่ขาดสาย

ทว่าตอนนั้นเองกลับมีเสียงของสตรีที่เผยความขุ่นเคืองออกมาอย่างถึงที่สุด ดังขึ้นมาจากไม่ไกล

“หนิงฝาน จงคืนชีวิตของหลงเซี่ยง บุตรชายของข้ามาเดี๋ยวนี้!!!”

ระบบล็อกอินสู่สวรรค์ [苟在女帝宫我举世无敌]

ระบบล็อกอินสู่สวรรค์ [苟在女帝宫我举世无敌]

Status: Ongoing

หนิงฝาน' ชายหนุ่มผู้เดินทางข้ามสายธารแห่งกาลเวลามาเป็นสามีของจักรพรรดินีแห่งแดนศักดิ์สิทธิ์ เดิมทีก็คิดว่าตัวเองจะเป็นผู้อ่อนแอและเกาะภรรยากินไปชั่วชีวิตเสียแล้ว ทว่าจู่ ๆ เขากลับเปิดใช้งานระบบสลากขั้นเทพได้...

นี่เองคือจุดเริ่มต้นใหม่ของผู้ที่ 'เคยอ่อนแอ' มาก่อน!

[ติ๊ง! ลงชื่อเข้าใช้ในพระราชวังจักรพรรดินีเสร็จสิ้น และได้ร่างกายของเซียนดาบ!]

[ติ๊ง! ลงชื่อเข้าใช้ยอดเขาสารพัดประโยชน์ได้สำเร็จ และได้รับเสื้อคลุมเร้นลับ!]

หนิงฝานเดินเล่นไปทั่วแดนศักดิ์สิทธิ์พร้อมระบบสลากขั้นเทพ ล็อกอินสถานที่อย่างเงียบ ๆ ในฐานะสามีผู้ไร้ค่าของจักรพรรดินี จนกระทั่งหลายปีต่อมา บรรพชนของปีศาจทั้งหลายถือกำเนิดขึ้นและยกกองทัพปีศาจนับล้านบุกแดนศักดิ์สิทธิ์!

จักรพรรดินีผู้เลอโฉมพ่ายแพ้ และทั่วทั้งแดนศักดิ์สิทธิ์ก็ตกอยู่ในภยันตราย! หนิงฝานไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องยื่นมือเข้ามาช่วย ด้วยการโจมตีเพียงครั้งเดียว ปีศาจนับล้านพลันถูกกำจัด! แต่ถึงกระนั้นชายหนุ่มไม่ได้สนใจมากนัก... เพราะเขารู้เพียงว่าเขาได้กลายเป็นตัวตน 'อมตะ' ในโลกนี้แล้ว!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท