ตอนที่ 62 ดินแดนศักดิ์สิทธิ์เทียนซู สามสวรรค์ขั้นกลาง!
วันใหม่มาเยือน ข่าวการสิ้นชีพของอาชญากรแพร่กระจายไปทั่วเมืองเทพขนนก ก่อเกิดความวุ่นวายไม่รู้จบตามมา
องค์ชายทั้งหมดทราบเรื่องของชายผู้แข็งแกร่งนามว่าจวินซ่างแล้ว เขาผู้นี้สังหารปราชญ์ยุทธ์ที่เข้ามาก่อความวุ่นวายภายในพระราชวังเทพขนนกอย่างโหดเหี้ยม
เมื่อมีการเคลื่อนไหวนี้ก็ทำให้ราชวงศ์เทพขนนกกลับมามั่นคงอีกครั้ง ซ้ำยังช่วยยับยั้งผู้อื่นที่กำลังคิดจะเคลื่อนไหวอีกด้วย
“จวินซ่าง?”
ภายในตำหนักองค์หญิง หลัวชิงเซียนรู้ข่าวสถานการณ์ที่ประตูเมืองเป็นที่เรียบร้อย ส่วนหนิงฝานเองก็ยกยิ้มขึ้นมาอย่างอดไม่ได้
นักฆ่าหมายเลขสิบสามแขวนคออำพรางศพ แต่นามที่ถูกสลักเอาไว้กลับไม่มีมูลความจริงซึ่งสามารถสาวมาถึงตัวเขาได้
ในเวลานี้ หลัวชิงเซียนพลันเอ่ยอย่างตื่นเต้นว่า “ข้าคิดไม่ออกเลยว่าชายลึกลับผู้แข็งแกร่งนามว่าจวินซ่างผู้นี้เป็นใคร เขาถึงกับสามารถสังหารปราชญ์ยุทธ์ทั้งสามได้ในคราวเดียว นี่จะแข็งแกร่งเกินไปแล้ว หากเป็นไปได้ข้าก็อยากพบเขานัก”
“…”
เมื่อเห็นว่าหลัวชิงเซียนชื่นชม หนิงฝานก็ยกยิ้มอีกครั้ง
จากนั้นเขาก็แสร้งทำเป็นพูดไม่พอใจว่า “บุรุษผู้นั้นแข็งแกร่งอย่างแท้จริงและข้าก็เข้าใจว่าเจ้าอยากพบเจอเขา แต่อย่าลืมว่าสามีของเจ้าผู้นี้ก็สามารถสังหารปราชญ์ยุทธ์ได้เช่นกัน”
“สามี เจ้าหึงข้าหรือ?”
เมื่อเห็นท่าทีของหนิงฝาน หลัวชิงเซียนเอามือป้องปากปิดบังรอยยิ้มไว้ ก่อนที่ดวงตางดงามจะกลายเป็นพระจันทร์เสี้ยว นางเผยรอยยิ้มทรงเสน่ห์ออกมาพร้อมกับกล่าวอ้อนว่า “ข้าผิดไปแล้ว อย่างไรสามีข้าก็เก่งกาจที่สุด จวินซ่างผู้นั้นหาได้มีอิทธิพลกับใจข้าไม่!”
“…”
หนิงฝานถึงกับพูดไม่ออก เหตุใดเขาจึงรู้สึกอึดอัดใจนัก
นี่นางกำลังชื่นชมหรือดุด่าเขากันแน่?
ชายหนุ่มส่ายศีรษะพร้อมกับกล่าวเคร่งขรึม “เอาล่ะ ในเมื่อเจ้าทราบความผิดแล้วก็จงโดนข้าลงโทษเสีย!”
พรึ่บ!
หนิงฝานกดร่างบางของหลัวชิงเซียนลงกับตั่ง ไม่เพียงเท่านั้น เขายังตบบั้นท้ายของนางเบา ๆ มือข้างนั้นจึงได้สัมผัสกับความยืดหยุ่นและความนุ่มนิ่มที่ยอดเยี่ยมในเวลานี้
“อ๊ะ~ สามีข้า ใจเย็น ๆ ก่อน!”
หลัวชิงเซียนเผยน้ำเสียงอู้อี้
เมื่อได้ยินเสียงคล้ายกับยุงนี้ หัวใจของหนิงฝานพลันสั่นสะท้าน เขากลายร่างเป็นหมาป่าในทันที ชั่วพริบตา เสื้อผ้าทั้งหมดก็กลายเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อยปลิวว่อนอยู่ภายในห้อง และจักรพรรดินีผู้สง่างามก็กลายเป็นแกะขาวตัวน้อยในบัดดล…
…
ณ วังมังกรแท้จริง สถานที่ที่หลินไท่ซูปิดด่านฝึกตน
เวลานี้หน้าวิหารทองคำ พระสนมเหยาทรงเสน่ห์กำลังคุกเข่าอยู่หน้าประตูวัง นางกำลังร้องไห้อย่างบ้าคลั่ง
ขณะร้องไห้อยู่อย่างนั้น นางก็ยังร่ำร้องตะโกนถึงสาเหตุที่หลินหลงเซี่ยงตายตก และหนิงฝานยังเพิกเฉยไม่คิดช่วยเหลือเขา…
“หลินไท่ซู ได้โปรดออกมามอบความยุติธรรมให้กับเหยาเอ๋อร์ หลงเซี่ยงเป็นบุตรชายของท่าน เขาไม่อาจตายตาหลับได้!”
พระสนมเหยาร่ำไห้ร้องครวญอยู่นานแต่ยังคงถูกเพิกเฉย สุดท้ายนางก็ลุกขึ้นพร้อมคิดที่จะเปิดประตูเข้าไป
ตู้ม!
ทว่าด้วยพลังศักดิ์สิทธิ์ปิดกั้นไว้ พระสนมเหยาจึงล้มลงในทันที
ขณะนั้นเอง พลันมีเสียงดังออกมาจากภายในวังมังกรแท้จริง
“ห้ามผู้ใดรบกวนขณะองค์จักรพรรดิกำลังปิดด่านฝึกตน หากผู้ใดคิดฝ่าฝืน โทษคือประหาร!!!”
ทันทีที่คำว่าประหารถูกคำรามออก พระสนมเหยาถึงกับหุบปากเงียบด้วยความตกใจ
พรึ่บ!
ในเวลานี้ ขันทีเว่ยกล่าวด้วยสีหน้าว่างเปล่า “พระสนมเหยา ทาสชราผู้นี้บอกกล่าวกับท่านแล้ว และเวลานี้องค์จักรพรรดิเทพกำลังปิดด่านฝึกตนเพื่อทะลวงเข้าสู่ขอบเขตวิทยายุทธ์ขั้นสูงสุด แม้องค์ชายจะสิ้นชีพไป หรือต่อให้องค์ชายทั้งหมดตายตก องค์จักรพรรดิก็จะไม่มีวันออกมาจากการฝึกเด็ดขาด!”
“หุบปากเสีย!”
“ไอ้สุนัขรับใช้! เจ้าต้องรับผิดชอบการตายขององค์ชายหลงเซี่ยง ในเวลานั้นเจ้าสมควรที่จะอยู่เคียงข้างเพื่อปกป้องเขา!”
พระสนมเหยาผรุสวาทออกมา
จากนั้นนางก็ลอบมองสถานที่ปิดด่านฝึกตนของหลินไท่ซู
‘หลินไท่ซู หากท่านไม่คิดสนใจข้าสองแม่ลูก เช่นนั้นข้าจะหาผู้อื่นมาดูแลข้า!’
เอ่ยคำในใจแล้ว พระสนมเหยาก็หันหลังจากไปด้วยสีหน้าเย็นชา
“เฮ้อ!”
“ไร้เหตุผลเสียจริง!”
เมื่อเห็นพระสนมเหยาจากไปแล้ว ขันทีเว่ยถึงกับถอนหายใจเฮือกใหญ่
ในไม่ช้า พระสนมเหยาก็กลับมาถึงตำหนักของตนเอง
ขณะที่นางเดินกลับมานั้น ดวงตาล้วนแต่เต็มไปด้วยความเย็นชายิ่ง
“ไอ้ตัวบัดซบ!”
“ในเมื่อไม่มีผู้ใดในเมืองเทพขนนกมอบความยุติธรรมให้แก่บุตรชายของข้าได้ เช่นนั้นข้าจักไปหาคนผู้นั้นด้วยตนเอง ผู้คน ณ ที่นี้คงจะลืมไปเสียแล้วว่าตัวข้า ‘เหยาเม่ยเอ๋อร์’ มาจากดินแดนศักดิ์สิทธิ์เทียนซูที่เป็นหนึ่งในเจ็ดมหาดินแดนศักดิ์สิทธิ์!”
เมื่อนึกถึงเรื่องนี้แล้ว พระสนมเหยาก็เอ่ยปากทันที
“เข้ามานี่!”
พรึ่บ!
สิ้นเสียงของนาง พลันมีชายหนุ่มแต่งตัวคล้ายกับขันทีปรากฏตัวขึ้น
“กุ้ยเฟยต้องการรับสั่งสิ่งใด?”
ขันทีหนุ่มกล่าวคำ ทว่าน้ำเสียงของเขากลับไร้ซึ่งความนอบน้อม ตรงกันข้าม มันดูหยาบคายยิ่งผิดจากขันทีปกติทั่วไป
“หลิวซาน ฝนหมึกให้ข้า!”
ทันทีที่นางออกคำสั่ง ขันทีหลิวซานก็หยิบสิ่งนั้นออกมาทันที
พระสนมเหยาเขียนจดหมายแล้วมอบให้หลิวซาน “คืนนี้เจ้าออกจากตำหนักเสีย ไปที่ดินแดนศักดิ์สิทธิ์เทียนซู และมอบจดหมายฉบับนี้ให้แก่น้องชายข้า ผู้เป็นเจ้าแห่งดินแดนศักดิ์สิทธิ์เทียนซู จงจำไว้ว่าห้ามทำจดหมายนี้หล่นหายกลางทาง และอย่าให้ผู้ใดเปิดมันได้เป็นอันขาด มันจะต้องถูกส่งถึงมือของจักรพรรดิแห่งดินแดนศักดิ์สิทธิ์เทียนซูเท่านั้น!”
“เข้าใจหรือไม่?”
“ทราบแล้ว!”
หลิวซานพยักหน้าพร้อมกับเก็บจดหมายไว้อย่างแน่นหนา ก่อนจะหันหลังกลับและกำลังจะจากไป
“เดี๋ยว!”
ทว่าในเวลานี้เอง พระสนมเหยาหยุดหลิวซานเอาไว้ นางเดินตรงไปที่เตียง พร้อมกับปลดเปลื้องอาภรณ์ออกแล้วกล่าวอย่างเย้ายวน “หนทางนี้ยาวไกลนัก ดูเหมือนเจ้าจะต้องใช้เวลานาน”
“ก่อนจะจากไป จงมาดูแลกุ้ยเฟยเช่นข้าให้ดีเสีย!”
หลังกล่าวจบ พระสนมเหยาก็เอนตัวนอนลงบนตั่งด้วยเนื้อตัวเปลือยเปล่าและแววตาทรงเสน่ห์
แน่นอนว่า หลิวซานกระโจนเข้าหาสตรีตรงหน้าราวกับหมาป่ากระหายเลือดทันที
หลังจากนั้น ภายในตำหนักก็อบอวลไปด้วยกามารมณ์!
…
เมื่อเวลาผ่านไป ข่าวการตายของเหล่าอาชญากรก็ค่อย ๆ จางหายไป
ในพระราชวังเทพขนนกนั้น วิหารทองคำที่พังทลายได้รับการซ่อมแซมราวกับไม่เคยเกิดการสู้รบในสถานที่แห่งนี้มาก่อน
ความจริงในเวลานี้คือ เหลือมังกรเพียงห้าและหงส์อีกหนึ่งเท่านั้นภายในราชวงศ์เทพขนนก
เมื่อหลัวชิงเซียนไม่สนใจเรื่องภายในราชวงศ์เทพขนนก ด้วยเหตุนี้ เรื่องราวของราชสำนักทั้งหมดจึงเป็นองค์ชายทั้งห้าดูแล
องค์ชายทุกพระองค์ที่ยังยืนอยู่ในวันนี้เปี่ยมด้วยพละกำลังและอำนาจ ท้ายที่สุด คู่แข่งที่จะแย่งชิงตำแหน่งจักรพรรดิแห่งราชวงศ์เทพขนนกก็เหลือเพียงครึ่งแล้ว
ซ้ำแล้วการมาเยือนของเหล่าอาชญากรก่อนหน้า ทำให้องค์ชายใหญ่ถึงกับเปลี่ยนการตัดสินใจก่อนหน้านี้
นอกเหนือจากต้องเอาใจราชากบฏทั้งสิบแล้ว พวกเขายังกำหนดเงื่อนไขอีกหลายอย่าง โดยกำหนดเป้าหมายเพิ่มเป็นนิกายศักดิ์สิทธิ์และกองกำลังหลักในดินแดนศักดิ์สิทธิ์เทพขนนก โดยเฉพาะปราชญ์ยุทธ์ผู้แข็งแกร่ง
ปราชญ์ยุทธ์มีพละกำลังที่น่าหวาดหวั่นเกินไป หากไม่อาจควบคุมพวกเขาไว้ได้ พวกเขาย่อมสร้างผลกระทบร้ายแรงต่อราชวงศ์เทพในอนาคตเป็นแน่ ซึ่งผลลัพธ์ของมันอาจรุนแรงยิ่งกว่าการโจมตีจากราชากบฏทั้งสิบ
โดยสรุปแล้ว องค์ชายทั้งห้ากำลังพยายามอย่างดีที่สุดเพื่อรับมือกับวิกฤตต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นภายในราชวงศ์เทพขนนก และพวกเขาต้องการจะรักษาเสถียรภาพของราชวงศ์เทพขนนกที่กำลังปั่นป่วนด้วยตนเอง
ด้วยวิธีนี้เท่านั้น พวกเขาจึงมีโอกาสที่จะขึ้นครองบัลลังก์และเป็นจักรพรรดิองค์ต่อไป
สำหรับหนิงฝานและหลัวชิงเซียน พวกเขากลับสู่ความสุขสมภายในตำหนักองค์หญิงเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
หลัวชิงเซียนแก้คำสาปให้หนิงฝาน และในเวลาเดียวกันเมื่อแก้คำสาปแล้ว การฝึกฝนของนางก็รุดหน้าอย่างก้าวกระโดดด้วย
หนิงฝานเพลิดเพลินไปกับการทำลายคำสาปกับหลัวชิงเซียนในทุกวัน และเขายังลงชื่อเข้าใช้ทุกหนแห่งภายในพระราชวังอย่างต่อเนื่อง การฝึกฝนลับ ๆ นี้ทำให้เขายิ่งแข็งแกร่งมากขึ้น
หลังจากผ่านไปเนิ่นนาน ร่างกายของหนิงฝานก็เข้าสู่ระดับสวรรค์ขั้นที่สี่ของขอบเขตปราชญ์ยุทธ์อย่างรวดเร็ว
ขอบเขตปราชญ์ยุทธ์สวรรค์ขั้นเก้าสามารถแบ่งออกเป็น สามสวรรค์ขั้นต้น สามสวรรค์ขั้นกลาง และสามสวรรค์ขั้นสูง!
ปราชญ์ยุทธ์สวรรค์ขั้นที่สามและปราชญ์ยุทธ์สวรรค์ขั้นที่สี่นั้นคือ จุดเปลี่ยนระหว่างสามสวรรค์ขั้นต้นกับสามสวรรค์ขั้นกลาง และหลังจากนี้ความเร็วในการทะลวงผ่านจะช้ากว่าที่ผ่านมา
แต่ชายหนุ่มตระหนักได้เป็นอย่างดีว่า เมื่อเขาทะลวงเข้าสู่สวรรค์ขั้นที่สี่ ความแข็งแกร่งของเขาจะแตกต่างไปจากเดิมโดยสิ้นเชิง!