ระบบล็อกอินสู่สวรรค์ [苟在女帝宫我举世无敌] – ตอนที่ 70 แผ่นจารึก เทพมังกรประทานโชค!

ตอนที่ 70 แผ่นจารึก เทพมังกรประทานโชค!

ตอนที่ 70 แผ่นจารึก เทพมังกรประทานโชค!

ด้านนอกสุสาน หนิงฝานและหลัวชิงเซียนสวดภาวนาให้กับหลัวอีร่วมกัน

“แม่ยาย ขอบคุณที่ท่านมอบภรรยาผู้สมบูรณ์แบบให้แก่ข้า จากนี้ไปชิงเซียนจะอยู่ในความดูแลของข้าแล้ว ท่านสามารถพักผ่อนอย่างสบายใจได้!”

หนิงฝานโค้งคำนับสามครั้งให้กับหลัวอี ก่อนจะเผากระดาษสีเหลือง

จากนั้นเขาก็ผุดลุกขึ้นยืนอยู่ข้างกายหลัวชิงเซียน รับฟังนางกล่าวบางสิ่งอย่างเงียบ ๆ

ในขณะเดียวกัน เขาก็ลอบมองเข้าไปในสุสานเทพอยู่เรื่อย ๆ

‘ระบบ มีวิถีอุบัติอยู่ในสุสานเทพนี้หรือไม่?’

[มีแน่นอน! วิถีอุบัติภายในสถานที่แห่งนี้จะทำให้โฮสต์ได้รับสิ่งที่ดีที่สุดนับตั้งแต่โฮสต์เคยลงชื่อเข้าใช้มา!]

‘สิ่งที่ดีที่สุดของวิถีอุบัติ? ดูเหมือนจะไม่ง่ายจริง ๆ!’

เมื่อได้ยินเช่นนี้ หนิงฝานอดไม่ได้ที่จะครุ่นคิด

หลังจากนั้นเขาก็ถามต่ออีกว่า ‘แล้วสามารถลงชื่อเข้าใช้ตอนนี้ได้เลยไหม?’

[ไม่ได้ โฮสต์ต้องเข้าไปด้านในของสุสานเพื่อลงชื่อเข้าใช้เท่านั้น!]

‘เข้าไปด้านในสุสาน?’

เมื่อได้ฟังคำตอบจากระบบ หนิงฝานจึงล้มเลิกแผนการลงชื่อเข้าใช้ชั่วคราว

เวลานี้หลัวชิงเซียนกำลังแสดงความเคารพต่อมารดา ซ้ำยังมีคนมากเกินไปในเวลากลางวัน ดังนั้นรอให้เป็นช่วงเวลากลางคืนก่อนจะดีกว่า

ในไม่ช้า หลังจากหลัวชิงเซียนสักการะมารดาเสร็จสิ้นแล้ว ทั้งสองก็กลับตำหนักองค์หญิง

ภายในตำหนักองค์หญิง ชายหนุ่มรอจนหลัวชิงเซียนผล็อยหลับไป

จากนั้นหนิงฝานก็กลายเป็นลำแสงพุ่งทะยานออกไปที่สุสานเทพเพื่อลงชื่อเข้าใช้ทันที

เวลานี้เขาอยู่ในขอบเขตปราชญ์ยุทธ์สวรรค์ขั้นที่ห้า รวมกับเคล็ดวิชาลมหายใจขนนกแล้ว จึงไม่มีผู้ใดค้นพบร่องรอยของเขาได้

ระหว่างทางผ่านอารักขาหลายชั้นก็ไม่มีผู้ใดตรวจพบเขาเจอ

ภายใต้ค่ำคืนอันมืดมิด การได้เห็นสุสานเทพตรงหน้ายิ่งทำให้หนิงฝานรู้สึกหดหู่ใจมากยิ่งขึ้น

พรึ่บ!

หนิงฝานก้าวเข้าสู่สุสานเทพโดยไม่ลังเล

ทว่าเมื่อเข้าไปในสุสาน มันกลับแตกต่างจากสิ่งที่หนิงฝานจินตนาการเอาไว้โดยสิ้นเชิง

ภายในหลุมฝังศพมีตะเกียงแขวนเอาไว้ ซ้ำมันยังเปล่งประกายแสงสีเหลืองนวล

เมื่อกวาดสายตามองตะเกียงทั้งหมดภายในสุสานเทพแล้ว ก็เห็นได้ชัดว่าสุสานเทพแห่งนี้กว้างใหญ่ไร้ขอบเขต ทั้งยังมีตำหนักสวรรค์ตั้งตระหง่าน ห้องโถงใหญ่ทอดยาว และความสง่างามของมันก็ไม่ด้อยไปกว่าตำหนักเทพขนนกแม้แต่น้อย

ในที่สุดเขาก็เดินมาถึงห้องโถงสีทอง

หนิงฝานเข้าสู่ห้องโถงขนาดใหญ่นี้พร้อมกับมองแผ่นจารึกอยู่ภายในห้องโถงตั้งแต่บนลงล่าง มันคือแผ่นจารึกของราชวงศ์เทพขนนก

[จักรพรรดิศักดิ์สิทธิ์องค์แรกแห่งราชวงศ์เทพขนนกคือ—หลินเจ๋อเซียน ขอบเขตเทพยุทธ์ ครองบัลลังก์ห้าพันปี!]

[จักรพรรดิศักดิ์สิทธิ์องค์ที่สองแห่งราชวงศ์เทพขนนก—หลินจิ่วเทียน ขอบเขตครึ่งก้าวสู่ขั้นเทพยุทธ์ ครองบัลลังก์สามพันปี!]

[จักรพรรดิศักดิ์สิทธิ์องค์ที่สามแห่งราชวงศ์เทพขนนก—หลินชางไห่ ขอบเขตครึ่งก้าวสู่ขั้นเทพยุทธ์ ครองบัลลังก์สามพันปี!]

[จักรพรรดิศักดิ์สิทธิ์องค์ที่สี่แห่งราชวงศ์เทพขนนก—หลินป้าหวัง ขอบเขตปราชญ์ยุทธ์ระดับสวรรค์ขั้นที่เก้า ครองบัลลังก์หนึ่งพันแปดร้อยปี!]

[จักรพรรดิศักดิ์สิทธิ์องค์ที่ห้าแห่งราชวงศ์เทพขนนก—หลินหยวนชิง ขอบเขตปราชญ์ยุทธ์ระดับสวรรค์ขั้นที่แปด ครองบัลลังก์หนึ่งพันห้าร้อยปี!]

สายตาของหนิงฝานจ้องมองทีละบรรทัด เห็นได้ชัดว่าการฝึกฝนขององค์จักรพรรดิเทพขนนกรุ่นถัดมาค่อย ๆ ลดลง และไม่อาจเทียบเท่ารุ่นแรกได้เลย

จนกระทั่งเมื่อเห็นบรรทัดสุดท้ายด้านล่าง เขาถึงกับตกตะลึงไปในทันที

มันถูกเขียนเอาไว้บนแผ่นจารึก

[จักรพรรดิศักดิ์สิทธิ์องค์ที่เก้าแห่งราชวงศ์เทพขนนก และเป็นองค์สุดท้าย—หลินไท่ซู ขอบเขตปราชญ์ยุทธ์ระดับสวรรค์ขั้นที่ห้า ครองบัลลังก์แปดร้อยแปดสิบปี!]

“นี่มันเรื่องบ้าอะไรกัน? หลินไท่ซูปิดด่านฝึกตนอยู่ภายในวังมังกรแท้จริงมิใช่หรือ? แล้วผู้ใดกล้าเขียนชื่อของเขาลงบนแผ่นจารึกนี้?”

หนิงฝานรู้สึกประหลาดใจยิ่ง

มันเขียนไว้ว่า ‘จักรพรรดิองค์สุดท้าย’ อย่างชัดเจน นี่ใช่คำสาปที่ราชวงศ์เทพขนนกจะต้องพังพินาศในมือของหลินไท่ซูหรือไม่?

แต่มันจะเป็นจริงตามคำทำนายงั้นหรือ?

หรือมีผู้ใดกลั่นแกล้งเขากัน?

“เอาเถอะ จะจริงหรือไม่ ข้าไม่สนใจแล้ว!”

ในไม่ช้า หนิงฝานก็เลิกสนใจเรื่องเหล่านี้ไป

สุดท้ายแล้วเขาเป็นเพียงราชบุตรเขยแห่งราชวงศ์เทพ เรื่องน่ากังวลเหล่านี้ไม่ใช่สิ่งที่เขาต้องให้ความสนใจถึงเพียงนั้น

แล้วชายหนุ่มก็หันหลังเดินออกจากห้องโถงใหญ่

แต่สิ่งที่หนิงฝานไม่ทราบหลังจากเขาหันหลังกลับออกไปคือ

แผ่นจารึกภายในห้องโถงกำลังแปรเปลี่ยนไปอย่างลับ ๆ

บนแผ่นจารึกในบรรทัดของหลินไท่ซู คำว่า ‘จักรพรรดิองค์สุดท้าย’ หายไป ก่อนที่บรรทัดใหม่จะปรากฏขึ้นด้านล่าง แล้วข้อความใหม่ก็ค่อย ๆ ชัดขึ้น!

[จักรพรรดิองค์ที่สิบแห่งราชวงศ์เทพขนนก—หลัว…]

หนิงฝานออกจากห้องโถงสีทองและเดินมายังห้องโถงด้านข้าง

ในนี้มีแผ่นจารึกซึ่งเป็นจักรพรรดินีแห่งราชวงศ์ที่ผ่านมาเช่นกัน

ในรายนามเหล่านี้ เขามองเห็นชื่อของหลัวอี

“แม่ยายข้า ท่านหลับให้สบายเถิด!”

หนิงฝานโค้งคำนับก่อนจะเดินเยี่ยมชมสุสานเทพต่อไป

เพราะสุสานเทพไม่ได้ใหญ่มาก หลังจากเดินไปได้เพียงครู่หนึ่ง เขาก็หยุดฝีเท้าลงบนจตุรัสกว้าง

‘โอ๊ะ ลืมลงชื่อเข้าใช้เลย!’

หนิงฝานสื่อสารกับระบบภายในใจ ก่อนจะลงชื่อเข้าใช้สถานที่

[ลงชื่อเข้าใช้สุสานเทพสำเร็จ ได้รับเทพมังกรประทานโชค! (วัยทารก)]

พรึ่บ!

สิ้นเสียงของระบบ เงาของมังกรน้อยก็ปรากฏขึ้นภายในมิติเก็บของ

‘เทพมังกรประทานโชค? มันคือสิ่งมีชีวิตอะไรกัน?’

หนิงฝานมึนงงและรีบตรวจสอบข้อมูลของมันในทันที

‘เทพมังกรประทานโชค สัตว์ประหลาดในตำนานแห่งโลกา สามารถกลืนกินพลังวิญญาณฟ้าดินและแปรเปลี่ยนให้เป็นพลังโชคประทานได้ แบ่งออกเป็นขั้นทารก ขั้นวัยหนุ่ม และขั้นผู้ใหญ่ ขั้นทารกมีพลังวิทยายุทธ์ระดับที่หนึ่ง และขั้นวัยหนุ่มมีพลังวิทยายุทธ์ขั้นที่เก้า และเมื่อเติบโตเต็มวัยแล้วจะมีความแข็งแกร่งเทียบเท่ากับขอบเขตเทพยุทธ์!’

“บัดซบ! เจ้าหนูนี่สามารถแข็งแกร่งเทียบเท่ากับเทพยุทธ์เลยหรือ!!!”

เมื่อเห็นข้อมูลทั้งหมด หนิงฝานก็พูดออกมาอย่างตื่นตระหนก

เทพมังกรประทานโชคตัวนี้สามารถเข้าสู่ขอบเขตเทพยุทธ์ในตำนานได้!

ขอบเขตเทพยุทธ์นั้นยิ่งใหญ่กว่าปราชญ์ยุทธ์เสียอีก!

ภายในราชวงศ์เทพขนนก มีเพียงหลินเจ๋อเซียนผู้ก่อตั้งราชวงศ์เทพขนนกเท่านั้นที่เข้าสู่ขอบเขตเทพยุทธ์ได้

ความจริงแล้วไม่ต้องกล่าวถึงราชวงศ์เทพขนนก แม้แต่มหาเทพทั้งสี่ยังไม่มีผู้ใดเข้าสู่ขอบเขตเทพยุทธ์ได้ หากวันนั้นมาถึงเขาจะถูกกล่าวขานว่าเป็นอมตะที่แท้จริงอย่างแน่นอน!

‘ระบบ แล้วมังกรตัวนี้จะเติบโตได้อย่างไร?’

หนิงฝานกล่าวถาม

[นี่คือเทพมังกรประทานโชค นอกจากกลืนกินพลังวิญญาณฟ้าดินเพื่อวิวัฒนาการแล้ว ยังสามารถหลอมรวมเข้ากับผู้ฝึกยุทธ์และหล่อเลี้ยงมันด้วยพลังจิตวิญญาณของผู้เลี้ยงได้]

‘เข้าใจแล้ว!’

หนิงฝานเข้าใจทั้งหมด ก่อนจะนึกคิดและปล่อยเทพมังกรประทานโชคออกมา

โฮก!

ทันทีที่เทพมังกรประทานโชคออกมาจากมิติ มันก็เปล่งเสียงคำรามเล็ก ๆ ของวัยเด็กออกมา แต่อย่างไรก็มีความน่าเกรงขามอยู่บ้าง

ร่างกายของมันหนาเพียงครึ่งนิ้วและยาวไม่มากนัก เมื่อตรวจสอบให้ดีแล้ว ทั้งเกล็ดมังกร เครา กรงเล็บ หาง และส่วนอื่น ๆ ล้วนแต่แข็งแกร่ง ซ้ำแล้วทั่วทั้งร่างกายยังเต็มไปด้วยพลังมหาศาล

ฟู่ว!

เทพมังกรประทานโชคเปิดปากกว้างก่อนจะกลืนกินพลังวิญญาณฟ้าดินเข้าไปทันที หลังจากนั้นมันจึงพ่นพลังโชคประทานออกมาแทนที่

พลังแห่งโชคนี้ไม่อาจมองเห็นและจับต้องไม่ได้ แต่สามารถส่งผลกระทบให้กับสภาพแวดล้อมโดยรอบได้

ด้วยเวลานี้มันอยู่เพียงขั้นทารกเท่านั้น ทำให้โชคของมันยังอ่อนแอ หากถึงขั้นเต็มวัย เพียงลมหายใจเดียวของมันอาจจะได้รับโชคลาภไปตลอดชีวิต

‘ระบบ หากข้าต้องการผสานกับเทพมังกรประทานโชคนี้ แล้วมันจะส่งผลต่อรางวัลการลงชื่อเข้าใช้ของข้าหรือไม่?’ หนิงฝานถาม

[ส่งผลแน่นอน! เทพมังกรประทานโชคสามารถแปรเปลี่ยนโชคลาภได้ในชั่วขณะ นับประสาอะไรกับมนุษย์!] ระบบตอบกลับ

“ฮ่า ๆ ไม่เลว ๆ!”

เมื่อได้ยินเช่นนั้น หนิงฝานก็ระเบิดเสียงหัวเราะลั่น

หากมีเทพมังกรประทานโชคอยู่ใกล้ ๆ โอกาสที่จะได้รับของดีย่อมเพิ่มพูนมากขึ้นแน่นอน

อย่างไรก็ตาม หนิงฝานไม่ทราบว่าในขณะที่เขากำลังหัวเราะ พลันมีเงาดำปรากฏขึ้นด้านหลัง และมันก็กำลังคืบคลานเข้าหาเขาโดยไม่รู้ตัว

ระบบล็อกอินสู่สวรรค์ [苟在女帝宫我举世无敌]

ระบบล็อกอินสู่สวรรค์ [苟在女帝宫我举世无敌]

Status: Ongoing

หนิงฝาน' ชายหนุ่มผู้เดินทางข้ามสายธารแห่งกาลเวลามาเป็นสามีของจักรพรรดินีแห่งแดนศักดิ์สิทธิ์ เดิมทีก็คิดว่าตัวเองจะเป็นผู้อ่อนแอและเกาะภรรยากินไปชั่วชีวิตเสียแล้ว ทว่าจู่ ๆ เขากลับเปิดใช้งานระบบสลากขั้นเทพได้...

นี่เองคือจุดเริ่มต้นใหม่ของผู้ที่ 'เคยอ่อนแอ' มาก่อน!

[ติ๊ง! ลงชื่อเข้าใช้ในพระราชวังจักรพรรดินีเสร็จสิ้น และได้ร่างกายของเซียนดาบ!]

[ติ๊ง! ลงชื่อเข้าใช้ยอดเขาสารพัดประโยชน์ได้สำเร็จ และได้รับเสื้อคลุมเร้นลับ!]

หนิงฝานเดินเล่นไปทั่วแดนศักดิ์สิทธิ์พร้อมระบบสลากขั้นเทพ ล็อกอินสถานที่อย่างเงียบ ๆ ในฐานะสามีผู้ไร้ค่าของจักรพรรดินี จนกระทั่งหลายปีต่อมา บรรพชนของปีศาจทั้งหลายถือกำเนิดขึ้นและยกกองทัพปีศาจนับล้านบุกแดนศักดิ์สิทธิ์!

จักรพรรดินีผู้เลอโฉมพ่ายแพ้ และทั่วทั้งแดนศักดิ์สิทธิ์ก็ตกอยู่ในภยันตราย! หนิงฝานไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องยื่นมือเข้ามาช่วย ด้วยการโจมตีเพียงครั้งเดียว ปีศาจนับล้านพลันถูกกำจัด! แต่ถึงกระนั้นชายหนุ่มไม่ได้สนใจมากนัก... เพราะเขารู้เพียงว่าเขาได้กลายเป็นตัวตน 'อมตะ' ในโลกนี้แล้ว!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท