ระบบล็อกอินสู่สวรรค์ [苟在女帝宫我举世无敌] – ตอนที่ 72 หนึ่งกระบี่เซียนทะยาน เทพโชคลาภ!

ตอนที่ 72 หนึ่งกระบี่เซียนทะยาน เทพโชคลาภ!

ตอนที่ 72 หนึ่งกระบี่เซียนทะยาน เทพโชคลาภ!

เมื่อมองผู้พิทักษ์สุสานเข้าสู่ขอบเขตปราชญ์ยุทธ์สวรรค์ขั้นที่เจ็ด ดวงตาของหนิงฝานพลันเผยความเคร่งขรึมออกมา

แม้สวรรค์ขั้นที่หกจะสูงกว่าสวรรค์ขั้นที่ห้าเพียงหนึ่งระดับ แต่ทั้งคู่ก็ยังอยู่ในสามสวรรค์ขั้นกลาง ทว่าเวลานี้อีกฝ่ายกลับเข้าสู่สวรรค์ขั้นที่เจ็ดซึ่งเป็นสามสวรรค์ขั้นสูง เช่นนี้ก็หมายความว่า ช่องว่างระหว่างทั้งสองกลายเป็นเพิ่มขึ้นอีกหลายเท่าตัว!

“หึ!”

“น่าสนใจยิ่ง!”

“ข้าอยากจะเห็นมานานว่าสวรรค์ชั้นเจ็ดนั้นแข็งแกร่งเพียงใด!”

หนิงฝานในตอนนี้เหยียดยิ้มขึ้นมา ไม่เพียงแต่ไม่หวาดกลัว เขากลับรู้สึกว่าจิตวิญญาณนักสู้กำลังเดือดพล่านอยู่ในกาย ใจเริ่มกระหายอยากจะปะทะกับคนตรงหน้ายิ่ง

“ตายเสีย!”

ทันทีทันใด ผู้พิทักษ์สุสานลั่นวาจาดังก้อง สัตว์วิญญาณทั้งห้าสั่นสะเทือน พลังงานอันน่าสะพรึงกลัวแห่งปราญช์ยุทธ์สวรรค์ขั้นที่เจ็ดทะลักออกอย่างไร้ที่สิ้นสุด

เมื่อทราบว่าหนิงฝานแข็งแกร่งเพียงใด เขาจึงทุ่มพละกำลังทั้งหมดเพื่อสังหารอีกฝ่ายในกระบวนท่าเดียว

ตู้ม! ตู้ม! ตู้ม!

เสียงระเบิดดังขึ้นภายในสมรภูมิสัประยุทธ์ เพียงชั่วพริบตา ภูตผีวิญญาณและสัตว์ร้ายทั้งห้าต่างก็ยืนอยู่ท่ามกลางอากาศ

มังกรทะยานขึ้นสู่เวหา ปากเปิดกว้างคำรามออก เผยกรงเล็บแหลมคมสู่สายตา!

พยัคฆ์ขาวกระโจนออกจากรอยแตกมิติ ด้วยมีร่างกายใหญ่โต กรงเล็บยักษ์จึงฉีกขาดอากาศได้อย่างง่ายดาย!

หงส์เพลิงสยายปีกในอากาศ ปลดปล่อยอัคคีร้อนแรงออกมา!

เต่าดำปรากฏกายขึ้นอย่างสง่างาม ทว่าศีรษะของมันไม่ต่างจากอสรพิษ และมันมาพร้อมกับกระดองยักษ์ที่แข็งแกร่งไร้ผู้ใดเทียบ!

กิเลนยักษ์สีม่วงก้าวย่างอยู่ในผืนนภา เชิดศีรษะขึ้นก่อนจะปลดปล่อยปราณม่วงสะกดข่มบรรยากาศโดยรอบ!

ทันทีที่สัตว์ร้ายในตำนานทั้งห้าปรากฏตัว กลิ่นอายของผู้พิทักษ์สุสานยิ่งน่าสะพรึงกลัวขึ้นหลายเท่า!

“หืม? นี่คือพลังของสวรรค์ขั้นที่เจ็ดงั้นหรือ แข็งแกร่งไม่เบานี่!”

เมื่อเห็นภาพตรงหน้า แม้แต่หนิงฝานเองยังสัมผัสได้ถึงอันตรายคุกคามชีวิต

โฮกกกก!

ขณะนั้นเอง ผู้พิทักษ์สุสานพลันพุ่งตรงมาด้านหน้า สัตว์ร้ายในตำนานทั้งห้าก็กระทำเช่นเดียวกัน พวกมันส่งเสียงคำรามร้องดังกึกก้องจนแสบแก้วหู พลังงานไร้ลักษณ์อันน่าสะพรึงเกาะกุมจิตใจหนิงฝาน ทุกสิ่งทุกอย่างถาโถมเข้าใส่ราวกับต้องการเอาชีวิตเขาในกระบวนท่าเดียว!

“นับว่ายอดเยี่ยมยิ่ง!”

แน่นอนว่าหนิงฝานไม่คิดหวาดกลัว อันที่จริงเขากลับตื่นเต้นมากยิ่งขึ้นด้วยซ้ำ

ปราชญ์ยุทธ์สวรรค์ขั้นที่เจ็ด… คู่ควรที่จะเป็นคู่ต่อสู้ของเขา!

ตายเสีย!

เขากระชับด้ามกระบี่เฉือนนภาแน่น

ฮึ่ม!

แล้วร่างเซียนกระบี่บรรพกาลก็ปลดปล่อยพลังปฐมภูมิออกมาจากร่างกาย!

“หนึ่งกระบี่… เซียนทะยาน!”

ทันใดนั้นเอง

หนิงฝานเปิดเผยท่วงท่า

ชิ้ง!!!

เสียงกระบี่สับฟันดังกึกก้องไปทั่วสุสาน ปราณกระบี่สว่างวาบราวกับดวงอาทิตย์ตัดขาดอากาศตรงหน้า!

ตู้ม ตู้ม ตู้ม!

เมื่อปราณกระบี่ทะยานออกไป ร่างเซียนทะยานก็ปรากฏขึ้นในอากาศ และไม่ว่าสิ่งนี้ไปที่ใด ทุกสิ่งล้วนพังทลายสิ้น!

ตู้ม!

ในชั่วพริบตา ปราณกระบี่เซียนทะยานเผชิญหน้ากับสัตว์ในตำนานทั้งห้า และพลังอันน่าสะพรึงกลัวพลุ่งพล่านไปทั่วสุสาน

ไม่นานหลังจากนั้น…

ขณะที่ทั้งสองกำลังเผชิญหน้ากันครู่หนึ่ง กลับมีเสียงกรีดร้องดังขึ้นมา

มังกรคำราม!

พยัคฆ์ขาวตื่นตระหนก!

หงส์เพลิงปีกหัก!

เต่าดำกลายเป็นศพ!

กิเลนทรุดตัวลงบนพื้น!

เพียงพริบตา สัตว์ร้ายในตำนานทั้งห้าก็ถูกสังหารสิ้นโดยปราณกระบี่เซียนทะยาน!

ตู้ม!

หลังจากสัตว์ร้ายในตำนานทั้งห้าถูกทำลาย ผู้พิทักษ์สุสานราวกับถูกโจมตีอย่างรุนแรง เขากระเด็นไปไกลพร้อมบ้วนโลหิตคำโตออกมา!

ตึง!

ทันทีที่ล้มลง สัตว์ร้ายในตำนานทั้งห้าพลันสูญสลายหายไป เวลานี้เขากลับสู่รูปลักษณ์เดิม เป็นเพียงชายชราผอมแห้ง แต่มีออร่าที่อ่อนลงกว่าคราวแรกมาก

เขาบาดเจ็บสาหัสแล้ว!

พรึ่บ!

เวลานี้ หนิงฝานจับจ้องบุคคลตรงหน้า ก่อนจะชี้คมกระบี่จี้ลำคอของอีกฝ่ายแล้วยกยิ้มเย็นชา “จนถึงตอนนี้ เจ้ายังคิดฉกฉวยเทพมังกรประทานโชคของข้าอยู่หรือไม่!?”

ชายหนุ่มคิดว่าผู้พิทักษ์สุสานคงจะร้องขอความเมตตา แต่อีกฝ่ายกลับกล่าวด้วยน้ำเสียงแหบแห้งว่า “เอา… มังกร… มาให้ข้า!”

“บัดซบ! นี่เจ้าโง่เขลาจนเสียสติไปแล้วหรือ จะเอามังกรของข้าไปทำไม!”

หนิงฝานรู้สึกขบขันกับความมุ่งมั่นของผู้พิทักษ์สุสานยิ่งนัก

ทว่าผู้พิทักษ์สุสานยังคงไม่ตอบกลับ ซ้ำยังเอาแต่ร้องขอมังกรไม่หยุดหย่อน

หนิงฝานพูดไม่ออกจริง ๆ สุดท้ายแล้วความสงสัยกลับผุดขึ้นในใจ

“ข้าอยากจะรู้จริง ๆ ว่าเจ้าต้องการให้มังกรของข้าทำสิ่งใด!?”

ทันทีที่กล่าวจบ หนิงฝานปลดปล่อยพลังพระราชลัญจกรเข้าสู่ร่างกายของผู้พิทักษ์สุสานทันที

พรึ่บ!

เมื่อราชลัญจกรเข้าสู่ร่างกาย ผู้พิทักษ์สุสานก็เผยสีหน้าซีดขาว เขาตื่นตระหนกและคิดต่อต้าน

ชายชราพยายามอย่างหนักเพื่อสลัดพลังสะกดข่มออกจากร่างกาย

“เหอะ! ยอมจำนนต่อข้าเสีย!”

เมื่อเห็นผลลัพธ์แล้ว หนิงฝานคำรามเพื่อปราบปรามผู้พิทักษ์สุสานทันที

หืม!

หลังจากควบคุมทุกสิ่งได้แล้ว หนิงฝานก็ทราบถึงอาการบาดเจ็บสาหัสของอีกฝ่าย เช่นนี้จึงทำให้พระราชลัญจกรควบคุมเขาได้ในระยะเวลาสั้น ๆ

หลังจากเห็นว่าพระราชลัญจกรสำแดงเดชแล้ว หนิงฝานพยักหน้าอย่างพึงพอใจก่อนจะกล่าวถาม “บอกกล่าวกับข้า เจ้าต้องการเทพมังกรประทานโชคไปเพื่อสิ่งใด!?”

ผู้พิทักษ์สุสานกล่าวตอบ “ช่วย… เทพ… ประทาน… โชค!”

“เทพมังกรประทานโชค?”

หนิงฝานไม่เข้าใจก่อนจะถามต่อ “มังกรของข้าอยู่ในขั้นทารกเท่านั้น มันจะช่วยได้งั้นหรือ?”

“ข้า… ข้า… ข้า… ตามข้า… มา… แล้วจะ… จะ… เข้าใจ…”

ผู้พิทักษ์สุสานต้องการอธิบาย แต่เขาไม่อาจกล่าวคำได้ เช่นนั้นจึงหยุดปากแล้วลากร่างกายที่บาดเจ็บสาหัสเดินตรงเข้าสู่ส่วนลึกภายในสุสานเทพ

เวลานี้ผู้พิทักษ์สุสานอยู่ภายใต้การควบคุมของหนิงฝานโดยสมบูรณ์ และหนิงฝานไม่คิดกังวลว่าอีกฝ่ายจะลอบทำร้าย จึงติดตามเขาไปทันที

จากนั้นทั้งสองก็มาถึงส่วนลึกของสุสานเทพ

เบื้องหน้าของทั่งคู่คือทิวเขาที่ทอดตัวยาวสุดลูกหูลูกตา

“หืม? นี่หรือ!”

เมื่อเห็นเทือกเขายอดยาวที่แผ่ราบอยู่ หัวใจของหนิงฝานพลันเต้นระรัว

“เทพ… มังกร… ยักษ์!!!”

ตอนนี้เองผู้พิทักษ์สุสานคำรามลั่น

สุ้มเสียงนั้นดังกึกก้องยิ่ง

ทันทีหลังจากนั้นเทือกเขาตรงหน้าเริ่มสั่นไหว ร่างมังกรปฐพีส่ายไปมาจากระยะไกล มันค่อย ๆ เคลื่อนตัวไปด้านข้าง เมื่อเข้ามาใกล้จึงตระหนักได้ว่านี่ไม่ใช่ยอดเขา แต่เป็นศีรษะมังกรขนาดใหญ่ ซึ่งมันสมควรเป็นมังกรผู้แข็งแกร่งและทรงอำนาจ ทว่าดูจากสภาพแล้ว มันทั้งแก่ชราและไร้ซึ่งพลังชีวิต

และภูเขาที่ยาวสุดสายตาก่อนหน้านี้…

มันคือลำตัวของมังกรผู้ยิ่งใหญ่!

“นี่คือ… เทพมังกรประทานโชค!”

หนิงฝานพลันตกตะลึง

ตรงหน้านี้ยังมีเทพมังกรประทานโชคอีกตัว มิหนำซ้ำออร่าของมันก็ไม่ได้แตกต่างไปจากมังกรน้อยของเขาเลย

ทว่าความแตกต่างคือ มังกรของเขาเต็มไปด้วยพละกำลังและยังมีชีวิตชีวา ถึงจะมีขนาดเล็กก็ตาม

ส่วนเทพมังกรตรงหน้านี้ แม้จะมีร่างกายใหญ่โต แต่ก็นับว่าแก่ชราและเต็มไปด้วยกลิ่นอายแห่งความตายปกคลุมแล้ว

“ผู้พิทักษ์ เหตุใดเจ้าจึงพาคนนอกเข้ามาที่นี่?”

เวลานี้ศีรษะมังกรใหญ่ยังคงเคลื่อนไหวไม่หยุด และมันก็กล่าวถามด้วยน้ำเสียงแหบแห้งอ่อนแรง

ผู้พิทักษ์สุสานไม่ตอบ แต่กลับมองหนิงฝานด้วยสายตาร้องขอ

“นี่คงเป็นเหตุผลที่เจ้าร้องขอเทพมังกรประทานโชค เจ้าคงอยากช่วยเหลือมังกรชราตัวนี้ใช่หรือไม่?” หนิงฝานเริ่มตระหนักได้

ผู้พิทักษ์สุสานกล่าวตอบ “ถูกต้องแล้ว… นี่… เทพมังกรประทานโชค… สถิตอยู่ในสุสานเทพ… โชคชะตาของเรา… ขึ้นอยู่กับเขา… หากเขาตายตก… ทวยเทพจะล่มสลาย… เป็นนายท่านที่ช่วยเหลือได้… ได้โปรด…”

หลังจากกล่าวเนิ่นนาน เขาก็มองหนิงฝานด้วยนัยน์ตาสิ้นหวัง

หนิงฝานเงียบงันไปครู่หนึ่งก่อนจะปล่อยเทพมังกรประทานโชคออกมา

“นี่คือ… ครอบครัวของข้า!”

ทันทีที่เทพมังกรประทานโชคตัวน้อยปรากฏตัว เทพมังกรยักษ์พลันจับจ้องเจ้าตัวน้อยในทันที และดวงตาของมันก็เผยความประหลาดใจออกมา

โฮก!

เทพมังกรประทานโชคตัวน้อยส่งเสียงคำรามเล็ก ๆ ดวงตาของมันจับจ้องไปยังมังกรยักษ์ตรงหน้าเช่นกัน แล้วทั้งสองก็สบตากันและกันอย่างเชื่อมสัมพันธ์ พวกมันเป็นเผ่าพันธุ์เดียวกัน ด้วยเหตุนี้จึงรู้สึกสนิทสนมกันได้อย่างรวดเร็ว

“เทพมังกรประทานโชคของข้าช่วยเหลือเจ้าได้จริงหรือ?”

หนิงฝานมองเทพมังกรยักษ์ตรงหน้าพร้อมกล่าวถาม

“อืม!” มังกรยักษ์ผงกศีรษะ

“อย่างไร?”

แม้เทพมังกรประทานโชคตรงหน้านี้จะเป็นตัวแทนโชคชะตาของราชวงศ์เทพขนนก แต่หนิงฝานก็ไม่ได้สนใจนักว่าจะช่วยชีวิตของมันได้หรือไม่ ทว่าสุดท้ายแล้วเขาก็ยังหวังให้ราชวงศ์เทพดำเนินต่อไป เพื่อที่เขาจะสามารถลงชื่อเข้าใช้ได้ในทุกวัน

เทพมังกรประทานโชคเงียบไปครู่หนึ่ง ก่อนจะกล่าวตอบ

“ให้ข้ากลืนกินเจ้าตัวน้อย!”

ระบบล็อกอินสู่สวรรค์ [苟在女帝宫我举世无敌]

ระบบล็อกอินสู่สวรรค์ [苟在女帝宫我举世无敌]

Status: Ongoing

หนิงฝาน' ชายหนุ่มผู้เดินทางข้ามสายธารแห่งกาลเวลามาเป็นสามีของจักรพรรดินีแห่งแดนศักดิ์สิทธิ์ เดิมทีก็คิดว่าตัวเองจะเป็นผู้อ่อนแอและเกาะภรรยากินไปชั่วชีวิตเสียแล้ว ทว่าจู่ ๆ เขากลับเปิดใช้งานระบบสลากขั้นเทพได้...

นี่เองคือจุดเริ่มต้นใหม่ของผู้ที่ 'เคยอ่อนแอ' มาก่อน!

[ติ๊ง! ลงชื่อเข้าใช้ในพระราชวังจักรพรรดินีเสร็จสิ้น และได้ร่างกายของเซียนดาบ!]

[ติ๊ง! ลงชื่อเข้าใช้ยอดเขาสารพัดประโยชน์ได้สำเร็จ และได้รับเสื้อคลุมเร้นลับ!]

หนิงฝานเดินเล่นไปทั่วแดนศักดิ์สิทธิ์พร้อมระบบสลากขั้นเทพ ล็อกอินสถานที่อย่างเงียบ ๆ ในฐานะสามีผู้ไร้ค่าของจักรพรรดินี จนกระทั่งหลายปีต่อมา บรรพชนของปีศาจทั้งหลายถือกำเนิดขึ้นและยกกองทัพปีศาจนับล้านบุกแดนศักดิ์สิทธิ์!

จักรพรรดินีผู้เลอโฉมพ่ายแพ้ และทั่วทั้งแดนศักดิ์สิทธิ์ก็ตกอยู่ในภยันตราย! หนิงฝานไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องยื่นมือเข้ามาช่วย ด้วยการโจมตีเพียงครั้งเดียว ปีศาจนับล้านพลันถูกกำจัด! แต่ถึงกระนั้นชายหนุ่มไม่ได้สนใจมากนัก... เพราะเขารู้เพียงว่าเขาได้กลายเป็นตัวตน 'อมตะ' ในโลกนี้แล้ว!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท