ตอนที่ 78 การต่อสู้ของปราชญ์ยุทธ์ ผู้พิทักษ์สุสานเข้าร่วม!
วังกระเรียนตะวันตกกลายเป็นสมรภูมิรบทันที แม้แต่พระราชวังเทพขนนกทั้งหมดยังสั่นสะท้านอย่างไม่อาจควบคุมเมื่อต้องแบกรับอำนาจแห่งปราชญ์ยุทธ์ทั้งยี่สิบห้าคน
ทุกคนรู้สึกหายใจไม่ทั่วท้อง อีกทั้งผู้ฝึกยุทธ์ที่ต่ำต้อยบางคนถึงกับไม่อาจหายใจได้เมื่อเผชิญหน้ากับแรงกดดันมหาศาลนี้
ด้านบน เหนือวังกระเรียนตะวันตก
เมื่อเห็นว่าราชวงศ์เชิญปราชญ์ยุทธ์ออกมาได้ถึงสิบห้าคน บรรพชนของราชาทั้งสิบพลันเผยสีหน้าประหลาดใจ ทว่าไม่คิดเกรงกลัว!
บรรพชนมังกรสวรรค์เผยสีหน้าเย้ยหยัน “หึ ๆ เป็นไปตามคาด… ภูมิหลังของราชวงศ์เทพขนนกแข็งแกร่งยิ่ง แต่พวกเจ้าคิดว่าเพียงแค่หกปราชญ์ยุทธ์สามสวรรค์ขั้นแรก กับผู้เฒ่าไร้โลหิตทั้งเก้านี้จะสามารถหยุดยั้งพวกเราได้งั้นหรือ? ดูเหมือนราชวงศ์เทพจะไร้เดียงสายิ่งนัก!”
“ฮึ่ม!”
“เฮ้อ ดูเหมือนว่าพวกเราจะหลับใหลไปเนิ่นนาน คนภายนอกจึงลืมเลือนความแข็งแกร่งแห่งจักรพรรดิเก้ามังกรเช่นพวกเราไปจนหมดสิ้นแล้ว!”
“ราชาศักดิ์สิทธิ์ทั้งสิบ? พวกมันสมควรถูกกำจัดให้สิ้นซากในยุคสมัยของพวกเรา!”
“วันนี้เป็นฤกษ์ดีที่ได้ออกมาสูดอากาศ พวกเราจักทำลายกลุ่มกบฏและยุติความวุ่นวายของราชวงศ์!”
“…”
เมื่อได้ยินคำพูดของจักรพรรดิมังกรทั้งเก้าแล้ว บรรพชนมังกรสวรรค์เปิดปากคำรามทันที ซ้ำแววตายังเรืองรองไปด้วยลำแสงประหลาดน่าสะพรึงกลัวยิ่ง
“จิ๊ ๆ หยุดกล่าวเรื่องไร้สาระเสียที!”
“วันนี้… นับเป็นเกียรติยิ่งแล้วที่บรรพชนแห่งราชาทั้งสิบได้ต่อสู้กับราชวงศ์เทพขนนก!”
ตู้ม ตู้ม ตู้ม!
บรรพชนมังกรสวรรค์ปลดปล่อยเสียงคำราม ส่วนบรรพชนแห่งราชาทั้งสิบก็ปลดปล่อยคลื่นพลังไร้ลักษณ์ถาโถมออกมา ทั้งท้องฟ้าและแผ่นดินล้วนถูกปกคลุมไปด้วยพลังมหาศาล
“ฆ่า!”
เมื่อเห็นฉากอันน่าสะพรึงตรงหน้า แม้แต่จักรพรรดิมังกรทั้งเก้ายังเผยสีหน้าตื่นตระหนก แต่สุดท้ายพวกเขาก็ปลดปล่อยอำนาจศักดิ์สิทธิ์ออกมาอย่างไม่หวั่นเกรง ต่อให้จะอายุมากแล้ว แต่จิตวิญญาณในการต่อสู้ยังคงเหลือล้น
ตู้ม!
มังกรทั้งเก้าทะยานขึ้นสู่ห้วงผืนนภา ร่างกายที่เคยผ่ายผอมและเหี่ยวเฉากลายเป็นกำยำสง่างาม ราวกับเทพจากสรวงสวรรค์ลงมาโปรดมนุษย์ จากนั้นก็ทะยานเข้าหาบรรพชนทั้งสิบอย่างมุ่งร้าย
“บรรพชนจักรพรรดิ พวกเราจะสนับสนุนพวกท่านเอง!”
ทันทีที่จักรพรรดิเก้ามังกรเปิดเผยร่างกาย ขันทีเว่ยและปราชญ์ทั้งหกก็รีบปลดปล่อยพลังศักดิ์สิทธิ์ออกมาเช่นกัน
บึ้ม บึ้ม บึ้ม!
หลังจากนั้นภายใต้สายตาของผู้คนจำนวนมากที่จับจ้องอยู่ ทั้งสองฝ่ายเข้าสัประยุทธ์กันอย่างดุเดือด พลังมหาศาลเริงระบำอยู่บนท้องฟ้า คลื่นพลังระเบิดออกลูกแล้วลูกเล่า พสุธาถูกกระแทกจนแตกระแหงเป็นเสี่ยง ๆ สุรเสียงคำรามดังกึกก้องสะท้านไปทั่วทั้งนภาอากาศ
ต่อจากนั้น คลื่นพลังอันน่าสยดสยองกลับกลายเป็นลมกระโชกไร้สิ้นสุด แผ่ขยายปกคลุมทั่วท้องฟ้า กวาดล้างทุกสรรพสิ่ง และถึงกับทำให้พระราชวังเทพขนนกสั่นสะเทือนอย่างรุนแรง!
ปราชญ์ยุทธ์ทั้งยี่สิบห้าคนต่อสู้อย่างดุเดือด พลังที่ถูกปลดปล่อยออกแต่ละครั้งคล้ายกับสามารถพังทลายโลกใบนี้ได้ง่ายดาย ยิ่งผ่านพ้น พลังทำลายล้างยิ่งน่าหวาดกลัวราวกับถึงวันสิ้นสุดของโลกใบนี้!
ขณะนี้สายตาทุกคู่กำลังจับจ้องการต่อสู้ตรงหน้าด้วยความตื่นตระหนก
ทันทีที่สงครามเริ่มขึ้น บรรพชนแห่งราชาทั้งสิบก็ตกอยู่ในสภาวะเสียเปรียบ
แม้ขันทีเว่ยและปราชญ์ยุทธ์ทั้งหกจะอยู่ในระดับสามสวรรค์ขั้นต้น แต่ทั้งหกก็ร่วมมือกันเป็นอย่างดี จึงทำให้การต่อสู้กับบรรพชนแห่งราชาทั้งสิบไม่ใช่ปัญหาใหญ่
และสถานการณ์ของจักรพรรดิมังกรทั้งเก้า พวกเขาเปิดเผยสุดยอดพลังเปลี่ยนแปลงร่างกายที่ผอมแห้งให้กำยำยิ่งใหญ่สะเทือนไปทั่วโลกา!
“ยอดเยี่ยม!”
“พลังบรรพชนเทวะ!”
เมื่อเห็นฉากตรงหน้า ทุกคนในราชวงศ์เทพขนนกพลันเผยความตื่นเต้นออกมา
ในทางกลับกัน เหล่าราชาทั้งสิบเผยสีหน้าสับสนและเริ่มไม่มั่นคง
ท้ายที่สุดแล้ว เรื่องราวความขัดแย้งของราชวงศ์เทพขนนกและราชาทั้งสิบก็ขึ้นอยู่กับการต่อสู้ของปราชญ์ยุทธ์บนท้องฟ้า
ขณะนี้ทั้งสองฝ่ายกำลังเฝ้ามองการต่อสู้ด้านบนอย่างตั้งใจ แม้ในใจจะลอบรู้สึกหวาดหวั่นไม่น้อย
หนิงฝานเองก็รับชมด้วยเช่นกัน
ทว่าเขาไม่ได้ตื่นเต้นเช่นเดียวกับสมาชิกในราชวงศ์ แต่กลับขมวดคิ้วแน่น
‘ราชวงศ์เทพขนนก… เกรงว่าจะพ่ายแพ้!’
หนิงฝานส่ายศีรษะอย่างลับ ๆ ด้วยฐานการฝึกฝนที่ยิ่งใหญ่และวิสัยทัศน์ยอดเยี่ยม เขาจึงบอกได้ทันทีว่าแม้จักรพรรดิมังกรทั้งเก้าจะมีอำนาจเหนือกว่า แต่พวกเขาไม่อาจสังหารบรรพชนแห่งราชาทั้งสิบได้ในระยะเวลาสั้น ๆ แน่นอน
หลังจากยืนหยัดต่อสู้ไปสักครู่ จักรพรรดิเก้ามังกรจะไม่สามารถยืนหยัดได้อีกต่อไป
พวกเขา… แก่ชราเกินไปแล้ว!
ในระหว่างการต่อสู้ พวกเขาย่อมต้องผลาญพลังชีวิตและโลหิตที่มีจนหมดสิ้น!
แล้วมันก็เป็นเช่นนั้นจริง ๆ
เมื่อเวลาผ่านไป หลังจากเปิดเผยกระบวนท่าไปหลายร้อยแปด จักรพรรดิเก้ามังกรกับคนอื่น ๆ เริ่มสูญสิ้นพลังและไร้ซึ่งความแข็งแกร่งในตอนต้น ในทางกลับกัน บรรพชนแห่งราชาทั้งสิบที่เป็นฝ่ายศัตรูเพียงแค่ได้รับบาดเจ็บ แต่มิใช่สาหัส!
“ฮ่า ๆๆ! ไอ้พวกโง่ แก่แล้วไม่เจียมตัว!”
ตู้ม!
เมื่อเห็นสถานการณ์เช่นนี้ บรรพชนแห่งราชาทั้งสิบจึงเปิดฉากโจมตีโต้กลับทันที ผ่านไปเพียงครู่เดียว จักรพรรดิเก้ามังกรและคนอื่น ๆ ก็เริ่มอ่อนล้า พวกเขากลายเป็นเสียเปรียบ แล้วสถานการณ์ทั้งหมดก็พลิกจากหน้ามือเป็นหลังมือทันที
“อ๊ะ?!”
“ดูเหมือนว่าราชวงศ์เทพขนนกกำลังจะพ่ายแพ้!”
“นี่… ราชวงศ์เทพขนนกจะพ่ายแพ้ให้กับราชาทั้งสิบงั้นหรือ?!”
“ไม่รู้ว่าราชวงศ์เทพขนนกยังมีไพ่ตายหรือไม่ หากไม่… คงต้องจบสิ้นกันในวันนี้แล้ว!”
ทุกคนมองเห็นความพ่ายแพ้ของปราชญ์ยุทธ์แห่งราชวงศ์แล้ว
“ฮ่า ๆๆ! บรรพชนเอ๋ย พวกเจ้ามิใช่อมตะที่แท้จริง ถึงคราวที่ราชวงศ์ของพวกเจ้าต้องล่มสลายแล้ว!”
เมื่อเห็นท่าทีของอีกฝ่าย บรรพชนแห่งราชาทั้งสิบพลันระเบิดเสียงหัวเราะบ้าคลั่ง
“ทำอย่างไรดี!?”
“ราชวงศ์ของพวกเราสิ้นพระราชมรดกแล้ว แต่ก็ไม่อาจจัดการพวกกบฏได้!”
“ท่านจะขอร้องให้พระบิดาออกจากการปิดด่านฝึกตนหรือ? ดูจากสภาพก่อนที่เขาจะเข้าสู่การปิดด่านฝึกตน ต่อให้ตื่นขึ้นมาก็ไม่อาจสยบและสังหารบรรพชนแห่งราชาทั้งสิบได้… มิแคล้วว่าเขาอาจจะถูกสังหารทิ้งเลยก็เป็นได้!”
“แล้วจะให้ข้าทำสิ่งใดได้ ก็มันไม่เหลือหนทางอื่นแล้ว!”
“มันจบแล้ว เป็นข้าที่ชักนำหมาป่าเข้าบ้าน!”
“…”
เวลานี้สมาชิกราชวงศ์ทุกคนทั้งตื่นตระหนกและเผยสีหน้ากังวลออกมาอย่างเห็นได้ชัดเจน
แม้แต่หลัวชิงเซียนยังจับมือหนิงฝานไว้แน่น ใบหน้างดงามเผยความกังวลไม่น้อย
หนิงฝานกระชับมือหญิงสาวไว้ปลอบประโลมให้นางผ่อนคลาย
จากนั้นเขาก็ลอบสื่อสารกับผู้พิทักษ์สุสานผ่านพระราชลัญจกรทันที
“ทาสหลิน! ราชวงศ์กำลังเดือดร้อน จงเร่งรีบมาที่นี่!”
ผู้พิทักษ์สุสานนั้นแข็งแกร่ง เขาอยู่ในสวรรค์ขั้นที่หกแห่งปราชญ์ยุทธ์ หากเขาใช้สุดยอดพลังนครอู๋หลิง เขาจะถือครองพลังสวรรค์ขั้นที่เจ็ดเป็นการชั่วคราว
วิกฤตนี้น่าจะสามารถคลี่คลายได้
ไม่นานนัก หลังจากหนิงฝานเรียกหาผู้พิทักษ์สุสาน…
บนท้องฟ้าขณะนี้ การต่อสู้กำลังจะถูกตัดสินแพ้ชนะ
บรรพชนแห่งราชาทั้งสิบรวมกำลังเพื่อบุกโจมตี พลังพลุ่งพล่านทำลายจักรพรรดิเก้ามังกรและขันทีเว่ยจนกระเด็นไปด้านหลัง ทั้งหมดบ้วนโลหิตออกคำใหญ่
“ตายเสีย!”
ในเวลานี้ บรรพชนราชาทั้งสิบเผยรอยยิ้มชั่วร้าย พวกเขาใช้ประโยชน์จากอาการบาดเจ็บสาหัสของอีกฝ่ายเพื่อสังหาร เวลานี้พลังทั้งสิบที่หลอมรวมกันปลดปล่อยลำแสงหน้าสะพรึง เป้าหมายคือพวกขันทีเว่ยทั้งหก เห็นได้ชัดว่าพวกเขาต้องการสังหารหกคนนี้ก่อน แล้วค่อยจัดการกับจักรพรรดิเก้ามังกรที่อยู่ในช่วงสามสวรรค์ขั้นกลางภายหลัง!
ตู้ม!
ทันทีที่ลำแสงศักดิ์สิทธิ์มากอำนาจคุกคามชีวิตถูกปลดปล่อยออกมา ไม่ว่าจะเป็นขันทีเว่ยหรือคนอื่น ๆ ในราชวงศ์ล้วนแต่รู้สึกสิ้นหวังทันที!
มันจบสิ้นแล้ว!
ตู้ม!
ทว่าในช่วงเวลาที่เลวร้ายนี้ กลับมีร่างหนึ่งปรากฏตัวขึ้น แล้วมันก็ใช้ร่างกายของตนเองต้านทานพลังศักดิ์สิทธิ์ที่ถาโถมเข้ามา!
ไม่เพียงเท่านั้น ขณะที่ลำแสงศักดิ์สิทธิ์กำลังเลือนลาง พลันมีร่างสูงใหญ่ปรากฏตัวขึ้น!
มังกรฟ้า!
พยัคฆ์ขาว!
หงส์เพลิง!
เต่าดำ!
กิเลน!
คนผู้นี้คือ… ผู้พิทักษ์สุสาน!