ตอนที่ 91 ชายลึกลับตายตก เทพเร้นลับทั้งแปด!
เมื่อมองชายในชุดธรรมดาตรงหน้า รูม่านตาของชายในชุดสีเทาพลันหดตัวรุนแรง และเขารู้ได้ในทันทีว่าคนผู้นี้คือจวินซ่างตัวจริง!
“หึ ๆ เจ้าสามารถจัดการร่างจำแลงนับร้อยของข้าได้ ปราชญ์ยุทธ์สวรรค์ขั้นที่เจ็ด… นับว่ายอดเยี่ยมแล้ว”
หนิงฝานจับจ้องร่างในชุดคลุมสีเทา จากนั้นเนตรศักดิ์สิทธิ์ก็ถูกเปิดใช้งาน
ภายใต้เสื้อคลุมสีเทา เป็นใบหน้าแก่ชราที่มีแววตาเคร่งขรึม
พลังของปราชญ์ยุทธ์สวรรค์ขั้นที่เจ็ดพลุ่งพล่านราวกับมหาสมุทรไร้สิ้นสุด ความแข็งแกร่งนี้ยิ่งใหญ่กว่าอาวุโสทั้งสามของราชวงศ์เทพ ผู้พิทักษ์สุสานหรือคนอื่น ๆ ที่เข้าสู่ระดับสวรรค์ขั้นที่เจ็ดด้วยการใช้ทักษะช่วยเหลือหรือเม็ดยาระเบิดศักดิ์สิทธิ์
“ไอ้ตัวบัดซบ ในที่สุดก็ออกมาได้เสียที!”
“ทำลายแผนการใหญ่ของข้า แล้วยังเล่นตลกกับข้า วันนี้ข้าจะสับเจ้าให้แหลกเป็นชิ้น ๆ ไม่เช่นนั้นคงไม่อาจระงับความเกลียดชังในใจข้าได้!”
เมื่อหนิงฝานมาถึง ความโกรธที่สะสมในใจของชายชุดคลุมสีเทาปะทุออกรุนแรง จิตสังหารในแววตายิ่งเกรี้ยวกราด
ตู้ม!
พลังศักดิ์สิทธิ์สวรรค์ขั้นที่เจ็ดพลันระเบิดออกมาและพวยพุ่งขึ้นสู่เวหา เมื่อคลื่นพลังขนาดยักษ์ปรากฏ มันก็สั่นสะเทือนทั้งค่ายทหารของดินแดนครึ่งปีศาจนี้จนแทบพังทลาย
“ไปตายเสีย!”
ด้วยเสียงคำรามกึกก้อง ชายชราในชุดสีเทาเอื้อมมือจับไม้เท้าในความว่างเปล่า ซึ่งไม้เท้านี้เผยให้เห็นลวดลายศักดิ์สิทธิ์สลักไว้อยู่
ตู้ม!
ทันทีที่ไม้เท้าปรากฏ พลังวิญญาณฟ้าดินในรัศมีกว่าหลายร้อยลี้พลันสูญสลายไปในพริบตา ทั้งหมดกลายเป็นแม่น้ำเชี่ยวกรากไหลเข้าสู่ไม้เท้านี้ มหาสมุทรบ้าคลั่ง ทะเลสาบกรรโชก ในชั่วพริบตาก็บังเกิดประกายแสงเจิดจ้าออกมาจากไม้เท้าศักดิ์สิทธิ์นี้
“จวินซ่าง จงชดใช้ให้ข้าด้วยชีวิตของเจ้า!”
ชายในชุดคลุมสีเทาเหวี่ยงไม้เท้าในมือพร้อมระเบิดพลังงานไร้สิ้นสุด คลื่นพลังก่อตัวเป็นมังกรร้ายเปิดเผยกรงเล็บใหญ่ทะยานเข้าหาหนิงฝาน
ตู้ม!
พลังของมังกรตนนี้นับว่าร้ายกาจยิ่ง อากาศถูกฉีกออกจนเกิดเสียงแสบแก้วหู และทุกที่ที่มันผ่านไปก็ทิ้งร่องรอยการทำลายล้างไว้อย่างชัดเจน
ในพริบตา มันมาหยุดอยู่ตรงหน้าหนิงฝาน
“หึ ๆ อ่อนหัด!”
เมื่อเห็นสิ่งนี้แล้ว หนิงฝานแค่ส่ายศีรษะเล็กน้อย ขณะที่ใบหน้ายังสงบนิ่ง
แม้ชายชราในชุดสีเทาจะแข็งแกร่งว่าผู้พิทักษ์สุสานและบรรพชนอาวุโสของราชาทั้งสิบ แต่สำหรับเขาแล้วมันยังห่างไกลคำว่าเทียบเท่า!
ชิ้ง!
กระบี่เฉือนนภาปรากฏขึ้นในมือของเขา
หลังจากสับฟันกระบี่เฉือนนภาออกไปก็บังเกิดเสียงระเบิดดังขึ้นในอากาศ ปราณกระบี่ส่องแสงราวกับช้างเผือกในความว่างเปล่า ปราณกระบี่ปฐมภูมิพลุ่งพล่านไปทั่วร่างกาย ฉีกผ่านอากาศทั้งหมดและสับฟันเข้าใส่มังกรเกรี้ยวกราดตรงหน้า
ตู้ม!
เกิดเสียงระเบิดเลือนลั่น ปราณกระบี่ฟันมังกรจนแหลกสลายกลายเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย จากนั้นพลังงานไร้ลักษณ์ก็กระจัดกระจายทั่วท้องฟ้า ก่อนจะสูญสลายหายไปในที่สุด
แต่ถึงกระนั้นปราณกระบี่ยังไม่อ่อนกำลังลง แต่กลับรุนแรงมากยิ่งขึ้น แล้วมันก็พุ่งเข้าหาชายชราในชุดเทาที่ยืนอยู่ด้านหลังทันที
“หืม? เป็นเช่นนี้ได้อย่างไร!?”
เมื่อเห็นฉากนี้แล้ว รูม่านตาของชายชุดเทาถึงกับหดลงรุนแรงด้วยความตื่นตระหนก
เขาอยู่ในขอบเขตปราชญ์ยุทธ์สวรรค์ขั้นที่เจ็ด ทั้งเวลานี้ยังเปิดใช้งานอาวุธศักดิ์สิทธิ์ประจำกายที่แข็งแกร่งที่สุด ดังนั้นพลังที่เขาปลดปล่อยออกมาสมควรที่จะจัดการกับผู้ฝึกยุทธ์ในขอบเขตเดียวกันได้!
แต่พลังของเขาถูกจวินซ่างทำลายอย่างง่ายดายเช่นนี้… หรือว่าจวินซ่างผู้นี้คือผู้ฝึกยุทธ์ระดับสวรรค์ขั้นที่แปด?
ขณะที่ปราณกระบี่กำลังใกล้เข้ามา ชายชราในชุดคลุมสีเทาไม่มีเวลาคิดเรื่องอื่น เขารีบยกไม้เท้าศักดิ์สิทธิ์ในมือขึ้นมา
“ฮ่า!”
เพียงเสียงคำรามเดียว พลังวิญญาณฟ้าดินในรัศมีหลายร้อยลี้พลันควบแน่นจากทุกสารทิศ ในพริบตาก็เกิดเป็นกำแพงปราการยิ่งใหญ่โดยมีศูนย์กลางคือไม้เท้าศักดิ์สิทธิ์ ปราการป้องกันนี้หนาเท่ากับภูเขาใหญ่ และดูเหมือนว่ามันจะสามารถต้านทานได้ทุกสรรพสิ่ง!
ตู้ม!
ทันทีที่ปราการป้องกันปรากฏ ปราณกระบี่ก็สับฟันลงมา ก่อเกิดเสียงสั่นสะเทือนฟ้าดิน แสงพร่างพราวเป็นประกายในอากาศ ก่อนที่พลังงานรุนแรงจะระเบิดออกอีกครั้ง คลื่นพลังกวาดเอาค่ายทหารดินแดนครึ่งปีศาจสูญหายไปกว่าครึ่ง!
ทหารของดินแดนครึ่งปีศาจล้มลงกับพื้น นอนเกลื่อนกลาดราวกับวัชพืชไร้ประโยชน์
แม้แต่จักรพรรดิแห่งดินแดนครึ่งปีศาจซึ่งอยู่ในระดับสวรรค์ขั้นที่สี่ยังต้องหลบหนี พวกเขาไม่อาจรับมือกับการเผชิญหน้าของทั้งสองได้
ตู้ม!
เพียงชั่วครู่ ปราณกระบี่ไร้ผู้ใดเทียบทำลายปราการหนาราวภูเขาตรงหน้าได้สำเร็จ ไม้เท้าศักดิ์สิทธิ์ปลิวว่อนออกจากมือ ร่างของชายชราในชุดสีเทารับคมศัสตราจากปราณกระบี่โดยไร้ซึ่งสิ่งใดป้องกัน!
อ๊ากก!!
เสียงกรีดร้องดังออกอย่างเจ็บปวด ปราณกระบี่กลืนกินร่างของชายชราในชุดคลุมสีเทาอย่างรวดเร็ว โลหิตหลั่งรินราวน้ำพุ แล้วร่างกายของเขาก็ทรุดลงกับพื้นอย่างไม่อาจต้านทานแรงโน้มถ่วง
โลกทั้งใบราวกับตกอยู่ในความเงียบสงัด ทหารนับไม่ถ้วนของดินแดนครึ่งปีศาจต่างหวาดกลัวจนหมดสติ
อีกฝ่ายเอาชนะปราชญ์ยุทธ์สวรรค์ขั้นที่เจ็ดด้วยกระบวนท่าเดียว!
อมตะที่แท้จริง!
พรึ่บ!
หนิงฝานก้าวไปด้านหน้า หยุดยืนตรงหน้าของชายในชุดคลุมสีเทา กระบี่เฉือนนภาจ่อที่ลำคอของอีกฝ่าย คมมีดเยือกเย็นทำให้ร่างของชายชราแข็งค้าง
ชายหนุ่มถามเย็นชา “บอกข้ามา เจ้าเป็นใคร แล้วผู้ใดเป็นคนสั่งให้เจ้าก่อความวุ่นวายในร้อยอาณาจักรเล็ก?”
ถึงกระนั้น ชายชราในชุดสีเทาทราบดีว่านี่คือวาระสุดท้ายของตน เขาไม่เพียงแต่ไม่ให้ความร่วมมือ ทว่ายังเผยรอยยิ้มชั่วร้ายออกมาด้วย “จวินซ่าง ข้าพ่ายแพ้ต่อเจ้าแล้ว เวลานี้เจ้าจะสังหารหรือตัดอวัยวะส่วนใดของข้าก็ย่อมได้ แต่อีกไม่นานเจ้าจะตายตก ราชวงศ์เทพขนนกทั้งหมดจะต้องล่มสลาย ฮ่า ๆๆๆ…!”
“หึ ยังคิดดื้อรั้น!”
เมื่อเห็นเช่นนี้แล้ว หนิงฝานอดไม่ได้ที่จะเย้ยหยัน จากนั้นเขาก็ควบแน่นพระราชลัญจกร “ข้าอยากจะรู้เหมือนกันว่าเจ้าจะดื้อรั้นได้ถึงเพียงใด ลองเจอพระราชลัญจกรของข้าหน่อยแล้วกัน!”
พรึ่บ!
พระราชลัญจกรเข้าสู่ร่างกายของอีกฝ่ายอย่างรวดเร็ว ก่อนจะปลดปล่อยพลังไร้ทางต้านและควบคุมร่างของชายชราในทันที
“หืม? เจ้า!”
เมื่อเห็นเหตุการณ์กลายเป็นเช่นนี้ ชายชราในชุดคลุมสีเทาพลันตื่นตระหนกยิ่ง เขารู้สึกว่าตนเองเริ่มสูญเสียการควบคุมร่างกายนี้ไปอย่างช้า ๆ
แน่นอนว่าความรู้สึกนี้เป็นเขาที่ทำกับผู้อื่น หาได้เคยถูกกระทำกับตนเองเลยสักครั้ง
“บัดซบ! เจ้าไม่อาจควบคุมข้าได้ ต่อให้ข้าต้องตาย ข้าก็จะไม่มีวันยอมถูกเจ้าควบคุมเป็นอันขาด!”
สิ้นเสียงนั้น ร่างของชายชราในชุดคลุมสีเทาก็คำรามอย่างเกรี้ยวกราด ขณะที่ความบ้าคลั่งพลันปรากฏในแววตา
ตู้ม ตู้ม!
พลังทั้งสองปะทะกันอย่างรุนแรงในจิตวิญญาณของชายชรา และร่างกายของเขาก็เริ่มพังทลายลงทีละส่วน
“หืม? เคล็ดทำลายต้องห้าม!”
เมื่อเห็นฉากนี้แล้ว หนิงฝานขมวดคิ้วแน่นก่อนจะทดลองใช้พลังเพื่อควบคุมร่างกายของชายชรา แต่ชายชราผู้นี้ทำลายตนเองเสียแล้ว มันจึงไร้ประโยชน์
พรึ่บ!
เมื่อเห็นเช่นนี้แล้ว หนิงฝานจึงเอื้อมมือไปคว้าลำคอของอีกฝ่ายเอาไว้
ตู้ม!
เพียงอึดใจเดียว ทั้งวิญญาณและร่างกายของชายชราในชุดคลุมสีเทาก็สูญสลายหายไปโดยสมบูรณ์ เหลือเพียงเถ้าถ่านให้รับชมต่างหน้าเท่านั้น
“นับว่าเด็ดเดี่ยว แต่ว่า…”
หนิงฝานส่ายศีรษะ ก่อนจะมองเหรียญตราในฝ่ามือของเขาที่ฉกฉวยมาจากเสื้อคลุมของชายชรา
เหรียญนี้มีขนาดเท่าฝ่ามือและมีอักขระสลักไว้ นั่นคือคำว่า——แปดเร้นลับ!
“แปดเร้นลับ? เทพเร้นลับทั้งแปด!”
หนิงฝานเลิกคิ้วสูง
ครั้งหนึ่งเขาเคยได้ยินหลัวชิงเซียนกล่าวว่านอกจากราชวงศ์เทพขนนกแล้ว ยังมีอีกสามราชวงศ์ใหญ่ในโลกใบนี้ด้วย มันคือราชวงศ์ผ่านอู่ เทพเร้นลับทั้งแปด และราชวงศ์เทพหมื่นอสูร!
ชายชราในชุดสีเทานี้คงจะเป็นสมาชิกของเทพเร้นลับทั้งแปด และด้วยขอบเขตปราชญ์ยุทธ์สวรรค์ขั้นที่เจ็ด สถานะของเขาย่อมไม่ต่ำต้อย!
หนิงฝานรู้สึกภาคภูมิใจเล็กน้อย
สี่ราชวงศ์ยิ่งใหญ่ เทพขนนก เทพหมื่นอสูร ผานอู่ และเทพเร้นลับครอบครองสี่ดินแดนใหญ่ของโลกใบนี้ เวลานี้เทพขนนกกำลังอ่อนแอ มันจึงกลายเป็นความปรารถนาของสามราชวงศ์ใหญ่เหล่านั้น!
ชายในชุดสีเทาก่อความวุ่นวายในประวัติศาสตร์อย่างถึงที่สุด
“ดูเหมือนว่าวิกฤติของราชวงศ์เทพขนนกเพิ่งจะเริ่มต้นเท่านั้น!” หนิงฝานถอนหายใจ ก่อนจะส่ายศีรษะสลัดความคิดเหล่านี้
ท้ายที่สุดแล้ว เขาออกคำสั่งให้จักรพรรดิแห่งดินแดนครึ่งปีศาจถอนกำลังโดยเร็ว
จากนั้นหนิงฝานก็หันหลัง พร้อมเดินทางกลับสู่ดินแดนศักดิ์สิทธิ์ไท่เสวียน!