ตอนที่ 96 ไม่มีผู้ใดกล้ารังแก กระบี่เย้ยโลกันต์
นอกเมืองเทพ
หมาป่าเก้าตัวลากราชรถเหาะเหินขึ้นไปบนเวหา ปราชญ์ทั้งสองแห่งโลกันต์นำกลุ่มองครักษ์ติดตามพวกเขาไปด้วย
ภายในราชรถ
หลัวชิงเซียนนั่งตัวตรง ใบหน้าของนางเย็นชาราวน้ำแข็งและมิได้เอื้อนเอ่ยออกมาแม้แต่คำเดียว
ทว่าหยางจิงกลับจ้องมองนางด้วยดวงตาที่ร้อนรุ่ม
แม้ว่าการเดินทางครั้งนี้จะมีอุปสรรคขัดขวางอยู่บ้าง และมือของเขาก็หักเพราะ ‘มัน’ แต่ในท้ายที่สุดแล้วเขาก็ได้คนงามกลับมาด้วย!
นี่นับว่าไม่เสียเปล่าแล้ว!
“ชิงเซียน เจ้าวางใจเถอะ แต่งงานกับข้าย่อมดีกว่าแต่งงานกับหนิงฝานเป็นร้อยเท่าพันเท่า เจ้าอยู่ในราชวงศ์เทพขนนก อย่างมากสุดก็เป็นได้แค่องค์หญิง แต่หากเจ้าแต่งงานกับข้า รอให้ข้าได้เป็นผู้ปกครองผานอู่ก่อน แล้วเจ้าจักได้เป็นจักรพรรดินีแห่งดินแดนผานอู่…”
ระหว่างทาง หยางจิงพูดพล่ามไม่หยุด ทว่าหลัวชิงเซียนยังคงสงบนิ่งไม่เอ่ยสิ่งใดออกมาสักคำ
แล้วยิ่งหลัวชิงเซียนปฏิบัติตนเช่นนี้เท่าไร ความปรารถนาที่หยางจิงระงับไว้ก่อนหน้านี้ก็ยิ่งรุนแรงมากขึ้นเท่านั้น
เขาอยากจะรู้นักว่า เมื่อหลัวชิงเซียนมาอยู่ภายใต้อาณัติของตนแล้ว นางจะยังปิดปากเงียบอยู่เช่นนี้ได้อีกหรือไม่!
“ชิงเซียน ข้ารอต่อไปไม่ไหวแล้ว เรามาเข้าหอกันตั้งแต่ตอนนี้เลยเถอะ!”
ในท้ายที่สุด หยางจิงก็ระงับความปรารถนาของตนไม่ได้อีกต่อไปและทำท่าจะกระโจนเข้าใส่นาง
ทว่าตอนนี้เอง นัยน์ตาคู่สวยของหลัวชิงเซียนกลับมีสายตาแน่วแน่ของบางอย่างขึ้นมา
ในมือปรากฏกริชศักดิ์สิทธิ์ที่เรืองแสงเยือกเย็นขึ้นมาเล่มหนึ่งอย่างเงียบ ๆ
กริชศักดิ์สิทธิ์
แม้นโดนมันโจมตีครั้งเดียว แต่ร่างกายและจิตวิญญาณจะสลายหายไปในความว่างเปล่าทันที!
นี่ไม่ใช่ของที่ใช้ฆ่าหยางจิง แต่มีไว้เพื่อให้นางฆ่าตัวตาย!
แม้ว่านางจะต้องสลายกลายเป็นเถ้าถ่าน แต่นางจะมิยอมถูกหยามเกียรติเป็นอันขาด!
ตู้ม!
ในตอนนี้เอง จู่ ๆ พลังศักดิ์สิทธิ์ที่น่าสะพรึงกลัวอย่างหาที่เปรียบมิได้ก็ย่างกรายเข้ามา ทำให้หยางจิงกระเด็นออกจากราชรถไป ขณะเดียวกันนั้น หลัวชิงเซียนพลันรู้สึกง่วงนอนอย่างรุนแรง ร่างกายนางเอนลงและผล็อยหลับไปในทันที ส่วนกริชศักดิ์สิทธิ์ในมือก็ร่วงหล่นลงสู่พื้น
“ภรรยา หลับพักผ่อนสักหน่อยนะ มีสามีอยู่ ในใต้หล้านี้ย่อมไม่มีผู้ใดมารังแกเจ้าได้!”
ร่างหนิงฝานปรากฏตัวขึ้นในราชรถ เขายื่นมือออกไปทัดผมให้หลัวชิงเซียนอย่างอ่อนโยน
ในเวลาเดียวกัน
ความผิดปกติบนราชรถทำให้ปราชญ์ทั้งสองแห่งโลกันต์ตื่นตระหนกขึ้นมาทันที
“องค์ชายใหญ่ ท่านเป็นอย่างไรบ้าง!?”
“ผู้ใดกันที่กล้ามายุ่มย่ามกับราชรถขององค์ชายแห่งผานอู่ จงออกมาประเดี๋ยวนี้!”
ตู้ม ตู้ม!
ปราชญ์ทั้งสองแห่งโลกันต์ตะโกนเสียงลั่น องครักษ์ทั้งหมดต่างชักอาวุธออกมา และทุกสายตาก็จับจ้องไปยังราชรถพร้อมจิตสังหาร
ตึก!
ช่วงครู่ต่อมา หนิงฝานก็เปิดม่านราชรถแล้วเดินออกมาภายใต้สายตาของทุกคน
“เป็นเจ้า!”
ไม่ว่าจะหยางจิงหรือปราชญ์ทั้งสองแห่งโลกันต์ เมื่อเห็นหนิงฝานออกมาจากราชรถก็ล้วนแต่มีสีหน้ามืดมนไปตาม ๆ กัน
แล้วพริบตานั้น สีหน้าของหยางจิงก็กลายเป็นดุร้ายขึ้นมาทันที “หนิงฝาน เจ้าช่างกล้าเสียจริง! ตอนอยู่ที่พระราชวังเทพขนนก ข้าอุตส่าห์เห็นแก่หลัวชิงเซียนจึงไว้ชีวิตเจ้าไปแล้วครั้งหนึ่ง ไม่คิดเลยว่าเจ้ายังกล้ามาสร้างปัญหาให้ข้าอีก!”
“จริงหรือ? เช่นนั้นข้าต้องขอบคุณเจ้าหรือไม่ที่ไม่ฆ่าข้า”
หนิงฝานยิ้มอย่างอ่านไม่ออก
“หึ ในเมื่อวิ่งมารนหาที่ตายถึงที่ แล้วข้าจะปล่อยเจ้าไปได้อย่างไร ผู้อาวุโสโยว ผู้อาวุโสหมิง ฆ่ามันเสีย!” หยางจิงออกคำสั่งอย่างเย็นชา
และเมื่อได้ยินคำสั่งนั้น ปราชญ์แห่งโลกันต์ทั้งสองก็ลงมือทันที
“ปราชญ์ยุทธ์สวรรค์ขั้นแรกกล้ามาจองหองต่อหน้าพวกข้า ผู้ใดมันให้ความกล้านี้กับเจ้า!”
“เด็กน้อย จงตายเสียเถอะ!”
ตู้ม! ตู้ม!
ขณะที่ทั้งสองตะโกนเสียงเย็นชา คลื่นพลังศักดิ์สิทธิ์ของสวรรค์ขั้นเจ็ดก็ปะทุขึ้นทันที ฉากนี้ราวกับภูเขาไฟบรรพกาลสองลูก เพราะพลังที่ระเบิดออกมานี้ถึงกับทำให้ท้องฟ้าวิปริตแปรปรวนในบัดดล!
หลังจากนั้นทั้งสองคนก็ออกจู่โจม ทำรอยตราประทับฝ่ามืออย่างเหี้ยมหาญ ด้านหนึ่งเรืองแสงสลัว อีกด้านหนึ่งมีไอมืดพุ่งพล่าน รอยฝ่ามือนั้นกว้างใหญ่มหึมา แล้วพลังงานที่พุ่งพล่านนี้ก็ทำให้ความว่างเปล่าปริแตกออกจากกัน!
“ปราชญ์ทั้งสองแห่งโลกันต์แล้วอย่างไร? ก็แค่พวกมดปลวก!”
ในเวลานี้เอง เมื่อหนิงฝานเห็นปราชญ์ทั้งสองลงมือแล้ว ชายหนุ่มกลับเหยียดยิ้มเย็นชาขึ้นมา
ชิ้ง!
กระบี่เล่มหนึ่งถูกชักออกมา ตามด้วยการระเบิดของปราณกระบี่ที่ไร้เทียมทาน!
ตู้ม! ตู้ม!
ปราณกระบี่ราวกับสายธารมหานที มันพัดกวาดไปทางปราชญ์ทั้งสองแห่งโลกันต์ ทันใดนั้น แสงสว่างของปราณกระบี่ที่พร่างพราวก็ระเบิดออกมา เสียงระเบิดดังขึ้นสองครั้งพร้อมกัน แล้วฝ่ามือโลกันต์ของทั้งสองก็แตกออกเป็นเสี่ยง ๆ
แสงของกระบี่ที่สว่างไสวราวกับกระแสน้ำ ยังคงพัดกวาดเข้าไปหาปราชญ์ทั้งสองแห่งโลกันต์
“อะไรกัน!”
“เจ้า…! เจ้าเป็นปราชญ์ยุทธ์สวรรค์ขั้นแรกไม่ใช่หรือ!”
เมื่อเห็นว่ารอยฝ่ามือของทั้งสองถูกหนิงฝานใช้กระบี่ฟาดกลับจนแตกสลาย ปราชญ์ทั้งสองแห่งโลกันต์ก็ตื่นตระหนกเป็นอย่างมาก ใบหน้าเยาะเย้ยของพวกเขากลายเป็นบิดเบี้ยวอย่างไม่อยากจะเชื่อในทันที!
ทั้งสองรู้แล้วว่าความแข็งแกร่งของหนิงฝานนั้นต้องแข็งแกร่งกว่าพวกเขาแน่นอน มิฉะนั้นแล้ว อีกฝ่ายย่อมไม่สามารถโจมตีพวกเขากลับได้อย่างง่ายดายถึงเพียงนี้
แล้วเมื่อเห็นว่าลำแสงของกระบี่ซัดสาดมาทางพวกเขา ทั้งสองคนกลายบ้าคลั่งขึ้นมาทันที
“ประตูปีศาจ”
“ประตูความมืด”
ปราชญ์ทั้งสองแห่งโลกันต์ตะโกนเสียงกราดเกรี้ยว กระแสพลังพวยพุ่งออกมาจากส่วนลึกของร่างกายโดยไม่สำรองพลังไว้แม้แต่น้อย
วูบ วูบ!
ระหว่างคลื่นพลังงานมหึมากำลังโหมซัด ครึ่งหนึ่งของประตูมิติถูกควบแน่นต่อหน้าพวกเขาทั้งสอง แบ่งเป็นครึ่งหนึ่งส่องสว่างด้วยแสงจำนวนมาก ซ้ำยังทรงพลังจนน่าสะพรึงกลัว และอีกครึ่งหนึ่งเต็มไปด้วยพลังงานอันน่าสยดสยองจากยมโลก ใต้พิภพสั่นสะเทือนกลายเป็นปีศาจร้าย ส่งเสียงคำรามไม่รู้จบ!
ปัง!
ในท้ายที่สุด ประตูปีศาจและประตูแห่งความมืดก็หลอมรวมกันเป็นประตูมิติที่สมบูรณ์ แล้วพลังนั้นทวีคูณขึ้นนับครั้งไม่ถ้วน
“ประตูปีศาจและประตูความมืดหลอมรวมเข้าด้วยกันเป็นประตูโลกันต์ที่สามารถต่อสู้กับปราชญ์ยุทธสวรรค์ขั้นแปดได้!”
“ข้าไม่เชื่อว่าไอ้เด็กอ่อนปวกเปียกคนนี้ จะสามารถทำลายประตูโลกันต์ของพวกเราได้!”
เมื่อมีประตูโลกันต์ขวางอยู่เบื้องหน้า นัยน์ตาปราชญ์แห่งโลกันต์ทั้งสองพลันกลับมาฉายแววดุร้าย
หลังจากนั้น ปราณแสงกระบี่พลันโหมซัดใส่ประตูโลกันต์!
ตู้ม!
บังเกิดเสียงแผ่นดินไหวสะเทือนเลือนลั่น แสงกระบี่ไร้ที่สิ้นสุดระเบิดออก ด้วยพลังแห่งการทำลายล้าง แสงริบหรี่แห่งโลกันต์ค่อย ๆ เลือนหายไป แล้วระลอกคลื่นพลังงานที่น่าสะพรึงกลัวก็แตกกระจายออกไป
แกร็ก! แกร็ก!
ในขณะที่ประตูแห่งโลกันต์ระเบิดออก และภายใต้สายตาของปราชญ์ทั้งสองแห่งโลกันต์ที่จับจ้อง แสงกระบี่ที่ฟาดฟันเข้ามาก็สะท้อนเข้าไปในรูม่านตาที่หรี่ลง!
“ไม่นะ!”
“เป็นไปไม่ได้!”
ภายใต้เสียงกรีดร้องของปราชญ์ทั้งสองแห่งโลกันต์ แสงกระบี่ทะลุผ่านร่างกายจนเลือดพุ่งออกมาไม่ขาดสายในทันที
ปราชญ์ทั้งสองแห่งโลกันต์… พ่ายแพ้ในกระบี่เดียว!
หนิงฝานที่สามารถเอาชนะปราชญ์แห่งโลกันต์ทั้งสองได้ในกระบี่เดียว แม้ว่าฉากเหตุการณ์อาจจะดูยาวนาน แต่อันที่จริงแล้ว ทุกสิ่งอย่างกลับเกิดขึ้นเพียงชั่วพริบตาเท่านั้น
ไม่รอให้ทั้งหมดได้สติกลับคืนมา ปราชญ์แห่งโลกันต์ทั้งสองก็ได้รับบาดเจ็บสาหัสเสียแล้ว!
เมื่อเห็นฉากนี้ ใบหน้าของผู้คนเหล่านั้นก็ราวกับเห็นผี โดยเฉพาะหยางจิง ใบหน้าเย้ยหยันนั้นแข็งทื่อและแปรแปลี่ยนเป็นสีหน้าหวาดกลัวอย่างมิสามารถควบคุมได้!
“เจ้า เจ้า เจ้า…!”
หยางจิงชี้ไปทางหนิงฝาน น้ำเสียงสั่นเทาอย่างอดไม่ได้
นั่นปราชญ์แห่งโลกันต์สองคนเลยนะ ปราชญ์ยุทธ์ทั้งสองมีพลังสวรรค์ขั้นเจ็ด แต่กลับพ่ายแพ้ให้กับหนิงฝานในกระบี่เดียว
นี่จะเป็นไปได้อย่างไรกัน?
ฟึ่บ!
และในตอนนี้เอง สายตาเยือกเย็นของหนิงฝานจับจ้องมาที่หยางจิง หลังจากนั้นชายหนุ่มก็ค่อย ๆ ก้าวเข้าไปหาอีกฝ่าย
เมื่อเห็นเช่นนั้น หยางจิงพลันตกใจกลัวจนวิญญาณหลุดลอยออกไป ราวกับว่าตัวเขาตกลงไปในหลุมมรณะ
“ขวางเขาไว้!”
“ขวางเขาไว้ให้ข้า!”
หยางจิงตะโกนอย่างหวาดกลัว
ในตอนนั้น เหล่าองครักษ์จำต้องก้าวไปข้างหน้าเพื่อขวางหนิงฝานไว้
ปัง ปัง ปัง!
ทว่ายังไม่ทันได้เข้าไป ร่างกายขององครักษ์เหล่านั้นก็ระเบิดออกกระจายเป็นหมอกโลหิต ราวกับดอกไม้สีเลือดกำลังเบ่งบานอย่างไรอย่างนั้น
ตึก ตึก!
หนิงฝานก้าวเข้าไปหาหยางจิงพร้อมกับจิตสังหาร ท่ามกลางดอกไม้สีเลือดนับร้อยที่เบ่งบานอยู่