บทที่ 97 โยนความผิดให้เทพเร้นลับทั้งแปด ราชวงศ์เทพหมื่นอสูร
หนิงฝานมาหยุดอยู่เบื้องหน้าหยางจิง จิตสังหารแผ่ซ่านไปทั่วร่างกายของเขา จนทำให้คนที่อยู่เบื้องหน้าถึงกับตัวสั่นเทาด้วยความหวาดกลัว
พรึ่บ!
หลังจากนั้นชายหนุ่มก็ยื่นมือไปคว้าลำคอหยางจิงไว้ ยกร่างของเขาขึ้นมา
“อย่า…อย่าฆ่าข้า”
หยางจิงขอร้องอ้อนวอนอย่างหวาดกลัว ทว่าหนิงฝานกลับค่อย ๆ ใช้มือบีบอีกฝ่ายจนดิ้นพล่านเพราะขาดอากาศหายใจ
เมื่อความตายใกล้เข้ามา สีหน้าของหยางจิงเปลี่ยนเป็นเจ็บปวดและขมขื่น
“ปล่อยข้าเถอะ ข้าเป็นองค์ชายของราชวงศ์ผานอู่ หากเจ้าฆ่าข้า ราชวงศ์ผานอู่ของข้าจะไม่มีวันปล่อยเจ้า เสด็จพ่อของข้าเป็นจักรพรรดิแห่งผานอู่ ปราชญ์ขั้นสูงสุด หากเจ้าฆ่าข้า เสด็จพ่อของข้าจักต้องล้างบางพระราชวังเทพขนนกเพื่อข้าแน่”
เมื่อได้ยินเช่นนั้น หนิงฝานพลันขมวดคิ้วเล็กน้อย
ส่วนหยางจิง เมื่อเห็นเช่นนี้แล้วก็เริ่มใจชื้น เขารู้สึกเหมือนว่าตนอาจรอดตายได้ จึงคิดอยากจะพูดข่มขู่ต่อ
กึก!
ทว่าผู้ใดจะไปรู้ หนิงฝานออกแรงบิดคออีกฝ่ายอย่างแรง และในขณะเดียวกันก็ใช้พลังทำลายวิญญาณของหยางจิงทันที
รูม่านตาของหยางจิงเบิกกว้างจนถลน มันเป็นสายตาที่ไม่อยากจะตาย!
เห็นได้ชัดว่า เขาไม่คาดคิดว่าหนิงฝานจะกล้าฆ่าเขา ทั้ง ๆ ที่เขาอ้างถึงชื่อผู้ปกครองผานอู่แล้ว
“องค์ชายใหญ่!”
ในตอนนี้ เมื่อเห็นว่าหยางจิงตายแล้ว สายตาของปราชญ์แห่งโลกันต์ทั้งสองก็ฉายแววหวาดกลัวขึ้นมาทันที
แม้ว่าหยางจิงจะได้ชื่อว่าเป็นพวกบ้าตัณหามากราคะ แต่อย่างไรเสีย เขาก็เป็นถึงองค์ชายใหญ่แห่งราชวงศ์ผานอู่
เมื่ออีกฝ่ายตายไป ในฐานะองครักษ์ พวกเขาย่อมหนีไม่พ้นโทษทัณฑ์อย่างแน่นอน
“เจ้ารู้ตัวหรือไม่ว่าเจ้ากระทำสิ่งใดลงไป!?”
“บังอาจสังหารองค์ชายใหญ่ของเรา! เจ้าไม่กลัวว่าราชวงศ์เทพขนนกและราชวงศ์ผานอู่จะก่อสงครามต่อกันหรือไร!”
ปราชญ์ทั้งสองแห่งโลกันต์ลั่นวาจาเสียงดัง ตรงกันข้ามกับภายในใจที่ค่อนข้างหวาดกลัว
ทว่าหนิงฝานในตอนนี้กลับแสยะยิ้มเยือกเย็น “จำไว้ องค์ชายใหญ่แห่งผานอู่ของพวกเจ้าถูกบุคคลลึกลับเข้าโจมตีจนเสียชีวิตระหว่างทาง คนลึกลับผู้นี้ถูกพวกเจ้าจู่โจมจนถอยหนีไป แต่กลับทิ้งเหรียญไว้”
พรึ่บ!
สิ้นเสียงเอ่ย หนิงฝานก็โยนเหรียญเหรียญหนึ่งให้ทั้งสองคน ด้านบนสลักอักษรคำว่า ‘แปดเร้นลับ’ ไว้
“นี่? เจ้าคิดโยนความผิดให้เทพเร้นลับทั้งแปดงั้นหรือ!”
“เจ้ามีสิทธิ์อะไร คิดว่าพวกเราจะทำอย่างนั้นหรือ?”
เมื่อมองไปที่คำสั่งของแปดเร้นลับ ปราชญ์ทั้งสองแห่งโลกันต์พลันขมวดคิ้วแน่น
“เพราะผู้อ่อนแอไม่สิทธิ์ปฏิเสธ”
หนิงฝานตอบเสียงเย็นชา กวักมือเรียกพระราชลัญจกรสองอันออกมา แล้วผลักเข้าไปในร่างของทั้งสองคน
ฟึ่บ! ฟึ่บ!
ในขณะที่ร่างของปราชญ์ทั้งสองแห่งโลกันต์สั่นสะท้าน ทุกอย่างในร่างกายของทั้งสองคนก็ถูกพระราชลัญจกรควบคุมไว้
“ตอนนี้เข้าใจแล้วหรือยัง?” หนิงฝานเอ่ยเสียงเย็น
“เข้าใจแล้ว” เมื่อมีพระราชลัญจกรอยู่ ปราชญ์ทั้งสองแห่งโลกันต์ก็คุกเข่าลงตามค่ำสั่ง
ชายหนุ่มพยักหน้า ก่อนจะก้าวเท้าไปยังทิศที่ราชรถจอดอยู่ หนิงฝานอุ้มหลัวชิงเซียนที่กำลังหลับเพื่อจะพานางกลับไปยังพระราชวังเทพขนนก
“ไม่ทราบว่าให้เรียกนายท่านว่าอย่างไร?” ในเวลานี้ปราชญ์ทั้งสองเอ่ยถามขึ้น
“จวินซ่าง”
หนิงฝ่านเอ่ย พลางอุ้มหลัวชิงเซียนแล้วหันหลังหายลับไป
“จวินซ่าง”
ปราชญ์ทั้งสองแห่งโลกันต์พึมพำเสียงเบา แล้วนำเหรียญแปดเร้นลับกลับไปยังราชวงศ์ผานอู่
…
วันรุ่นขึ้น ณ ตำหนักองค์หญิง
หลัวชิงเซียนเพิ่งจะฟื้นขึ้นมา ใจคอรู้สึกไม่ค่อยดีนัก ในความคิดของนางเหมือนกับว่าเวลายังหยุดอยู่เมื่อวานนี้
ทว่าเมื่อเห็นสิ่งแวดล้อมโดยรอบที่คุ้นเคย นางก็สับสนทันที
“เกิดอันใดขึ้น ข้าต้องอยู่บนเส้นทางระหว่างทางไปราชวงศ์ผานอู่ไม่ใช่หรือ?”
หลัวชิงเซียนไม่เข้าใจ ในหัวยังคงจำได้ว่าระหว่างทางนั้น หยางจิงทำตัวหยาบโลนใส่นาง นางจึงหยิบกริชศักดิ์สิทธิ์ออกมาด้วยหวังจะฆ่าตัวตาย ทว่าเหตุใดเพียงลืมตาขึ้นอีกครั้งก็กลับมาอยู่ที่ตำหนักองค์หญิงเสียแล้ว
แต่เพราะคิดอย่างไรก็คิดไม่ออก หลัวชิงเซียนจึงลงจากเตียงและเดินไปเปิดประตูห้อง
แอด…
เมื่อประตูห้องถูกเปิด สายตาของหลัวชิงเซียนพลันทอดมองออกไปก่อนจะเห็นภายในโถงมีคนอยู่มากมาย ทั้งหนิงฝาน องค์ชายทั้งห้า รวมถึงปราชญ์ยุทธ์ทั้งหกแห่งราชวงค์
เมื่อเห็นหลัวชิงเซียน หนิงฝานเผยยิ้มเล็กน้อย “ภรรยา เจ้าตื่นแล้วหรือ?”
“สามี เหตุใดข้าถึงได้กลับมา…” หลัวชิงเซียนถามอย่างสงสัย
หนิงฝานกลับอธิบายด้วยรอยยิ้ม “ภรรยา เป็นจวินซ่างที่ไปช่วยเจ้า”
“จวินซ่างงั้นหรือ?” หลิวชิงเซียนกระจ่างแจ้งในทันที มิน่าเล่าตนเองถึงกลับมาได้ เพราะจวินซ่างไปช่วยไว้นี่เอง
ในตอนนี้เอง องค์ชายทั้งห้าและปราชญ์ยุทธ์ทั้งหกแห่งราชวงค์ก็ถามขึ้นมา
“องค์หญิง ท่านจำได้หรือไม่ว่าจวินซ่างลงมือเช่นไร?”
“ท่านได้เห็นจวินซ่างตัวเป็น ๆ หรือไม่ เขาไปช่วยท่านไว้ ช่วยกอบกู้หน้าตาราชวงศ์เทพขนนกของเราได้ไม่น้อย”
“น้องหญิง จวินซ่างทิ้งช่องทางติดต่อใด ๆ ไว้ให้เจ้าหรือไม่ หลายปีมานี้จวินซ่างช่วยเหลือราชวงศ์ของเราไว้มากมาย พวกเราควรจะขอบคุณเขาเสียหน่อย”
“…”
หลัวชิงเซียนส่ายหน้าให้ทุกคนที่ถาม “ข้าไม่เห็นร่างของจวินซ่างเลย ทั้งยังไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเขาลงมือตั้งแต่เมื่อใด จำได้เพียงว่าตอนนั้นข้ารู้สึกง่วงนอนมาก และเมื่อตื่นขึ้นมาก็กลับมาอยู่ที่ตำหนักองค์หญิงแล้ว”
เมื่อเห็นว่าหลัวชิงเซียนไม่รู้จริง ๆ ทุกคนทำได้เพียงยอมแพ้ไป
ปราชญ์ยุทธ์ทั้งหกแห่งราชวงศ์ไถ่ถามหลัวชิงเซียนอย่างห่วงใยอีกไม่กี่ประโยค แล้วจึงเดินออกจากตำหนักองค์หญิง
องค์ชายทั้งห้าเองก็ตามออกไปด้วย ในตอนนี้จึงเหลือเพียงหนิงฝานและหลัวชิงเซียนเท่านั้น
เพียงแต่หลังจากที่องค์ชายทั้งห้าออกไปแล้ว พวกเขาก็รวมตัวกันอีกครั้งอย่างลับ ๆ
“หึ ๆ จริงอย่างที่พี่ใหญ่บอก สุดท้ายจวินซ่างก็ออกโรงช่วยหลัวชิงเซียน”
“ไม่ผิด หลัวชิงเซียนและจวินซ่างจะต้องมีความสัมพันธ์กันอย่างแน่นอน ไม่เช่นนั้นมันคงไม่มีเหตุผลอันใดที่จวินซ่างจะไปล่วงเกินราชวงศ์ผานอู่เพื่อนาง”
“หึ! อีกนิดเดียวก็เกือบจะเชื่อคำพูดของนางแพศยาหลัวชิงเซียนนั่นแล้ว ครานั้นบอกจะสละตำแหน่งผู้ปกครอง มาตอนนี้กลับไปร่วมมือกับจวินซ่าง นางคงต้องการจะรวบรวมอำนาจตอนที่ท่านพ่อไม่อยู่เป็นแน่”
นัยน์ตาของเหล่าองค์ชายยามนี้ล้วนมืดมนยิ่ง ความโกรธเคืองปะทุอยู่ในใจของพวกเขาไม่หยุด
ในเวลานี้เอง องค์ชายใหญ่หลินเทียนเยวี่ยนพลันเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงเยือกเย็น “ในเมื่อแน่ใจแล้ว เช่นนั้นก็อย่ากล่าวโทษที่พวกเราไร้ความปรานี มาหาโอกาสกำจัดหลัวชิงเซียนกันเถอะ เพราะคนตายย่อมไม่มีสิทธิ์ใด ๆ เหลืออีก”
ทุกคนพยักหน้า แววตาเต็มไปด้วยความอาฆาตมาดร้าย “เช่นนั้นแล้วตอนนี้พวกเราจะทำอย่างไรดี?”
หลินเทียนเยวี่ยนเอ่ยขึ้นมาอีกครั้ง “สำหรับสถานการณ์ตอนนี้ ข้ามีความคิดดี ๆ หนึ่งอย่าง บัดนี้มีจวินซ่างที่ไร้เทียมทานอยู่ เราไม่สามารถลงมือฆ่าหลัวชิงเซียนอย่างโจ่งแจ้งได้ หากทำให้เขาโกรธ ไม่แคล้วภัยคงมาถึงตัวพวกเรา ทว่าเราสามารถเปลี่ยนเป้าหมายเป็นราชบุตรเขยหนิงฝานได้ หากหนิงฝานช่วยเราฆ่าน้องหญิง มันจะเป็นเรื่องที่ดีมาก”
เมื่อได้ยินเช่นนั้น องค์ชายที่เหลือต่างขมวดคิ้ว “เสด็จพี่เลอะเลือนไปแล้วหรือ หนิงฝานกับหลัวชิงเซียนรักกันมากปานนั้น เขาจะมาช่วยเราฆ่าน้องหญิงได้อย่างไร?”
“พวกเจ้าลืมไปแล้วหรือว่ามารดาของหลัวชิงเซียน แม่นางหลัวผู้นั้นตายเช่นไร?” หลินเทียนเยวี่ยนกล่าวพลางแสยะยิ้มเยือกเย็น
เมื่อได้ยินเช่นนั้น ทุกคนก็คลายปมคิ้วออก
สำหรับการตายของแม่นางหลัว พวกเขาล้วนได้ฟังมา แม้ว่าจะเป็นคำสั่งขององค์จักรพรรดิที่เหมือนสั่งให้นางไปตาย แต่เมื่อคิดใคร่ครวญอย่างถี่ถ้วนแล้ว กลับเป็นเพราะผู้ปกครองแต่งงานกับปีศาจสาวคนนั้น
และร่างที่แท้จริงของปีศาจสาวคนนั้น เป็นจิ้งจอกเก้าหากที่มีชื่อเสียงที่สุดของราชวงศ์เทพหมื่นอสูร
หลินเทียนเยวี่ยนยังคงแสยะยิ้มเยือกเย็น “ยามนี้พวกเราสามารถติดต่อกับจิ้งจอกเก้าหางของราชวงศ์เทพหมื่นอสูรได้ เดิมทีพวกนางก็ใช้วิธีบนเตียงดูดซับปราณของผู้ฝึกยุทธ์เพื่อเพิ่มความแข็งแกร่งอยู่แล้ว ข้าเชื่อว่าหากพวกเรายื่นข้อเสนอรางวัลให้ พวกนางจะต้องยินดีช่วยพวกเราล่อลวงหนิงฝานเป็นแน่ เพียงแค่ล่อลวงให้หนิงฝานลุ่มหลง เขาจะต้องลงมือฆ่าหลัวชิงเซียนแน่ แล้วพวกเราค่อยใช้ประโยชน์จากเรื่องนี้ฆ่าหนิงฝาน เมื่อถึงตอนนั้นก็จะไม่มีหลักฐานใด ๆ และจะไม่มีใครรู้ว่าเป็นแผนการของพวกเรา”
“ดี”
“เป็นแผนการที่ดี”
ในท้ายที่สุด เหล่าองค์ชายก็พยักหน้าและเริ่มลงมือตามที่วางแผน