ตอนที่ 100 มังกรทั้งห้าออกมาต่อสู้ประชิดตัวอย่างดุเดือดในยามดึกยามดื่น
ณ พระราชวังเทพขนนก
องค์ชายมังกรทั้งห้ามารวมตัวกันโดยมีองค์ชายใหญ่หลินเทียนเยวี่ยนเป็นผู้นำ แม้ภายนอกจะดูเหมือนว่าพวกเขาหารือเรื่องงานราชกิจ แต่กลับแอบรอข่าวดีจากจิ้งจอกเก้าหางอย่างลับ ๆ
พรึ่บ!
ทันใดนั้น เครื่องรางส่งสารในมือขององค์ชายใหญ่หลินเทียนเยวี่ยนก็มีข่าวส่งมา เขาตรวจสอบในทันที
สีหน้าหลินเทียนเยวี่ยนเปี่ยมไปด้วยความยินดีและเขาก็เอ่ยว่า “สำเร็จแล้ว! สายข่าวลับส่งข่าวมาแล้ว จิ้งจอกเก้าหางล่อลวงหนิงฝานได้สำเร็จแล้ว!
“เยี่ยม!”
“ดูเหมือนว่าใช้เวลาเพียงไม่กี่วัน พวกเราก็จะจัดฉากหนิงฝานฆ่าภรรยาได้แล้ว”
เมื่อเหล่าองค์ชายได้ยินดังนั้น ต่างก็มีสีหน้าเย้ยหยันปรากฏออกมา
ทว่าจู่ ๆ ในเวลานี้เองพลันมีอีกข่าวส่งเข้ามา องค์ชายหลินเทียนเยวี่ยนกลับขมวดคิ้ว ก่อนจะเอ่ยขึ้นว่า “สายข่าวลับส่งข่าวมาอีกว่า จิ้งจอกเก้าหางบอกว่าเงินรางวัลน้อยไป อยากให้พวกเราเพิ่มรางวัลอีก มิหนำซ้ำ นางยังอยากให้พวกเราไปเจอนางที่ฐานที่มั่นลับด้วยตนเอง ไม่เช่นนั้นนางจะยุติภารกิจทั้งหมด”
“หา?”
เมื่อได้ยินดังนั้น เหล่าองค์ชายต่างพากันขมวดคิ้วเป็นปม เพราะพวกเขาค่อนข้างอารมณ์เสียที่ต้องจ่ายตามข้อเรียกร้องของจิ้งจอกเก้าหาง
แต่เพื่อให้แผนการสำเร็จลุล่วง พวกเขาจำต้องตัดสินใจไปด้วยตัวเองสักครั้ง
เพราะอย่างไร แผนการนี้ก็สำเร็จมาแล้วครึ่งทาง หากยุติตอนนี้ ไม่เพียงรางวัลที่จะหักไปหลายส่วนแล้ว แผนการนั้นยังจะพังอีก
มันไม่คุ้มค่า!
…
ค่ำคืนวันถัดมา
องค์ชายมังกรทั้งห้าเปลี่ยนอาภรณ์ ทุกคนต่างใส่ชุดคลุมสีดำขนาดใหญ่เพื่อปิดบังใบหน้าไว้
ในฐานะองค์ชายมังกรทั้งห้าที่บัดนี้เป็นผู้ควบคุมพระราชวังเทพขนนก พวกเขาไม่สามารถแสดงตนอย่างเปิดเผยได้
“ไป”
หลังจากนั้น ภายใต้คำสั่งขององค์ชายใหญ่หลินเทียนเยวี่ยน เหล่าองค์ชายมังกรทั้งห้าค่อย ๆ หายออกไปจากพระราชวังเทพขนนก เดินทางไปสู่สถานที่แห่งหนึ่งในเมืองเทพ
ครู่ใหญ่ ทั้งห้าคนก็มาถึงสวนแห่งหนึ่งที่มีแสงไฟสว่างไสว
สวนแห่งนี้มีรั้วรอบขอบชิด อีกทั้งภายในยังมีหอนางโลม โรงละคร บ่อนการพนันอยู่ ผู้คนเข้าออกกันอย่างครึกครื้น และฐานที่มั่นลับก็ตั้งอยู่ในเมืองเทพแห่งนี้!
ทั้งห้าคนเข้าไปในสวน ไม่นานก็มาถึงหอคอยแห่งหนึ่ง
นี่คือฐานที่มั่นลับ
เมื่อเข้าไปในหอคอยก็มีสาวใช้มาหยุดพวกเขาไว้พลางเอ่ยถาม
หลังจากแจ้งนามแล้ว สาวใช้ของที่นี่ก็พาทั้งห้าคนไปยังห้องห้องหนึ่ง
“นายท่าน ผู้ที่นายท่านนัดหมายไว้อยู่ในห้องนี้เจ้าค่ะ”
เมื่อสาวใช้พูดจบแล้ว นางก็เดินจากไปทันที
องค์ชายทั้งห้าชำเลืองมองตากัน หลังจากนั้นหลินเทียนเยวี่ยนก็เป็นผู้ก้าวไปเคาะประตู
“เข้ามา”
น้ำเสียงเกียจคร้านดังออกมาจากข้างใน
ทั้งห้าคนผลักประตูเข้าไป
พรึ่บ!
เมื่อเดินเข้ามาในห้อง ทั้งห้าคนก็สัมผัสได้ถึงกลิ่นหอมสดชื่นพุ่งเข้าใส่ใบหน้าพวกเขา
ภายในห้องมีเทียนไขสีแดงหลายอันถูกจุดและวางไว้บนโต๊ะ แสงสว่างจากเปลวเทียนไขทำให้หลายคนมองเห็นได้ชัดเจนขึ้น
เมื่อทั้งห้าคนมองไปที่เตียงภายในห้องก็ต้องตกใจในทันที
ผ้าม่านผืนโปร่งซึ่งสามารถมองทะลุผ่านได้ เมื่อบุรุษทั้งห้ามองเข้าไปก็เห็นหญิงสาวคนหนึ่งนอนอยู่บนเตียง ร่างอรชรสั่นเทาเล็กน้อย เงาร่างที่ลอดผ่านม่านโปร่งดูเว้าโค้ง น่าดึงดูดใจเป็นอย่างมาก!
“ขอกล่าวถาม แม่นางคือจิ้งจอกเก้าหางแห่งราชวงศ์เทพหมื่นอสูรที่เป็นผู้ทำภารกิจของพวกเราใช่หรือไม่?”
ในเวลานี้เอง องค์ชายใหญ่หลินเทียนเยวี่ยนพลันก้าวไปข้างหน้าเพื่อซักถาม
“ใช่”
นางเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงเฉื่อยชา มือนวลดั่งหยกเลิกม่านโปร่งขึ้น ก่อนสาวงามซึ่งดูสูงศักดิ์จะปรากฏตัวต่อสายตาของทั้งห้าคน ร่างกายมีเพียงผ้าลื่นผืนบางเบาปกคลุม เผยเรือนร่างใต้ร่มผ้าที่มีส่วนเว้าโค้งและผิวพรรณขาวราวหิมะ จากนั้นหางจิ้งจอกก็เคลื่อนไหวอย่างพลิ้วไหว
มิหนำซ้ำดวงตาคู่นั้นของจิ้งจอกสาวยังเปล่งประกายและเต็มไปด้วยเสน่ห์เย้ายวนยิ่ง
พรึ่บ!
เมื่อเห็นจิ้งจอกสาวปรากฏกาย คนทั้งห้าที่นำโดยหลินเทียนเยวี่ยนพลันถูกดึงดูดในทันที
แม้แต่ยามนี้ พวกเขาก็ลืมจุดประสงค์ของการเดินทางมาในครั้งนี้ของพวกเขาเสียแล้ว ราวกับว่าในโลกนี้เหลือเพียงสาวงามตรงหน้าเท่านั้น
“ข้างามหรือไม่?”
ในเวลานี้ จิ้งจอกเก้าหางเอ่ยพูดอีกครั้ง น้ำเสียงนุ่มนวลล่องลอยผ่านหูของทั้งห้าคน ทำให้ร่างกายของพวกเขาสั่นสะท้านอย่างรุนแรง จนวิญญาณแทบจะออกจากร่าง
“งามยิ่งนัก!”
ทั้งห้าคนพยักหน้า สายตาของทุกคนลุกโชนไปด้วยเพลิงเสน่หา
จิ้งจอกเก้าหางเอ่ยขึ้นอีกว่า “คุณชายทั้งห้า ค่ำคืนที่เปล่าเปลี่ยวเช่นนี้ ไม่สู้พวกเรามาใช้เวลาในคืนฤดูใบไม้ผลิด้วยกันเล่า”
“ได้” องค์ชายทั้งห้าพยักหน้ารับอย่างบ้าคลั่ง นัยน์ตาปรากฏประกายแสงสีแดง เพราะตกอยู่ภายใต้มนต์เสน่ห์ของจิ้งจอกเก้าหางแล้ว
“ในเมื่อเป็นเช่นนี้ ไยยังไม่รีบเข้ามาอีกเล่า…”
จิ้งจอกเก้าหางเกี่ยวเรียวนิ้วของทั้งห้าคน หลังจากนั้นก็ไปซ่อนตัวอยู่หลังม่านโปร่งบางอีกครั้ง
พรึ่บ!
เมื่อเห็นเช่นนี้แล้ว คนทั้งห้าก็รีบวิ่งเข้าไปหลังม่านโปร่งบางทันที จากนั้นเสื้อผ้าอาภรณ์ก็ปลิวว่อนออกมา ผ่านไปหลายเค่อ การเคลื่อนไหวรุนแรงบนเตียงก็ดังออกมาไม่หยุด
วูบ!
ในตอนนี้เอง จู่ ๆ แสงศักดิ์สิทธิ์พลันส่องประกายพร่างพราวออกมาจากหลังผ้าม่านโปร่ง ก่อนที่ลมปีศาจจะพัดผ่านไป เพียงชั่วพริบตา ภายในห้องก็ว่างเปล่าไร้ซึ่งเงาผู้คนอีกต่อไป
ขณะเดียวกันที่หน้าสวนฐานลับ จู่ ๆ คณิกา นักพนัน และบัณฑิต ต่างหลั่งไหลเข้ามาภายในนับไม่ถ้วน
พรึ่บ!
ทันใดนั้นเอง แสงศักดิ์สิทธิ์ที่ส่องประกายพร่างพราวก็ดึงดูดความสนใจของผู้คนมากมาย
เปรี๊ยะ เปรี๊ยะ!
ได้ยินเพียงเสียงลำแสงแตกหักและเสียงกระทบกันของเนื้อกาย ด้วยเสียงแปลก ๆ นี่เองที่ทำให้สีหน้าของคนหลายคนประหลาดใจไปตาม ๆ กัน
ไม่นาน ภายใต้การจ้องมองของผู้คนนับไม่ถ้วน กระแสแสงค่อย ๆ ริบหรี่ลง แล้วฉากที่ทุกคนพยายามจ้องมองก็ปรากฏออกมาให้เห็น
บุรุษทั้งห้าคนมีผิวพรรณผุดผาดและอยู่ในสภาพเนื้อตัวเปลือยเปล่า พวกเขากำลังโรมรันกันอย่างดุเดือดด้วยทวงท่าที่แตกต่างกัน ที่สำคัญคือดวงตาของทุกคนกลายเป็นสีแดงของโลหิต!
“สุดยอด!”
“บุรุษห้าคนอยู่ด้วยกัน ไม่น่ามองเท่าใดเลย”
“จุ๊ ๆ ข้าอยู่ที่นี่มาอย่างน้อยก็ยี่สิบปีแล้ว ล้วนเคยพบเจอทั้งหนึ่งชายหลายหญิง หรือจะหลายชายหนึ่งหญิงก็เจอมาแล้ว แต่ไม่เคยเจอชายห้าคนอยู่ด้วยกันเลย”
“สวรรค์ รุนแรงเกินไปแล้ว เลือดประตูหลั่งไหลเป็นแม่น้ำเลย”
“…”
เมื่อเห็นฉากนี้ ผู้คนนับไม่ถ้วนต่างพากันอุทาน ถกเถียงกันไม่หยุด
แล้วทันใดนั้นเอง พลันมีคนร้องตกใจออกมา “เพ่ย! พวกเขาทั้งห้าคนคือองค์ชายมังกรทั้งห้าแห่งราชวงศ์เทพขนนกในปัจจุบันไม่ใช่หรอกหรือ!?”
น้ำเสียงตกใจนี้ดึงดูดให้คนเพ่งดูภาพเบื้องหน้าอย่างละเอียด
“บัดซบ! เป็นองค์ชายห้ามังกรจริง ๆ!”
“องค์ชายใหญ่หลินเทียนเยวี่ยน องค์ชายสามหลินเฟิงอวิ๋น องค์ชายหกหลินซิงเซียว องค์ชายเจ็ดหลินเอ้าซื่อ องค์ชายเก้าหลินซวนเฉิน”
“ไม่คิดเลยว่าองค์ชายมังกรทั้งห้าผู้มีเกียรติจะทำเช่นนี้ลงไปได้!”
“น่าประหลาดใจจริง ๆ มังกรทั้งห้าแห่งราชวงศ์กลับมาทำเรื่องอุกอาจเช่นนี้ต่อหน้าธารกำนัล!”
“…”
ฐานะขององค์ชายมังกรทั้งห้า ทำให้ภายในห้องคึกคักขึ้นมามากขึ้น ซ้ำยังดึงดูดคนเข้ามามากมาย
ผ่านไปสักพัก ประตูของสวนก็เต็มไปด้วยผู้คน
ภายใต้สายตาแปลกประหลาดของผู้คนนับไม่ถ้วน หลังจากองค์ชายมังกรทั้งห้าพัวพันดุเดือดกันอยู่ครู่หนึ่ง พวกเขาก็ได้จิตวิญญาณกลับมาทีละคน
“เฮือก!”
ดวงตาที่พร่ามัวค่อย ๆ จางหายไป ใบหน้าองค์ชายมังกรทั้งห้าเผยความมัวเมาที่สุขสม
และในเวลานี้ คนทั้งห้าก็ค่อย ๆ ได้สติกลับคืนมา
“หา!”
เมื่อพวกเขาเห็นความยุ่งเหยิงของตนเอง องค์ชายทั้งห้าที่เพิ่งจะมีสติกันพลันตกตะลึงทันที และเมื่อบุรุษทั้งห้าเงยหน้าขึ้นก็พบกับสายตาของผู้คนนับไม่ถ้วนที่จับจ้องมา
ตู้ม!
ทันใดนั้น จิตใจของคนทั้งห้าส่งเสียงว่าแย่แล้ว และหดหู่ไปโดยสมบูรณ์