ตอนที่ 102 พิธีเทพขนนก ปราชญ์นับร้อยร่วมงานเฉลิมฉลอง
ในวันนี้ตามคำสั่งของราชวงศ์ ทูตขนนกนับไม่ถ้วนนำคำเชิญจากพระราชวังออกไปทั่วทุกสารทิศ
ขุมกำลังใต้อาณัติ
เหล่าเชื้อพระวงศ์และขุนนาง
ร้อยอาณาจักรแนวร่วมของเทพขนนก
ราชวงศ์ที่ยิ่งใหญ่ทั้งสาม ผานอู่ เทพเร้นลับทั้งแปด และเทพหมื่นอสูร
เมื่อพิธีของราชวงศ์กำลังจะเริ่มขึ้น ทุกคนในเมืองเทพต่างก็มีชีวิตชีวาขึ้นมา
พิธีของราชวงศ์เป็นพิธีที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของราชวงศ์เทพขนนก โดยพันปีจะจัดหนึ่งครั้ง เป็นธรรมดาที่งานเฉลิมฉลองนี้จะอลังการและมากไปด้วยผู้คน
“พิธีของราชวงศ์งั้นหรือ?”
เมื่อได้ยินข่าว หนิงฝานที่บำเพ็ญเพียรอยู่ในตำหนักองค์หญิงพลันขมวดคิ้วแน่น
นับตั้งแต่สมัยโบราณมา มีอยู่หลายครั้งที่งานเลี้ยงนำพาความวุ่นวายเข้ามา แม้แต่งานเลี้ยงเทพขนนกครั้งก่อนก็ก่อเกิดความปั่นป่วนยิ่ง ไม่ต้องพูดถึงพิธีสูงสุดในครั้งนี้
ทว่าหลังจากขมวดคิ้วแล้ว ชายหนุ่มก็ไม่ได้คิดเรื่องใดอีก
ทหารมาใช้ขุนพลต้านรับ น้ำมาใช้ดินต้าน*[1]
การบ่มเพาะของเขาในยามนี้ แม้จะต้องเผชิญหน้ากับจักรพรรดิหลินไท่ซูที่แข็งแกร่ง เขาก็ไม่ได้อ่อนด้อยเลย
ห้วงเวลาผ่านไป ทุกคนได้รับคำเชิญจากเทพขนนกกันเป็นที่เรียบร้อย
และหลาย ๆ คนก็เริ่มเตรียมตัวสำหรับพิธีของเทพขนนก
ส่วนราชวงศ์ที่ยิ่งใหญ่อย่างผานอู่ เทพเร้นลับทั้งแปด และเทพหมื่นอสูรก็ได้รับคำเชิญจากทูตที่นำมาส่งหลังจากนั้นหลายวัน
ณ พระราชวังผานอู่
ผู้ปกครองผานอู่นั่งอยู่บนบัลลังก์ผานหลง ในมือของเขาถือคำเชิญเอาไว้
“น่าสนใจดีนี่ ราชวงศ์เทพขนนกโชคลาภหนึ่งหมื่นแปดพันปีของจักรพรรดิใกล้จะหมดลงแล้ว พวกเขายังกล้าที่จะจัดพิธีของราชวงศ์อีก”
“ในเมื่อเป็นเช่นนี้ ราชวงศ์ผานอู่ของข้าก็ไม่มีเหตุผลที่จะไม่ไป”
“จงฟังคำสั่งข้า ปราชญ์ทั้งสิบพร้อมด้วยง้าวเทพผานอู่ จงไปส่งโชคลาภของจักรพรรดิเทพขนนกเป็นครั้งสุดท้ายกัน”
…
อีกด้าน เทพเร้นลับทั้งแปด
ณ พระราชวังเทพ ผู้ปกครองแห่งเทพเร้นลับทั้งแปดก็กำลังดูคำเชิญจากเทพขนนกอยู่เช่นกัน
“หึ หลินไท่ซู่กำลังปิดด่านฝึกตนเผชิญหน้ากับช่วงเวลาแห่งความตาย โชคลาภของเทพขนนกกำลังจะหมดไป ราชวงศ์เทพขนนกช่างกล้าเสียจริงที่เชื้อเชิญราชวงศ์เทพเร้นลับทั้งแปดไป”
“สี่ราชวงศ์ใหญ่อยู่ร่วมกันมาเนิ่นนาน ราชวงศ์เทพเร้นลับทั้งแปดย่อมต้องเข้าร่วมอยู่แล้ว ผู้ใดก็ได้จงเข้ามา นำกระจกเทพแปดดินแดนไปส่งโชคลาภของจักรพรรดิเทพขนนกเป็นครั้งสุดท้ายกัน”
…
ฝั่งราชวงศ์เทพหมื่นอสูร ณ หุบเขาเทพหมื่นอสูร
เสือดำตัวใหญ่ราวภูเขากำลังยืนอยู่บนยอดเขา ปีศาจและสัตว์อสูรนับไม่ถ้วนล้วนหมอบอยู่ใต้ล่าง
นี่คือผู้ปกครองสูงสุดแห่งราชวงศ์เทพหมื่นอสูร
“ฮ่า ๆๆ!”
เมื่อผู้ปกครองเทพหมื่นอสูรอ่านคำเชิญเทพขนนกแล้วก็หัวเราะออกมาเสียงลั่น เสียงนั้นดังกึกก้องฟ้าราวกับสายฟ้าฟาดที่ดังอึกทึกครึกโครมไปทั่วบริเวณ
“ราชวงศ์เทพหมื่นอสูร หลินไท่ซู่ ราชวงศ์ใหญ่ทั้งสามของพวกเราคอยผสมโรงมาตั้งหลายปี เดิมทีอยากรอให้โชคลาภหนึ่งหมื่นแปดพันปีของจักรพรรดิสลายหายไปเอง ไม่คิดเลยว่าพวกเจ้ายังจะกล้าจัดพิธียิ่งใหญ่ของเทพขนนกอีก”
“ในเมื่อเป็นเช่นนี้ จงรับคำสั่ง นำเจดีย์เทพหมื่นอสูรไปส่งโชคลาภของจักรพรรดิเทพขนนกเป็นครั้งสุดท้ายกัน!”
…
เมื่อผู้ปกครองทั้งสามราชวงศ์ที่ยิ่งใหญ่สั่งให้ไปร่วมพิธีของเทพขนนก เมืองเทพก็เริ่มเต็มไปด้วยความผันผวน
แตกต่างไปจากงานเฉลิมฉลองเทพขนนก เพราะพิธีเทพขนนกต้องเผชิญหน้ากับโลกภายนอกด้วย
พิธียิ่งใหญ่จะถูกจัดขึ้นที่จัตุรัสอันกว้างขวางใจกลางเมืองเทพ และในเวลานั้นผู้คนจากทั้งเมืองเทพจะมาร่วมพิธี
นี่นับว่าเป็นพิธีที่ยิ่งใหญ่มาก ในราชวังเทพขนนกจึงระดมกำลังคนและทรัพยากรมากมายมาเริ่มตกแต่งทั้งเมืองเทพ
เมื่อเป็นเช่นนั้น แต่ละวันที่ผ่านไป ทั้งเมืองเทพจึงเริ่มครึกครื้นขึ้นเรื่อย ๆ
ไม่นานนัก ภายใต้การรอคอยของผู้คนจำนวนมาก หลังจากสามเดือนต่อมาพิธีเทพขนนกก็เริ่มต้นขึ้น
วันนี้ ยามเช้าตรู่
เหง่งหง่าง!
เสียงระฆังนับร้อยดังขึ้น สะเทือนไปทั่วท้องฟ้าในยามเช้า
ผู้คนมากมายในเมืองเทพทยอยกันออกมา ฝูงชนที่หนาแน่นจากจตุรัสเมืองเทพยาวไปจนถึงประตูเมืองเทพ
ณ เวลานี้ ในลานพิธี
ราชวงศ์เทพขนนก เหล่าแม่ทัพและขุนนางล้วนแต่งกายด้วยชุดสำหรับงานเฉลิมฉลอง
ปราชญ์ยุทธ์แห่งราชวงศ์เองก็ปรากฏตัวเช่นกัน
ขันทีเว่ย เว่ยเสวียน อวี้เฉิง รวมถึงยังมีปรมาจารย์ทั้งสาม ผู้อาวุโสเฟิง ผู้อาวุโสอวิ๋น และผู้อาวุโสเทียน
นอกจากนี้แล้ว บรรพบุรุษของจักรพรรดิเก้ามังกรก็ตื่นจากการหลับใหลเช่นกัน
สำหรับพิธีของเทพขนนกครานี้ ปราชญ์ยุทธ์แห่งราชวงศ์ย่อมไม่กล้าประมาท!
ยามนี้ทุกสายตาต่างจับจ้องไปยังปลายทางเดินที่ปูพรมด้วยผ้าดิ้นสีแดงจนถึงหน้าประตูเมืองเทพ
“เปิดประตูเมือง ยินดีต้อนรับแขกทุกท่านที่มาร่วมพิธีเทพขนนก!”
เมื่อเสียงตะโกนของขุนนางพิธีการดังขึ้น ประตูขนาดยักษ์ที่สูงตระหง่านของเมืองเทพก็ถูกเปิดออกทันที
“ขอเชิญเหล่าเชื้อพระวงศ์และเหล่าขุนนางจากต่างเมืองเข้าร่วมพิธีเทพขนนก!”
เมื่อเสียงตะโกนดังขึ้น เหล่าเชื้อพระวงศ์และเหล่าขุนนางจากต่างเมืองที่รออยู่ด้านนอกก็เดินเหยียบพรมแดงเข้ามา
แล้วเมื่อคนกลุ่มนี้เดินเข้ามา ขุนนางพิธีการก็ตะโกนอีกครั้ง “ขอเชิญกองกำลังภายในของอาณาจักรเทพ เข้าร่วมพิธีเทพขนนก!”
ผู้ฝึกยุทธ์กลุ่มหนึ่งในเครื่องแต่งกายดินแดนศักดิ์สิทธิ์เดินเข้ามา นำโดยปราชญ์ยุทธ์ทั้งเจ็ด ทวงท่าย่างกรายอกผายไหล่ผึ่งดูน่าเกรงขาม ทั่วร่างเปี่ยมไปด้วยบารมีศักดิ์สิทธิ์ ผู้นำของเจ็ดมหาดินแดนศักดิ์สิทธิ์คือ จักรพรรดิเทียนซูแห่งดินแดนศักดิ์สิทธิ์เทียนซู
หลังจากนั้นขุนนางพิธีการก็ตะโกนต่อ “ขอเชิญบรรพชนของราชาทั้งสิบที่ยิ่งใหญ่เข้าร่วมพิธีเทพขนนก!”
กลุ่มคนอีกกลุ่มหนึ่งเดินเข้ามา พวกเขาเป็นคนของหัวเมืองที่ยิ่งใหญ่ทั้งสิบ นำโดยบรรพชนปราชญ์ยุทธ์ของราชาทั้งสิบ
แม้ว่าบรรพชนทั้งสิบจะพยายามยับยั้งพลังของตนเต็มที่ขณะก้าวเดิน แต่ไม่ว่าจะผ่านไปที่ใดก็ยังทำให้ผู้คนในเมืองเทพทั้งสองฟากถนนรู้สึกถูกสะกดข่มอยู่ดี
“ขอเชิญร้อยอาณาจักรเข้าร่วมพิธีเทพขนนก!”
มีเสียงตะโกนดังขึ้นอีกครั้ง
กลุ่มคนที่มีลักษณะเฉพาะและแตกต่างกันมากมายพลันเดินเข้าไป ผู้นำของพวกเขาต่างแสดงพลังอำนาจออกมาให้เห็น ซึ่งก็คือจักรพรรดิของร้อยอาณาจักรนั่นเอง
เมื่อปราชญ์ยุทธ์หลายร้อยคนมารวมตัวกัน พลังมหาศาลที่ปนเปกันเหล่านี้ทำให้พวกเขาดูน่าสะพรึงกลัวมากยิ่งขึ้น
เหล่าจักรพรรดิแห่งเจ็ดมหาดินแดนศักดิ์สิทธิ์
เหล่าบรรพชนของราชาทั้งสิบ
จักรพรรดิจากร้อยอาณาจักรทั้งร้อยคน
ปราชญ์ยุทธ์มากกว่าร้อยคนมารวมตัวกันที่พิธีเทพขนนก และรายนามที่น่าอัศจรรย์นี้ก็ทำให้ผู้คนนับไม่ถ้วนที่เฝ้าดูพิธีอยู่ทั้งสองฝั่งของถนนเริ่มกระซิบกระซาบกัน
“สวรรค์! ปราชญ์ยุทธ์ทั้งเจ็ด ปราชญ์ยุทธ์ทั้งสิบ ปราชญ์ยุทธ์ทั้งร้อย”
“ชั่วชีวิตนี้… ไม่สิ! หลายชาติภพของข้ายังไม่เคยได้เห็นปราชญ์ยุทธ์จำนวนมากมายขนาดนี้มาก่อน!
“ปราชญ์ยุทธ์มากกว่าร้อยคน จะน่ากลัวเกินไปแล้ว!”
“ฮ่า ๆ ได้เห็นฉากนี้แล้ว แม้นตายก็ไม่เสียใจ!”
“…”
ท่ามกลางเสียงเซ็งแซ่ของฝูงชน ปราชญ์ยุทธ์มากกว่าร้อยคนรีบก้าวเดินไปยังจตุรัสเมืองเทพ
“ทุกท่าน! ยินดีต้อนรับเข้าสู่พิธีเทพขนนก เชิญเข้ามานั่งได้”
ในเวลานี้เอง ปราชญ์ยุทธ์แห่งราชวงศ์ซึ่งนำโดยบรรพบุรุษของจักรพรรดิเก้ามังกรต่างประสานมือทักทายกับจักรพรรดิทั้งเจ็ดแห่งดินแดนศักดิ์สิทธิ์ บรรพชนทั้งสิบ และจักรพรรดิจากร้อยอาณาจักร
ปราชญ์ยุทธ์กว่าร้อยคนล้วนพยักหน้าตอบ แต่ไม่พูดอะไร พวกเขาเพียงนั่งลงเท่านั้น
เมื่อเห็นเช่นนั้น ขันทีเว่ยกับคนอื่น ๆ อดที่จะถอนหายใจไม่ได้
พวกเขารู้ดีว่าคนตรงหน้าเหล่านี้ภักดีต่อจวินซ่างเท่านั้น หากไม่ใช่เพราะเขา ราชวงศ์เทพขนนกที่จักรพรรดิหลินไท่ซูกำลังปิดด่านฝึกตนอยู่ย่อมมิอาจสยบพวกเขาได้อีก
แม้ว่าคนเหล่านี้จะภักดี แต่บรรดาปราชญ์ยุทธ์แห่งราชวงศ์ไม่ได้ผ่อนคลายจิตใจที่ระแวดระวังเลย เพราะทราบว่าตัวเอกของวันนี้ไม่ใช่พวกคนตรงหน้า แต่เป็นราชวงศ์ที่ยิ่งใหญ่ทั้งสามนั่นคือ ผานอู่ เทพเร้นลับทั้งแปด และเทพหมื่นอสูร
ยามนี้เอง ขุนนางพิธีการเอ่ยเสียงดังขึ้นอีกครั้ง
“ขอเชิญราชวงศ์ผานอู่ เข้าร่วมพิธีเทพขนนก!”
“ขอเชิญราชวงศ์เทพเร้นลับทั้งแปด เข้าร่วมพิธีเทพขนนก!”
“ขอเชิญราชวงศ์เทพหมื่ออสูร เข้าร่วมพิธีเทพขนนก!”
*[1] ทหารมาใช้ขุนพลต้านรับ น้ำมาใช้ดินต้าน หมายถึง ไม่ว่าจะมาวิธีไหนก็สามารถรับมือได้