หนึ่งฝ่ามือสยบโลกา A World Worth Protecting – ตอนที่ 650

ตอนที่ 650

อย่างงามถ้าสามารถปฏิบัติภารกิจนี้ได้สำเร็จ ทำให้มีแรงจูงใจเพียงพอที่จะลองเสี่ยง!”

แม่นางน้อยอธิบายอย่างละเอียด น้ำเสียงของนางดูสุขุมนุ่มนวล ไม่ได้แฝงไว้ซึ่งความหนักใจ หวังเป่าเล่อกะพริบตา เขาเห็นด้วยกับการคาดการณ์ของแม่นางน้อย แต่ก็รู้จักนิสัยนางดี ถ้านางอธิบายละเอียดเช่นนี้แสดงว่านางต้องมีทางออก ชายหนุ่มกระแอมไอ เอ่ยชมสักพักหนึ่งก็ถามถึงหนทางจัดการกับสถานการณ์นี้อย่างกังวลใจ

“ง่ายจะตาย ก็แค่เรียกหาศิษย์พี่ของเจ้า เขาคงจัดการได้ด้วยคมดาบเดียว” แม่นางน้อยแค่นเสียงไม่พอใจกับการเอ่ยชมของชายหนุ่ม

หวังเป่าเล่อเงียบไป ถึงจะรู้ว่านั่นคือวิธีที่ง่ายที่สุด แต่เขาก็ไม่รู้ว่าจะเรียกหาศิษย์พี่ได้อย่างไร จึงถอนหายใจพร้อมกับพูดขึ้น

“แล้วถ้าข้าลองขู่ผู้อยู่เบื้องหลังล่ะ ข้าจะบอกไปว่าศิษย์พี่ของข้าเป็นราชันลำดับหนึ่ง การสังหารข้าก็เท่ากับเป็นการฆ่าตัวตาย คิดว่าจะสำเร็จไหม”

แม่นางน้อยเริ่มรู้สึกผิดที่กวนชายหนุ่มไปเช่นนั้น ความคิดของเขาทำให้นางต้องแปลกใจ ถึงกระนั้นก็ดูจะเป็นแผนที่สมเหตุสมผล นางรีบพูดขึ้นอย่างเหนื่อยอ่อน “เลิกเสียเวลากับความคิดบ้าๆ เสียที ศัตรูของเจ้าอาจจะอยากฆ่าเจ้ามากขึ้นถ้าดันบอกไปว่าตัวเองเป็นใคร ตรงหน้าเจ้าคือโอกาสอันหายาก ถึงจะใส่ชุดไม่ได้ แต่เจ้าก็ดูดพลังออกมาได้ ใช้เมล็ดดูดกลืนสูบพลังปราณให้เหี้ยน เจ้าอาจจะช่วยตัวเองและคนอื่นๆ ให้รอดได้”

สิ่งที่นางพูดฟังไม่เห็นเข้าท่าเลยสักนิด หวังเป่าเล่อกำลังจะเอ่ยถามรายละเอียดเพิ่ม แต่แม่นางน้อยก็เงียบหายไป ไม่รู้ว่านางหลับใหลไปอีกครั้งหรือแค่แสร้งทำ

ชายหนุ่มถอนหายใจ ครุ่นคิดอยู่พักหนึ่งดวงตาก็ฉายแววมุ่งมั่น การประกาศตัวตนของตนเองดูจะเป็นการเสี่ยงเกินไป หากไม่เข้าตาจนจริงๆ ก็คงไม่น่าจะต้องใช้วิธีนี้ ดูดพลังจากชุดคลุมออกศึกน่าจะเป็นทางที่ดีที่สุดในตอนนี้

หวังเป่าเล่อไม่ลังเลใจ ส่งร่างอวตารเดินลงทะเลสาบสีทองตรงเข้าไปหยุดอยู่หน้าชุดคลุมออกศึก เขาตรวจชุดคลุมออกศึกจนแน่ใจว่าไม่มีอะไรผิดแปลก จากนั้นก็หลับตาลงและตั้งผนึกมือ ร่างจริงที่นั่งอยู่บนชั้นสองหยิบกระเป๋าคลังเวทออกมาวางและตั้งผนึกมือขึ้นเช่นกัน ร่างอวตารและร่างจริงพลันสลับที่กันด้วยวิชาอัสนีนิรันดร์จำแลงเหมือนกับการเคลื่อนย้ายชั่วพริบตา!

ร่างอวตารไปปรากฏอยู่บนชั้นสอง ด้านในม่านป้องกันสีฟ้า ขณะที่ร่างจริงไปโผล่อยู่กลางทะเลสาบสีทองในถ้ำ หวังเป่าเล่อนั่งลงข้างชุดคลุมออกศึก เมล็ดดูดกลืนตื่นขึ้น เริ่มดูดพลังจากชุดคลุมผ่านรูโหว่ตรงหน้าผาก!

ชุดคลุมออกศึกเริ่มสั่นไหวเมื่อถูกสูบเอาพลังออกไป พลังปราณจำนวนมากพวยพุ่งออกมาจากรูโหว่ตรงหน้าผากไหลหลากเข้าสู่ร่างกายของหวังเป่าเล่อ!

ปราณวิญญาณมากมายเป็นดังคลื่นถาโถม เมล็ดดูดกลืนตื่นเต้นดีใจ รีบสูบเอาอย่างบ้าคลั่ง ส่งปราณวิญญาณไหลเวียนไปทุกส่วนในร่างกายของชายหนุ่ม ฝักกระบี่ด้านในเริ่มตื่นตัวและดูดเอาพลังปราณเช่นกัน

ชุดคลุมออกศึกพยายามต้านแรงสูบสุดกำลัง แม้จะชะลอหวังเป่าเล่อลงได้ แต่ถ้าให้เวลาสักพัก เขาก็สามารถสูบเอาพลังปราณออกมาจนหมดได้!

ร่างอวตารที่ชั้นสองหยิบเอากระเป๋าคลังเวทขึ้นมาและพุ่งตรงไปยังม่านกำบังสีฟ้าอย่างไม่ลังเลใจ มันตั้งใจจะออกไปตามหาคนอื่นๆ และบอกเรื่องทั้งหมดที่หวังเป่าเล่อพบให้ทุกคนทราบ

การจะทะลุออกไปจากด้านในม่านกำบังสีฟ้านั้นไม่ใช่เรื่องง่าย แต่ก็ไม่ใช่ว่าจะเป็นไปไม่ได้เลยหากเปรียบเทียบกับการเข้ามาจากด้านนอกแล้ว นอกจากนี้ ร่างอวตารยังมีกระเป๋าคลังเวทที่ข้างในเต็มไปด้วยอาวุธเวท แม้จะไม่มีพลังกายจากหวังเป่าเล่อช่วย แต่ระดับพลังปราณของมันก็เทียบเท่ากับชายหนุ่ม จึงน่าจะสามารถผ่านออกไปได้

หอกสีดำปรากฏขึ้นในสองมือ ร่างอวตารร้องคำรามและแปลงกายเป็นทะเลอัสนีเข้าล้อมรอบหอก หอกสีดำพุ่งตรงเข้าใส่ม่านกำบัง แม้มันจะได้รับบาดเจ็บ แต่ก็สามารถทนได้ไหว ร่างอวตารแปลงกายกลับเป็นร่างมนุษย์หลังจากหลุดออกไปได้ สายอัสนีแผ่พุ่งรอบตัว นำทางหอกสีดำพุ่งไปตามหาคนอื่นๆ ไม่หยุดพัก

แต่หวังเป่าเล่อก็สามารถคุมได้ในระยะจำกัด ดินแดนชั้นที่สองนั้นกว้างใหญ่มาก แม้จะมีระดับพลังปราณสูง แต่ก็ยังติดข้อจำกัดเรื่องระยะทางที่ร่างอวตารสามารถออกไปไกลห่างร่างจริงได้ ส่งผลให้มันสามารถตามหาได้แค่ภายในระยะทางที่จำกัด

ชายหนุ่มจึงส่งหุ่นเชิดทั้งหมดที่มีออกไปตามหาช่วยอีกแรง ขณะที่ร่างอวตารก็ออกวิ่งตามหาให้ไกลที่สุดเท่าที่ทำได้

ร่างอวตารนั้นได้รับการเสริมพลังมาหลายครั้ง จึงสามารถควบคุมได้เป็นอย่างดี กองทัพหุ่นเชิดก็ช่วยออกตามหาได้รวดเร็วขึ้นกว่าที่เขาตัวคนเดียวจะทำได้

วันคืนผ่านไป ร่างจริงของหวังเป่าเล่อยังคงสูบเอาพลังปราณจากชุดคลุมออกศึก ส่วนร่างอวตารและเหล่าหุ่นเชิดก็ออกตามหาคนอื่นๆ ไม่หยุดพัก ในที่สุด หุ่นเชิดตัวหนึ่งก็จับสัญญาณผู้ฝึกตนได้จากพลังวงแหวนปราณผสานกับคาถาที่บริเวณหนึ่ง นั่นคือสัญญาณว่าเกิดการต่อสู้ขึ้นที่นี่!

หุ่นเชิดพบรอยเลือดสดใหม่และเศษชุดคลุม หวังเป่าเล่อตื่นตระหนกเมื่อได้เห็นภาพเหตุการณ์ผ่านดวงตาของร่างอวตาร!

เยี่ยเหมิง!

หนึ่งฝ่ามือสยบโลกา A World Worth Protecting

หนึ่งฝ่ามือสยบโลกา A World Worth Protecting

Status: Ongoing

เรื่อง : หนึ่งฝ่ามือสยบโลกา (三寸人间)ผู้เขียน : เอ่อร์เกิน (耳根) ผู้แปล : Thunderbird Translators ค.ศ. 3029 วิทยาการบนโลกมนุษย์พัฒนาขึ้นอย่างรวดเร็ว จนแต่ละประเทศไม่มีเขตพรมแดนกั้นอีกต่อไป โลกได้ผสานรวมกลายเป็นหนึ่งเดียว เริ่มต้นยุคสมัยแห่งสหพันธรัฐ ตอนนั้นเอง กระบี่ยักษ์เล่มหนึ่งตกลงมาจากห้วงอวกาศ ปักเข้าใจกลาง ดวงอาทิตย์ ฝักกระบี่แตกออกเป็นเศษชิ้นส่วนจำนวนมาก กระจัดกระจายไปทั่ว ทั้งจักรวาลรวมถึงบนโลก และก่อให้เกิดแหล่งพลังงานรูปแบบใหม่อันไร้ขีดจำกัด พลังงานนี้มีชื่อเรียกกันว่า ปราณวิญญาณ ‘หวังเป่าเล่อ’ หนุ่มร่างท้วมผู้ทะเยอทะยาน ใฝ่ฝันจะได้เป็นผู้นำสหพันธรัฐ ด้วยหวังว่าจะไม่มีใครมารังแกเขาได้อีกต่อไป และเมื่อเดินทางเข้ามาศึกษาใน สำนักศึกษาเต๋าศักดิ์สิทธิ์ เขาก็ใช้ความรู้เหล่านั้นบวกกับความหน้าหนาหน้าทน ของตัวเอง วางกลยุทธ์อันฉลาดล้ำกำราบศัตรูคนแล้วคนเล่า ใครหน้าไหนก็ไม่อาจมาขัดขวางเส้นทางสู่การเป็นหนึ่งในใต้หล้าของชายอ้วนผู้นี้ได้ เว้นเสียแต่คำสาปประจำตระกูล ที่บอกไว้ว่าหวังเป่าเล่อจะต้องตาย หากเขาไม่ผอมลงก่อนอายุสามสิบปี ในเมื่อบรรพบุรุษร่างจ้ำม่ำมายืนรอให้เขาไปอยู่ด้วยขนาดนี้ ชายหนุ่มจึงต้องทั้งฝึกตนและลดน้ำหนักไปพร้อมๆ กัน!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท