ใต้หน้ากากซูเปอร์สตาร์ – ภาค 2 เล่ม 1 ตอนที่ 2-9

ภาค 2 เล่ม 1 ตอนที่ 2-9

“ผมไม่ทำข้างนอกครับ”

อินซอบปฏิเสธอย่างไม่ยอมแพ้ผิดไปจากปกติ

“ตรงนี้ไม่ใช่ข้างนอก แต่เป็นข้างในต่างหากครับ”

อีอูยอนกระซิบทั้งที่ยังกอดอินซอบเอาไว้ อินซอบหันกลับไปมองอีอูยอนด้วยดวงตาที่มีน้ำตาคลอ

“แต่ถึงอย่างนั้น…ผมก็ไม่…”

อีอูยอนจับคางของอินซอบและจูบอีกฝ่ายอย่างรุนแรง อินซอบที่ถูกกัดริมฝีปากอย่างแรงจนแสบกลั้นเสียงร้องไห้เอาไว้

“ลองพูดว่าไม่เอาอีกครั้งสิครับ”

“ถ้าใครมาเห็น…”

“คุณเอาแต่พูดว่าใครจะมาเห็นอยู่เรื่อยเลยนะครับ ในห้องของโรงแรมเนี่ยนะ”

อีอูยอนกำปกเสื้อของอินซอบและลากเจ้าตัวตั้งแต่หน้าลิฟต์เข้ามาในห้องสวีท อินซอบซึ่งกลัวว่าจะมีใครมาเห็นพูดทั้งหน้าซีดว่าจะกลับบ้าน แต่ถึงอย่างนั้นอีอูยอนก็ไม่แม้แต่จะแกล้งทำเป็นได้ยิน เหตุผลของอีอูยอนก็คือเพราะอินซอบไม่ให้แตะต้องตัวข้างนอก เขาจึงไม่มีทางนอกเลือกนอกจากแตะต้องตัวข้างใน

“หรือว่า คุณอยากให้ใครมาเห็นเหรอครับ”

อีอูยอนพาอินซอบที่ตกใจและส่ายหน้าไปมาไปที่หน้าต่าง เขามองเห็นวิวยามค่ำคืนของแม่น้ำฮันอยู่นอกหน้าต่างทั้งสามบานที่ทำจากกระจก อินซอบตัวสั่นพร้อมกับเกาะอีอูยอนเอาไว้

“ข้างนอกมองไม่เห็นหรอกครับ”

อินซอบคว้าแขนอีอูยอนไว้

“ไม่ได้ครับ ตรงนี้น่ะ…อึก”

อีอูยอนกัดซอกคอของอินซอบไว้แน่น เขางับและดูดสลับกันไปมาก่อนจะลูบไล้ยอดอกของอินซอบที่ชูชันผ่านเสื้อเชิ้ต

“…แต่อาจจะมองเห็นก็ได้นะครับ”

กระจกของโรงแรมใช้กระจกพิเศษ และคนข้างนอกไม่สามารถมองเห็นด้านในได้ อินซอบเองก็รู้ความจริงข้อนี้ดี แต่เขาก็ยังขาสั่น เพราะความคิดที่ว่าอาจมีโอกาสที่ใครจะมาเห็นก็ได้

“ไม่เห็นหรอกครับ”

อีอูยอนเลิกชายเสื้อเชิ้ตขึ้น และลูบคลำหน้าอกของอินซอบที่ลอยสูงก่อนจะประทับริมฝีปากที่แก้ม ติ่งหู และต้นคอของอินซอบ ไหล่ที่มองเห็นผ่านเสื้อเชิ้ตเห่อแดงขึ้นในทันที

อีอูยอนกัดอย่างแรงเหมือนกับฝังเขี้ยวลงไปบนไหล่และดูดดุนเนื้อบริเวณนั้น รอยเลือดคลั่งถูกสลักลงไปช้าๆ ราวกับดอกไม้บาน เขาแทรกขาของตัวเองเข้าไปตรงหว่างขาของอินซอบที่สั่นระริก และนวดคลึงต้นขา

“อย่าทำครับ ได้โปรด…อึก”

พอมือของอีอูยอนล้วงเข้าไปในกางเกง อินซอบก็โอบคอของอีอูยอนไว้ และร้องไห้ออกมาในที่สุด

“ไม่เป็นไรนะครับ”

อีอูยอนลูบหลังอินซอบพลางปลอบเหมือนกับปลอบเด็กเล็กๆ อินซอบที่ขี้กลัวมักจะเกาะเขาอย่างเอาเป็นเอาตายขนาดนี้เสมอถ้าเห็นสิ่งที่น่ากลัว อีอูยอนจึงเพลิดเพลินกับการดูภาพยนตร์สยองขวัญกับอินซอบ เพราะเขาชอบท่าทางนั้น

“ไม่…ฮึก”

แต่ถึงอย่างนั้นพอได้เห็นอินซอบที่หน้าซีดมากกว่าตอนที่ดูภาพยนตร์สยองขวัญ เขากลับรู้สึกขมขื่น อีกฝ่ายกลัวการถูกจับได้ว่าคบกับตนมากกว่าผีอีกเหรอ อีอูยอนปัดผมของอินซอบที่ชื้นเหงื่อออกไป และกดจูบลงที่หน้าผาก

“ไม่ชอบขนาดนั้นเลยเหรอ”

อินซอบพยักหน้าโดยที่ไม่ฟังคำพูดที่ตามมาด้วยซ้ำว่าเกลียดอะไร รอยยิ้มที่ไม่ชอบมาพากลติดอยู่ที่ปากของอีอูยอน อีอูยอนอุ้มอินซอบและพาไปที่เตียง เขาวางอินซอบให้นอนลงบนเตียง และอีอูยอนก็นั่งลงบนหน้าขาของอินซอบ

“ผมจะทำให้ไม่เห็นอะไรเองครับ”

อีอูยอนสอดนิ้วเข้าไปที่ปมของเน็กไท รูดเน็กไทออก และใช้เน็กไทปิดตาของอินซอบ

“จะ จะทำอะไรน่ะครับ”

อินซอบพยายามจะแกะเน็กไทที่ปิดตาอยู่ออก แต่อีอูยอนกลับจับข้อมือของเขาไว้

“ถ้าแกะออก ผมจะทำให้คุณมองไม่เห็นอีกเลย”

เขาใส่แรงลงไปในน้ำเสียงทุ้มต่ำนั้น มือของอินซอบที่พยายามจะแกะเน็กไทออกตกลงอย่างไร้เรี่ยวแรง

“…แกะให้หน่อยนะครับคุณอูยอน”

เขาไม่กล้าใช้มือของตัวเองแตะต้องเน็กไทเพราะคำขู่ของอีอูยอน และทำได้เพียงพูดแบบนั้นในขณะที่ตัวสั่นเทา ทั้งน่ารักและน่าสงสาร

อีอูยอนมัดปมให้แน่นยิ่งขึ้น

“ผมทำตามความปรารถนาของคุณอินซอบไงครับ ถ้าทำแบบนี้ คุณก็ไม่รู้แล้วว่ามีใครมองอยู่ ไม่เป็นไรนะครับ”

เป็นตรรกะที่บีบบังคับจนอินซอบพูดไม่ออก แม้น้ำเสียงและลักษณะการพูดจะอ่อนโยน แต่อินซอบเดาได้ถึงจิตใจที่บิดเบี้ยวของอีกฝ่าย

“ปล่อย…ปล่อยผมกลับบ้านเถอะครับ”

“อย่าพูดแบบนั้นสิครับ คุณอินซอบถูกบังคับให้คบกับผมเหรอครับ”

‘พูดมาสิครับ’ อีอูยอนเกลี้ยกล่อมอินซอบอย่างแผ่วเบา อินซอบส่ายหน้าอย่างช้าๆ

“แล้วทำไมถึงเป็นแบบนี้ล่ะครับ คุณอินซอบเป็นของผมนะ”

อีอูยอนหมายจะบีบแก้มของอินซอบ แต่อินซอบกลับปัดมือของอีอูยอนทิ้งอย่างไม่รู้ตัวเพราะตกใจกับมือที่พุ่งเข้ามาอย่างไม่มีปี่มีขลุ่ย

อีอูยอนร้อง ‘เหอะ’ สั้นๆ และก้มตัวลงไปในขณะที่กำมือของอินซอบไว้แน่น

“ลองทำแบบนั้นอีกครั้งดูสิครับ”

ลมหายใจที่มีความโกรธที่กดเอาไว้เจืออยู่กระทบใบหูของอินซอบ อีอูยอนเอามือของอินซอบมาวางไว้ที่ร่างกายของตัวเองก่อนจะพูดต่อ

“ถ้าเกลียดผมจริงๆ ก็ผลักออกเลยครับ ถ้าคุณทำแบบนั้น ผมจะไม่ทำคุณ”

“ผม…”

อีอูยอนรอคำตอบของอินซอบพลางกัดฟันแน่น กับคนอื่นเขาไม่รู้ แต่เขาไม่อยากโดนปฏิเสธจากชเวอินซอบ เขารู้สึกเดือดพล่านทุกครั้งที่อีกฝ่ายปัดมือออก

“ผมไม่ได้เกลียดคุณอีอูยอนครับ…”

“งั้นก็อยู่เฉยๆ”

อีอูยอนพูดเหมือนกับพลั้งปาก และกัดริมฝีปากของอินซอบ เสียงลมหายใจที่ติดขัดพรั่งพรูออกมา สติของอินซอบเลือนรางเหมือนกับถูกคลื่นลูกใหญ่ซัดออกไป เขาหอบหายใจพร้อมกับกำชายเสื้อของอีอูยอนไว้

“…ถ้าวันนี้คุณผลักผมออกไป ผมจะทำให้คุณหายไปตลอดกาล…แฮ่ก เพราะฉะนั้น ได้โปรดอยู่เฉยๆ”

อีอูยอนกระซิบคำพูดที่ไม่แน่ใจว่าเป็นคำขู่ หรือเป็นคำขอร้องกันแน่ก่อนจะดูดกลืนริมฝีปากของอินซอบ ลิ้นนิ่มๆ โลมเลียริมฝีปากของอินซอบอย่างละโมบ อินซอบร้อง ‘อ๊ะ’ และตัวสั่นเบาๆ เขารีบเอามือออกจากตัวอีอูยอน หลังจากนั้นเขาก็กำผ้าปูเตียงไว้ทันที เขากลัวว่าจะเผลอผลักอีอูยอนออกไปในระหว่างที่ไม่มีสติ เขาจึงเอามือลง

อีอูยอนเอามือของอินซอบที่เป็นแบบนั้นใส่เข้าไปในปากของตน เขาเลียนิ้วทีละนิ้ว และใช้ฟันกัดเล็บมือเบาๆ เขากดจูบลงที่มือของอินซอบอย่างไม่ขาดตกบกพร่องเหมือนจะเป็นสัตว์กินเนื้อที่ยกย่องการกระทำของตนเอง

“ถอดเสื้อผ้าครับ”

อีอูยอนเอามือของอินซอบลงไปที่เสื้อเชิ้ต แม้อินซอบจะปลดกระดุมเสื้อเชิ้ตของตนตามที่อีกฝ่ายสั่ง แต่การปลดกระดุมเม็ดหนึ่งกลับใช้เวลานานเพราะเขามองไม่เห็นและมือก็สั่น ตอนนั้นเองกระดุมก็ถูกปลดออก อีอูยอนเริ่มถอดเสื้อผ้าของอินซอบโดยไม่พูดอะไร อินซอบตัวสั่นสะท้าน พอการมองเห็นถูกปิดกั้น ประสาทสัมผัสในร่างกายก็เพิ่มมากขึ้น

“ทำไมถึงสั่นขนาดนั้นล่ะครับ”

เขาได้ยินเสียงของอีอูยอน เสียงที่ทุ้มต่ำและไพเราะกว่าปกติเข้ามาใกล้

“ผมไม่ได้จะขืนใจคุณอินซอบนะ”

“ผะ ผมจะถอดเองครับ”

“ทำแบบนั้นแล้วจะถอดเสร็จหมดตอนไหนล่ะครับ”

เขาได้ยินเสียงตัวล็อกของเข็มขัด

จู่ๆ อินซอบก็นึกถึงเนื้อหาในคาบเรียนที่เขาเคยได้ยินในวิชาเลือกว่าเสื้อผ้าไม่ใช่แค่สิ่งที่เอาไว้ปกป้องร่างกายในทางกายภาพเท่านั้น แต่มีบทบาทสำคัญในการปกป้องทางจิตใจด้วย ดังนั้นตอนที่จัดการกับพวกเชลยศึก จึงมักจะบอกให้ถอดเสื้อผ้าออกจนหมดก่อนเป็นอันดับแรก การเปลือยต่อหน้าคนอื่นนั้นเป็นการแสดงความอ่อนแอของตัวเองออกมาโดยไม่มีแม้กระทั่งความตั้งใจที่จะขัดขืน เขารู้สึกว่าเรี่ยวแรงค่อยๆ หายไปจากร่าง

“อึก…”

อินซอบบิดเอวไปด้านข้าง เพราะความรู้สึกในยามที่ช่วงล่างถูกเปิดเผยต่ออากาศเย็นๆ เขาได้ยินเสียงอีอูยอนหัวเราะสั้นๆ อยู่ตรงหัวเตียง

“ทำไมถึงใส่ถุงเท้าที่ไม่เข้าคู่กันขนาดนั้นมาล่ะครับ”

น่ารักเชียว

คำพูดสุดท้ายที่ได้ยินเหมือนไม่ได้ยินลอยออกมาพร้อมกับเสียงกลั้นลมหายใจ กางเกงชั้นในของเขาถูกดึงลงมาอยู่ใต้หัวเข่า แม้เขาอยากจะหนี แต่กลับไม่มีที่ซ่อนที่เหมาะสม เขาถูกปิดตาเอาไว้ และไม่รู้แม้กระทั่งวิธีที่จะปกปิด แม้เขาจะพยายามปิดบังร่างกายไว้เท่าที่จะทำได้ แต่อีอูยอนกลับไม่ปล่อยให้เขาทำแบบนั้น

“อยู่เฉยๆ ครับ”

เป็นน้ำเสียงที่ทั้งคุกคามจนน่าหวาดเสียวและอ่อนหวาน แม้จะไม่ได้ดื่มเหล้า แต่อินซอบกลับมึนหัว เขากลัว แม้จะโดนปิดตาเอาไว้ แต่อินซอบก็ยังคงหลับตาแน่นและคู้ตัว

“อ้าขาครับ”

“ครับ?”

“ช่วยอ้าขาด้วยครับ เพราะผมอยากจะเห็นทั้งหมด”

อีอูยอนจับเข่าของอินซอบไว้ ร่างกายของอินซอบร้อนขึ้นเพราะความร้อนจากฝ่ามือของอีกฝ่ายที่ส่งผ่านมาให้ เราอยู่ในสภาพที่ไม่ได้ใส่อะไรเลยสักชิ้น แต่ดันขอให้เราอ้าขาอย่างนั้นเหรอ หน้าของอินซอบร้อนวูบวาบด้วยความเขินอาย

คราวนี้อีอูยอนกดจูบลงไปที่เข่าของอินซอบ หัวใจของอินซอบเต้นตึกตัก เพราะการจูบที่เหมือนกับจะขอความรัก

“ผมทำแบบนี้เพราะอยากเห็นร่างกายของคุณอินซอบนะครับ”

แม้จะไม่มีใครได้ยิน แต่อีอูยอนก็ยังกระซิบเสียงเบา อีอูยอนจูบเข่าของอินซอบอีกสองสามครั้ง อินซอบค่อยๆ อ้าขาออกตามที่อีกฝ่ายสั่ง เขาเปลือยเปล่า ความอับอายเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่า เพราะเขาถูกปิดตาเอาไว้ อินซอบน้ำตานองด้วยความอับอาย

เขาได้ยินเสียงถอนหายใจเบาๆ แม้จะมองไม่เห็น แต่เขาสามารถรู้สึกได้ถึงสายตาของชายหนุ่ม แม้เขาอยากจะหุบขา แต่อีอูยอนกลับจับเข่าของเขาไว้ไม่ยอมปล่อย

“ดะ ได้…ได้หรือยังครับ”

อินซอบรวบรวมความกล้าในการเอ่ยถาม

“สวยครับคุณอินซอบ”

คำตอบที่คาดไม่ถึงถูกส่งกลับมา อีอูยอนพึมพำร่วมกับหายใจเหมือนคนที่ลุ่มหลงในอะไรบางอย่าง

“สวยมากเลยครับ”

มือของอีอูยอนเลื่อนไปที่ด้านในของต้นขาก่อนจะเลื่อนลงไป เขาขยับมืออย่างระมัดระวังราวกับแตะต้องผลงานศิลปะ อินซอบตัวสั่นสะท้านทุกครั้งที่มือของอีอูยอนสัมผัส เพราะเขาไม่รู้เลยว่าลูบตั้งแต่ตรงไหนและด้วยวิธีแบบใด

อีกฝ่ายค่อยๆ ใช้หลังมือลูบไล้ต้นขาเขาอย่างช้าๆ แต่เขาก็รู้สึกถึงไออุ่นอย่างอื่นที่ไม่ใช่มือ เขาถูกหายใจใส่ ตอนนั้นเองอินซอบถึงได้รู้ว่าอีอูยอนเอาหน้ามาไว้ตรงต้นขาของตัวเอง พอเขาคิดว่าสายตาของอีกฝ่ายอยู่ตรงไหน เขาก็ไม่สามารถรักษาท่าทีได้อีกต่อไป

“ไม่ได้”

อีอูยอนห้ามเสียงแข็ง เพราะเขารู้สึกได้ว่าอินซอบกำลังเกร็งขา เขาแนบแก้มของตัวเองลงกับต้นขาของอีกฝ่ายก่อนจะถูไถ อีอูยอนกระซิบ

“ผมอยากมองไปเรื่อยๆ ครับ ผมว่าผมมองได้ทั้งวันเลย”

“ยะ อย่าทำแบบนั้นครับ”

อีอูยอนกัดขาอ่อนของอินซอบเบาๆ ก่อนจะปล่อยออก การงับที่เหมือนจะแหย่เล่นเริ่มร้อนแรงขึ้นทีละน้อย พออีอูยอนงับเนื้อเข้าไปในปากและขยับลิ้นไปมา อินซอบก็ร้องครางพร้อมกับบิดเอว ช่วงล่างของเขาหดตัว ส่วนอ่อนไหวที่เลือดค่อยๆ มากองอยู่ก็เริ่มเป็นรูปเป็นร่าง

“…แม่งเอ๊ย”

มือของอีอูยอนที่กำต้นขาของอินซอบไว้เกร็ง ชเวอินซอบคิดว่าตัวเองทำให้อีอูยอนอารมณ์เสียอีกแล้วหรือเปล่า และรู้สึกกลัว

“ตั้งใจจะทำให้ผมเป็นบ้าเหรอครับ”

“ครับ?”

“ไม่ว่าจะเป็นไอ้นั่นหรือช่องทางนั้นก็ไม่เห็นจำเป็นที่จะต้องสวยถึงขนาดนี้เลยนี่ครับ ทั้งสองอย่างนี่แม่งโคตรทำให้คลั่งเลย”

“อึก…”

อินซอบเด้งตัวขึ้นมาเพราะตกใจ ช่วงล่างของเขาถูกกลืนกินด้วยเยื่อเมือกที่ร้อนและชื้นอย่างกะทันหัน อีอูยอนที่ฝังหน้าลงกับส่วนนั้นของอินซอบดูดเลียส่วนอ่อนไหวนั้นอย่างมูมมาม

“แฮ่ก ดะ…เดี๋ยว”

อินซอบสะอื้นพร้อมกับดันหน้าของอีอูยอนออก แต่แล้วเขาก็รู้สึกถึงบรรยากาศที่น่ากลัว และเอามือลงไปอีกครั้ง

อีอูยอนอมยิ้ม

อีอูยอนไม่เคยรู้สึกถึงความใสซื่อบริสุทธิ์มาก่อนเลยในชีวิต และเขาก็ไม่มีเกณฑ์ในการเรียนรู้ด้วยตัวเองด้วย เขาจะมีหรือไม่มีมันก็ได้ และเขาก็ไม่สนใจที่จะใส่ใจกับสิ่งที่มองไม่เห็น แต่ทำไมถึงน่ารักขนาดนี้นะ ความรู้สึกเกี่ยวกับท่าทาง สีหน้า และคำพูดของอินซอบพลุ่งพล่านจนเขากลัว

อีอูยอนเอาส่วนอ่อนไหวของอินซอบเข้าปากอีกครั้ง พอเขาดูดเลียอย่างนุ่มนวลอยู่สองสามครั้ง เลือดก็มารวมตัวกันอยู่ตรงนั้น และเห่อร้อนขึ้นมาทันที

“ร้อนเหรอครับ”

อินซอบถามกลับว่า ‘ครับ?’ เพราะคำถามของอีอูยอน

“ก็ตรงนี้มันแดงขึ้น”

อีอูยอนใช้หลังมือตีส่วนอ่อนไหวของอินซอบเบาๆ ถ้ามีอารมณ์ เลือดก็จะมารวมตัวเองกันและทำให้สีแดงขึ้นอยู่แล้ว นี่เป็นความรู้ที่ใครๆ ก็รู้ถ้าเป็นผู้ใหญ่

“คือ คือว่า…”

อินซอบกำลังหาคำตอบที่น่าจะใช้ได้ที่สุดว่าเขาควรจะตอบว่าอะไรดี แต่แล้วมือของอีอูยอนก็มาแตะที่หน้าผาก

“เหงื่อไหลด้วย”

มันคือเหงื่อกาฬ อินซอบโดนโลมเลียช่วงล่างในสภาพที่ถูดปิดตาเอาไว้ และนอนอ้าขาต่อหน้าผู้ชายด้วยร่างกายที่เปลือยเปล่า จึงเป็นเรื่องที่แน่นอนอยู่แล้วที่เขาจะเหงื่อไหล

“ครับ นิดหน่อย…”

แม้เขาจะรู้สึกหนาวนิดหน่อยเพราะอุณหภูมิในห้องของโรงแรมที่ถูกปรับให้เย็นจัด แต่เขาก็ตอบไปแบบนั้น เขาแสดงความหวังว่าอีอูยอนอาจจะแก้เน็กไทที่ปิดตาอยู่ให้

“อย่างนั้นเองสินะครับ”

อีอูยอนลุกขึ้น แต่แทนที่จะแก้มัดให้อย่างที่อินซอบคิด เขากลับไปเอาอะไรบางอย่างและกลับมาที่เตียง

ใต้หน้ากากซูเปอร์สตาร์

ใต้หน้ากากซูเปอร์สตาร์

Status: Ongoing

นิยายวายแปลเกาหลี ดารา x ผู้จัดการ วงการบันเทิง นายเอกใสซื่อ พระเอกเจ้าเล่ห์ และ “คลั่ง” รักหนักมาก

ข้อเสียเพียงหนึ่งเดียวของ ‘อีอูยอน’ นักแสดงที่ได้ชื่อว่าเป็นสุภาพบุรุษผู้แสนดี และไม่เคยมีแอนตี้แฟน คือการเปลี่ยนผู้จัดการส่วนตัวบ่อย

หลังจากเปลี่ยนผู้จัดการไปแล้ว 5 คนในปีเดียว ‘ชเวอินซอบ’ แฟนคลับของอีอูยอนก็ได้เข้ามาเป็นผู้จัดการส่วนตัวคนใหม่ และสามารถปรับตัวเข้าได้กับทุกรสนิยมที่จู้จี้จุกจิกของอีอูยอนได้อย่างไร้ที่ติ

ทว่าสำหรับอีอูยอนแล้ว ผู้จัดการส่วนตัวแบบนั้นน่าสงสัยเป็นที่สุด

เขารู้สึกสนใจในการกระทำของอีกฝ่าย ในขณะเดียวกันความรู้สึกบางอย่างก็เริ่มก่อตัวขึ้นโดยไม่รู้ตัว

ทว่าในตอนที่เขารู้สึกดีกับอินซอบมากขึ้นเรื่อยๆ อีกฝ่ายก็ (ลอบ) แทงข้างหลัง (เบาๆ) และพยายามจะหนีไป

“ถ้าผมปล่อยคุณอินซอบไป แล้วผมจะอยู่ยังไงล่ะครับ”

TW : Coercion / Dubious Consent / Dirty talk / Toxic relationship / Violence / Rape

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท