เหนียงจื่อของคุณชายขี้โรค – ตอนที่ 161 ซูจิง (2)

ตอนที่ 161 ซูจิง (2)

ถงเหล่าคนนั้น ยิ่งทำเกินไป เดิมทีก็เพียงมีความคิดอยากกำจัดเขาทิ้ง ตอนนี้กลับลงมือขึ้นมาแล้วจริงๆ นี่คิดว่าเขาคือดินโคลนที่จะบีบเล่นง่ายๆ เช่นนี้หรือ

หนิงเซ่าชิงถูกบีบรอบด้าน ตัวเขาไม่ยี่หระต่อตำแหน่งนั้นอยู่แล้ว เวลานี้กลับจำต้องเริ่มคิดใหม่ เขารู้ดีว่าเสวี่ยเสวี่ยของเขาก็ไม่ชอบชีวิตเช่นนั้น หากไม่จำเป็นจริงๆ เขาไม่มีวันกลับไป ไม่มีวันทำให้นางลำบากใจ

มั่วเชียนเสวี่ยเห็นหนิงเซ่าชิงปล่อยมือตน นอนลงอย่างสงบ จึงเดินออกไปเงียบๆ

อาอู่เตรียมรถม้าเอาไว้ตั้งแต่แรกแล้ว มั่วเชียนเสวี่ยพูดกำชับหนีจื่อสองสามประโยค ก็ขึ้นรถม้าไป

ทันทีที่มั่วเชียนเสวี่ยออกไป หนิงเซ่าชิงเรียกอาซานมาพบ สั่งอาซานสี่เรื่องในคราวเดียว

เรื่องที่หนึ่ง หลังจากนี้ให้หน่วยรักษาการณ์ลับสองคนที่รอฟังคำสั่งในเมืองเทียนเซียงคอยติดตามฮูหยิน ให้คอยดูแลความปลอดภัยของฮูหยินอย่างลับๆ

เรื่องที่สอง ส่งจดหมายนกพิราบไปให้หน่วยรักษาการณ์ลับทางตะวันตกที่ปล่อยข่าวโคมลอย กลับมาบางส่วน

เรื่องที่สาม ให้อาซานสั่งคนไปส่งจดหมาย ที่เมื่อคืนตนเขียนถึงคุณชายหลู

เรื่องที่สี่ ให้ลุงอวี๋ลอบจัดการงานมงคล ‘ดีๆ’ แด่คุณหนูห้าแห่งจวนเจี่ยน

หน่วยรักษาการณ์ลับเหล่านั้นมีทั้งหมดสามสิบหกคน ว่ากันว่าล้วนเป็นคนที่องครักษ์เงาที่ฝึกฝนมาอย่างดี ล้วนเป็นอำนาจที่ซ่อนอยู่ของเจ้านายตน ตอนอยู่ในเมืองหลวง นายของตนไม่เคยเคลื่อนย้ายและใช้คนเหล่านี้มาก่อน

อาซานพอจะรู้ว่าท่ามกลางหน่วยรักษาการณ์ลับมีประมาณสิบกว่าคนที่อยู่ทางตะวันตกคอยปล่อยข่าวโคมลอย

หลังจากได้ข่าวหมอประหลาด เจ้านายส่งหน่วยรักษาการณ์ลับแปดคนไปคอยปกป้องหมอประหลาด

อีกทั้งเมื่อหลายวันก่อนเจ้านายก็ส่งหน่วยรักษาการณ์ลับหลายคนไปทำภารกิจลับ เหลือไม่กี่คนคอยฟังคำสั่งที่ทิงเฟิงเฉวียน

“ขอรับ” อาซานก้มหน้าลงประสานมือคารวะ เรื่องที่เจ้านายจัดการ ไม่มีช่องว่างให้เขาพูดแทรก

สามเรื่องแรกพูดง่าย แต่เรื่องสุดท้าย อาซานไม่คิดเช่นนั้น

เรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อวาน แม้เจ้านายจะไม่พูดออกมา แต่เขากับอาอู่ติดตามเจ้านายตั้งแต่เกิด ฝึกฝนวรยุทธ์กับเจ้านาย แผนการสกปรกของเรือนหลังในตระกูลใหญ่ พวกเขาพอจะคาดเดาได้บ้าง คุณหนูห้าตระกูลเจี่ยนไม่อาจเก็บเอาไว้ได้แน่นอน

อาซานย่อมเข้าใจความหมายของงานมงคล ‘ดีๆ’ ที่เจ้านายกล่าว แต่ว่าทำเช่นนี้ใจดีกับคนผู้นั้นเกินไปแล้ว

เจ้านายเฉลียวฉลาด ทำงานเด็ดขาด แต่มักจะเมตตา มักปล่อยให้ผู้อื่นมีทางรอด

บางทีเขาเข้าใจว่างานมงคล ‘ดีๆ’ ในเวลาเดียวกันสามารถล้มเลิกความคิดของหญิงโฉดทั้งยังทำให้นางเสียใจไปตลอดชีวิต หรือบางทีเจ้านายอาจจะเป็นสุภาพบุรุษ ดูแคลนวิธีการร้ายกาจในการจัดการกับสตรีที่ไร้ทางสู้

ไม่ว่าเจ้านายจะมีความคิดเช่นไร เขา อาอู่และองครักษ์เงาได้สาบานเอาไว้แล้ว วันข้างหน้าจะชดเชยข้อเสียนี้ของเจ้านาย โดยการทำทุกคำสั่งของเจ้านายให้ ‘สมบูรณ์แบบ’ ยิ่งขึ้น

หากไม่ทำลายสตรีโฉดคนนั้น แล้วจะคู่ควรกับงานมงคล ‘ดีๆ’ ได้อย่างไร เขาไม่มีวันปล่อยให้สตรีโฉดนั่นมีโอกาสในการพลิกแพลงงานมงคล ‘ดีๆ’

กล้าวางแผนทำร้ายฮูหยินของพวกเขา เกือบจะทำให้พิษของเจ้านายกำเริบ ชั่วร้ายยิ่งนัก

รถม้าขับเคลื่อนไปจนถึงเมืองเทียนเซียง มั่วเชียนเสวี่ยบอกกับอาอู่ที่กำลังขับรถม้าอยู่ด้านหน้า “ไปไป๋อวิ๋นจวีก่อน”

เมื่อไปถึงไป๋อวิ๋นจวี มั่วเชียนเสวี่ยไม่ได้ลงจากรถม้า เพียงนำจดหมายและไหดินเผาให้อาอู่ พูดสั่ง “เจ้านำ ‘สูตร’ และดีเกลือไหนี้ไปให้คุณชายซูชีก็พอแล้ว ข้าไม่เข้าไปแล้ว นั่งรอเจ้าในรถม้าก็พอ”

มั่วเชียนเสวี่ยกลัวอาอู่จะคิดมาก จึงเจตนาพูดเน้นคำว่า ‘สูตร’ คำนี้ให้ชัดเจน เพื่อแสดงว่าตนไม่ได้ลอบให้หรือแอบรับ

เดิมทีนางอยากจะคุยเรื่องหมักซีอิ๊วกับซูชี ทว่าเวลานี้กลับไม่มีหน้าย่างกรายเข้าไปในถิ่นของเขา เวลานี้หากให้นางเจอซูชีจริงๆ นางสามารถขุดหลุมแล้วหมุดเข้าไปทันที

ให้สูตรกับซูชีในเวลานี้ถือเป็นการตอบแทนน้ำใจ ไม่ว่าจะเป็นการค้าใด ผู้ที่ริเริ่มก่อนผู้คนก็มักจะเข้าใจว่าเป็นต้นตำรับแท้จริงและดีที่สุด

เดิมที นางค้าขายเต้าหู้กับไป๋อวิ๋นจวีมาโดยตลอด เวลานี้มีสูตรแล้ว ซูชีสามารถเปิดโรงงานเต้าหู้แห่งแรกในเมืองหลวงได้

สินค้าจากถั่วเหลือง หลังจากผ่านการศึกษาต่างๆ ของนางและอาซ้อทั้งหลาย เวลานี้มีสินค้าหลายอย่างแล้ว คนทุกระดับชั้นล้วนชอบกิน มีประโยชน์และดีต่อสุขภาพ แม้จะเป็นการค้าขนาดเล็ก คิดคำนวณกำไรแล้วก็ถือว่าไม่น้อย ในเมืองหลวงมีคนมาก เมื่อทำสำเร็จ ในขณะที่ได้ใจคน ก็ยังได้กำไรมหาศาล

ชาวบ้านก็ไม่ต้องพูดถึงแล้ว เพียงตระกูลใหญ่เหล่านั้น ภัตตาคารเหล่านั้น และยังมีวัดวาอาราม วังหลวง…การบริโภคในแต่ละวันนั้นมากจนน่าตกตะลึง

เวลานี้ผ่านวันที่สิบห้าเดือนหนึ่งแล้ว วันนี้ฟางต้าถังและหลี่ซานมาลาแล้วออกเดินทางตั้งแต่เช้า

เมืองหลวงอยู่ใจกลางเทียนฉี เมืองเทียนเซียงตั้งอยู่ทางทิศตะวันออกของราชวงศ์เทียนฉี พวกเขากลุ่มหนึ่งไปทางทิศใต้ กลุ่มหนึ่งไปทางทิศเหนือ ล่องไปตามแม่น้ำตงจิง คนหนึ่งล่องขึ้นเหนือ คนหนึ่งล่องลงใต้

เมืองที่จะไป ต้องนั่งเรือเจ็ดถึงแปดวันกว่าจะถึง แม้มั่วเชียนเสวี่ยจะเห็นด้วยกับความคิดของหนิงเซ่าชิง แต่ก็บอกให้พวกเขาขายสูตรให้กับที่ที่ไกลจากเมืองเทียนเซียง ชั่วขณะหนึ่งไม่อาจส่งผลต่อการค้าโรงงานเต้าหู้ของนางได้ รอให้พวกเขาขายสูตรทำเต้าหู้เสร็จ แล้วพาคนกลับมาซื้อดีเกลือ หลังจากซื้อดีเกลือและเรียนรู้วิธีทำเต้าหู้แล้วกลับไปทำเต้าหู้จากนั้นนำออกมาขายในตลาด อย่างน้อยก็เป็นเรื่องหนึ่งเดือนให้หลังแล้ว

สองแห่งนี้ไม่เกี่ยวข้องกับเมืองหลวง ความคิดในตอนแรกของมั่วเชียนเสวี่ยคือตนไปเปิดโรงงานเต้าหู้ในเมืองหลวง

แต่ว่า เกิดเรื่องเช่นนั้นขึ้น นางไม่อยากยุ่งเรื่องเต้าหู้แล้ว ไม่อยากแย่งชิงการค้ากับซูชี

อีกทั้งการค้าเต้าหู้ในเมืองหลวง เดิมทีซูชีก็เป็นคนคิดริเริ่ม แม้จะไม่ได้ขายเต้าหู้สด แต่ขายเต้าหู้แช่แข็ง ทว่า มีคนมากมายชื่นชอบ ว่ากันว่าเต้าหู้ไม่เพียงพอต่อความต้องการของชาวบ้าน

ของกำนัลนี้แม้ไม่ได้ล้ำค่า แต่ก็เป็นของกำนัลแทนคำขอบคุณที่นางหาได้ดีที่สุดในตอนนี้

อาอู่รับจดหมาย หันหลังเดินเข้าไปในไป๋อวิ๋นจวี

เขาจะไปส่งจดหมายให้เจ้านายอยู่พอดี เช่นนี้ก็ดี ไม่ต้องเดินทางมาอีกรอบ ถึงอย่างไรฮูหยินก็ไม่ได้จะเข้าไปเจอซูชีในไป๋อวิ๋นจวี อาอู่ถูกเชิญเข้าไปในห้องหนังสือของซูชี จากนั้นยื่นดีเกลือที่มั่วเชียนเสวี่ยมอบให้อาลู่ที่ยืนอยู่ข้างๆ ประสานมือก้มหน้าลงทำความเคารพ แล้วค่อยยื่นจดหมายของมั่วเชียนเสวี่ย

พูดด้วยสีหน้าเยือกเย็น “นี่คือสูตรทำเต้าหู้ ฮูหยินของข้าให้ข้านำมาให้” พูดจบ ชี้ไปยังไหที่อยู่ในอ้อมกอดของอาลู่ “นั่นคือดีเกลือที่ใช้สำหรับทำเต้าหู้ ฮูหยินยังกล่าวอีกว่า หากพ่อครัวของพวกท่านดูสูตรแล้วยังทำไม่เป็น สามารถไปเรียนรู้วิธีการทำที่โรงงานเต้าหู้ในหมู่บ้านหวังจยาได้”

หากเป็นสิ่งอื่น เขาอาจจะไม่รับ แต่สูตรนี้มาได้เวลาพอดี

พี่ใหญ่เพิ่งให้คนส่งจดหมายตอบกลับมา เต้าหู้นี้ขายดิบขายดีในเมืองหลวง ตอนนี้แม้แต่ฮ่องเต้ก็ทรงทราบว่าตระกูลซูของพวกเขามีอาหารชนิดหนึ่งที่เรียกว่าเต้าหู้ กล่าวว่าอวี้กุ้ยเฟยชอบเสวยเต้าหู้ของตระกูลพวกเขายิ่งนัก ให้พวกเขาส่งเข้าวังหลวงทุกวัน

เหนียงจื่อของคุณชายขี้โรค

เหนียงจื่อของคุณชายขี้โรค

Status: Ongoing

เพราะสำลักน้ำชาจนขาดอากาศ(?)ทำให้ มั่วเชียนเสวี่ย สาวมั่นหัวการค้าทะลุมิติมาอยู่ในโลกยุคโบราณและในร่างของคนอื่น

แต่นั่นยังไม่น่าตระหนกเท่าการที่ร่างนี้กำลังจะแต่งงานเพื่อแก้เคล็ดให้กับชายหนุ่มที่ป่วยร่อแร่เต็มที!

ในโลกที่หากขาดที่พึ่งผู้หญิงก็สามารถถูกขายเป็นทาสได้ตลอดเวลาสามีคนนี้ของนางนับว่าเป็นตัวเลือกที่ไม่เลวเลยทีเดียว

ทั้งมีความรู้ สุภาพและไม่ใช้กำลังแถมหน้าตายังหล่อเหลาอีกด้วย เสียตรงร่างกายอ่อนแอไปหน่อยเท่านั้น

ชีวิตครอบครัวชนบทแสนยากจนของนางจึงเริ่มขึ้นที่ตรงนั้น… แต่อย่างไรนางไม่ยอมงอมืองอเท้ารับชะตากรรมแบบนี้แน่

ในเมื่อนางมีความรู้ความสามารถยังต้องกลัวสร้างกิจการไม่ได้อีกหรือ?!

เส้นทางร่ำรวยสายนี้นางจะบุกเบิกมันขึ้นมาด้วยตนเอง! และหวังว่าทุกอย่างจะราบรื่นด้วยดี

เพราะเหมือน ‘ร่างนี้’ ของนางกับฐานะเดิมของสามีเหมือนจะไม่ค่อยธรรมดาเสียด้วยสิ…

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท