สวี่เซี่ยนเว่ยมองเซี่ยอวิ๋นจิ่นกับลู่เจียวด้วยสีหน้าทุกข์ใจ ตอนนี้ที่เขาเป็นห่วงที่สุดก็คือลู่เจียวโมโหเรื่องนี้แล้วจะไม่ยอมรักษาให้เขา เช่นนั้นชีวิตนี้เขาก็ไม่อาจมีทายาทให้ตระกูลสวี่ได้
“ลู่เหนียงจื่อ เรื่องนี้โทษข้าไม่ได้ ข้าเองก็ไม่รู้ว่าอนุที่ข้ารับมาจะมีหญิงใจอสรพิษเช่นนี้ ดังนั้นเจ้าอย่าได้ไม่รักษาให้ข้านะ”
ลู่เจียวมองเขาอย่างเย็นชา กล่าวว่า “ยามนี้ท่านยังมีใจคิดให้ข้ารักษาท่าน ไม่สู้ท่านจัดการครอบครัวให้ดีก่อนไหม อย่าได้เกิดเรื่องอะไรอีก”
นางกล่าวจบก็มองไปสาวใช้สองคนของเสิ่นซิ่วกับจางเหอฮวา กล่าวว่า “สองคนนี้ พวกเราพากลับไปแล้วกัน”
เสี่ยวหงกับชุ่ยลวี้สองคนตกใจรีบส่ายหน้า “พวกเราไม่ไปๆ”
เซี่ยอวิ๋นจิ่นกลับไม่สนใจพวกนางสองคน สั่งการให้หร่วนไคกับหลี่หนานเทียนว่า “นำคนไป“
ทั้งสองคนก้าวเข้ามาหิ้วตัวสาวใช้ทั้งสองคน ท่าทางราวกับหิ้วไก่สองตัว สองสาวใช้ไม่อาจสลัดหลุด ได้แต่หันหน้าไปทางสวี่เซี่ยนเว่ยกับจางเหนียงจื่อขอร้องว่า “นายท่าน ต้าเหนียงจื่อ พวกเราไม่ไป พวกเราจะอยู่ที่นี่”
สวี่เซี่ยนเว่ยไม่สนใจพวกนาง หันไปมองลู่เจียวกล่าวว่า “เจ้าพาคนไปได้ แต่เจ้าห้ามไม่รักษาให้ข้านะ”
ลู่เจียวกล่าวอย่างไม่สบอารมณ์ว่า “ตอนนี้บ้านเรามีเรื่องยุ่งยากใหญ่ หากท่านคิดรักษาจริง ก็ต้องคิดหาทางช่วยพวกเราจับรองนายอำเภอหยางกับเผิงจู่ปู้ก่อน หากจับเจ้าสองแมลงศัตรูพืชนี่ได้ พวกพ่อค้าเหล่านั้นก็ไม่กล้าทำอะไร จากนี้ครอบครัวข้าก็จะปลอดภัยได้ระยะหนึ่ง ถึงตอนนั้นข้าก็จะรักษาให้ท่าน”
สวี่เซี่ยนเว่ยคิดแล้วก็รู้สึกว่าใช่ว่าไม่มีเหตุผล รีบรับปากว่า “ได้ ข้าจะหาทางช่วยพวกเจ้าจับตัวรองนายอำเภอหยางกับเผิงจู่ปู้เจ้าคนเลวสองคนนี่ก่อน”
เซี่ยอวิ๋นจิ่นกับลู่เจียวไม่คิดสนใจเขาอีก หันหลังพาเสี่ยวหงกับชุ่ยลวี้กลับบ้านตระกูลเซี่ย
ตลอดทางมา เซี่ยอวิ๋นจิ่นกับลู่เจียวเดิมยังเป็นห่วงว่ามือสังหารจะมาสังหารพวกเขา ปรากฏตลอดทางกลับสงบเงียบปลอดภัย ดูท่าคนอยู่เบื้องหลังมือสังหารเซี่ยอวิ๋นจิ่นตอนนี้ทำการระมัดระวังรอบคอบมากขึ้น กลัวว่าจะตกอยู่ในน้ำมือพวกเขา
“พวกเขารอบคอบเช่นนี้ พวกเราก็ยิ่งต้องระวังให้มาก”
เซี่ยอวิ๋นจิ่นกำชับลู่เจียว ลู่เจียวพยักหน้าเล็กน้อยแสดงท่าทีเห็นด้วย
นางคิดถึงว่าเสิ่นซิ่วซ่อนตัวอยู่ในมุมมืดจัดการพวกนางมาตลอด ในใจก็อดโมโหไม่ได้
“รู้แต่แรก ตอนนั้นก็จัดการนางเสียเลย ก่อนหน้านี้เจ้าไม่รู้เรื่องนางเลยหรือ”
ลู่เจียวกล่าวถึงตรงนี้ก็พลันชะงัก เรื่องนี้นางไม่เคยพูดกับเซี่ยอวิ๋นจิ่น
แต่พอลู่เจียวกล่าวถึง เซี่ยอวิ๋นจิ่นก็รู้ว่าระหว่างพวกนางมีเรื่องอะไรที่เขาไม่รู้ รีบถามว่า “ตอนนั้นนางคิดอุบายชั่วอะไรทำร้ายเจ้าใช่ไหม”
เซี่ยอวิ๋นจิ่นคิดถึงว่าตอนเสิ่นซิ่วหายตัวไป แม่หม้ายหลี่ยังแล่นมาบอกบ้านเขา บางทีตอนนั้นอาจเกิดเรื่องอะไร
แววตาเซี่ยอวิ๋นจิ่นส่องประกายจ้องมองลู่เจียว ลู่เจียวเห็นเขาเช่นนี้ก็ไม่คิดปิดบังเขาอีก
“ก่อนหน้านี้มีครั้งหนึ่งที่ข้าไปหมู่บ้านชีหลี่ซื้อของ หญิงผู้นี้พอดีมาในหมู่บ้านด้วย นางให้คนชั่วสองสามคนมาจับตัวข้า คนพวกนั้นเป็นกลุ่มคนชั่วที่มีชายใบหน้าบากเป็นหัวหน้า นางให้พวกนั้นจับตัวข้า บอกว่าจะเอาข้าไปขายซ่อง เจ้าก็รู้ ข้าแรงเยอะ คนพวกนั้นไม่ทันระวัง ถูกข้าขู่บังคับ ข้าให้ชายหน้าบากเอาเสิ่นซิ่วไปขายซ่อง”
“ตอนนี้ดูท่า ตอนนั้นเสิ่นซิ่วน่าจะกล่อมชายหน้าบากให้ร่วมมือกับนางได้ ทั้งสองคนจับจ้องสวี่เซี่ยนเว่ย จากนั้นก็สร้างสถานการณ์ให้เสิ่นซิ่วเข้ามาอยู่ในจวนสวี่ได้อย่างราบรื่น ชายหน้าบากได้เงินไปร้อยตำลึง”
ความจริงตอนนั้นหากไม่ใช่ลู่เจียวแสดงท่าทางข่มขู่ให้ชายหน้าบากกลัว ชายหน้าบากก็ใช่ว่าจะยอมฟังคำพูดนางจนคิดพาเสิ่นซิ่วไปขาย แต่ต่อมาถูกเสิ่นซิ่วกล่อมเข้า ก็เลยส่งนางไปเป็นอนุสวี่เซี่ยนเว่ย
พอลู่เจียวกล่าวจบก็พบว่าบรรยากาศในรถม้าเงียบกริบเย็นยะเยือก นางหันไปมองเซี่ยอวิ๋นจิ่น พบว่าแววตาเซี่ยอวิ๋นจิ่นดำทะมึนน่ากลัวมาก แววตาเต็มไปด้วยความชั่วร้ายมืดมิดเย็นเยียบ
เขากัดฟันคำรามขึ้น “นังหญิงสมควรตาย พวกเราจะต้องจับนางให้ได้”
เขากล่าวจบก็พลันหันไปมองลู่เจียวกล่าวว่า “วันหน้าเกิดเรื่องเช่นนี้อีกเจ้าบอกข้าได้ไหม”
หากลู่เจียวบอกเขา เขาก็จะไม่ปล่อยเสิ่นซิ่วไปง่ายๆ
ลู่เจียวถอนหายใจกล่าวว่า “ข้าดูแคลนศัตรูเกินไป คิดว่านางเป็นแค่หญิงบ้านนอก ลงโทษเช่นนั้นก็โหดเหี้ยมพอแล้ว คิดไม่ถึงว่าสุดท้ายนางถึงกับยังมีโอกาสมาเอาคืน ความจริงหากนางยอมเป็นอนุสวี่เซี่ยนเว่ยไปอย่างสงบเสงี่ยม ชีวิตที่เหลือย่อมไม่เลว แต่นางกลับรนหาที่ตาย ในเมื่อเป็นเช่นนี้ ครั้งนี้พวกเราอย่าได้ปล่อยนางไปอย่างเด็ดขาด”
“ได้”
เซี่ยอวิ๋นจิ่นตัดสินใจว่ากลับถึงบ้านก็จะส่งหลี่หนานเทียนกับโจวเส้ากงไปหาตัวเสิ่นซิ่ว เขาไม่อาจคาดหวังว่ามือปราบจ้าวคนเดียวจะหาตัวเสิ่นซิ่วได้ หญิงผู้นี้คือตัวหายนะ
พอรถม้ากลับถึงบ้านตระกูลเซี่ย เซี่ยอวิ๋นจิ่นรีบเรียกหลี่หนานเทียนกับโจวเส้ากงมาสั่งการ
“หลี่หนานเทียน โจวเส้ากง ท่านจ้าวบอกข้ามาตลอดว่า พวกเจ้าทั้งสองคนเป็นคนมีความสามารถ ครั้งนี้ทำให้ข้าดูหน่อยว่าพวกเจ้าทั้งสองคนเป็นคนมีความสามารถจริงไหม”
หลี่หนานเทียนกับโจวเส้ากงรีบประสานมือกล่าวว่า “ขอคุณชายมอบภารกิจ”
“หาตัวเสิ่นซิ่ว และหาทองคำและเงินก้อนที่รองนายอำเภอหยางกับเผิงจู่ปู้สองคนซ่อนไว้”
หลี่หนานเทียนกับโจวเส้ากงไม่ซักถามอะไรสักคำก็รับคำสั่ง “ขอรับ ข้าน้อยจะรีบไปจัดการ”
ก่อนหน้านี้นายหญิงพวกเขาวาดภาพเสิ่นซิ่ว พวกเขาเห็นแล้วก็รู้หญิงผู้นั้นหน้าตาเป็นอย่างไร
หลี่หนานเทียนกับโจวเส้ากงสองคนหันหลังออกจากห้องไปปฏิบัติหน้าที่ตามคำสั่งที่ได้รับมอบหมาย
ลู่เจียวไม่ได้สนใจเรื่องนี้ พอกลับถึงบ้านตระกูลเซี่ยก็ไปสอนหนังสือเด็กๆ คาบหนึ่งเป็นวิชาคำนวณ อีกคาบเป็นวิชาแสดงละครและวิชาการเล่นแข่งขัน ละครส่วนใหญ่ก็จะเล่นเรื่องถูกคนร้ายจับตัวแล้วจะรับมือคนเลวอย่างไร
ที่ลู่เจียวจจัดให้มีวิชานี้ก็เพราะระยะนี้ตระกูลเซี่ยประสบเรื่องวุ่นวาย แม้ว่าเจ้าหนูน้อยทั้งสี่อยู่แต่ในบ้าน ปลอดภัยมาก แต่ก็ต้องป้องกันเหตุไม่คาดคิด นางยังสอนพวกลูกทั้งสี่ หากเกิดตกไปอยู่ในมือคนชั่ว ควรรับมือคนชั่วอย่างไร
“หากมีคนเลวจับตัวพวกเจ้า ต้องจำไว้ให้ดี อย่าได้ร้องไห้โวยวาย ร้องไห้จะทำให้คนเลวโมโห พวกเขาอาจจะโมโหจนลงมือทำร้ายพวกเจ้า พวกเจ้าต้องเชื่อฟัง จากนั้นก็ค่อยหาโอกาสหลบหนี เรื่องนี้กับเรื่องลักพาตัวก่อนหน้านี้เหมือนกัน เอาละ ถัดไป พวกเราจะมาแสดงกันซักหน่อย”
ตกค่ำ เจ้าหนูน้อยทั้งสี่ก็เล่าเรื่องนี้ให้เซี่ยอวิ๋นจิ่นฟังอย่างตื่นเต้น เซี่ยอวิ๋นจิ่นหันไปมองลู่เจียวทันที
ลู่เจียวอธิบายกล่าวว่า “แม้ว่าพวกเขาอยู่ในจวนไม่เกิดเรื่อง แต่ป้องกันไว้ก่อน ข้าซักซ้อมกับพวกเขาสักหน่อย หากเจอวิกฤตอันตรายควรทำตัวสงบนิ่งอย่างไร”
เด็กน้อยส่วนใหญ่ยามเผชิญอันตรายก็จะกลัวจนแผดเสียงร้องไห้ดัง เช่นนี้ก็จะทำให้คนเลวที่จับตัวพวกเขาโมโหได้ง่าย พอโมโหก็จะทำร้ายพวกเขา มีเด็กไม่น้อยตายเพราะอุบัติเหตุไม่ตั้งใจนี้ กลับกันหากเจ้าเชื่อฟัง ในระยะเวลาสั้นๆ ก็ย่อมไม่เกิดเรื่อง นอกเสียจากคนเบื้องหลังคิดต้องการชีวิตเจ้า