หร่วนไคด้านหลังมองน้องสาวตนเองอย่างไร้วาจาจะกล่าว
น้องสาวมีพรสวรรค์เหนือสามัญ ฝึกยุทธ์ก็มีพรสวรรค์เหนือกว่าคนทั่วไปหลายเท่า ดังนั้นแม้เขาเป็นผู้ชาย แต่ความจริงฝีมือไม่ได้สูงส่งเท่าน้องสาว
แต่ไรมาเขาก็เป็นห่วงมาตลอดว่า หากน้องสาวตกไปอยู่ในมือคนเลว ก็เกรงว่าจะกลายเป็นเครื่องมือสังหาร ดีที่ตอนนี้พวกเขาติดตามเจ้านายที่เป็นคนดำรงคุณธรรมซื่อตรง ดังนั้นน้องสาวคงไม่เดินไปบนเส้นที่ผิดพลาด หากเป็นเจ้านายคนอื่นมาเห็นน้องสาวเขาร้ายกาจเช่นนี้ ไม่แน่อาจต้องการให้น้องสาวเขากลายเป็นเครื่องมือสังหารก็เป็นได้
หร่วนไคครุ่นคิดแล้วก็เดินตามหร่วนจู๋มา
หร่วนจู๋มาถึงก็อวดผลงานกับลู่เจียวอย่างตื่นเต้นดีใจ “เหนียงจื่อ ข้าจับเป็นได้สองคน”
หญิงสาวตัวน้อยอายุแค่สิบหกยิ้มแววตาบริสุทธิ์และน่ารัก สัมผัสกลิ่นอายสังหารรอบกายนางไม่ได้แม้แต่น้อย แต่ลู่เจียวได้เห็นฝีมือนางเมื่อครู่ ก็รู้ว่าฝีมือนางร้ายกาจมาก นางมีหร่วนจู๋ วันหน้าทำงานก็สะดวกมาก
ลู่เจียวยิ้มพยักหน้าเอ่ยชมว่า “ไม่เลว ครั้งนี้หร่วนจู๋สร้างความดีความชอบ กลับไปข้าจะมอบรางวัลให้ แต่พวกเรารีบไปจากที่นี่ก่อน”
พวกนางอยู่ๆ สังหารไปสิบกว่าคน อีกไม่นานที่นี่ย่อมมีคนมา
ลู่เจียวเพิ่งกล่าวจบ หลี่หนานเทียนข้างรถม้าก็ตกใจเอ่ยขึ้นว่า “พวกเขาฆ่าตัวตายแล้ว”
ลู่เจียวรีบมองออกไปนอกรถม้า พบว่าคนชุดดำสองคนที่หร่วนจู๋หิ้วอยู่ กินยาพิษปลิดชีวิตตนเองแล้ว ยาพิษอาจซ่อนอยู่ในปากพวกเขา
หร่วนจู๋หิ้วคนตายสองคนอยู่ สีหน้าทำอะไรไม่ถูก มองลู่เจียวกล่าวว่า “เหนียงจื่อ ข้าไม่ได้สังหารพวกเขา”
ลู่เจียวพยักหน้า “ไม่โทษเจ้า”
ตอนนี้ทำเช่นไรดี คนก็ตายไปแล้ว นางยังต้องพาสองศพนี่กลับไปอีกหรือไม่
ลู่เจียวครุ่นคิดแล้วก็รีบสั่งการคนด้านนอกว่า “ไม่ต้องสนใจพวกเขา พวกเราไป”
“ขอรับ”
เงาร่างด้านนอกโดดขึ้นรถม้า รถม้าสามคันพริบตาก็ขับออกไปรวดเร็ว ด้านหลังพลันมีเสียงร้องตกใจดังแว่วมา
พวกลู่เจียวตรงกลับบ้านตระกูลเซี่ยอย่างไม่คิดสนใจแม้สักนิด ทว่าบ้านตระกูลเซี่ยกลับเกิดเหตุไม่คาดคิด
ตอนฟ้าใกล้มืด แต่ละครอบครัวก็ส่งคนมารับลูกตนเองกลับบ้าน
วันนี้คนตระกูลหันมาเร็วสุด เพราะอีกไม่กี่วันหันถงก็จะสอบย่วนซื่อแล้ว ดังนั้นสองสามวันนี้จึงให้พ่อบ้านคนหนึ่งพาผู้คุ้มกันสองสามคนมารับหันตงเซิ่งกับหันหนานเฟิง
ทว่าพอรับเด็กสองคนออกไปยังไม่ทันได้ขึ้นรถม้า ก็มีเงาร่างสองคนพุ่งออกมาจากที่มืดเข้าแย่งตัวหันหนานเฟิงไป ก่อนไปยังทิ้งวาจาไว้ว่า
“หากไม่อยากให้คุณชายน้อยพวกเจ้าเป็นอะไร รีบเข้าบ้านตระกูลเซี่ยไปหลอกเด็กตระกูลเซี่ยออกมาคนหนึ่ง ไม่งั้นก็อย่าได้โทษว่าพวกเราฆ่าเจ้าเด็กนี่”
กล่าวจบทั้งสองคนก็หายตัวไป
หันตงเซิ่งเห็นน้องชายถูกจับตัวไปก็อดส่งเสียงตะโกนดังอย่างตื่นตกใจไม่ได้ “น้องพี่ๆ”
สีหน้าผู้คุ้มกันย่ำแย่อย่างที่สุด หันวิ่งตามไปทันที
พ่อบ้านตระกูลหันที่รับหน้าที่ส่งเด็กสองคนก็แซ่เซี่ย พ่อบ้านเซี่ยส่งเสียงตวาดดุดันเรียกพวกเขาให้หยุด “ไม่ต้องตาม เงียบ”
ผู้คุ้มกันตระกูลหันหลายคนพลันชะงักหันไปมองพ่อบ้านเซี่ยพร้อมกัน พ่อบ้านเซี่ยไม่ได้สนใจผู้คุ้มกันพวกนี้ เขาหันไปมองหันตงเซิ่งที่กำลังร้องไห้ กล่าวว่า “คุณชายใหญ่อย่าร้องไห้ พวกเราควรหาทางช่วยคุณชายน้อย”
“ช่วยอย่างไรg]jk”
หันตงเซิ่งหยุดร้องไห้หันไปมองพ่อบ้านเซี่ย
พ่อบ้านเซี่ยรีบกล่าวว่า “เมื่อครู่คนผู้นั้นบอกไว้ก่อนไปไม่ใช่หรือ ไปหลอกคุณชายน้อยตระกูลเซี่ยออกมาคนหนึ่งก็พอ เอาละ พวกเราไปหลอกเขาออกมา คุณชายน้อยก็ไม่เป็นไรแล้ว”
หันตงเซิ่งได้ฟังพ่อบ้านเซี่ยก็ปฏิเสธทันที “ไม่ได้ หากพวกต้าเป่าออกมาต้องโชคร้ายแน่”
พ่อบ้านเซี่ยถลึงตาใส่หันตงเซิ่งด้วยสีหน้าไม่พอใจ “นี่เดิมก็เป็นเรื่องของตระกูลเซี่ยพวกเขา กลับให้คุณชายน้อยเรามาพลอยโดนไปด้วย คุณชายไม่หลอกพวกเขาออกมา คนพวกนั้นก็ไม่ยอมปล่อยคุณชายน้อยหรือว่าคุณชายอยากเห็นคุณชายน้อยตาย”
พอกล่าวเช่นนี้ หันตงเซิ่งก็สีหน้าแปรเปลี่ยน พ่อบ้านเซี่ยรีบกล่าวว่า “พวกเราเข้าไปกัน ไม่เช่นนั้นเกรงว่าคงเกิดเรื่องกับคุณชายน้อยแล้ว”
หันตงเซิ่งลำบากใจ แต่สุดท้ายก็กัดฟันวิ่งเข้าบ้านตระกูลเซี่ยไป
แววตาพ่อบ้านเซี่ยด้านหลังส่องประกายก่อนจะเดินตามหลังเข้าไป
หันตงเซิ่งพุ่งเข้าไปในลานบ้านตระกูลเซี่ย พวกเด็กๆ กำลังเล่นไม้ลื่น เอ้อร์เป่าเล่นกับจ้าวอวี้หลัวไปพลางโอ้อวดไปพลาง “ดูข้าเล่นสิ ทั้งเร็วและนิ่ง ไม่เหมือนเจ้า เอาแต่ไถลเบี้ยวๆ ลงมา”
จ้าวอวี้หลัวโมโหกล่าวว่า “ตอนนี้ข้าเล่นได้ดีมากแล้ว”
เอ้อร์เป่า ซานเป่ากับซื่อเป่ากำลังเล่นไม้ลื่น ต้าเป่ายืนอยู่ใต้ไม้ลื่น เงยหน้ามองน้องชายที่กำลังเล่นกันสนุกสนานอยู่ด้านบน
ต้าเป่าไม่ได้รู้สึกสนใจกับการเล่นไม้ลื่นเท่าไร เขาเป็นพี่ชาย ได้ดูน้องชายเล่นมีความสุข เขาเองก็มีความสุขมาก
หูหลิงเสวี่ยอยู่เป็นเพื่อนคุยกับต้าเป่า หูหลิงเสวี่ยเองก็ไม่ค่อยชอบเล่นไม้ลื่น ดังนั้นจึงอยู่เป็นเพื่อนคุยกับต้าเป่า
ตอนหันตงเซิ่งวิ่งเข้ามา ต้าเป่าหันหน้าไปเห็นเขาก็ตกใจ มองเขากล่าวว่า “พวกเจ้าไม่ได้ไปแล้วหรือ ทำไมยังกลับมาอีกเล่า”
กล่าวจบต้าเป่าก็ยื่นหน้าไปมองด้านหลังหันตงเซิ่ง “น้องชายเจ้าเล่า”
หันตงเซิ่งขอบตาแดงขึ้นทันที เขามองต้าเป่าพร้อมกับยื่นมือไปดึงมือต้าเป่าไว้ “ข้ามีเรื่องจะบอกท่านอาเซี่ย เจ้าไปกับข้าหน่อย”
“เจ้ามีอะไรบอกท่านพ่อข้า?”
ต้าเป่าถามอย่างแปลกใจ แต่กลับไม่ปฏิเสธ ดึงมือหันตงเซิ่งวิ่งไปหาท่านพ่อเขาที่ห้อง
พ่อบ้านเซี่ยตระกูลหันสีหน้าพลันแปรเปลี่ยน เขารีบก้าวเดินเข้าไปคิดไล่ตามหันตงเซิ่งไม่ให้ไปหาเซี่ยอวิ๋นจิ่น
เดิมเขาคิดว่าหันตงเซิ่งรักน้องชาย ย่อมต้องหลอกเจ้าหนูน้อยทั้งสี่ออกไปสักคน ปรากฏคิดไม่ถึงว่าหันตงเซิ่งไม่ได้หลอกเจ้าหนูน้อยทั้งสี่ กลับไปหาเซี่ยอวิ๋นจิ่น
หากเซี่ยอวิ๋นจิ่นรู้เรื่องนี้ย่อมต้องสืบหา ไม่แน่อาจสืบมาถึงเขา?
พ่อบ้านเซี่ยไม่กล้าคิดต่อ หันไปมองเอ้อร์เป่าที่เพิ่งจะลื่นลงมาจากไม้ลื่น แววตาเป็นประกายเย็นเยียบ
ยามนี้หันตงเซิ่งกับต้าเป่าวิ่งไปเรือนด้านหน้าหาเซี่ยอวิ๋นจิ่นที่ห้องนอนแล้ว เขายังพิงเตียงหลับตาพักอยู่
ยามนี้เขาแอบเป็นห่วงลู่เจียว ไม่รู้ว่านางจะเกิดเรื่องอะไรหรือไม่ ดังนั้นจึงรู้สึกว้าวุ่นใจไม่น้อย
ได้ยินเสียงฝีเท้านอกประตู เซี่ยอวิ๋นจิ่นคิดว่าลู่เจียวกลับมา ก็หันไปมองด้วยสัญชาตญาณทันที
พอเห็นคนที่เข้ามาเป็นหันตงเซิ่งกับต้าเป่า แววตาเซี่ยอวิ๋นจิ่นก็แอบผิดหวัง แต่ก็เก็บท่าทีอย่างรวดเร็ว มองไปยังสองหนูน้อยถามว่า “พวกเจ้าสองคนมีอะไรหรือ”
หันตงเซิ่งเห็นเซี่ยอวิ๋นจิ่นก็อดแผดเสียงร้องไห้ไม่ได้ “ท่านอาเซี่ย ท่านรีบไปช่วยน้องชายข้า น้องชายข้าถูกคนจับตัวไปแล้ว”
เซี่ยอวิ๋นจิ่นตกใจมาก ขึ้นนั่งตัวตรงทันที “เรื่องเกิดเมื่อไร”
ก่อนหน้านี้ตระกูลหันสองพี่น้องมาอยู่บ้านพวกเขาก็ยังดีๆ ทำไมพริบตาเดียวหันหนานเฟิงก็ถูกคนจับตัวไป แต่ว่าเขาจับหันหนานเฟิงไปทำไม
“เจ้าพูดช้าๆ หน่อย เกิดอะไรขึ้นกันแน่”
สีหน้าเซี่ยอวิ๋นจิ่นเคร่งดุอย่างมาก หันตงเซิ่งพยายามสูดลมหายใจลึกๆ ก่อนจะรีบกล่าวว่า “ก่อนหน้านี้ข้ากับน้องชายยังไม่ทันได้ขึ้นรถม้า ก็มีคนสองคนพุ่งออกมาชิงตัวน้องชายข้าไป ก่อนพวกเขาไปยังบอกว่าให้ข้าไปหลอกแฝดสี่ออกมา เช่นนี้พวกเขาก็จะปล่อยน้องชายข้า”
ความจริงเดิมเขาเองก็คิดหลอกออกไปคนหนึ่ง ต่อมาพอคิดถึงว่าก่อนหน้านี้ตนเองทำผิด ท่านพ่อเขาเสียใจมากขนาดนั้น หากเขาหลอกแฝดสี่อีก ท่านพ่อเขาต้องเสียใจมากอย่างแน่นอน
เขาจำได้ว่าท่านพ่อเขาบอกเขาว่า ท่านอาเซี่ยกับท่านพ่อเหมือนพี่น้องกัน พี่น้องกันไม่ใช่ว่าเหมือนเขากับน้องชายหรือ
ดังนั้นเขาไม่อยากให้ท่านพ่อทุกข์ใจ นับประสาอันใดกับระยะนี้ ต้าเป่า เอ้อร์เป่า ซานเป่า ซื่อเป่าดีกับพวกเขามาก เขาไม่อยากหลอกพวกเขาออกไป
พอหันตงเซิ่งพูด เซี่ยอวิ๋นจิ่นก็รู้คนบงการคิดใช้หันตงเซิ่งมาหลอกเจ้าหนูน้อยทั้งสี่ออกไปให้จับ แต่พวกเขาคิดไม่ถึงว่าหันตงเซิ่งไม่ได้ทำตาม
เซี่ยอวิ๋นจิ่นยื่นมือไปลูบศีรษะหันตงเซิ่ง กล่าวว่า “เจ้าทำได้ดีมาก วางใจ ท่านอาจะต้องคิดหาทางช่วยน้องชายเจ้า”
เซี่ยอวิ๋นจิ่นกล่าวจบก็ลงจากเตียงเตรียมจะออกไป ไม่คิดว่าลานด้านนอกจะมีเสียงร้องดังตกใจอลหม่านไปหมด