รู้สึกตัวอีกที ข้าก็เป็นเซียนซะแล้ว [原來我是世外高人] – บทที่ 177 มันโหดร้ายเกินไป ยังไม่ได้แสดงฝีมือก็ตายเสียแล้ว!

บทที่ 177 มันโหดร้ายเกินไป ยังไม่ได้แสดงฝีมือก็ตายเสียแล้ว!

บทที่ 177 มันโหดร้ายเกินไป ยังไม่ได้แสดงฝีมือก็ตายเสียแล้ว!

“ก่อนจับผู้บรรลุสังสารวัฏ มาดูกันว่าเป็นผู้ใดที่ท้าท้ายแดนสังสารวัฏพวกข้า…”

สิ่งมีชีวิตในชุดดำพึมพำ

และเมื่อสิ้นเสียง ร่างของเขาก็หายไปในความว่างเปล่า

ณ พรรคจื่อเสีย

“ขอบคุณทุกท่าน!”

ผู้อาวุโสของพรรคจื่อเสียกล่าวกับสือเฟิง เวิงอู๋โยวและโจวตงอย่างซาบซึ้ง

เพราะสือเฟิง เวิงอู๋โยวและโจวตง พรรคจื่อเสียของพวกเขาจึงไม่ต้องกังวลว่าจะถูกกำจัดอีกต่อไป ซ้ำแล้วพรรคจื่อเสียของพวกเขายังได้อัจฉริยะสะท้านฟ้าครบทั้งแปดคน!

ยามนี้ ชะตากรรมของพรรคจื่อเสียของพวกเขากำลังถูกเขียนขึ้นใหม่แล้ว!

“มิเป็นไร ๆ นี่ถือเป็นโชคชะตาของพวกท่าน”

เวิงอู๋โยวพูดอย่างอิจฉา “ผู้ใดให้เด็ก ๆ ยืนยันที่จะเข้าร่วมพรรคจื่อเสียของเจ้าเล่า”

“ใช่แล้ว” โจวตงเองก็อิจฉาเช่นกัน

อัจฉริยะสะท้านฟ้าแปดคนเกี่ยวข้องกับท่านเซียน นับแต่นี้ไปพรรคจื่อเสียย่อมรุ่งโรจน์และเรืองรองไม่มีผู้ใดเทียบ!

“หากต้องการความช่วยเหลือ เจ้าสามารถกล่าวกับพวกข้าได้เสมอ ต่อแต่จากนี้ไป พวกข้าจะช่วยเหลือพรรคจื่อเสียของเจ้าเอง” เวิงอู๋โยวกล่าว

“ขอบคุณยิ่งนัก!”

ผู้อาวุโสของพรรคจื่อเสียขอบคุณครั้งแล้วครั้งเล่า

เวิงอู๋โยวกับโจวตงพยักหน้ารับอย่างไม่ปฏิเสธ ก่อนจะกล่าวอำลาผู้อาวุโสพรรคจื่อเสียและสือเฟิง แล้วออกจากพรรคจื่อเสียไปในที่สุด

ส่วนสือเฟิงนั้นยังไม่ได้ไปจาก

“พวกเจ้าต้องฝึกฝนให้ดี!”

เด็กหนุ่มเดินเข้าไปหาอ้ายฉานและเด็กคนอื่น ๆ ก่อนจะกล่าวลาพวกเขาด้วยรอยยิ้ม แล้วออกจากพรรคจื่อเสียไป

“อัจฉริยะสะท้านฟ้าถึงกับมีแปดคน!”

บนยอดเขาที่ห่างไกลจากพรรคจื่อเสีย พลันมีเสียงพึมพำด้วยความประหลาดใจดังขึ้นมา

ในอีกด้านหนึ่ง ร่างสิ่งมีชีวิตโผล่ออกมาจากความมืดรอบ ๆ พรรคจื่อเสีย

ทั้งหมดล้วนมีสีหน้าประหลาดใจ พวกเขาไม่คาดคิดมาก่อนว่าปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นทางแดนบูรพาทิศนั้น จะเกิดจากการปรากฏตัวของอัจฉริยะสะท้านฟ้าแปดคน!

“นี่ไม่ใช่เรื่องเล็ก ๆ แล้ว!”

“ต้องกลับไปรายงานโดยเร็ว!”

พวกเขาไม่กล้ารั้งรอ ต่างคนต่างรีบกลับไปแจ้งข่าว

พวกเขาเหล่านี้หาใช่ใครอื่น นอกจากยอดฝีมือของกองกำลังลับ

พวกเขามาที่นี่เร็วจึงได้เห็นทุกสิ่งด้วยสองตา

ทว่าพวกเขาไม่กล้าปรากฏตัวเพราะกลัวถูกเปิดโปง

ท้ายที่สุดแล้ว ที่แห่งนี้ก็มีผู้คนมากเกินไป

ณ เมืองชิงซาน

สิ่งมีชีวิตในชุดดำมาถึงที่นี่ในไม่ช้า

เขาสัมผัสได้ถึงกลิ่นอายของผู้บรรลุสังสารวัฏในเมืองชิงซาน

สิ่งมีชีวิตที่อยู่บนเส้นทางสังสารวัฏจะถูกปนเปื้อนด้วยกลิ่นอายของเส้นทางสังสารวัฏ นี่คือสิ่งที่มิอาจสลายหายไปตามกาลเวลา อีกทั้งมันยังเป็นกลิ่นอายที่ไม่สามารถปกปิดได้

เขาไม่ได้เข้าไปในเมืองโดยตรง แต่เยื้องกรายไปทางแม่น้ำนอกเมืองชิงซาน

เขารู้ว่าที่นี่มีต้นหลิวและก้อนหินเฝ้าอยู่ หากไม่กำจัดต้นหลิวและหินก้อนนี้ เขาจะเข้าเมืองไม่ได้ ทั้งยังพาผู้บรรลุสังสารวัฏออกไปไม่ได้ด้วย

“กลิ่นน่าสะอิดสะเอียนอีกแล้ว!”

ต้นหลิวขยับไปมา พร้อมกับกล่าวด้วยเสียงรังเกียจเดียดฉันท์

มันรู้สึกถึงกลิ่นอายที่คุ้นเคยจากสิ่งมีชีวิตในชุดดำนี้ ซึ่งเหมือนกับกลิ่นอายของสิ่งมีชีวิตแปลกประหลาดสองตนที่ปรากฏก่อนหน้านี้

“กล้าท้าทายแดนสังสารวัฏ มันผู้ใดให้ความกล้าหาญแก่พวกเจ้า!”

สิ่งมีชีวิตในชุดดำพูดอย่างเรียบนิ่ง รอบกายรายล้อมด้วยหมอกสีดำแปลกประหลาด และไม่สามารถมองเห็นใบหน้าได้อย่างชัดเจน

“แดนสังสารวัฏ? นั่นเป็นสถานที่เช่นใดกัน?” ก้อนหินกล่าวถามอย่างฉงนใจ

มันและต้นหลิวเป็นเพียงแค่สัตว์ประหลาดตัวน้อยธรรมดา ทว่าพวกมันแข็งแกร่งขึ้นหลังจากฟังท่านเซียนบรรเลงกู่ฉิน และดูภาพวาดของท่านเซียน

แต่พวกมันไม่เคยจากไปไหนและรับใช้ท่านเซียนอยู่ที่นี่อย่างเงียบ ๆ จึงไม่รู้เกี่ยวกับโลกภายนอกมากนัก

ส่วนเส้นทางสังสารวัฏ หรือแดนสังสารวัฏเหล่านี้ พวกมันล้วนไม่เข้าใจด้วยซ้ำ

ไม่รู้จักแดนสังสารวัฏ แล้วยังคิดจะปกป้องผู้บรรลุสังสารวัฏ?

ช่างโง่เขลาเสียจริง ๆ!

สิ่งมีชีวิตในชุดดำเยาะเย้ยในใจ ต้นหลิวและก้อนหินแสร้งทำเป็นสับสนกับความเข้าใจของพวกมันอย่างชัดเจน!

“ข้ารู้ว่ามีคนอยู่เบื้องหลังพวกเจ้า! ข้าจะจับเจ้าก่อน แล้วค่อยจับคนที่อยู่เบื้องหลังเจ้า ให้พวกเจ้าได้รู้ซึ้งถึงพลังแดนสังสารวัฏนี้!” สิ่งมีชีวิตในชุดดำกล่าว

เมื่อต้นหลิวและก้อนหินได้ยินวาจาดังกล่าว พวกเมันก็กระวนกระวายใจยิ่ง

ผู้ที่อยู่เบื้องหลังพวกมันก็คือท่านเซียนไม่ใช่หรือ?

อีกฝ่ายมาเพราะท่านเซียน?

เยี่ยม! พวกมันไม่คิดอดทนอีกต่อไปแล้ว!

ฟึ่บ!

ต้นหลิวขยับทันที กิ่งก้านของมันกวาดเข้าใส่อีกฝ่ายด้วยความเร็วเกินต้าน แม้ว่าสิ่งมีชีวิตในชุดดำจะทรงพลังมาก แต่ก็ไม่อาจตอบสนองได้ทัน ร่างของเขาจึงถูกกิ่งต้นหลิวหวดกระเด็นออกไปไกล!

เมื่ออ้าปาก สิ่งมีชีวิตในชุดดำก็กระอักเลือดออกมา โลหิตทั้งร่างราวกับถูกสูบไปแล้วครึ่งตัว!

ต้นหลิวทรงพลังมากเพียงใด?

สิ่งมีชีวิตในชุดดำรู้สึกหวาดกลัว

ตัวเขาเป็นถึงทูตสังสารวัฏ!

เมื่อเทียบกับสิ่งมีชีวิตทั้งสองที่อยู่ด้านหน้า ย่อมต้องมีพละกำลังที่แข็งแกร่งมากกว่า!

อีกอย่าง เขาเป็นวิญญาณนักบุญและมีพลังสังสารวัฏ แม้ว่าจะไปเยือนเก้าอาณาจักรตอนบน เขาก็จะไม่มีวันประสบอุบัติเหตุใด ๆ กระทั่งมหาจักรพรรดิยังมิอาจทำร้ายเขาได้!

เพราะพลังสังสารวัฏสามารถปกป้องให้เขาปลอดภัยได้!

ภายใต้การหวดของต้นหลิว เขากลับอ่อนแอมากจนแม้แต่พลังสังสารวัฏก็มิอาจปกป้องได้ แล้วจะไม่ให้เขากลัวได้อย่างไร!

พลังสังสารวัฏเป็นของพลังชนิดหนึ่งในแดนสังสารวัฏ เฉพาะผู้ที่มีคุณสมบัติบางอย่างเท่านั้นที่จะได้รับมอบอำนาจ!

พลังนี้แข็งแกร่งและพิเศษเกินกว่าจะเทียบเคียงกับพลังของสวรรค์และโลก!

“สวรรค์! ข้าไม่อาจเอาชนะมันได้!”

สิ่งมีชีวิตในชุดดำหวาดกลัวอย่างยิ่ง ต้นหลิวจักร้ายกาจเกินไปแล้ว เขาเทียบกับมันไม่ได้เลย!

ตู้ม!

ในตอนนี้เอง ก้อนหินนี้ก็กระแทกเข้าใส่เขาต่อ!

“บังอาจแตะต้องท่านเซียน เบื่อที่จะมีชีวิตอยู่แล้วงั้นหรือ!?” ก้อนหินพูดด้วยความเหยียดหยาม

ท่านเซียน?

ท่านเซียนอะไรกัน?

สิ่งมีชีวิตในชุดดำไม่เข้าใจว่าก้อนหินหมายถึงอะไร จนกระทั่งมันตายตก

พลังของเจ้าก้อนหินทุบสิ่งมีชีวิตในชุดดำตายตกอย่างรวดเร็ว

ต้นหลิวและกิ่งต้นหลิวโบกสะบัด จากนั้นศพของสิ่งมีชีวิตในชุดดำก็หายไป เลือดที่สาดกระเซ็นอยู่บนพื้นเองก็หายไปเช่นกัน พลันทุกอย่างกลับมาอยู่ในสภาพเช่นเดิม

“พวกเราต้องระวังให้มากขึ้น อย่าให้พวกหมาแมวมันมารังควานท่านเซียนได้”

ต้นหลิวพูดกับก้อนหิน

“อืม! พวกเราต้องสนใจให้มากขึ้น หากหมาแมวพวกนี้บังอาจแตะต้องท่านเซียน พวกเราแค่ต้องกำจัดพวกมัน!”

ก้อนหินกล่าวต่อ “ข้ารู้ว่าเจ้าพวกน่าขยะแขยงสองกลุ่มนี้กำลังพุ่งเป้าไปที่ท่านเซียน ดังนั้น ไม่ว่ามันจะพูดอะไร เจ้าพวกนี้ก็สมควรถูกฆ่าให้สิ้นอยู่ดี!”

ณ แดนสังสารวัฏ

“ทูตสังสารวัฏตายแล้ว!”

นายตำหนักโกรธเกรี้ยวจนอยากจะฆ่าอีกฝ่ายให้ตายตก

“ไม่เห็นแดนสังสารวัฏอยู่ในสายตาเลยหรือ?”

น้ำเสียงของเขาเย็นชาราวกับตกลงไปในถ้ำน้ำแข็ง

สิ่งมีชีวิตสองตัวก่อนหน้ารอดกลับมาได้ แต่ครานี้อีกตนกลับถูกฆ่าทิ้ง

เห็นได้ชัดว่าคนผู้นั้นกำลังส่งสัญญาณเตือนพวกเขา ว่าหากพวกเขายังยืนกรานที่จะส่งคนมาอีกครั้งก็จะฆ่าให้สิ้น!

“รนหาที่ตาย!”

นายตำหนักพูดอย่างเย็นชา “จ้าวสังสารวัฏอยู่ที่ใด?”

สิ่งมีชีวิตสองตนที่รอคอยอยู่ข้างตำหนัก เมื่อได้ยินนายตำหนักเรียกจ้าวสังสารวัฏ พวกมันล้วนตกใจกลัวยิ่ง

กับอาณาจักรเล็ก ๆ เบื้องล่าง มันคุ้มไหมที่จะส่งจ้าวสังสารวัฏไป?

จ้าวสังสารวัฏ… นี่คือพลังการต่อสู้ระดับมหาจักรพรรดิ!

“ข้าอยู่ที่นี่!”

ร่างหนึ่งพลันปรากฏขึ้น เป็นจ้าวสังสารวัฏที่ปรากฏตัว เขาคุกเข่าลงต่อหน้านายตำหนัก

“ครั้งนี้เจ้าไป นำผู้บรรลุสังสารวัฏและผู้ที่ยั่วยุแดนสังสารวัฏของข้ากลับมา!”

เสียงของนายตำหนักเย็นชายิ่ง “เดิมทีข้าก็ไม่คิดใส่ใจ แต่ในเมื่อมันไม่รู้จักชอบชั่วดี เช่นนั้นข้าจะทำให้ชีวิตของมันเลวร้ายยิ่งกว่าตายตก และจัดการมันในบ่อสังสารวัฏชั่วนิรันดร์!”

คราวนี้เขาโกรธเกรี้ยวจริง ๆ แล้ว!

รู้สึกตัวอีกที ข้าก็เป็นเซียนซะแล้ว [原來我是世外高人]

รู้สึกตัวอีกที ข้าก็เป็นเซียนซะแล้ว [原來我是世外高人]

Status: Ongoing

‘หลี่จิ่วเต้า’ ชายหนุ่มผู้ถูกส่งตรงจากดาวเคราะห์สีฟ้ามายังโลกแห่งการฝึกตน ทว่ากลับไร้ซึ่งคุณสมบัติใด ๆ ในการเข้าสู่วิถีผู้ฝึกตน เขาไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากหันมาตกปลา วาดภาพและเขียนกลอนขาย

อันที่จริงหลี่จิ่วเต้ารู้เพียงเล็กน้อยว่า เจ้าแมวน้อยที่มาหาตนเป็นครั้งเป็นคราวเพื่อขอปลากินนั้น แท้จริงแล้วคือพยัคฆ์ขาว ส่วนชายผมขาวที่แข่งเขียนพู่กันกับเขาเป็นตัวตนระดับบรรพกาล และที่จะลืมไปไม่ได้ สตรีผู้งดงามที่มาร้องขอให้เขาช่วยวาดรูปอยู่ทุกวัน นางถึงกับเป็นเซียนในตำนาน!

ชายหนุ่มนิ่งอึ้งไปครู่หนึ่ง “เอาล่ะ…เช่นนั้น ข้าเป็นใครกัน?”

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท