ตอนที่ 126 กองกำลังรุกราน ทะลวงระดับเทพปฐพี
จู่ ๆ เงาวิญญาณทั้งสิบดวงก็พุ่งออกมาจากร่างของเย่ชิงและอีกเก้าคน มีทั้งวัยกลางคน ผู้หญิงงาม คนชราและอื่น ๆ แม้ว่าพวกเขาจะดูแตกต่างกันออกไป ทว่าก็ยังดูโดดเด่นเรืองรองเหนือผู้ใด!
“บรรพบุรุษ!”
เมื่อเห็นเงาวิญญาณทั้งสิบดวงปรากฏขึ้น เย่ชิงและคนอื่น ๆ ต่างพากันดีอกดีใจทันที เพราะเงาวิญญาณทั้งสิบนี้ไม่ใช่ใครอื่น หากแต่เป็นบรรพบุรุษของกองกําลังหลักทั้งสิบแห่งแคว้นอุทก
“ฮึ่ม ผู้ใดคิดจะฆ่าผู้สืบทอดของกองกําลังหลักทั้งสิบของแคว้นอุทกของข้า ไม่อยากมีชีวิตอยู่แล้วหรือไร!?” ทันทีที่เงาวิญญาณบรรพบุรุษทั้งสิบดวงปรากฏขึ้น คนผู้หนึ่งก็เอ่ยปากออกมา พร้อมเผยพลังสะกดข่มครอบงําไปที่พวกเขา!
“ไม่ดีแล้ว! นั่นคือบรรพบุรุษทั้งสิบของแคว้นอุทก!”
ในตอนนี้เอง ผู้ฝึกยุทธ์อิสระ เหลียงอิ้นหยวนตกใจกลัวอย่างช่วยไม่ได้
ในฐานะผู้ฝึกยุทธ์ของแคว้นอุทก เขาย่อมรู้จักบรรพบุรุษทั้งสิบคนของแคว้นอุทกตรงหน้า นี่คือผู้นำกองกำลังที่ทรงอำนาจและแข็งแกร่งที่สุดในแคว้นอุทก!
ขณะที่ฝั่งราชวงศ์เทพขนนกซึ่งนําโดยจักรพรรดินีหลัวชิงเซียนต่างมีสีหน้าเคร่งขรึมกัน
ในเวลานี้ เย่ชิงและอีกเก้าคนพลันก้มลงคำนับเงาวิญญาณทั้งสิบ
“คำนับบรรพบุรุษที่ยิ่งใหญ่ทั้งสิบ!”
“เรียนบรรพบุรุษ พวกเราพบว่าระดับการฟื้นฟูพลังจิตวิญญาณในแคว้นรกร้างเป็นระดับสุริยันในตำนานที่ไม่เคยมีใครเห็นมาก่อน”
เมื่อได้ยินคำกล่าวของเย่ชิงและคนทั้งเก้า ดวงตาของบรรพบุรุษทั้งสิบคนพลันลุกโชนขึ้นมาทันที
ระดับสุริยัน
เป็นระดับที่ไม่เคยมีใครเห็นมาก่อนในสมัยโบราณ!
ซึ่งหมายความว่า ในอนาคตพลังงานทางจิตวิญญาณของแคว้นรกร้างจะเหนือกว่าแคว้นอุทก!
“ฮ่า ๆๆ! ดีมาก!”
“ไม่คิดเลยว่า การฟื้นฟูพลังทางจิตวิญญาณของแคว้นรกร้างจะไปถึงระดับสุริยันจริง ๆ!”
“หากกองกําลังหลักทั้งสิบแห่งแคว้นอุทกของเราตั้งรกรากอยู่ในแคว้นรกร้าง พวกเราจะสามารถใช้ประโยชน์จากการฟื้นฟูจิตวิญญาณ และไปก้าวสู่อีกระดับหนึ่งได้อย่างแน่นอน”
“…”
หลังจากนั้น เงาวิญญาณบรรพบุรุษทั้งสิบคนก็หัวเราะออกมา ดวงตาของทุกคนเต็มไปด้วยความตื่นเต้นและความทะเยอทะยาน!
“หือ พวกเจ้ามีความสุขอะไรกัน?”
ทันใดนั้น หนิงฝานพลันแสยะยิ้มอย่างเย็นชา และฝ่ามือยักษ์นั่นก็กดลงมาทันที
“ฮึ่ม! เจ้ากล้า!”
“บรรพบุรุษทั้งสิบคนของเราอยู่ที่นี่ เจ้ายังกล้าอวดดี!”
“หยุดนะ! หากเจ้ากล้าทําร้ายพวกเขาแม้แต่ผมเส้นเดียว กองกําลังหลักทั้งสิบของเราในแคว้นอุทกจักทําลายทั้งแคว้นรกร้างของพวกเจ้าจนสิ้นซาก!”
เมื่อเห็นเช่นนั้นแล้ว เงาวิญญาณบรรพบุรุษทั้งสิบดวงก็ตะโกนเสียงกราดเกรี้ยว นัยน์ตาเผยจิตสังหารที่น่าหวาดหวั่น!
“ฮ่า ๆ!”
ทว่าหนิงฝานกลับหัวเราะเสียงเย็นยะเยือก เขาไม่สนใจการคุกคามของคนไม่กี่คน เพียงกดฝ่ามือยักษ์ต่อไปเท่านั้น
อ๊าก!!!
เสียงกรีดร้องของเย่ชิงและคนอื่น ๆ ดังขึ้นอย่างต่อเนื่อง เดิมทีคิดว่าเมื่อบรรพบุรุษปรากฏตัวขึ้น พวกเขาจะสามารถมีชีวิตรอดได้ แต่ไม่คิดเลยว่าร่างกายกลับต้องแลกสลายเป็นหมอกโลหิต และตายตกลงในที่สุด
“ไอ้สารเลว!”
“กล้าดีอย่างไรถึงฆ่าผู้สืบทอดทั้งสิบของกองกําลังหลักเรา!”
“ไอ้หนู! เจ้าสร้างหายนะครั้งใหญ่ให้กับราชวงศ์ของเจ้าแล้ว!”
เมื่อเห็นเย่ชิงและคนอื่น ๆ ตาย เงาวิญญาณบรรพบุรุษทั้งสิบคนก็ปะทุความโกรธขึ้นมาทันที
“หึ! สุนัขแก่สิบตัว แม้ว่าข้าจะไม่ฆ่าผู้สืบทอดของเจ้า พวกเจ้าย่อมต้องบุกรุกแคว้นรกร้างอยู่ดี หุบปากและเลิกเห่าได้แล้ว!”
หนิงฝานเย้ยหยันโดยสนใจคำขู่ของคนทั้งสิบ เขาเพียงโบกฝ่ามือขนาดใหญ่ แล้วเงาวิญญาณของบรรพบุรุษทั้งสิบคนก็ระเบิดออกประดุจฟองสบู่ทันที
เพียงแต่ว่า ก่อนที่จะสลายหายไป พลันมีเสียงตะโกนออกมาเสียงหนึ่ง
“ราชวงศ์แคว้นรกร้าง รอข้าก่อนเถอะ รอวันที่กองกําลังหลักทั้งสิบคนของเราข้ามแคว้นมา ตอนนั้นจักเป็นเวลาตายของเจ้า!”
คําพูดเย็นชาดังก้องไปทั่วเมืองเทพขนนก ทําให้เกิดเงาในใจของผู้คนนับไม่ถ้วน
“นายท่าน ท่าไม่ดีแล้ว กองกําลังหลักทั้งสิบแห่งแคว้นอุทกนี้ เป็นกองกําลังที่แข็งแกร่งที่สุดในแคว้นอุทก บรรพบุรุษที่ยิ่งใหญ่สิบคนล้วนอยู่ในอันดับต้น ๆ ของระดับเทพมนุษย์ขั้นสุด หากพวกเขาร่วมมือกันแล้วข้ามแคว้นมาจริง ๆ ด้วยความแข็งแกร่งในปัจจุบันของราชวงศ์เทพขนนก ข้าเกรงว่าจะไม่สามารถต้านทานพวกเขาได้เลย!”
ในเวลานี้ เหลียงอิ้นหยวนกล่าวด้วยสีหน้ากังวล
แม้ว่าจักรพรรดินีหลัวชิงเซียนและคนอื่น ๆ จะไม่พูด แต่ใบหน้าของพวกเขาก็เผยความกังวลให้เห็นชัดเจน
แต่หนิงฝานกลับถามขึ้นว่า “เหลียงอิ้นหยวน จากแคว้นอุทกมาที่นี่จำต้องใช้เวลาเดินทางนานเท่าใด?”
“แม้ทั้งสองแคว้นจะเป็นแคว้นที่อยู่ติดกัน แต่แคว้นอุทกนั้นใหญ่กว่าแคว้นรกร้างมากกว่าสิบเท่า หากเป็นบุคคลที่แข็งแกร่งเหนือขอบเขตเทพยุทธ์จะใช้เวลาเพียงครึ่งเดือน และหากอยู่ระดับต่ำกว่านั้นจะใช้เวลาสามหรือห้าปี!” เหลียงอิ้นหยวนตอบ
“เช่นนั้น เรายังพอมีเวลาอีกอยู่” หนิงฝานพยักหน้า
แล้วเขาก็หันไปพูดกับหลัวชิงเซียน “ภรรยา ข้ามีสมบัติล้ำค่าบางอย่างอยู่ สามารถช่วยให้เจ้าฝึกฝนและพัฒนาราชวงศ์ได้ ของเหล่านี้เพียงพอให้เราได้มีเวลาเตรียมตัวตั้งแต่เนิ่น ๆ!”
พูดจบ ชายหนุ่มก็หยิบแหวนเก็บของซึ่งภายในมีสมบัติล้ำค่าออกมา สุดยอดพลัง อาวุธเทพ ค่ายกลเทวะและอื่น ๆ ทุกอย่างเป็นของที่เขาได้มาจากการลงชื่อเข้าใช้ชั้นหนึ่งของถ้ำปีศาจบรรพกาล
ตอนนี้หนิงฝานก้าวเข้าสู่ชั้นที่สองของถ้ำปีศาจบรรพกาลแล้ว สิ่งที่ลงชื่อเข้าใช้ในชั้นแรกช่วยเขาได้เพียงเล็กน้อย หลัวชิงเซียนสามารถใช้พวกมันเพื่อฝึกฝนและพัฒนาราชวงศ์ได้มากกว่า
“ดีเลย! ด้วยสมบัติล้ำค่าเหล่านี้ ไม่เพียงแต่การฝึกฝนของข้าจะได้รับการเลื่อนขั้นไปสู่ขอบเขตเทพยุทธ์ แต่ความแข็งแกร่งของราชวงศ์เทพขนนกทั้งหมดก็จะก้าวกระโดดอย่างมีคุณภาพด้วย!”
เมื่อเห็นสมบัติล้ำค่าจํานวนมากในแหวนเก็บของ ดวงตาคู่สวยของหลัวชิงเซียนพลันเปล่งประกายทันที และความรู้สึกที่ถูกศัตรูจากแคว้นอุทกกดขี่ก็ถูกชะล้างออกไป
“ภรรยา มีข้าอยู่ เจ้าสามารถพัฒนาราชวงศ์ได้อย่างสบายใจ!”
หนิงฝานพูดอีกครั้ง ท่าทีของเขายังคงเปี่ยมไปด้วยความมั่นใจในตนเอง
…
เก้าแคว้น แคว้นอุทก!
ที่แห่งนี้มีแต่คนที่โดดเด่น พลังจิตวิญญาณของฟ้าดินท่วมท้น กองกำลังที่แข็งแกร่งมีอยู่ทั่วทุกสารทิศ!
และผู้ที่แข็งแกร่งที่สุดในหมู่พวกเขาก็คือกองกำลังหลักทั้งสิบ
ตู้ม! ตู้ม! ตู้ม!
ในวันนี้เอง พลังศักดิ์สิทธิ์อันน่าสะพรึงกลัวของระดับเทพมนุษย์ขั้นสุดได้ปะทุขึ้นในสิบกองกำลังหลัก
พลังศักดิ์สิทธิ์สิบสายแผ่ขยายไปสามพันลี้ สั่นสะเทือนไปทั่วทั้งแคว้นอุทก
วูบ!
แสงศักดิ์สิทธิ์สิบดวงปรากฏขึ้นพร้อมกับร่างบรรพบุรุษของกองกําลังหลักทั้งสิบ และพวกเขาทั้งหมดก็พุ่งขึ้นไปบนท้องฟ้าเพื่อประชุม!
บรรพบุรุษสำนักเทพกระบี่
บรรพบุรุษพระราชวังเทพจันทรา
บรรพบุรุษโถงวายุอัสนี
บรรพบุรุษสำนักปีศาจสวรรค์
บรรพบุรุษหุบเขาโอสถ
บรรพบุรุษสำนักศัสตรา
บรรพบุรุษภูเขาหมื่นค่ายกล
บรรพบุรุษสำนักทรราช
บรรพบุรุษนิกายมรรคายุทธ์
บรรพบุรุษหอเซียนเมฆาคล้อย
บรรพบุรุษสำนักเทพกระบี่เอ่ยพูดขึ้นก่อน “ทุกท่าน การฟื้นฟูพลังจิตวิญญาณแห่งแคว้นรกร้างได้มาถึงระดับสุริยันแล้ว นี่เป็นโอกาสครั้งหนึ่งในชีวิตอย่างแน่นอน หากเราสามารถครอบครองได้ กองกําลังหลักทั้งสิบของเราจะไปสู่อีกระดับหนึ่งได้อย่างแน่นอน!”
“ใช่แล้ว ทั้งเก้าแคว้นมีเพียงแคว้นอุทกของเราเท่านั้น ที่อยู่ใกล้กับแคว้นรกร้างมากที่สุด เราจะได้ประโยชน์ก่อนคนอื่น ๆ ในขณะที่กองกําลังของแคว้นอื่น ๆ ยังไม่รับรู้ เราต้องตั้งรกรากในแคว้นรกร้างให้ได้ก่อนเพื่อวางแผน มิฉะนั้น เมื่อกองกําลังของแคว้นอื่น ๆ รู้เรื่องนี้ เกรงว่าเราจะไม่สามารถได้สิ่งที่ต้องการแล้ว”
“ใช่แล้ว แต่ระยะทางระหว่างทั้งสองแคว้นนั้นอยู่ห่างกันเกินไป เพื่อไม่ให้เสียเวลาไปมาก ข้าขอเสนอให้กองกําลังหลักทั้งสิบของเราไปที่แคว้นรกร้าง หลังจากกวาดล้างแคว้นรกร้างและราชวงศ์ทางนั้นได้สำเร็จแล้ว เราจึงจะสามารถตั้งถิ่นฐานในแคว้นรกร้างได้”
“ตกลง!”
“ใช่!”
“ข้าเห็นด้วย!”
“…”
บรรพบุรุษทั้งสิบคนของแคว้นอุทกผลัดกันพูดทีละคน และวางแผนที่จะตั้งถิ่นฐานในแคว้นรกร้างอย่างรวดเร็ว
จากนั้นเมื่อทั้งสิบคนกลับมา พวกเขาทั้งหมดก็ออกคําสั่งทันที
“สำนักเทพกระบี่รับคําสั่ง เร่งจัดทัพและตามข้าไปตั้งรกรากในแคว้นรกร้าง”
“พระราชวังเทพจันทรารับคําสั่ง เร่งจัดทัพและตามข้าไปตั้งรกรากในแคว้นรกร้าง”
“โถงวายุอัสนีรับคําสั่ง เร่งจัดทัพและตามข้าไปตั้งรกรากในแคว้นรกร้าง”
“สำนักปีศาจสวรรค์รับคําสั่ง เร่งจัดทัพและตามข้าไปตั้งรกรากในแคว้นรกร้าง”
“…”
ตามคําสั่งของบรรพบุรุษทั้งสิบคน กองกําลังหลักทั้งสิบแห่งแคว้นอุทกก็เริ่มจัดทัพกันทันที และพวกเขาก็เตรียมการครั้งใหญ่เพื่อเข้าสู่แคว้นรกร้าง!
…
ขณะที่กองกําลังหลักทั้งสิบของแคว้นอุทกวางแผนที่จะเข้าไปตั้งรกรากในแคว้นรกร้าง
ราชวงศ์เทพขนนกก็ต้องแข่งกับเวลาเพื่อเตรียมพร้อมสำหรับศึกที่ใกล้เข้ามา
อาศัยสมบัติล้ำค่าจํานวนมากที่ได้รับจากหนิงฝาน จักรพรรดินีหลัวชิงเซียนทำการสร้างค่ายกลป้องกันทุกรูปแบบขึ้นมา ในขณะที่ทะลวงเข้าสู่ขอบเขตเทพยุทธ์ด้วย!
สําหรับหนิงฝาน เขาอยู่ที่ชั้นสองของถ้ำปีศาจบรรพกาลทุกวันเพื่อฝึกตน
[ติ๊ง! ลงชื่อเข้าใช้ชั้นสองของถ้ำปีศาจบรรพกาลสำเร็จ ได้รับเม็ดยาศักดิ์สิทธิ์บรรพกาล]
[ติ๊ง! ลงชื่อเข้าใช้ชั้นสองของถ้ำปีศาจบรรพกาลสำเร็จ ได้รับหญ้าหยินศักดิ์สิทธิ์]
[ติ๊ง! ลงชื่อเข้าใช้ชั้นสองของถ้ำปีศาจบรรพกาลสำเร็จ ได้รับต้นกำเนิดของปีศาจบรรพกาล]
“…”
เวลาผ่านไปวันแล้ววันเล่า หนิงฝานอาศัยสมบัติที่ได้จากการลงชื่อเข้าใช้ชั้นที่สองของถ้ำปีศาจบรรพกาล ทำให้การฝึกฝนของเขายังคงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง!
ภายในพริบตา
เวลาก็ผ่านไปห้าปี
วันนี้หนิงฝานมาที่ชั้นสองของถ้ำปีศาจบรรพกาลอีกครั้งเพื่อลงชื่อเข้าใช้
[ติ๊ง! ลงชื่อเข้าใช้ชั้นสองของถ้ำปีศาจบรรพกาลสำเร็จ ได้รับบงกชเทพปฐพี]
[บงกชเทพปฐพี หากใช้ในระดับเทพมนุษย์จะมีโอกาสสูงมากที่จะได้รับการเลื่อนขั้นไปสู่ระดับเทพปฐพี]
“หือ ดูเหมือนว่าถึงเวลาแล้วที่ข้าจะต้องขึ้นไปสู่ระดับเทพปฐพี!”
เมื่อเห็นบงกชเทพปฐพีปรากฏขึ้นหลังจากลงชื่อเข้าใช้ หนิงฝานพลันมีสีหน้าดีใจทันที
ในช่วงห้าปีที่ผ่านมา พลังการฝึกตนของเขาได้มาถึงจุดสูงสุดของระดับเทพมนุษย์แล้ว!
ตอนนี้อาศัยบงกชเทพปฐพีนี้ หนิงฝานมั่นใจอย่างยิ่งว่าตนสามารถเลื่อนขั้นสู่ระดับเทพปฐพีได้ในทันที
หลังจากนั้น เขาก็ไม่ลังเลอีก กลืนบงกชเทพปฐพีลงไปในคราวเดียว!
ตู้ม!
ทันทีที่บงกชเทพปฐพีเข้าสู่ร่างกาย พลังงานอันน่าสะพรึงกลัวอย่างมิเคยพบเคยเห็นมาก่อน พลันระเบิดขึ้นในอกของเขา และขณะเดียวกันก็สัมผัสได้ถึงการเลื่อนขั้นไปสู่ระดับเทพปฐพี!
ครืน!
เมื่อเห็นเช่นนั้นแล้ว หนิงฝานก็เปิดใช้คัมภีร์เซียนธุลีสีชาดทันที ในขณะที่หลอมรวมบงกชเทพปฐพีอยู่ เขาก็ทะลวงระดับเทพปฐพีไปพร้อมกัน!