เซี่ยอวิ๋นจิ่นรีบรับคำ ลู่เจียวควักยาสลบออกมาเงียบๆ เตรียมจะรอให้อีกฝ่ายปล่อยคน หร่วนไคกับหร่วนจู๋ชิงตัวเอ้อร์เป่ากับหันหนานเฟิงหนีไปได้ นางก็จะใช้ยากับเซี่ยอวิ๋นจิ่น และพาเขาเข้าห้วงอากาศ
นางไม่อาจทำก่อนที่เอ้อร์เป่ากับหันหนานเฟิงจะถูกช่วยออกไป หากทำเช่นนั้น อีกฝ่ายอาจจะรู้สึกอับอายจนโมโหแล้วสังหารเอ้อร์เป่ากับหันหนานเฟิง
คนชุดดำตรงหน้าโบกมือให้ลูกน้องด้านหลังปล่อยตัวเด็กสองคน
เซี่ยอวิ๋นจิ่นกับลู่เจียวค่อยๆ ก้าวออกมา ด้านหลังต้นไม้ใหญ่ของคนชุดดำพลันมีเงาร่างเร็วราวสายลมวูบหนึ่ง พุ่งมาราวกับดาวพุ่งใต้เข้าหาเอ้อร์เป่ากับหันหนานเฟิง เข้ารั้งเอวอุ้มพวกเขาไว้
อีกคนพุ่งตรงไปยังคนชุดดำ ร่างนางราวกับภาพมายา ลงมือทีก็เป็นกระบวนท่าสังหารปลิดวิญญาณ
ลู่เจียวเห็นเอ้อร์เป่ากับหันหนานเฟิงถูกช่วยออกมาแล้ว ในใจก็พลันโล่งอก นางหันหน้าไปเตรียมวางยาเซี่ยอวิ๋นจิ่นทันที
ไม่คิดว่าในความมืดมิด มีธนูยาวพุ่งมารวดเร็วใส่เซี่ยอวิ๋นจิ่น หลี่หนานเทียนในมุมลับตะโกนดัง “คุณชายระวัง”
หลี่หนานเทียนกล่าวจบก็ปาก้อนหินใส่ลูกธนูยาวดอกนั้น ลูกธนูถูกกระทบเบนหัวออกไปทิศทางอื่น
ผู้ใดจะรู้ว่าลูกธนูดอกที่สองยิงตามมาอย่างรวดเร็ว ดอกที่สองยิงใส่ดอกที่หนึ่งพอดี ทำให้ดอกที่หนึ่งที่เบนหัวไปอีกทางพุ่งตรงไปหาลู่เจียว
หลี่หนานเทียนสีหน้าพลันแปรเปลี่นน ตะโกนเสียงดัง “เหนียงจื่อ ระวัง”
เซี่ยอวิ๋นจิ่นหันหน้าไปมองทันที เห็นลูกธนูกำลังจะยิงใส่ลู่เจียว เขายื่นมือออกไปคว้าลู่เจียวมากอดไว้ทันอย่างไม่แม้แต่จะคิดลังเล
ลู่เจียวปล่อยยาสลบออกมาพอดี คิดไม่ถึงว่าเซี่ยอวิ๋นจิ่นอยู่ ๆ มากอดนางไว้ ลูกธนูยาวยิงเข้าใส่ไหล่ซ้ายเขาพอดี แรงของธนูกระแทกพวกเขาทั้งสองคนล้มลงพร้อมกันดังตึงก่อนจะกลิ้งลงภูเขาไป
แต่กลิ้งไปได้สองรอบ ด้านล่างของร่างกายก็มีเสียงดังแกรกเหมือนกลไกเปิดออก ทั้งสองคนหล่นลงไปสู่ห้วงอากาศ ทั้งสองคนกอดกันแน่นตกลงไปในช่องทางลับดำมืดมิด
กลไกด้านบนพลันปิดลงในพริบตา
ทุกอย่างเกิดขึ้นรวดเร็วมาก ทุกคนยังไม่ทันได้ป้องกัน พวกหร่วนไคและหร่วนจู๋บนเขาต่างพากันตกใจร้องเสียงหลง “คุณชาย เหนียงจื่อ”
เอ้อร์เป่ากับหันหนานเฟิงเองก็ตกใจร้องไห้ดังลั่น
เสียงเซี่ยอวิ๋นจิ่นกับลู่เจียวร่วงกระทบพื้น จากช่องทางด้านบนตกลงไปในช่องทางด้านใน
ในช่องทางลับมืดมิดจนแทบมองไม่เห็นนิ้วมืด รอบด้านมืดสนิท
แม้ว่าทั้งสองคนมองไม่เห็นอีกฝ่าย แต่ลู่เจียวได้กลิ่นคาวโลหิตในอากาศรุนแรง นางคิดถึงเซี่ยอวิ๋นจิ่นช่วยนางไว้อย่างไม่สนใจตัวเอง ลู่เจียวก็เริ่มรู้สึกสับสนในใจขึ้นมา
นางยื่นมือไปคลำหาคนข้างๆ แต่ที่คลำเจอถึงกับเป็นความเหนียวข้น หากไม่เหนือความคาดหมายนี่คือโลหิตเซี่ยอวิ๋นจิ่นที่กำลังไหล
ลู่เจียวร้องตกใจเสียงดังขึ้น “เซี่ยอวิ๋นจิ่น เจ้าไม่เป็นไรใช่ไหม เจ้าไม่เป็นไรใช่ไหม”
ในความมืด เซี่ยอวิ๋นจิ่นน้ำเสียงอ่อนแรงตอบขึ้น “ข้าไม่เป็นไร เจ้าอย่าตกใจไป”
เขากล่าวจบก็ยื่นมือออกไปคลำมือมาลู่เจียวกุมไว้แน่น “ลู่เจียวรับปากข้าเรื่องหนึ่งได้ไหม หาก หากพวกเราออกไปได้อย่างปลอดภัย เจ้าจะอยู่เคียงข้างข้ากับลูกๆ ต่อไป ไม่ไปไหนแล้วได้ไหม”
“บางทีข้าดีไม่พอ แต่ข้าจะพยายามเรียนรู้ที่จะเป็นสามีที่ดี ขอแค่เจ้าอยู่เคียงข้างข้า ได้หรือไม่”
ลู่เจียวได้ฟังเซี่ยอวิ๋นจิ่นก็คิดถึงสิ่งที่ระยะนี้คนผู้นี้ทำเพื่อนางทุกอย่าง ในใจนางก็สับสน ความจริงเซี่ยอวิ๋นจิ่นทำทุกอย่างเพื่อนาง นางล้วนรับรู้ได้ เพียงแต่นางไม่ใช่เจ้าของร่างเดิม นางเป็นคนนอก
ในความมืด ลู่เจียวพลันตัดสินอย่างกล้าหาญที่สุด นางเอ่ยน้ำเสียงหนักแน่นขึ้นว่า “เซี่ยอวิ๋นจิ่น หากข้าบอกเจ้าว่าข้าไม่ใช่ลู่เจียวตัวจริง ข้าเป็นเพียงแค่ดวงจิตที่มาจากอีกโลกหนึ่ง เจ้าเชื่อไหม”
เซี่ยอวิ๋นจิ่นได้ฟังคำพูดลู่เจียวก็ยิ้มทันที “เชื่อ ทำไมจะไม่เชื่อ ข้ารู้มานานแล้วว่าเจ้าไม่ใช่นาง”
ครั้งนี้กลายเป็นลู่เจียวตกใจแทน นางหันไปมองความมืดพร้อมกับความคิดคาดเดา “เจ้าว่าเจ้ารู้นานแล้วว่าข้าไม่ใช่นาง”
“ใช่ ข้ารู้นานแล้ว ตอนที่เจ้าเพิ่งข้ามภพมาไม่นาน ข้าก็รู้แล้ว ดังนั้นข้าจึงได้ยอมรับเจ้า หากเจ้าเป็นนางคนเดิม ข้าย่อมไม่ยอมรับ แน่นอนนางคนเดิมก็ไม่ได้ดีเหมือนเจ้าเช่นนี้”
เซี่ยอวิ๋นจิ่นยิ่งพูดน้ำเสียงก็ยิ่งอ่อนแรง แต่เพื่อให้ได้คำรับรองจากลู่เจียวสักคำ เขาได้แต่กัดฟันฝืนต่อว่า
“ลู่เจียว เจ้ารับปากข้าได้ไหม จะอยู่ข้างกายข้ากับลูกๆ ไม่ไปไหนแล้ว”
ลู่เจียวงึมงำกล่าวว่า “ข้ามักรู้สึกว่าข้ามาครอบครองสถานะนาง ไม่ควรแย่งชิงของๆ นาง”
เซี่ยอวิ๋นจิ่นได้ฟังคำพูดนางก็ดิ้นรนกล่าวว่า “ไม่ เจ้าไม่ได้แย่ง แต่ไรมาข้ากับลูก ๆ ก็ไม่ได้เป็นของนาง จริง ๆ นะ หากไม่ใช่ว่าเจ้าปรากฏตัวขึ้น พวกเราก็ทนรับนางไม่ได้นานแล้ว และคงลงมือกับนางไปแล้ว ดังนั้นข้ากับลูก ๆ เป็นของเจ้า ไม่ใช่ของนาง”
เซี่ยอวิ๋นจิ่นกล่าวจบ ก็กุมมือลู่เจียวไว้แน่น
“ลู่เจียว รับปากอยู่เคียงข้างพวกเราได้ไหม”
ลู่เจียวคิดถึงความปรารถนาให้ภพก่อนของตนเองก็คือหาคนที่รักนางสักคน แม้ว่าเซี่ยอวิ๋นจิ่นอาจไม่มีคุณสมบัติพอ แต่ในโลกตอนนี้ ผู้ชายอย่างเขาก็หาได้น้อยมาก รับปากไม่แต่งอนุ รักลูก ยังพยายามเรียนรู้การเป็นสามีที่ดี นี่ไม่ใช่คนที่นางตามหาหรือ
แต่ลู่เจียวคิดถึงเรื่องราวในนิยาย เซี่ยอวิ๋นจิ่นมีภรรยาที่กำหนดไว้แล้ว สุดท้ายเขาจะเป็นไปตามเรื่องราวในนิยายและยอมรับหญิงผู้นั้นหรือไม่ ถึงตอนนั้นนางควรทำเช่นไร
แต่จะให้นางปล่อยคนผู้นี้ไปเช่นนี้ นางรู้สึกว่าทำใจยอมรับไม่ได้ แต่ไรมายามอยู่ต่อหน้าเซี่ยอวิ๋นจิ่น นางไม่ใช่นางผู้นั้น แต่เป็นตัวของตัวนางเองจริงๆ
“เซี่ยอวิ๋นจิ่น ข้าไม่รู้ว่าพวกเราสองคนเหมาะสมจะอยู่ด้วยกันหรือไม่ แต่ข้าตัดสินใจให้โอกาสเจ้าครั้งหนึ่ง จำกัดเวลาหนึ่งปีครึ่ง หากพวกเราทั้งสองคนอยู่ร่วมกันแล้ว พบว่าสองฝ่ายเหมาะสมกัน เช่นนั้นวันหน้าพวกเราก็อยู่ด้วยกัน”
เวลาที่ลู่เจียวให้ ก็คือเวลาหลังจากเซี่ยอวิ๋นจิ่นไปเมืองหลวงมา หากเซี่ยอวิ๋นจิ่นไปเมืองหลวงแล้วไม่ได้เป็นไปตามเรื่องราวในนิยาย และพวกเขาทั้งสองคนเหมาะสมกัน เช่นนั้นพวกเขาก็อยู่ด้วยกันก็แล้วกัน
แม้ว่าเซี่ยอวิ๋นจิ่นไม่ค่อยพอใจกับคำพูดลู่เจียว แต่ก็ยังคงดีใจมาก อย่างน้อยลู่เจียวก็ไม่ได้ปฏิเสธ นางให้เวลาเขา นี่เป็นเรื่องที่ดีมากแล้ว
เซี่ยอวิ๋นจิ่นดีใจมาก ร่างที่เอียงอยู่ก็พับสลบไป
ลู่เจียวรู้สึกว่าไหล่ตนเองหนักอึ้งก็อดส่งเสียงร้องตกใจไม่ได้ “เซี่ยอวิ๋นจิ่น เจ้าไม่เป็นไรใช่ไหม เจ้าไม่เป็นไรใช่ไหม”
นางกล่าวจบก็พลันคิดได้ว่าก่อนหน้านี้นางวางยาสลบเซี่ยอวิ๋นจิ่น ดังนั้นเซี่ยอวิ๋นจิ่นสลบไปก็อาจเป็นไปว่าเพราะยาสลบที่นางวางใส่เขา
นางพาเขาเข้าห้วงอากาศไปดึงลูกธนูออกก่อนดีกว่า
ลู่เจียวกำลังคิดจะพาเซี่ยอวิ๋นจิ่นเข้าห้วงอากาศ ช่องทางลับในความมืดพลันมีกลิ่นแปลกๆ โชยมา พอนางแยกแยะได้ก็รู้ว่าในช่องทางลับมีพิษ
นี่แสดงให้เห็นชัดเจนว่าพวกเขาตกลงมาใช่ช่องทางลับเพราะอีกฝ่ายบีบไล่ให้ร่วงลงมา