ตอนที่ 128 ทลายค่ายกลผู้คนบาดเจ็บ พลังระดับเทพปฐพี
“กางค่ายกล!”
เมื่อเห็นฉากนี้ จักรพรรดินีหลัวชิงเซียนก็ตะโกนขึ้นทันที
ฟึ่บ!
ตามมาด้วยเสียงดังหึ่ง ๆ ค่ายกลขนาดใหญ่ปรากฏขึ้นพร้อมกับแสงศักดิ์สิทธิ์พร่างพราว ราวกับเมฆาลอยล่องอยู่เหนือนทีที่กำลังไหลริน มันแผ่ปกคลุมไปทั่วทั้งเมืองเทพในบัดดล!
“ประจำที่!”
เมื่อค่ายกลขนาดใหญ่ถูกเปิดใช้ จักรพรรดินีหลัวชิงเซียนพลันตะโกนเสียงกร้าว แล้วพลังอันยิ่งใหญ่ของขอบเขตเทพยุทธ์ก็หลั่งไหลเข้าไปในค่ายกลขนาดยักษ์ เหลียงอิ้นหยวนซึ่งอยู่ด้านข้างเองก็ชักนำพลังศักดิ์สิทธิ์ของเขาใส่ค่ายกล
วูบ! หลังจากที่ทั้งสองคนเป็นผู้เริ่ม ปราชญ์ยุทธ์แห่งราชวงศ์เทพ เหล่าผู้ฝึกยุทธ์ของราชวงศ์ ทหารหลายหมื่นนาย ล้วนใส่พลังของตนเองเข้าไปในค่ายกลเช่นกัน
เพียงชั่วพริบตา ค่ายกลขนาดใหญ่ก็มีพลังไร้ที่สิ้นสุดเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว แสงศักดิ์สิทธิ์เจิดจ้าต้านทานการโจมตีของขอบเขตเทพยุทธ์หลายสิบคนไว้ได้!
“โจมตี!”
แล้วทันใดนั้น จักรพรรดินีหลัวชิงเซียนก็ตะโกนอีกครั้ง ค่ายกลคุ้มกันเมืองเทพพลันระเบิดแสงศักดิ์สิทธิ์ออกมา และแสงนั้นก็กลายเป็นกระแสน้ำกวาดเทพยุทธ์หลายสิบคนออกไปทันที!
“หือ? ค่ายกลระดับเทพมนุษย์”
เมื่อเห็นฉากนี้แล้ว ดวงตาของบรรพบุรุษทั้งสิบคนมีความตกตะลึงเล็กน้อย
จากนั้น ทุกคนก็พูดขึ้นว่า
“ไอ้พวกขยะ!”
“ถอยไปให้หมด!”
“พวกเราจัดการเอง!”
ตู้ม!
บรรพบุรุษสำนักเทพกระบี่ก้าวออกมาก่อน เมื่อตรวจสอบความว่างเปล่าแล้ว กระบี่ยาวซึ่งมีแสงเจิดจรัสพลันปรากฏขึ้นในมือเขา แล้วชั่วอึดใจนั้นเอง เขาก็สับฟันกระบี่ออกไป แสงกระบี่อันน่าพรั่นพรึงพุ่งเข้าใส่ค่ายกลคุ้มกันเมืองหลวงเทพขนนกอย่างกะทันหัน!
“ป้องกัน!”
เมื่อเห็นเช่นนั้นแล้ว จักรพรรดินีหลัวชิงเซียนขมวดคิ้วแน่นทันที หลังจากนั้นด้วยความช่วยเหลือจากพลังของทุกคน ค่ายกลขนาดใหญ่ก็กลับมาส่องสว่างอีกครั้ง!
ตู้ม!
เมื่อแสงกระบี่ฟันเข้าไปยังค่ายกลขนาดใหญ่ ทันใดนั้นก็บังเกิดเสียงคํารามสั่นสะเทือนฟ้าดิน จากนั้นค่ายกลขนาดใหญ่ก็สั่นสะเทือนอย่างรุนแรง ก่อนจะค่อย ๆ สงบลง แม้ว่าค่ายกลขนาดใหญ่จะไม่แตกสลาย ทว่าแสงศักดิ์สิทธิ์บนตัวค่ายกลกลับสลัวลงอย่างมาก ทำเอาจักรพรรดินีหลัวชิงเซียนและคนอื่น ๆ ถึงกับหน้าถอดสี
ในเวลานี้ พวกเขาเป็นหนึ่งเดียวกับค่ายกล แม้ว่าแสงกระบี่ของบรรพบุรุษสำนักเทพกระบี่จะไม่ทําลายค่ายกล แต่พลังที่ค่ายกลใช้ไปทําให้ทุกคนรู้สึกทนไม่ไหว
“เพราะค่ายกลนี้มีพลังของพวกเจ้า ค่ายกลที่ผนึกกำลังกันของมนุษย์เช่นนี้ไม่เลวเลย แต่ข้าอยากจะรู้ว่า พวกเจ้าจะสามารถทนต่อไปได้อีกสักกี่น้ำ!”
แม้แสงกระบี่จะไม่สามารถทะลวงผ่านค่ายกลยักษ์ได้ แต่บรรพบุรุษสำนักเทพกระบี่หาได้สนใจไม่ หลังจากยิ้มเยาะอย่างเย็นชาแล้ว เขาก็สับฟันกระบี่ลงมาอีกครั้ง
ตู้ม!
ด้วยการฟาดฟันกระบี่ที่สองนี้ ทั้งค่ายกลสั่นสะเทือนอย่างรุนแรงอีกครั้ง พลังบนค่ายกลถูกใช้ไปอย่างหนักหน่วง สีหน้าของผู้คนที่ให้พลังแก่ค่ายกลพลันซีดเซียวยิ่งกว่าเดิม
ตู้ม! ตู้ม! ตู้ม!
หลังจากนั้น บรรพบุรุษสำนักเทพกระบี่ยังคงกวัดแกว่งกระบี่เทพออกไป
หนึ่งกระบี่ สองกระบี่ สามกระบี่…
จนกระทั่งสับฟันกระบี่ออกไปครั้งที่เก้า
ตู้ม!
เมื่อกระบี่ครั้งที่เก้าถูกฟันออกไป ในที่สุด ค่ายกลขนาดใหญ่นี้ก็ไม่สามารถยืนหยัดต่อไปได้อีก และระเบิดเสียงดังลั่น กลายเป็นแสงเปล่งประกายเรืองรองไปทั่วทั้งท้องนภา ด้วยการพังทลายของค่ายกลขนาดใหญ่ในครั้งนี้ จักรพรรดินีหลัวชิงเซียนคนอื่น ๆ ต่างก็กระอักเลือดออกมาเต็มปาก โลหิตพลันไหลอาบหน้าอกจรดปลายเท้าของพวกเขา
ภายใต้กระบี่นี้ มันทำให้ทุกคนต่างก็ได้รับบาดเจ็บอย่างสาหัส
“ตอนนี้ไม่มีค่ายกลแล้ว มาดูกันว่าพวกเจ้าจะขัดขวางพวกข้าได้อย่างไร!”
หลังจากทําลายค่ายกลยักษ์แล้ว บรรพบุรุษสำนักเทพกระบี่ก็เก็บกระบี่ของเขากลับไป ใบหน้าแก่ชราของเขาเต็มไปด้วยเจตนาฆ่าที่เยือกเย็นราวกับน้ำแข็ง
บรรพบุรุษทั้งสิบคนนี้ล้วนแล้วแต่เย็นชา ไร้ความรู้สึก ซ้ำยังมากด้วยจิตสังหารท่วมท้น
“ทุกคนฟังคําสั่ง สังหารผู้คนในเมืองทั้งหมดมิให้เหลือรอดแม้แต่ผู้เดียว!”
ด้วยคําสั่งของบรรพบุรุษทั้งสิบคน กองกําลังหลักทั้งสิบเริ่มลงมือตามคำสั่งทันที
ตู้ม!
คนกว่าหนึ่งล้านคนจากกองกําลังหลักทั้งสิบต่างพุ่งทะยานเข้าไปด้วยเจตนาฆ่าที่น่าสะพรึงกลัว ราวกับกระแสน้ำแห่งความตายสาดซัดเข้าหาเมืองเทพ
พรึ่บ!
ทันทีที่เข้าใกล้ ผู้คนนับล้านก็ลงมือ ในชั่วพริบตาที่กองกําลังนับล้านพุ่งทะยานเข้ามา ก็ราวกับกระแสแห่งความตายนับล้านพุ่งเข้าใส่เมืองเทพโดยตรง!
“สามี พวกเราต้านไว้ไม่ไหวแล้ว!”
เมื่อเห็นฉากนี้ รูม่านตาของหลัวชิงเซียนหดเล็กลงทันที และนางก็ตะโกนออกไปเสียงดัง
ทว่าเหลียงอิ้นหยวน ปราชญ์ยุทธ์แห่งราชวงศ์เทพ ทหารอีกหลายหมื่นนาย ประชาชนนับไม่ถ้วน ทุกผู้คนต่างตกตะลึงกันหมด
ความตายกําลังมาเยือนพวกเขาแล้ว!
“อย่าตกใจ! ข้า… มาแล้ว!”
ทันใดนั้นเอง เสียงของหนิงฝานพลันดังขึ้นในหูของทุกคน
ตู้ม!
ปราณกระบี่สั่นสะเทือนไปทั่วพิภพ พลังนั้นพุ่งขึ้นมาจากพื้นดิน ราวกับกำแพงปราณกระบี่ที่ต้านทานอยู่ด้านหน้าเมืองเทพ
ตู้ม! ตู้ม! ตู้ม!
ทุกคนถูกขวางไว้ และกระแสแห่งความตายหลายล้านคนนั้นก็กระแทกเข้ากับกําแพงปราณกระบี่ ก่อนจะบังเกิดเสียงระเบิดดังกึกก้องออกมา!
“ผู้ใด!”
เมื่อเห็นกําแพงปราณกระบี่ที่จู่ ๆ ก็ปรากฏตัวขึ้น บรรพบุรุษทั้งสิบต่างขมวดคิ้วทันที
ฟึ่บ!
จากนั้น ภายใต้สายตาของผู้คนนับไม่ถ้วน ร่างสูงของหนิงฝานในเสื้อคลุมธรรมดา ๆ ก็พุ่งขึ้นไปในอากาศ พร้อมกับรอยยิ้มจาง ๆ บนใบหน้าของเขา
“ผู้พิทักษ์เทพ!”
เมื่อหนิงฝานปรากฏตัวขึ้น ทั่วทั้งเมืองเทพขนนกต่างพากันตะโกนเสียงดังกึกก้องราวกับคลื่นสึนามิทันที!
ภายในใจของจักรพรรดินีหลัวชิงเซียนและคนอื่น ๆ ต่างคลายความกังวลลงเช่นกัน
เมื่อหนิงฝานออกมาแล้ว นั่นหมายความว่า… เขาทะลวงระดับเทพปฐพีได้สำเร็จแล้ว!
“อ้อ! เป็นเจ้านี่เอง!”
เมื่อเห็นร่างของหนิงฝาน ดวงตาของบรรพบุรุษทั้งสิบพลันแข็งทื่อทันที
พวกเขาย่อมรู้จักหนิงฝาน ในตอนนั้น ชายผู้นี้เป็นคนที่ฆ่าเย่ชิงและคนอื่น ๆ ซ้ำยังกวาดล้างเงาวิญญาณของพวกเขาด้วย!
“ฮึ่ม! ที่แท้เจ้ายังอยู่ที่นี่ ข้าก็คิดว่าเจ้าหลบหนีไปนานแล้ว!”
“ดูเหมือนว่า มันถึงเวลาแล้วที่เจ้าจะต้องชดใช้ในสิ่งที่เจ้าทำ!”
“กล้าลงมือฆ่าผู้สืบทอดแห่งกองกําลังหลักทั้งสิบของเรา ทั้งยังกล้ากวาดล้างเงาวิญญาณของเรา ในวันนี้ ใต้หล้านี้ไม่มีผู้ใดช่วยเจ้าได้!”
“…”
บรรพบุรุษของกองกําลังหลักสิบทั้งคนจ้องมองหนิงฝานตาเขม็ง ทุกคนมีสีหน้าเย็นชาและโหดเหี้ยม ซ้ำแล้วจิตสังหารยังน่าครั่นคร้ามเป็นอย่างยิ่ง
“จริงหรือ? ดูเหมือนว่าเจ้าจะมั่นใจมากเหลือเกินนะ” หนิงฝานแสยะยิ้มเบา ๆ
“หึ! ถึงแม้เจ้าจะอยู่ในระดับเทพมนุษย์ แต่ก็มีเจ้าเพียงคนเดียวเท่านั้น!”
“ทว่าพวกเราบรรพบุรุษทั้งสิบคน ล้วนอยู่ในระดับเทพมนุษย์ขั้นสุด!”
“หากพวกเราทั้งสิบคนจะฆ่าเจ้า มันก็ง่ายเฉกเช่นเดียวกับการพลิกฝ่ามือ”
“…”
บรรพบุรุษของกองกําลังหลักทั้งสิบคนเย้ยหยัน
แล้วบรรพบุรุษสำนักเทพกระบี่ก็กระชับกระบี่ในมือของเขา
“เอาล่ะ อย่ามัวแต่พูดเรื่องไร้สาระกับเขา คอยดูเถอะว่าข้าจะปลิดชีพเขาในกระบี่เดียว!”
ทันทีที่พูดจบ บรรพบุรุษสำนักเทพกระบี่ก็สับฟันกระบี่ไปทางหนิงฝาน
ฟึ่บ!
ทันทีที่กระบี่ถูกสับฟันออกไป มันก็สะเทือนไปทั้งผืนพสุธา แสงกระบี่ที่ลุกโชติช่วงพุ่งผ่านความว่างเปล่าไปสุดทาง ตรงไปยังหนิงฝานโดยไม่มีอะไรขวางกั้น!
เมื่อเห็นเช่นนั้น หนิงฝานส่ายหัวเล็กน้อย!
กึก!
เมื่อเห็นว่าเขาค่อย ๆ เหยียดนิ้วสองนิ้วออกมา จู่ ๆ ก็พลันเกิดเสียงเหล็กกระทบกัน แสงกระบี่นั้นถูกหยุดยั้งไว้ด้วยนิ้วทั้งสอง!
ตู้ม!
หนิงฝานออกแรงเพียงเล็กน้อย กระบี่เรืองแสงก็แตกเป็นเสี่ยง ๆ ทันที
“อันใดกัน!?”
เมื่อเห็นฉากนี้แล้ว เหล่าบรรพบุรุษของกองกําลังหลักทั้งสิบที่เดิมทีพากันเยาะเย้ยครั้งแล้วครั้งเล่า ก็ตกตะลึงในบัดดล!
โดยเฉพาะอย่างยิ่ง บรรพบุรุษสำนักเทพกระบี่ที่รู้ว่าหนิงฝานอยู่ในขอบเขตระดับเทพมนุษย์แล้ว เขาไม่ได้ประมาท เพียงแต่เขาเกือบจะใช้กําลังทั้งหมดที่มีในการฟันกระบี่เมื่อครู่ออกไปแล้ว!
ทว่าพลังกระบี่ของเขาเมื่อครู่นี้ กลับถูกทําลายได้อย่างง่ายดาย ด้วยนิ้วสองนิ้วของหนิงฝาน
“เจ้าไม่ได้อยู่ในระดับเทพมนุษย์หรอกหรือ!? เจ้าต้านทานกระบี่ของข้าได้อย่างง่ายดายได้อย่างไร!?”
บรรพบุรุษสำนักเทพกระบี่ตกตะลึง ในขณะที่บรรพบุรุษที่เหลือต่างก็งงงวยเช่นกัน
อย่างไรก็ตาม ในเวลานี้หนิงฝานกลับแสยะยิ้มเย็นชาพลางเอ่ย “ผู้ใดบอกเจ้าว่าข้าอยู่แค่ระดับเทพมนุษย์เท่านั้น”
ตู้ม!
สิ้นเสียงเอ่ย พลังระดับเทพปฐพีที่น่าสะพรึงกลัวก็พวยพุ่งออกมาจากร่างของชายหนุ่ม