รู้สึกตัวอีกที ข้าก็เป็นเซียนซะแล้ว [原來我是世外高人] – บทที่ 183 ใบจักรพรรดิหนึ่งใบ พลังดุจห้วงสมุทร!

บทที่ 183 ใบจักรพรรดิหนึ่งใบ พลังดุจห้วงสมุทร!

บทที่ 183 ใบจักรพรรดิหนึ่งใบ พลังดุจห้วงสมุทร!

อาณาเขตหิมะเยือกแข็งมีลมหนาวเย็นยะเยือกถึงกระดูก

ทว่าอันหลานเสวี่ยไม่รู้สึกหนาวเย็นเลยแม้แต่น้อยตรงกันข้ามนางกลับรู้สึกผ่อนคลายมาก

“อาจารย์ปู่!”

อันหลานเสวี่ยเกรงว่าบรรพชนจะเกิดเรื่องจึงโบกมือขึ้น ทันใดนั้นหิมะเยือกแข็งบนร่างกายก็หายไป เป็นอิสระจากน้ำแข็งในที่สุด

นางประสานพลังของหิมะเยือกแข็งในที่แห่งนี้ไว้แล้ว จึงสามารถควบคุมพลังหิมะเยือกแข็งให้ที่แห่งนี้ได้

“อาจารย์ปู่ไม่เป็นอันใดใช่หรือไม่!?”

นางวิ่งไปหาบรรพชน

ผู้ใดจะรู้ว่าบรรพชนกลับใช้มือตบนางกลับอย่างคาดไม่ถึง!

“แช่แข็ง!”

นางรีบตะโกนออกมาทันที พลังหิมะเยือกแข็งหยุดร่างของบรรพชนอีกครั้ง บรรพชนถูกแช่แข็งเป็นรูปปั้นน้ำแข็งอีกครั้ง

“บ้าไปแล้ว!”

อันหลานเสวี่ยนางขบกรามแน่น เพิ่งนึกขึ้นได้ว่าคนพวกนี้ลงมือยุ่งกับจิตวิญญาณของบรรพชน ตอนนี้บรรพชนเชื่อฟังคำสั่งของคนพวกนี้เท่านั้น

ขณะเดียวกัน กลุ่มคนเหล่านี้ต่างตื่นตระหนกปนหวาดกลัวเป็นอย่างยิ่ง

พวกเขาคาดไม่ว่าจะเกิดเรื่องเช่นนี้ขึ้น!

แม่นางตัวเล็ก ๆ ในขอบเขตประสานวิญญาณ กลับถือครองสมบัติวิเศษน่าหวาดกลัวเช่นนี้ไว้ในมือได้อย่างไร!?

พวกเขารวมรวบพลังทั้งหมดในร่างกายหลอมละลายน้ำแข็งแต่กลับหลอมละลายไม่ได้ มิหนำซ้ำ ยังมิอาจปลดกระทั่งผนึกพลังที่แช่แข็งพวกเขาเอาไว้ได้

พวกเขาไม่ใช่ใครอื่น แต่เป็นเหล่ายอดฝีมือของกองกำลังลับจากภาคกลาง

พรรคจื่อเสียสร้างเด็กมีอัจฉริยะสะท้านฟ้าออกมา นี่นับเป็นเรื่องที่ใหญ่ยิ่ง ตอนนั้นพวกเขาทราบเข้า ก็รีบกลับไปรายงานกองกำลังเบื้องหลังพวกเขาอย่างรวดเร็ว

นิมิตสวรรค์ประทานพรพร้อมกัน!

อัจฉริยะสะท้านฟ้าแปดคนช่างน่าทึ่งยิ่งนัก หากพวกเขาเติบโตขึ้นอนาคตของพวกเขาย่อมไร้ขีดจำกัด เจิดจรัสเป็นอย่างยิ่งแน่!

กองกำลังเบื้องหลังพวกเขาตื่นเต้นเป็นอย่างมาก อยากรับอัจฉริยะสะท้านฟ้าแปดคนนี้มาเป็นกองกำลัง

ใต้หล้านี้ถูกกำหนดให้ตกอยู่ในความโกลาหลครั้งใหญ่ในอนาคต หายนะครั้งใหญ่นับตั้งแต่สมัยโบราณจะถูกปลุกขึ้นมาอีกครั้ง

หากพวกเขาได้รับอัจฉริยะสะท้านฟ้า ย่อมมีหลักประกันความปลอดภัยมากขึ้นอย่างไม่ต้องสงสัย

พวกเขาทุกคนรู้ว่า กองกำลังลับอื่นย่อมรู้เรื่องนี้เป็นอย่างดีเช่นกัน และรู้ว่ากองกำลังลับอื่นจะไม่ยอมแพ้อย่างแน่นอน

พวกเขารวมตัวกันต่อสู้เพื่อตัดสินแพ้ชนะว่าผู้ใดสมควรได้ครอบครองอัจฉริยะสะท้านฟ้า

สุดท้ายมีแปดกองกำลังเป็นผู้ชนะ พวกเขาแต่ละกองกำลังมีสิทธิ์ครอบครองอัจฉริยะสะท้านฟ้า

คนทั้งหมดนี้ล้วนเป็นยอดฝีมือที่มาจากแปดกองกำลังทั้งสิ้น

พวกเขาไม่ได้กล่าวว่า พวกเขาพาจะอ้ายฉานกับเด็กคนอื่นไปโดยตรง

ถึงแม้พวกเขาจะมีพลังแข็งแกร่ง สามารถลงมือทำได้อย่างง่ายดาย

แต่พวกเขาก็ไม่ได้เลือกทำเช่นนั้น

การทำเช่นนั้นย่อมสร้างความโกลาหลครั้งใหญ่เป็นอย่างยิ่ง

ถึงอย่างไรตอนนี้อ้ายฉานกับเด็กคนอื่นก็ไม่ใช่เด็กไร้ชื่อเสียง แต่เป็นผู้มีความสามารถท้าสวรรค์โด่งดังในเหยียนโจวและได้รับความสนใจอย่างมาก

หากพวกเขาหายตัวไปอย่างกะทันหัน ย่อมมีสิ่งมีชีวิตจำนวนมากออกตามหา และออกมาตรวจสอบเรื่องนี้อย่างแน่นอน

พวกเขาไม่อยากทำให้กลายเป็นเรื่องใหญ่ครึกโครมเช่นนั้น

นอกจากนี้ หากพวกเขาลักพาตัวอ้ายฉานกับเด็กคนอื่นไป พวกเขากลัวว่าจะสร้างความประทับใจไม่ดีให้อ้ายฉานกับเด็กคนอื่น เกรงว่าพวกเด็ก ๆ จะเกลียดชังพวกเขา

ดังนั้นพวกเขาจึงจงใจสร้างเขตแดนพิเศษนอกพรรคจื่อเสีย จับตัวบรรพชนของพรรคจื่อเสียไว้ วางข้อจำกัดจิตวิญญาณของบรรพชนพรรคจื่อเสีย ปิดผนึกจิตสำนึกของบรรพชนของพรรคจื่อเสีย ทำให้บรรพชนของพรรคจื่อเสียเชื่อฟังพวกเขา

พวกเขาอยากแสร้งเป็นยอดฝีมือเข้าร่วมกับพรรคจื่อเสีย จากนั้นก็ลอบไปสอนอ้ายฉานกับเด็กคนอื่น

หลังจากอ้ายฉานกับเด็กคนอื่นยอมรับและเชื่อใจพวกเขาแล้ว ก็รอให้สิ่งมีชีวิตในเหยียนโจวเลิกสนใจอ้ายฉานกับเด็กคนอื่น แล้วพวกเขาจะพาอ้ายฉานและเด็กคนอื่นกลับกองกำลังของตนเอง

พวกเขาทำเช่นนี้ หนึ่งย่อมไม่กลายเป็นเรื่องใหญ่ สองย่อมไม่ทำให้อ้ายฉานกับเด็กคนอื่นขุ่นเคือง อาจกล่าวได้ว่าฆ่านกสองตัวด้วยหินก้อนเดียว

และเพราะอ้ายฉานกับเด็กคนอื่นชื่นชอบอันหลานเสวี่ยเป็นอย่างยิ่ง

พวกเขาจึงอยากควบคุมอันหลานเสวี่ย ควบคุมจิตวิญญาณของอันหลานเสวี่ย จากนั้นก็ผนึกจิตสำนึกของอันหลานเสวี่ยทำให้อันหลานเสวี่ยเชื่อฟังพวกเขา

เช่นนี้จะเอื้อต่อการวางแผนของพวกเขา

ผู้ใดจะรู้ว่ากลับเกิดเรื่องที่พวกเขาคาดไม่ถึงขึ้นมาเช่นนี้ได้ แผนการของพวกเขาถูกแม่นางอันหลานเสวี่ยที่อยู่ในขอบเขตประสานวิญญาณพังเสียไม่เป็นท่า…

ตอนนี้นับประสาอะไรกับอันหลานเสวี่ย แม้แต่ชีวิตและความตายของพวกเขาก็อยู่ในมือของนาง!

“เจ้าเป็นผู้ใด! ต้องการสิ่งใดกันแน่!”

อันหลานเสวี่ยละลายน้ำแข็งหนึ่งในคนเหล่านั้นแล้วกล่าวถาม

ถึงกระนั้น นางก็ไม่ได้ละลายน้ำแข็งของคนผู้นี้ออกทั้งหมด แต่ละลายน้ำแข็งช่วงศรีษะของเขาเท่านั้น เพราะกลัวว่าคนผู้นี้จะโจมตีนางอีก

แต่ที่นางคาดไม่ถึงคือ คนผู้นี้เลือกจะระเบิดตัวเอง!

ตู้ม! ตู้ม! ตู้ม!

ทันทีหลังจากนั้น ก็บังเกิดเสียงระเบิดดังขึ้นอย่างต่อเนื่องหลายครั้ง คนอื่นก็เลือกที่จะระเบิดตัวเองเช่นกัน!

ผนึกน้ำแข็งเพียงผนึกร่างของคนเหล่านี้เท่านั้นไม่ได้ผนึกพลังในตัวคนเหล่านี้

เพื่อจะได้ไม่ต้องเปิดเผยตัวตน พวกเขาทั้งหมดเลือกจะระเบิดตัวเอง ไม่เปิดโอกาสอันหลานเสวี่ย!

“เจ้า…พวกเจ้า!”

อันหลานเสวี่ยตกตะลึง นางคิดไม่ถึงว่าคนเหล่านี้จะโหดเหี้ยมถึงเพียงนี้!

“แล้วอาจารย์ปู่เล่าจะทำอย่างไรดี!?”

ภายในใจของนางเต็มไปด้วยความวิตกกังวล

คนพวกนี้ตายตกไปแล้ว เช่นนั้นข้อกำจัดจิตวิญญาณของบรรพชนเล่า?

ด้วยขอบเขตปัจจุบันของนาง มันไม่สามารถแก้ไขอะไรได้เลย!

พลังของหิมะเยือกแข็งในภาพวาดก็ช่วยอะไรนางไม่ได้เช่นกัน…

“ใช่แล้ว ยังมีสมุนไพรจักรพรรดิ!”

ในเวลานี้เอง ทันใดนั้นก็นางก็นึกขึ้นได้ว่าท่านเซียนมอบสมุนไพรจักรพรรดิให้นาง!

นางไม่ลังเลรีบนำสมุนไพรจักรพรรดิออกมา ดึงใบของมันแล้วเดินตรงไปหาอาจารย์ปู่

อันหลานเสวี่ยปลดผนึกน้ำแข็งอาจารย์ปู่อย่างระมัดระวัง ป้องกันไม่ให้อาจารย์ปู่โจมตีนาง

ถึงกระนั้นหลังจากปลดผนึกน้ำแข็งแล้ว อีกฝ่ายกลับไม่ขยับเคลื่อนไหว

หญิงสาวครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งก็ยิ่งเข้าใจมากขึ้น

คนควบคุมบรรพชนตายแล้ว ดังนั้นบรรพชนจึงไม่ขยับไม่เคลื่อนไหวเลยแม้แต่น้อย

แต่เพื่อความปลอดภัย นางยังคงไม่กล้าเข้าใกล้เขามากเกินไป จึงคอยรักษาระยะห่างกับอีกฝ่ายไว้

นางใช้พลังหิมะเยือกแข็งเปิดปากของบรรพชน แล้วนำสมุนไพรจักรพรรดิเข้าไปในปากของเขา

ในขณะเดียวกัน นางก็ชักนำพลังของสมุนไพรนี้ให้หลอมรวมเข้ากับร่างของบรรพชน

เพียงแค่ได้กลิ่นหอมของพฤกษาก็ราวกับตนเองได้รับพลังชีวิตอันยิ่งใหญ่ มีอายุขัยยืนยาวเพิ่มอีกร้อยปี นางเชื่อว่าสมุนไพรใบนี้จะสามารถช่วยบรรพชนได้!

ฟึ่บ!

สมุนไพรค่อย ๆ หลอมรวม ก่อนจะมีลำแสงลุกโชติช่วงออกมาจากร่างของบรรพชน แล้วทั่วทั้งร่างของบรรพชนก็ราวกับถูกเผาไหม้มิปาน สว่างเจิดจ้ายากจะจ้องมอง!

“ช่างมีพลังแข็งแกร่งอะไรเช่นนี้!”

อันหลานเสวี่ยตกตะลึง หลังจากสมุนไพรค่อย ๆ ถูกหลอมรวมแล้ว พลังก็เริ่มแสดงผลลัพธ์อันน่าอัศจรรย์ดุจห้วงมหาสมุทรออกมา มันกว้างใหญ่ไพศาลยิ่ง!

นางหยุดรีบหยุดหลอมรวม เพราะเกรงว่าร่างกายของบรรพชนจะรับไม่ไหว และแตกสลายด้วยพลังมหาศาล!

“เกิดอันใดขึ้น…กัน!”

ดวงตาหมองคล้ำของบรรพชนกลับมาเป็นประกายดังเดิม

สมุนไพรจักรพรรดินั้นได้ผลจริง ๆ และก่อนที่จะหลอมรวมอย่างสมบูรณ์ ข้อจำกัดในจิตวิญญาณของบรรพชนก็สลายหายไป คืนจิตสำนึกของตนเองกลับมา!

“ร่างกายของข้ามีพลังมหาศาลเช่นนี้ได้อย่างไร!?”

บรรพชนตกตะลึงก่อนจะรีบนั่งขัดสมาธิ ใช้วิชาบ่มเพาะดูดซับพลังมหาศาลในร่างกายของเขา!

อันหลานเสวี่ยไม่ได้รบกวนบรรพชน แต่ยืนอยู่ข้างกายอย่างเงียบ ๆ

นางแย้มยิ้มเมื่อเห็นบรรพชนไม่เป็นอะไรแล้ว

“อาจารย์ปู่กำลังจะทะลวงขอบเขต!”

พลังมหาศาลเช่นนี้ หลังจากถูกบรรพชนดูดซับอย่างสมบูรณ์ ขอบเขตของบรรพชนจะต้องเลื่อนขั้นสูงอย่างแน่นอน!

รู้สึกตัวอีกที ข้าก็เป็นเซียนซะแล้ว [原來我是世外高人]

รู้สึกตัวอีกที ข้าก็เป็นเซียนซะแล้ว [原來我是世外高人]

Status: Ongoing

‘หลี่จิ่วเต้า’ ชายหนุ่มผู้ถูกส่งตรงจากดาวเคราะห์สีฟ้ามายังโลกแห่งการฝึกตน ทว่ากลับไร้ซึ่งคุณสมบัติใด ๆ ในการเข้าสู่วิถีผู้ฝึกตน เขาไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากหันมาตกปลา วาดภาพและเขียนกลอนขาย

อันที่จริงหลี่จิ่วเต้ารู้เพียงเล็กน้อยว่า เจ้าแมวน้อยที่มาหาตนเป็นครั้งเป็นคราวเพื่อขอปลากินนั้น แท้จริงแล้วคือพยัคฆ์ขาว ส่วนชายผมขาวที่แข่งเขียนพู่กันกับเขาเป็นตัวตนระดับบรรพกาล และที่จะลืมไปไม่ได้ สตรีผู้งดงามที่มาร้องขอให้เขาช่วยวาดรูปอยู่ทุกวัน นางถึงกับเป็นเซียนในตำนาน!

ชายหนุ่มนิ่งอึ้งไปครู่หนึ่ง “เอาล่ะ…เช่นนั้น ข้าเป็นใครกัน?”

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท