สามีข้าคือขุนนางใหญ่ – ตอนที่ 188 ประกายไฟ(กลาง)

ตอนที่ 188 ประกายไฟ(กลาง)

หู่​พั่ว​รู้สึก​จับต้นชนปลายไม่ถูก​ ​จึง​พูด​ไป​ตรงๆ​ ​ว่า​ ​“​พี่​ตง​ชิง​ ​นี่​มัน​เป็นเรื่อง​ของ​ตัว​ท่าน​เอง​ ​ท่าน​ต้อง​ตัดสินใจ​เอง​ ​ข้า​ฟัง​ท่าน​ ​ท่าน​อยาก​ให้​ข้า​ไป​เรียนฮู​หยิน​ว่า​อย่างไร​ ​ข้า​ก็​จะ​เรียน​กับฮู​หยิน​อย่างนั้น​!​”

ตน​จะ​ต้อง​รู้​ว่า​ควร​ทำ​อย่างไร​ ​จะ​ได้​ไม่ต้อง​ถ่วงเวลา​แบบนี้​…

คำพูด​ประโยค​นี้​ของ​หู่​พั่ว​น่าฟัง​ ​แต่​ความเป็นจริง​คือ​พูด​ไป​แล้วก็​เหมือน​ไม่ได้​พูด​ ​ไม่รู้​ว่า​สรุป​แล้ว​มาจาก​ทาง​ฝั่ง​นาย​หญิง​ใหญ่​หรือไม่​ ​ไม่​เหมือนเช่น​ปินจ​วี​๋​ที่​เคย​ร่วมทุกข์ร่วมสุข​กัน​มา

เมื่อ​นึกถึง​ตรงนี้​ ​ใน​ใจ​ของ​ตง​ชิง​ก็​รู้สึก​เย็นชา​ขึ้น​มา​ ​นาง​พูด​ขึ้น​ว่า​ ​“​ข้า​ขอ​คิดดู​ก่อน​ ​พรุ่งนี้​ค่อย​เข้าไป​เรียนฮู​หยิน​ ​เจ้า​เห็น​ว่า​อย่างไร​”

หลาย​วัน​มานี​้​ท่าน​โหว​ค้าง​ที่​เรือนฮู​หยิน​ทุกวัน​ ​เลย​ไม่ได้​ให้​พวก​นาง​ไป​เฝ้า​ปรนนิบัติ​ใน​ช่วง​กลางคืน​ ​เข็น​เรือ​ตามน้ำ​ใคร​จะ​ทำไม​่​เป็น​กัน​เล่า

“​ก็ดี​!​”​ ​หู่​พั่ว​ยิ้ม​พร้อมกับ​พูด​ขึ้น​ว่า​ ​“​ข้า​ฟัง​พี่​ตง​ชิง​หมด​เลย​”

ทั้งสอง​ถามไถ่​สารทุกข์สุกดิบ​กัน​อยู่​ครู่หนึ่ง​ ​หู่​พั่ว​ก็​ลุกขึ้น​กลับ​เข้า​ห้อง​ของ​ตัวเอง​ไป

ตง​ชิง​ครุ่นคิด​อยู่​ครู่หนึ่ง​ ​จากนั้น​ก็​ตัดสินใจ​ไปหา​ปินจ​วี​๋​ ​เล่าเรื่อง​นี้​ให้​ปินจ​วี​๋​ฟัง

ปินจ​วี​๋​ได้ยิน​แล้วก็​ฉุน​ขึ้น​มาทัน​ที​ ​“​ทำไม​เจ้า​ถึง​เอาแต่​หาเรื่อง​จับผิด​ผู้อื่น​ ​ใน​จวน​นี้​จะ​มีนา​ยสั​กกี​่​ท่าน​ที่สามา​รถ​เดิน​ไปมา​ใน​เรือน​อย่าง​สง่าผ่าเผย​ได้​ ​แม้แต่​เวลา​ที่​พ่อบ้าน​ไป๋​เจอฮู​หยิน​ ​ก็​ยัง​ต้อง​คอย​สังเกต​สีหน้า​และ​ระมัดระวัง​ทุก​ย่างก้าว​ ​ข้า​เอง​ก็​รู้สึก​ว่าว​่าน​ต้า​เสี่ยน​นั้น​ไม่เลว​ทีเดียว​ ​อีก​อย่างฮู​หยิน​เป็น​คน​ย้าย​เขา​ไป​ที่​ห้อง​บัญชี​ด้วยตัวเอง​ ​วันข้างหน้า​ยัง​ต้อง​ใช้​เขา​อีก​เยอะ​ ​หาก​เจ้า​แต่งงาน​กับ​เขา​ ​ยัง​เป็นการ​ช่วยฮู​หยิน​อีกด้วย​ ​เพราะ​คนบ้าน​สกุล​ว่าน​เห็น​ว่า​เจ้า​นั้น​เป็นสาว​ใช้​คนสนิท​ของฮู​หยิน​ ​จึง​ไม่กล้า​ดูหมิ่นดูแคลน​เจ้า​ ​เป็น​ทั้ง​บุตรชายคนโต​และ​สะใภ้​ใหญ่​ ​เจ้า​ยัง​มี​อะไร​ให้​ไม่พอใจ​กัน​”​ ​น้ำเสียง​คำพูดคำจา​ของ​ปินจ​วี​๋​ค่อนข้าง​ไม่พอใจ​ใน​ความคิด​ของ​นาง​เป็นอย่างมาก

ตง​ชิง​รู้สึก​อัดอั้นตันใจ​แต่​ก็​ไม่​สามารถ​ระบาย​ออกมา​ได้​ ​คุย​กับ​ปินจ​วี​๋​พัก​หนึ่ง​ ​จากนั้น​ก็​ขอตัว​กลับ​เรือน

พอ​เงยหน้า​ขึ้น​ก็​เจอ​เข้ากับ​จู๋​เซียง​พอดี

วัน​ๆ​ ​นาง​ก็​มัว​แต่​ยุ่ง​อยู่​กับ​การ​ดูแล​อาหาร​ทั้ง​สาม​มื้อ​และ​ซักผ้า​ผ่อน​ของ​เรือน​ ​ออก​ไป​แต่เช้า​กลับมา​ถึง​ก็​ดึกดื่น​ ​ไม่​ค่อย​ได้​เจอ​หน้า​กัน​เท่าไร​นัก

“​เสร็จ​งาน​แล้ว​หรือ​”​ ​ตง​ชิง​กล่าว​ทักทาย​จู๋​เซียง​ด้วย​รอยยิ้ม

จู๋​เซียง​ย่อ​ตัว​ทำความเคารพ​นาง​ ​“​พี่​ตง​ชิง​ ​ดึก​ป่านนี้​แล้ว​ ​ท่าน​ยัง​ไม่​เข้านอน​อีก​หรือ​”

ใบหน้า​ของ​ตง​ชิง​เต็มไปด้วย​สีหน้า​ที่​กลัดกลุ้ม​ใจ​ ​รอยยิ้ม​ของ​นาง​ค่อนข้าง​ฝืน​ ​ลม​พัด​ยามค่ำคืน​พลอย​ทำให้​รู้สึก​อ้างว้าง​วังเวง

จู๋​เซียง​มองเห็น​อย่างชัดเจน​ ​นึกถึง​ช่วงเวลา​ที่ผ่านมา​ ​ตง​ชิง​คอย​ดูแล​ตน​มาโดยตลอด​ ​จึง​ยิ้ม​พร้อมกับ​พูด​ขึ้น​ว่า​ ​“​วันนี้​โรง​ครัว​ทำ​ขนม​ถั่วลันเตา​เหลือง​กวน​เป็น​อาหารว่าง​ยามดึก​ให้​ไท่ฮู​หยิน​ ​เลย​ห่อ​ให้​ข้ามา​หน่อย​หนึ่ง​ ​พี่​หญิง​จะ​ลอง​ชิม​สักหน่อย​หรือไม่​”

ค่ำคืน​นี้​ยัง​อีก​ยาวนาน​ ​อยู่​ใน​ห้อง​ก็​ต้อง​เย็บปักถักร้อย​ ​จึง​ตอบรับ​จู๋​เซียง​ด้วย​รอยยิ้ม​ ​ทั้งสอง​พากัน​เดิน​ไป​ยัง​ที่พัก​ของ​นาง

จู๋​เซียง​พัก​อยู่​คนเดียว​ ​ด้าน​ข้าง​เป็น​ที่พัก​ของ​สาวใช้​น้อย​คนอื่นๆ​ ​นาง​เคาะ​ประตู​เรียก​สาวใช้​น้อย​ไป​เอา​น้ำร้อน​มา​ให้​หนึ่ง​กา​ ​จากนั้น​ตง​ชิง​ก็​นั่งลง​บน​เตียง​เตา​ ​จู๋​เซียง​นำ​ขนม​ถั่วลันเตา​เหลือง​กวน​ที่​ห่อ​ด้วย​กระดาษ​มัน​จัด​ลง​บน​จาน​กระเบื้อง​ลายคราม​ ​แล้วจึง​หันไป​นำ​ชา​เถี​่​ยก​วน​อิน​ออกมา​หนึ่ง​ห่อ​ ​“​…​นี่​คือ​ชา​ที่​ป้า​ตู้​ให้​เป็น​รางวัล​ตอน​เทศกาล​ฤดูหนาว​ ​พี่​หญิง​ลอง​ชิม​ดู​”

ตง​ชิง​รู้สึก​ว่านาง​ยัง​เด็ก​อยู่​แท้ๆ​ ​ไม่​เพียงแค่​การกระทำ​สุขุม​หนักแน่น​ ​ยัง​ว่านอนสอนง่าย​และ​มนุษยสัมพันธ์​ดีเยี่ยม​ ​ราวกับ​เป็นสาว​ใช้​ใหญ่​อย่างไร​อย่างนั้น​ ​ไม่​เหมือน​ตน​ ​ที่​ฝ่าฝืน​กฎ​ของฮู​หยิน​ห้า​ ​จึง​ต้อง​นั่ง​เย็บปักถักร้อย​อยู่​แต่​ใน​ห้อง​ ​อด​ไม่ได้​ที่จะ​เหม่อลอย​ขึ้น​มา

จู๋​เซียง​มอง​สีหน้า​ที่​เต็มไปด้วย​ความกังวลใจ​ของ​ตง​ชิง​ ​จู๋​เซียง​รู้ตัว​ว่า​ตน​นั้น​อายุ​ยังน้อย​ ​อีกทั้ง​ยัง​ไม่ได้​เข้ามา​ปรนนิบัติ​รับใช้ฮู​หยิน​เหมือนกับ​นาง​ ​นาง​คง​ไม่​คิด​จะ​พูด​ความในใจ​กับ​ตน​หรอก​ ​จู๋​เซียง​จึง​ไม่ได้​พูด​อะไร​ออกมา​ ​เดิน​ไป​เปลี่ยนเสื้อ​ผ้า​หลังฉาก​บานพับ​เหมือนเช่น​เคย​ ​คุย​กับ​นาง​พลาง​รอน​้ำ​ร้อน​ที่จะ​นำมา​ชงชา

แต่​หลังจาก​เปลี่ยน​ชุด​เสร็จ​แล้ว​ ​น้ำร้อน​ก็​ยัง​ไม่​มาสัก​ที​ ​ยังคง​เห็น​ตง​ชิง​นั่ง​เหม่อลอย​อยู่​ที่​เดิม​ ​แต่​จู๋​เซียง​เอง​ก็​ไม่​สะดวก​ใจ​จะ​ถาม​นาง​ตรงๆ​ ​จึง​ยิ้ม​พร้อมกับ​พูด​ขึ้น​ว่า​ ​“​ทำไม​น้ำร้อน​ถึง​ยัง​ไม่​มาสัก​ที​ ​ข้า​จะ​ออก​ไปดู​เสียหน่อย​!​”​ ​นาง​พูด​พลาง​เดิน​ออก​ไป​ด้านนอก​ ​แล้ว​ให้​สาวใช้​น้อย​อีก​คน​ออก​ไป​ตาม​ ​แต่​เพิ่งจะ​กลับ​เข้ามา​ใน​ห้อง​ ​จู่ๆ​ ​ก็​มีเสียง​เคาะ​ประตู​ดัง​ขึ้น

คนที​่​ยก​น้ำร้อน​เข้ามา​นั้น​ก็​คือ​ลี่ว​์​อวิ​๋น​ ​“​ได้ยิน​ว่า​มี​แขก​มาที​่​ห้อง​ของ​น้อง​หญิง​…​นี่​เป็นน้ำ​ร้อน​ที่ฮู​หยิน​ใช้​ไม่​หมด​ ​ข้า​ก็​เลย​ยก​ติดมือ​มาด​้วย​!​”

จู๋​เซียง​จึง​รีบ​ลุกขึ้น​หลีก​ที่​ให้​นาง​มานั​่​งดื​่ม​ชาด​้ว​ยกัน

ลี่ว​์​อวิ​๋น​และ​หง​ซิ่ว​ไม่​เหมือนกับ​จู๋​เซียง​ ​เดิมที​พวก​นาง​ก็​ติดตามฮู​หยิน​มาตั​้ง​แต่แรก​แล้ว​ ​ต่อหน้าฮู​หยิน​พวก​นาง​ระมัดระวัง​ไม่กล้า​ทำผิด​พลาด​แม้แต่​ก้าว​เดียว​ ​ต่อหน้า​ตง​ชิง​และ​จู๋​เซียง​ ​พวก​นาง​ก็​มักจะ​คอย​เอาใจ​ทำ​รองเท้า​ถุงเท้า​ให้​เสมอ​ ​เพียงแต่ว่า​ฝีมือ​การ​เย็บปักถักร้อย​ของ​ตง​ชิง​นั้น​เดิมที​ก็ดี​อยู่​แล้ว​ ​อีกทั้ง​ยัง​ค่อนข้าง​มี​เวลาว่าง​ ​พวก​นาง​จึง​พยายาม​ไม่​ค่อย​จะ​ไหว​ ​ส่วน​ปินจ​วี​๋​เป็น​คนที​่​มี​เท่าไร​ก็​เอา​เท่านั้น​ ​พูด​เพียง​ว่า​ ​“​ลำบาก​แล้ว​!​”​ ​แค่​ประโยค​เดียว​ก็​ยอม​ปล่อย​ผ่าน​ไป​ ​ส่วน​หู่​พั่ว​นั้น​เก็บ​ตาม​จำนวน​ที่​สั่ง​ ​หาก​ทำผิด​ก็​ลงโทษ​ไป​ตาม​ผิด​ ​มี​เพียง​จู๋​เซียง​คนเดียว​เท่านั้น​ที่​มักจะ​ยิ้มแย้มแจ่มใส​อยู่​เสมอ​ ​ทำความเคารพ​บ้าง​เป็น​บางครั้ง​ ​ทุกคน​จึง​ชอบ​นาง​เป็นอย่างมาก​ ​เมื่อ​นาง​ชวน​ให้​อยู่​ดื่ม​น้ำชา​ด้วยกัน​ ​ก็​รีบ​ไป​ชงชา​ด้วย​ความ​กระตือรือร้น

“​ท่าน​โหว​นอน​ที่​เรือน​ของฮู​หยิน​แล้ว​ใช่​หรือไม่​!​”​ ​ตง​ชิง​รู้สึก​ว่า​ลี่ว​์​อวิ​๋น​ดูเหมือนว่า​งมาก​ ​จึง​ถาม​ไป​ตามเนื้อผ้า

ลี่ว​์​อวิ​๋น​ใช้​ถาด​ไม้​ที่​เคลือบ​ด้วย​สีน้ำมัน​แดง​เงา​สลักลาย​ดอก​ไห่​ถัง​สีทอง​ยก​ชา​ทั้ง​สาม​ถ้วย​เข้าไป​ ​“​ไม่ใช่​ ​ไป​ค้าง​ที่​เรือน​ของ​เฉียว​อี๋​เหนียง​แทน​”

ตง​ชิง​ชะงัก​ไป​ทันที​ ​“​เหตุใด​จู่ๆ​ ​ถึง​ไปหา​เฉียว​อี๋​เหนียง​ได้​ล่ะ​”

จู๋​เซียง​เข้าไป​ช่วย​รับ​ถ้วยชามา​วาง​ลง​บน​โต๊ะ​ ​จากนั้น​ก็​ขยับ​ที่​ให้​ลี่ว​์​อวิ​๋​นขึ​้น​ไป​นั่ง​บน​เตียง​เตา

“​เดิมที​ก็​ถึง​วัน​ของ​เฉียว​อี๋​เหนียง​อยู่​แล้ว​นี่​นา​”​ ​ลี่ว​์​อวิ​๋น​ไม่ได้​คิด​เช่นนั้น​ ​นาง​ยิ้ม​พร้อมกับ​ขึ้นไป​นั่ง​บน​เตียง​เตา

“​แต่​หลาย​วัน​มานี​้​ท่าน​โหวก​็​พัก​อยู่​แต่​ใน​เรือน​ของฮู​หยิน​มิใช่​หรือ​…​”

“​ใคร​จะ​สามารถ​คาดเดา​จิตใจ​ของ​ท่าน​โหว​ได้กัน​”​ ​ลี่ว​์​อวิ​๋น​ยิ้ม​พร้อมกับ​พูด​ขึ้น​ว่า​ ​“​หลังจาก​ทานข้าว​กลับมา​ก็​ยังดี​ๆ​ ​อยู่​เลย​ ​แต่​พอ​เห็น​ว่า​เปลี่ยน​ม่าน​เตียง​ชุด​ใหม่​ ​สีหน้า​ของ​ท่าน​โหวก​็​เคร่งขรึม​ขึ้น​มาทัน​ที​ ​จากนั้น​ก็​ลุกขึ้น​ตรง​ไป​ยัง​เรือน​ของ​เฉียว​อี๋​เหนียง​เลย​ ​ข้า​กลับ​สังเกตเห็นฮู​หยิน​ถอนหายใจ​ออกมา​อย่าง​โล่งอก​ ​แล้วฮู​หยิน​ก็​ไป​ที่​เรือน​ปีก​ทิศตะวันออก​ ​เพราะ​พรุ่งนี้​คุณหนู​ใหญ่​จะ​เดินทาง​ไป​ยัง​เขา​ซี​ซาน​ ​เพื่อ​อยู่​ฉลอง​ปีใหม่​เป็นเพื่อนฮู​หยิน​สอง​”

จู๋​เซียง​ชี้​ไป​ยัง​ขนม​ถั่วลันเตา​เหลือง​กวน​ที่อยู่​ใน​จาน​ ​“​ลอง​ชิม​ดู​ว่า​รสชาติ​เป็น​อย่างไรบ้าง​”

ลี่ว​์​อวิ​๋​นรีบ​หยิบ​ชิ้น​หนึ่ง​ออกมา​ชิม​ ​“​อร่อย​…​แต่​หาก​หวาน​กว่านี​้​อีกหน่อย​คงจะ​ดี​!​”

จู๋​เซียง​ขยับ​จาน​มา​วาง​ตรง​ด้านหน้า​ของ​ตง​ชิง​ ​จากนั้น​ก็​ยิ้ม​พร้อมกับ​พูด​ขึ้น​ว่า​ ​“​เพราะ​ทำให้​ไท่ฮู​หยิน​ทาน​”

ตง​ชิง​หยิบ​ชิ้น​หนึ่ง​มาทา​นอย​่าง​ใจลอย​ ​แล้วจึง​พูด​ขึ้น​ว่า​ ​“​แล้ว​มัน​เกี่ยว​อะไร​กับ​เรื่อง​เปลี่ยน​ม่าน​เตียง​ชุด​ใหม่​ล่ะ​”

ลี่ว​์​อวิ​๋​นกลื​นข​นม​ถั่วลันเตา​เหลือง​กวน​ลงคอ​ ​จากนั้น​ก็​พูด​ขึ้น​ว่า​ ​“​ถึงว่า​ไง​ว่า​ไม่มีใคร​คาดเดา​จิตใจ​ของ​ท่าน​โหว​ได้​ ​จะ​ว่า​ไป​แล้ว​ ​ท่าน​โหวก​็​เป็น​คน​สั่ง​ให้​เปลี่ยน​ม่าน​เตียง​แท้ๆ​ ​ตอนบ่าย​ท่าน​โหวก​็​เห็น​แล้วด้วย​ ​อีกทั้ง​ยัง​บอกว่าฮู​หยิน​เปลี่ยน​ได้​ทันเวลา​ ​ตก​กลางคืน​ ​พอ​เห็น​ม่าน​เตียง​ก็​เหมือน​นึกถึง​เรื่อง​อะไร​ไม่ดี​เข้า​อย่างไร​อย่างนั้น​…​”​ ​แล้วก็​พูด​ต่อไป​ว่า​ ​“​เฮ้อ​ ​อารมณ์​ท่าน​โหว​เดี๋ยวดีเดี๋ยวร้าย​มาโดยตลอด​ ​เมื่อก่อน​เรือน​ดี​ๆ​ ​ก็​ไม่ยอม​อยู่​ ​วัน​ๆ​ ​เอาแต่​อยู่​ที่​เรือน​ปั้น​เย​่ว​์​พั่น​ ​พอ​มาต​อนนี​้​ก็​เอาแต่​กลับมา​นอน​ที่​เรือน​”

จู๋​เซียง​ได้ยิน​แล้วก็​รู้สึก​ตลก​ ​จึง​หัวเราะ​พร้อมกับ​พูด​ขึ้น​ว่า​ ​“​เรือน​ปั้น​เย​่ว​์​พั่น​ไม่ใช่​เรือน​หรือ​อย่างไร​กัน​”

“​ปั้น​เย​่ว​์​พั่น​ไม่ใช่​เรือน​จริงๆ​ ​เสียด​้วย​”​ ​ลี่ว​์​อวิ​๋น​จิบ​ชา​ไป​คำ​หนึ่ง​ ​รู้สึก​อุ่น​ทั่วทั้ง​กาย​ ​“​ตอนที่​ข้า​ยัง​เป็นสาว​ใช้​น้อย​ ​ข้า​เคย​ไป​แจ้ง​ข่าว​ให้ท่าน​โหว​ครั้งหนึ่ง​…​มัน​เป็น​ห้อง​สาม​ห้อง​พี่​มุง​ด้วย​หญ้าคา​ ​รอบด้าน​เป็นน้ำ​ ​พาด​กระดาน​ไม้​สีแดง​เพียง​สะพาน​เดียว​”

“​ไม่ได้​ดู​ผิด​”​ ​ลี่ว​์​อวิ​๋น​หัวเราะ​พร้อมกับ​พูด​ขึ้น​ว่า​ ​“​ผนัง​ด้านนอก​ทำ​ด้วย​ดินเหนียว​ ​หลังคา​มุง​ด้วย​หญ้าคา​ ​ยัง​มีบ​่อ​น้ำ​ดิน​และ​กว้าน​ตัก​น้ำ​ที่​มุง​ด้วย​หญ้าคา​ ​เป็น​แบบ​เดียวกัน​กับ​บ้านนอก​เลย​”​ ​จากนั้น​ก็​หัวเราะ​แล้ว​พูด​ต่อว่า​ ​“​ตอนนั้น​ข้า​รู้สึก​แปลกใจ​เป็นอย่างมาก​ ​เหตุใด​ท่าน​โหว​จึง​พัก​อยู่​ใน​ที่​เช่นนั้น​ได้​ ​ก็​เลย​ตั้งใจ​ไป​ถาม​สาวใช้​ใหญ่​พี่​เป่า​หลาน​โดยเฉพาะ​ ​พี่​เป่า​หลาน​เอง​ก็​ตอบ​ข้าว​่า​ไม่รู้​เหมือนกัน​…​”

จู๋​เซียง​เห็น​ว่า​บทสนทนา​นี้​ยิ่ง​คุย​ก็​ยิ่ง​เตลิด​ไป​ไกล​ ​จึง​ยิ้ม​พร้อมกับ​พูด​ขึ้น​ว่า​ ​“​ที่นี่​เป็น​จวน​ของ​ท่าน​โหว​ ​ท่าน​โหว​อยาก​จะ​อยู่​ที่ใด​ก็ได้​ ​ส่วน​เรา​เป็น​แค่​สาวใช้​ ​ตั้งใจ​ปรนนิบัติ​อย่างสุดความสามารถ​ก็​พอแล้ว​”​ ​จากนั้น​ก็​เปลี่ยนไป​คุย​เรื่อง​อื่น​ ​“​พี่​ลี่ว​์​อวิ​๋​นคิด​ว่า​ชา​เป็น​อย่างไรบ้าง​ ​ข้า​ชิม​แล้ว​รู้สึก​ทั้ง​หวาน​หอม​และ​เข้มข้น​”

“​ป้า​ตู้​เป็น​คน​ให้​มา​ล่ะ​สิ​”​ ​ลี่ว​์​อวิ​๋​นพ​ยัก​หน้า​เบา​ๆ​ ​“​ป้า​ตู้​ชอบ​ดื่ม​ชา​เถี​่​ยก​วน​อิน​เป็น​ชีวิตจิตใจ​ ​ทุกๆ​ ​ปี​ไท่ฮู​หยิน​มักจะ​มอบ​ใบชา​ให้​กับ​ผู้หลักผู้ใหญ่​อย่าง​ป้า​ตู้​เป็น​ของขวัญ​ ​ครั้ง​ละ​หลาย​ชั่ง​เชียว​”

ทั้งสอง​นั้น​กำลัง​พูดคุย​กัน​ ​ในที่สุด​ก็​สามารถ​เบี่ยงประเด็น​จาก​เรื่อง​ใน​เรือน​ของ​สือ​อี​เหนียง​ได้

หลังจาก​ดื่ม​ชา​และ​ทาน​ขนม​เสร็จ​แล้ว​ ​ลี่ว​์​อวิ​๋น​เห็น​ว่า​ตง​ชิง​เอาแต่​นั่ง​เงียบ​ไม่ยอม​พูด​อะไร​ ​จึง​รู้สึก​ว่า​ตน​นั้น​เกินเลย​เสีย​แล้ว​ ​ตง​ชิง​มาหา​จู๋​เซียง​ในเวลานี้​ ​จะ​ต้อง​มีธุระ​อย่างแน่นอน​ ​จู๋​เซียง​ชวน​ตน​อยู่​ดื่ม​ชาด​้วย​ตามมารยาท​ ​ตน​ก็​ไม่ได้​คิด​อะไร​มากมาย​ ​นั่งลง​ดื่ม​ชาด​้วย​เสีย​อย่างนั้น

ลี่ว​์​อวิ​๋น​จึง​พูดคุย​อยู่​ไม่​กี่​ประโยค​ ​จากนั้น​ก็​ขอตัว​กลับ​ไป​ ​“​พรุ่งนี้​ข้า​ต้อง​เข้าเวร​แต่เช้า​”

จู๋​เซียง​ได้ยิน​แล้วก็​ไม่ได้​รั้ง​ให้​นาง​อยู่​ต่อ​ ​จึง​เดิน​ไป​ส่ง​นาง​ที่​หน้า​ประตู​ ​จากนั้น​ก็​เดิน​กลับ​เข้ามา​ใน​ห้อง​ ​นาง​ยิ้ม​พร้อมกับ​พูด​ขึ้น​ว่า​ ​“​ลี่ว​์​อวิ​๋น​สดใส​ร่าเริง​มากกว่า​ ​ส่วน​หง​ซิ่ว​ออกจะ​พูดน้อย​ไป​หน่อย​ ​แต่​ทั้งสอง​นิสัย​อ่อนโยน​ผ่อนตาม​ทั้งคู่​”

ตง​ชิง​พยักหน้า​เบา​ๆ​ ​นาง​อยาก​จะ​กลับ​ห้อง​ของ​ตน​ ​แต่​ก็​ไม่​อยาก​เหงา​อยู่​คนเดียว​ ​เมื่อ​ครุ่นคิด​อยู่​ครู่หนึ่ง​ ​สุดท้าย​ก็​ตัดสินใจ​เล่าเรื่อง​ที่ฮู​หยิน​เป็น​แม่สื่อ​ของ​ตน​ให้​นาง​ฟัง

จู๋​เซียง​ได้ยิน​แล้วก็​รู้สึก​ค่อนข้าง​ประหลาดใจ​เป็นอย่างมาก​ ​“​พี่​ตง​ชิง​ ​ข้า​พูดตาม​ความคิด​ของ​ข้า​ ​หาก​ท่าน​รู้สึก​ไม่​ถูกใจ​ก็​อย่า​ถือโทษ​โกรธ​ข้า​เลย​”

ตง​ชิง​ได้ยิน​จู๋​เซียง​พูดจา​ฉะฉาน​ตรงไปตรงมา​เช่นนี้​ ​จึง​ตั้งสติ​จ้องมอง​ไป​ยัง​ใบหน้า​ของ​นาง​ ​“​เจ้า​เป็น​เหมือน​น้อง​หญิง​ของ​ข้า​ ​ข้า​จะ​โกรธ​เจ้า​ได้​อย่างไรเล่า​”

จู๋​เซียง​ยังคง​ไตร่ตรอง​อยู่​ครู่หนึ่ง​แล้วจึง​ค่อย​เอ่ยปาก​พูด​ ​“​ข้า​เอง​ก็ได้​ยิน​คนอื่น​พูด​มาบ​้าง​ ​สตรี​แต่งงาน​ออกเรือน​ก็​เพื่อ​หวัง​พึ่ง​สามี​เลี้ยงดู​ ​หาก​พี่​ตง​ชิง​อยาก​จะ​แต่งงาน​กับ​คนที​่​หา​เลี้ยง​ท่าน​ได้​ ​ข้า​เอง​รู้สึก​ว่าว​่าน​ต้า​เสี่ยน​นั้น​ก็​ถือว่า​ไม่เลว​ทีเดียว​”

พูด​เหมือน​ปินจ​วี​๋​เลย​!

ตง​ชิง​มอง​จู๋​เซียง​ด้วย​ความรู้สึก​ที่​ค่อนข้าง​อึ้ง​ ​อด​ไม่ได้​ที่จะ​รู้สึก​ผิดหวัง​ขึ้น​มา​เล็กน้อย

“​พี่​หญิง​ลอง​นึกดู​ดี​ๆ​”​ ​จู๋​เซียง​พูด​ขึ้น​ด้วย​น้ำเสียง​ปลอบโยน​ ​“​หาก​พูดถึง​ข้า​แทน​ ​เวลา​ที่อยู่​บ้าน​นั้น​ ​วัน​ๆ​ ​ก็​ถูก​แม่เลี้ยง​คอย​จ้องมอง​ด้วย​สายตา​ที่​เย็นชา​ ​พลอย​ทำให้​รู้สึก​เหมือน​ตัวเอง​ทำ​อะไร​ผิด​อยู่​ตลอดเวลา​ ​ยิ่ง​คิด​เช่นนี้​ ​เวลา​ทำ​อะไร​ก็​ยิ่ง​รู้สึก​กลัวผิด​เข้าไป​ใหญ่​ ​ยิ่ง​อยู่​ยิ่ง​ขลาดกลัว​ ​สุดท้าย​ผิด​เยอะ​กว่า​เก่า​ ​แม่เลี้ยง​เห็น​แล้วก็​ขมวดคิ้ว​หนัก​กว่า​เดิม​ ​ข้า​ก็​ยิ่ง​กลัว​ไป​กัน​ใหญ่​ ​ตอนหลัง​ถูก​ส่ง​มา​เป็นสาว​ใช้​ใน​จวน​ ​ก็​สังเกตเห็น​ว่า​ขอ​เพียงแค่​ตน​ตั้งใจ​ทำ​ ​ก็​สามารถ​ทำได้​เร็ว​และ​ดีกว่า​คน​รอบข้าง​ได้​ ​ต่อมา​ก็​ถูก​ส่ง​ไป​เป็นสาว​ใช้​ที่​เรือน​ของฮู​หยิน​ ​พี่​หญิง​มักจะ​คอย​บอก​สอน​ข้า​เสมอ​ว่า​เรื่อง​ใด​ควร​ทำ​หรือไม่​ควร​ทำ​บ้าง​ ​ยัง​คอย​ทำ​เสื้อผ้า​ให้​ข้า​ ​สอน​ข้า​ทำ​รองเท้า​ถุงเท้า​ ​ให้​ข้า​ได้​สวมใส่​เสื้อผ้า​ที่​สะอาด​กลับบ้าน​ ​รองเท้า​ถุงเท้า​ที่​ทำให้​ท่าน​พ่อ​ของ​ข้า​ก็​พอเหมาะ​พอดี​ ​เวลา​ที่​ท่าน​พ่อ​เห็น​ข้า​แล้ว​มีความสุข​ก็​เพิ่มมากขึ้น​ ​ความกล้า​และ​ความมั่นใจ​ของ​ข้า​ก็​เพิ่มมากขึ้น​เรื่อยๆ​ ​ไม่ว่า​เรื่อง​อะไร​ข้า​ก็​เริ่ม​กล้า​ที่จะ​ออก​ความคิดเห็น​ ​จากนั้น​ก็​ย้าย​ตามฮู​หยิน​แต่ง​เข้า​จวน​แห่ง​นี้​ ​ให้​ข้า​ได้​ดูแล​รับผิดชอบ​เรื่องมาก​มาย​ ​ข้า​เอง​ก็​ระมัดระวัง​เป็นอย่างมาก​ ​แต่​ก็​ไม่มี​ข้อผิดพลาด​ใหญ่โต​อะไร​ ​ข้า​กล้า​พูดจา​เสียงดัง​ขึ้น​ ​คนเรา​เวลา​อยู่​ตรงไหน​ก็​ต้อง​ทำตัว​อย่างนั้น​ ​ตอนนี้​ว่าน​ต้า​เสี่ยน​เอง​ก็ได้​เป็น​บ่าว​รับใช้​ของ​ห้อง​บัญชี​แล้ว​ ​เขา​เป็น​คนที​่​ฉลาด​และ​รัก​ที่จะ​เรียนรู้​ ​หาก​วันใด​ได้​เลื่อนขั้น​ขึ้น​มา​เป็น​ผู้ดูแล​ ​ทุกอย่าง​ก็​จะ​ไม่​เหมือนเดิม​อย่างแน่นอน​ ​พ่อบ้าน​ ​ป้า​รับใช้​และ​สาวใช้​ใหญ่​ที่​พอ​มีหน้ามีตา​ใน​จวน​นี้​ ​มี​ใคร​บ้าง​ที่สามา​รถ​เดิน​มาถึง​จุด​นี้​ได้​โดยที่​ไม่ต้อง​ค่อยๆ​ ​ไต่เต้า​ทีละ​ก้าว​กัน​”

ตง​ชิง​ก้มหน้า​ครุ่นคิด

จู๋​เซียง​เห็นท่า​ทาง​ของ​นาง​แล้วก็​ไม่ได้​รบกวน​นาง​ ​ปล่อย​ให้​นาง​ดื่ม​ชา​เงียบๆ​ ​จน​หมด​ถ้วย​ ​จากนั้น​ก็ได้​ให้​สาวใช้​น้อย​ไป​ต้ม​น้ำ​เพื่อที่จะ​เตรียมตัว​อาบน้ำ

สาวใช้​น้อย​แสดง​สีหน้า​ที่​กระอักกระอ่วน​ใจ

“​เกิดเรื่อง​อัน​ใด​ขึ้น​หรือ​”​ ​จู๋​เซียง​มัก​ปฏิบัติ​ต่อ​ผู้อื่น​ด้วย​ความอ่อนโยน​เสมอ

สาวใช้​น้อย​พูด​ขึ้น​พึมพำ​ว่า​ ​“​เมื่อครู่นี้​ท่าน​บอกว่า​จะ​ดื่ม​ชา​ ​พวก​ข้า​ก็​เลย​ไป​ขอน​้ำ​ร้อน​ที่​โรง​ครัว​เล็ก​ ​จึง​เห็น​ว่า​ซิ่ว​หยวน​เฝ้า​ที่นั่น​อยู่​ ​เห็น​ว่า​คืนนี้​ท่าน​โหว​ค้าง​ที่​เรือน​ของ​เฉียว​อี๋​เหนียง​ ​เกรง​ว่า​คงจะ​ใช้​น้ำร้อน​ตลอดเวลา​ ​ก็​เลย​ให้​พวก​ข้า​รอก​่อน​”

โรง​ครัว​ของ​สือ​อี​เหนียง​ ​สือ​อี​เหนียง​ก็​ใช้​อยู่​ ​ส่วน​โรง​ครัว​เล็ก​ของ​เรือน​ทิศตะวันออก​ ​ก็​เป็น​เหล่า​บรรดา​อี๋​เหนียง​ ​สาวใช้​และ​ป้า​รับใช้​ใช้​ร่วมกัน​ ​จู๋​เซียง​ได้ยิน​แล้วก็​ยิ้ม​พร้อมกับ​พูด​ขึ้น​ว่า​ ​“​เจ้า​ลอง​ไปดู​ ​หาก​มี​ก็​ตัก​มา​ ​หากว่า​ไม่มี​เดี๋ยว​ค่อย​ว่า​กัน​ใหม่​”

สาวใช้​น้อย​ขานรับ​แล้ว​ออก​ไป

ตง​ชิง​ที่อยู่​ใน​เรือน​ก็ได้​ยิน​ด้วย​ ​อด​ไม่ได้​ที่จะ​ขมวดคิ้ว​ขึ้น​มาด​้วย​ความแปลกใจ​ ​“​ซิ่ว​หยวน​คน​นี้​ ​กำเริบเสิบสาน​เกินไป​แล้ว​”

จู๋​เซียง​ไม่​คิด​เช่นนั้น​ ​“​เจตนา​เดิม​ของ​นักปราชญ์​ไม่ได้​อยู่​ที่​สุรา​ ​นาง​คงจะ​พยายาม​คิด​หาวิ​ธี​ที่จะ​ให้​คนอื่น​ไป​นินทา​ให้ฮู​หยิน​ฟัง​!​ ​ยิ่ง​พวกเรา​ร้อนรน​ ​พวก​นาง​ก็​จะ​ยิ่ง​ได้ใจ​เข้าไป​ใหญ่​ ​แต่​หาก​เรา​ไม่​ไป​ให้ความสนใจ​ ​พวก​นาง​ก็​จะ​ยอมแพ้​ไป​ในที่สุด​”

“​มี​แต่​จะ​ทำให้​คนอื่น​เกลียดชัง​ก็​เท่านั้น​”​ ​ตง​ชิง​รู้สึก​ว่า​คำพูด​ของ​จู๋​เซียง​นั้น​ค่อนข้าง​มีเหตุผล

จู๋​เซียง​กลับ​ยิ้ม​พร้อมกับ​พูด​ขึ้น​ว่า​ ​“​ทำ​มากกว่า​ ​ก็​จะ​ผิดพลาด​มากกว่า​ ​กลัว​ก็​แต่ว่า​นาง​จะ​ไม่​ทำ​”

ตง​ชิง​รู้สึก​ไม่​ค่อย​เข้าใจ​เท่าไร​นัก​ ​สีหน้า​ของ​นาง​เต็มไปด้วย​ความ​งุนงง​ ​อยาก​จะ​ถาม​จู๋​เซียง​ให้​ละเอียด​ ​แต่​จู๋​เซียง​กลับ​เปลี่ยน​เรื่อง​ไป​คุย​อย่าง​อื่น​แทน​ ​“​พี่​ตง​ชิง​ ​ท่าน​ไม่​อยาก​ที่จะ​ตง​ลก​แต่งงาน​กับ​ว่าน​ต้า​เสี่ยน​ ​แล้ว​ท่าน​มีทาง​เลือก​ที่​ดีกว่า​นี้​แล้ว​หรือยัง​เจ้า​คะ​”

สามีข้าคือขุนนางใหญ่

สามีข้าคือขุนนางใหญ่

Status: Ongoing

นิยายโรแมนติก-คอเมดี้ ผู้เขียนเดียวกับเรื่องหมอหญิงกับลูกลิงทั้งสาม!

จากสายลับสาวสวยแห่งยุคปัจจุบันต้องทะลุมิติมาอยู่ในร่างของ กู้เจียว หญิงอัปลักษณ์สติไม่สมประกอบแห่งหมู่บ้านชนบทห่างไกล

แม้สติไม่สมประกอบแต่ชอบคนหน้าตาดี กรรมเลยไปตกที่ เซียวลิ่วหลัง ที่เจ้าของร่างช่วยเหลือเอาไว้โดยบังเอิญ

เพราะบุญคุณเซียวลิ่วหลังจึงต้องแต่งเข้าอย่างไม่เต็มใจและยังรังเกียจเจ้าของร่างเดิมสุดใจ

แต่เพราะ ‘ฝันบอกเหตุ’ ที่ร่างเดิมมีทำให้ กู้เจียวคนใหม่ได้รู้ว่าเซียวลิ่วหลังสามีของนางคนนี้ ในอนาคตจะได้กลายเป็นขุนนางใหญ่ของราชสำนัก

เพราะงั้นนางจะปกป้องเขาจากภัยร้ายทั้งหลายเพื่อประคองเขาขึ้นสู่ตำแหน่งอย่างราบรื่นเอง!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท