ใต้หน้ากากซูเปอร์สตาร์ – ภาค 2 เล่ม 2 ตอนที่ 3-14

ภาค 2 เล่ม 2 ตอนที่ 3-14

อินซอบวิ่งรวดเดียวลงมาถึงชั้นใต้ดินชั้นหนึ่งที่มีลานจอดรถวีไอพี

“แฮกๆ…”

หัวใจของเขาเต้นเร็วมาก เขารู้ดีว่าไม่ควรทำอะไรหนักเกินไป แต่ถ้าเป็นเรื่องของอีอูยอนแล้วล่ะก็ ร่างกายของเขาจะขยับไปก่อนทุกครั้ง เขาเสยผมที่ชื้นไปด้วยเหงื่อขึ้นก่อนจะหยิบโทรศัพท์มือถือออกมาทันที ตอนนั้นเองเขาถึงคิดได้ว่าเขาจะทำยังไงถ้าหากสวนทางกัน ในตอนนั้นเองแผ่นหลังของผู้ชายที่ดูคุ้นก็เข้ามาในสายตา

“อี…”

วินาทีที่เขาเรียกชื่อของอีกฝ่าย ผู้หญิงที่ถูกอีอูยอนบังอยู่ก็เผยตัวให้เห็น อินซอบร้องเอ๊ะก่อนจะเบิกตาโพลง ถ้าเขาจำไม่ผิด ต้องเป็นเธอคนนั้นแน่ๆ

“…”

แชยอนซอยิ้มและพูดกับอีอูยอน อีอูยอนฟังที่เธอพูดพร้อมกับพยักหน้าเป็นระยะๆ คนทั้งสองยืนคุยกันอยู่สักพักก่อนจะขึ้นไปบนรถยนต์สีขาวที่จอดอยู่ข้างๆ รถตู้ อินซอบมองภาพที่รถค่อยๆ ห่างออกไปด้านนอกลานจอดรถอย่างเหม่อลอย

นี่เราเห็นอะไรกันแน่

อินซอบยืนอยู่ในลานจอดรถมืดๆ และพยายามใช้สมองที่สับสนคิดถึงสิ่งที่ควรจะเป็น แสงไฟจากโทรศัพท์มือถือในมือกะพริบ อินซอบก้มลงมองหน้าจอโทรศัพท์ด้วยสายตาที่เลื่อนลอย เป็นข้อความจากกรรมการผู้จัดการคิม

[มาทำงานตั้งแต่วันพรุ่งนี้นะ หกโมงเช้าหน้าบริษัท]

อินซอบอ่านข้อความสั้นๆ นั้นซ้ำอยู่สองสามรอบ ตอนนั้นเองความกลัวที่ซ่อนอยู่หลังความงงงวยก็เผยตัวออกมา

***

ต้องมีเหตุผลอื่นแน่ๆ

อินซอบเดินไปข้างหน้าพร้อมกับตั้งสติ การสงสัยอย่างลอยๆ เป็นเรื่องเสียมารยาทต่ออีกฝ่าย อีอูยอนไม่ยอมบอกเหตุผล นั่นต้องเป็นเพราะมีเหตุผลที่เหมาะสมในการที่อีกฝ่ายให้เขาพักแน่ๆ เรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อวานก็เหมือนกัน

“เขาไม่ใช่คนแบบนั้นซะหน่อย”

อินซอบพยักหน้า แต่ต่อให้เขาจะปลอบใจตัวเองสักกี่ครั้ง ความเศร้าและความกลัวก็ตีตื้นขึ้นมาอย่างช่วยไม่ได้

ถ้าไม่ใช่เพราะเรื่องเมื่อวาน เท้าที่ใช้เดินไปบริษัทคงเบาราวกับติดปีก แต่ตอนนี้เท้าที่ก้าวออกไปข้างหน้ากลับหนักอึ้ง

ตอนแรกเขาคิดว่ามันคงเป็นการเจอกันให้เห็น และเช้าวันนี้คงจะมีข่าวแน่ๆ แต่กลับไม่มีข่าวที่มีรูปภาพของอีอูยอนกับแชยอนซอลงที่ไหนเลย

ลองถามเองดีไหมนะ

เขารู้ว่านั่นเป็นทางที่ดีที่สุด แต่เขาก็กลัวว่าอีอูยอนจะหลอกตนเอง หรือจะได้ยินคำพูดที่แข็งกระด้างจนไม่กล้าเปิดปากถาม

เมื่อคืนเขาคุยโทรศัพท์กับอีอูยอน อีกฝ่ายไม่ได้มีท่าทีต่างไปจากปกติเลย เขาเช็กอาหารการกินของอินซอบ และพูดอย่างนุ่มนวล หลังจากนั้นก็สั่งให้ตนรีบนอน เพราะดึกมากแล้ว พร้อมกับบอกว่าเจอกันพรุ่งนี้ สุดท้ายอินซอบก็ไม่ได้พูดเกี่ยวกับเรื่องนั้นสักคำ

“เฮ้อ”

อินซอบถอนหายใจยาวเหยียด

“ทำไมถึงถอนหายใจขนาดนั้นล่ะครับ ไม่อยากมาทำงานขนาดนั้นเลยเหรอ”

เสียงที่ได้ยินจากทางด้านหลังทำให้อินซอบสะดุ้งและหันกลับไปมองด้วยความตกใจ อีอูยอนสวมกางเกงสีกรมกับเสื้อเชิ้ตสีขาวกำลังยืนยิ้มอยู่ตรงนั้น

“สะ สวัสดีครับ”

อินซอบรีบก้มหัวทักทาย

“ไม่ได้เจอกันนานเลยนะครับ”

“ครับ”

ถึงจะเงยหน้าขึ้นมาแล้ว แต่เขาก็ยังไม่กล้าสบตาอยู่ดี เขาอาจจะคิดไปเองว่าเสื้อเชิ้ตสีขาวที่อีอูยอนใส่เหมือนจะทำให้แสบตามากกว่าปกติ

“กินข้าวเช้าหรือยังครับ”

“…นิดหน่อยครับ”

เขาไม่อยากอาหาร เขาไม่ได้นอนเลยด้วยซ้ำ เพราะมัวแต่คิดถึงเรื่องเมื่อวาน

“แล้วกินอะไรเหรอครับ”

อินซอบอ้ำอึ้งอยู่สักพัก และไม่สามารถตอบได้

“ผมนึกอยู่แล้วว่าต้องเป็นแบบนี้”

อีอูยอนยื่นถุงที่ถืออยู่ในมือให้

“แซนด์วิชกับน้ำผลไม้ครับ กินสักหน่อยนะครับ”

“ขอบคุณครับ ผมจะกินให้หมดนะครับ…”

อินซอบรับถุงมาก่อนจะเอ่ยขอบคุณ อีอูยอนมองอินซอบนิ่งๆ ก่อนจะกระดิกนิ้วทันที

“ตามมาครับ”

มาแล้วสินะ อินซอบคิด แต่เขาไม่รู้ว่าอีกฝ่ายพูดถึงอะไร จึงกลัวมากกว่าเดิม

อีอูยอนพาอินซอบไปที่บันไดที่ใช้ลงไปยังลานจอดรถชั้นใต้ดินของตึกบริษัท ถุงพลาสติกที่ถืออยู่ในมือส่งเสียงดังทุกครั้งที่เขาเดิน หัวใจของเขาก็สั่นไหวไปด้วย

อีอูยอนที่เดินอยู่ข้างหน้าหยุดยืนตรงชั้นพักบันได อินซอบที่เดินลงบันไดมาชะงักและหยุดอยู่กับที่ อีอูยอนเอื้อมมือมากอดเอวของอินซอบไว้โดยที่เขาไม่ทันได้ถามว่าทำไมถึงทำอย่างนั้น จากนั้นอีกฝ่ายก็อุ้มอินซอบขึ้นอยู่สองสามรอบ

“ทำอะไรน่ะครับ”

อินซอบถามด้วยความตกใจ

“ชั่งน้ำหนักครับ”

อีอูยอนตอบด้วยท่าทีเหมือนว่าเขาถามสิ่งที่แน่นอนอยู่แล้ว หลังจากนั้นอีกฝ่ายก็ขมวดคิ้วเหมือนไม่พอใจอยู่ชั่วครู่ก่อนจะพูดต่อ

“เกือบจะเท่ากับหนึ่งสัปดาห์ก่อนเลยนะครับ กินข้าวจริงๆ ใช่ไหมครับ”

“เพราะเป็นมื้อเช้าน่ะครับ …ปล่อยผมลงเถอะครับ”

“งั้นหลังกินข้าวเย็นแล้วมาชั่งกันเถอะครับ”

อินซอบคิดว่าเขาต้องดื่มน้ำให้ได้มากที่สุด อีอูยอนปล่อยอินซอบลงที่บันไดตามเดิม

“พวกแมวสบายดีไหมครับ”

นี่เป็นเรื่องที่อีอูยอนไม่พลาดที่จะถามพร้อมกับเรื่องอาหารการกิน แปลก อีกฝ่ายพูดว่าไม่สนใจพวกแมวสักนิดชัดๆ ในวันที่เมาเหล้าและมาหาเขาที่บ้าน

“สบายดีทุกตัวครับ จอห์นเองก็ดีขึ้นมากแล้ว อีกหนึ่งสัปดาห์น่าจะออกจากโรงพยาบาลได้แล้วครับ”

“โล่งอกไปทีนะครับ”

น้ำเสียงนั้นอ่อนโยนอย่างมาก จนถ้าใครมาเห็นคงคิดไปเองว่าอีกฝ่ายเป็นคนที่เป็นห่วงแมวมากจริงๆ

“ผมตัดผมแล้วนะครับ”

อินซอบเงยหน้าขึ้นมองอีอูยอน พอมาคิดดูแล้ว ผมของอีกฝ่ายก็สั้นกว่าตอนที่เจอกันก่อนหน้านี้เล็กน้อย

“เมื่อวานผมไปตัดเพิ่มมานิดหน่อยน่ะครับ เพราะเป็นวันที่คุณอินซอบจะมา”

“…”

เมื่อวานคุณไปตอนไหนเหรอครับ ไปหลังจากที่เจอกันคุณแชยอนซอหรือเปล่า คำถามที่เขาอยากจะถามตีขึ้นมาจนถึงบริเวณลำคอ

“ไม่เหมาะกับผมเหรอครับ”

พออินซอบไม่มีปฏิกิริยาอะไร อีอูยอนก็ชี้ผมตัวเองก่อนจะเอ่ยถามเหมือนจะแกล้งเล่น

“เหมาะมากครับ”

อินซอบตอบพร้อมกับยิ้มเล็กน้อย เขาสบตากับอีอูยอน และรู้สึกร้อนขึ้นมา เขารู้สึกร้อนยิ่งกว่าตอนที่ถูกดึงเข้าไปกอดหลายเท่า อินซอบรีบเบือนหน้าหนี

อีอูยอนก้าวขึ้นมาขั้นหนึ่ง ระยะห่างของคนทั้งคู่จึงใกล้กันเข้ามาอีกหนึ่งขั้น อินซอบกลั้นหายใจ เขาหัวหมุนเพราะความประหม่า

“ไปกันไหมครับ”

อีอูยอนที่เดินผ่านอินซอบไปตอนไหนไม่รู้เอ่ยถาม

“ครับ? อ๋อ ครับ”

อินซอบขึ้นบันไดตามหลังของอีอูยอนไปอย่างลนลาน ในขณะที่ตามหลังอีกฝ่าย อินซอบก็รู้สึกหน้าร้อนวูบด้วยความอาย เขานึกว่าอีอูยอนจะจูบตน

“อ้าว อินซอบ”

กรรมการผู้จัดการคิมที่ยืนอยู่ตรงทางเข้าตึกโบกมือให้อย่างดีใจ

“สวัสดีครับกรรมการผู้จัดการ”

“ทำไมทั้งสองคนถึง…ฮ่าๆๆ ไม่ได้เจอกันนานเลยนะ สบายดีนะ”

กรรมการผู้จัดการคิมรีบเปลี่ยนเรื่องพูด

“เป็นเพราะคุณ ผมถึงได้พักอย่างเต็มที่เลยครับ”

“…นั่นสินะ โชคดีนะที่นายได้พัก”

กรรมการผู้จัดการคิมที่ไม่กี่วันมานี้สีหน้าย่ำแย่พึมพำออกมาก่อนจะชี้ไปที่ผู้ชายที่ยืนอยู่ข้างๆ และพูดต่อ

“ทักทายกันซะสิ นี่คือคิมคังอูคนที่จะมาทำงานเป็นโร้ดเมเนเจอร์สักระยะน่ะ คังอู ถึงไม่ต้องบอกก็น่าจะรู้อยู่แล้ว แต่นี่คืออีอูยอน ส่วนนี่ก็ชเวอินซอบ ผู้จัดการส่วนตัวน่ะ”

“สวัสดีครับ ผมคิมคังอูครับ ฝากเนื้อฝากตัวด้วยนะครับ”

ผู้ชายที่สูงใหญ่และมีท่าทางเป็นกันเองยิ้มกว้างพลางเอ่ยทักทาย

“สวัสดีครับ ผมอีอูยอนครับ”

“ยินดีที่ได้พบครับ ผมชเวอินซอบครับ”

คนทั้งคู่ทักทายตามลำดับ

“หมอนี่ขับรถเก่งมาก เพราะเป็นพลขับ[1] มาก่อน แล้วก็เป็นคนช่างสังเกตพอสมควร ถ้าจำเป็น…”

กรรมการผู้จัดการคิมสังเกตท่าทีของอีอูยอนก่อนจะปรับน้ำเสียง

“อูยอน คังอูเขาเป็นน้องชายของอดีตภรรยาของฉันเอง ฝากด้วยนะ”

“คนที่เท่าไรเหรอครับ”

อีอูยอนโยนมีดใส่กรรมการผู้จัดการคิมด้วยท่าทีเหมือนไม่ใช่เรื่องสำคัญอะไร

“…คนที่สอง”

“อ๋อ งั้นก็เป็นน้องเมียหัวหน้าทีมชาด้วยสินะครับ ผมยิ่งต้องทำดีด้วยเลยครับ”

เขาเน้นเสียงไปที่คำว่าต้องทำดีด้วยเป็นพิเศษ กรรมการผู้จัดการคิมจ้องอีอูยอนเขม็งพลางกัดฟันไว้

“ผมได้ยินจากพี่เขยมาเยอะเลยครับ”

คิมคังอูฉีกยิ้มอย่างคนดีมาให้พลางเอ่ย

“พี่เขยคนไหนเหรอครับ”

“ฉัน! ฉันเอง พี่เขย!”

คำถามที่แกล้งตีหน้าซื่อของอีอูยอนทำให้กรรมการผู้จัดการคิมแหวออกมา อินซอบทำตัวไม่ถูก และได้แต่สังเกตท่าทีของคนทั้งคู่

“ผมล้อเล่นครับ ต่อไปก็รบกวนด้วยนะครับ คุณคังอู”

อีอูยอนยื่นมือออกไป คิมคังอูเช็ดมือของตัวเองกับกางเกง และรีบจับมือนั้นด้วยสีหน้าเกรงใจ อินซอบคิดว่าคงถึงคราวที่ตนต้องจับมือบ้างแล้ว และถูมือกับเสื้อเชิ้ต

“ทักทายเสร็จแล้ว เราไปที่รถกันเถอะครับ”

คิมคังอูพยักหน้าให้กับคำพูดของอีอูยอน และเดินตามกรรมการผู้จัดการคิมไป อินซอบก้มมองมือของตัวเองอย่างเลิ่กลั่กก่อนจะลดมือลงไปตามเดิม รอยยิ้มเล็กๆ ประดับอยู่ที่ริมฝีปากของอีอูยอนที่จ้องมองท่าทางนั้นอยู่

“มีใบอนุญาตขับรถขนาดใหญ่ใช่ไหม”

กรรมการผู้จัดการคิมที่ยืนอยู่หน้ารถตู้ยื่นกุญแจรถให้พลางเอ่ยถามคิมคังอู

“แน่นอนอยู่แล้วสิครับพี่เขย ผมเป็นพลขับนะครับ”

คิมคังอูรับกุญแจไปถือไว้ และขึ้นไปนั่งตรงที่นั่งของคนขับ กรรมการผู้จัดการคิมมองคิมคังอูด้วยสายตาไม่สบายใจเหมือนพ่อแม่ที่ปล่อยลูกเล็กไว้ริมน้ำ พอคิมคังอูปิดประตูรถ อีอูยอนก็ก้าวมาด้านหลังของกรรมการผู้จัดการคิม

“กังวลขนาดนั้นจะพามาทำไมล่ะครับ”

“เพราะถ้าจำเป็นก็จะได้ปิดปากได้ไงล่ะ”

ราวกับอีกฝ่ายคิดจะใช้ความสนิทปกปิดเมื่อความแตก

“ฮ่าๆ กรรมการผู้จัดการนี่ล่ะก็ วิธีปิดปากไม่ได้มีแค่วิธีนั้นวิธีเดียวซะหน่อย”

อีอูยอนหัวเราะพร้อมกับเปิดประตูด้านหลัง อินซอบพูดกับกรรมการผู้จัดการคิมด้วยเสียงเล็กๆ ว่า ‘ผมจะช่วยเองครับ’

“ฉันเชื่อใจนายนะอินซอบ”

กรรมการผู้จัดการคิมตบไหล่อินซอบพลางกำชับ อินซอบพยักหน้าอย่างตั้งใจ และเปิดประตูฝั่งที่นั่งข้างคนขับ

“ทำไมถึงนั่งตรงนั้นล่ะครับ”

อีอูยอนที่นั่งอยู่ข้างหลังเอ่ยถาม

“…ห้ามนั่งเหรอครับ”

อินซอบถามกลับอย่างอ่อนแรง อีอูยอนขมวดคิ้วอย่างพูดไม่ออก

“ผมหมายถึงให้มานั่งข้างหลังครับ”

“ผู้จัดการส่วนตัวก็ต้องนั่งข้างหน้าสิครับ”

อินซอบว่าพลางส่งสายตาขอความช่วยเหลือหากรรมการผู้จัดการคิม

“แน่นอนว่าต้องนั่งข้างนะ…”

แววตาของอีอูยอนวาวโรจน์ กรรมการผู้จัดการคิมหลบสายตานั้น และพึมพำว่าจะนั่งข้างหลังหรือข้างหน้าก็ได้ทั้งนั้น

“ได้ยินแล้วใช่ไหมครับ”

อีอูยอนชี้ไปที่ประตูด้านหลังที่เปิดกว้าง อินซอบลังเลอยู่สักพักก่อนจะส่ายหน้า

“ผมจะนั่งข้างหน้าครับ”

อีอูยอนจ้องมองอินซอบนิ่งๆ เขาคิดจะพูดอะไรสักอย่าง แต่สุดท้ายก็พูดออกไปว่า ‘งั้นก็ตามใจครับ’ ก่อนจะขึ้นไปนั่งบนรถ อินซอบเองก็ขึ้นไปนั่งตรงที่นั่งข้างคนขับทันที ผ่านไปไม่นานรถก็เคลื่อนตัวออกจากลานจอดรถ

“เราไม่มีทางรู้ความคิดของไอ้หมอนั่นได้เลยจริงๆ”

เขาไม่สามารถรู้ถึงเหตุผลที่อีอูยอนซึ่งเคยปฏิเสธอย่างเด็ดขาดตอนที่เขาบังคับให้ใช้โร้ดเมเนเจอร์เปลี่ยนใจอย่างกะทันหันภายในเวลาไม่กี่วันได้เลย

แต่คงไม่มีทางที่ความเป็นมนุษย์ที่ไม่เคยมีจะโผล่ขึ้นมาได้หรอก

กรรมการผู้จัดการคิมทำเสียงฮึดฮัด และลองคลำใบหน้าของตัวเองที่หยาบกร้านขึ้นอีกครั้ง เขารีบหยิบโทรศัพท์มือถือออกมา

“ครับ รบกวนจองเวลาช่วงสิบโมงเช้าวันนี้หน่อยครับ ฟูลคอร์สทั้งตัวเลยครับ”

พอจองเวลาที่สถาบันเสริมความงามเสร็จ กรรมการผู้จัดการคิมก็เก็บโทรศัพท์มือถือเข้ากระเป๋า เขาสลัดความคิดเกี่ยวกับอีอูยอนที่อยู่ในหัวทิ้งทันที การคิดในเรื่องที่แก้ไขอะไรไม่ได้เป็นพิษต่อผิว เขาฮัมเพลงขณะเดินขึ้นบันไดไป


[1] พลขับ คือทหารที่มีหน้าที่ขับรถในกองทัพ

ใต้หน้ากากซูเปอร์สตาร์

ใต้หน้ากากซูเปอร์สตาร์

Status: Ongoing

นิยายวายแปลเกาหลี ดารา x ผู้จัดการ วงการบันเทิง นายเอกใสซื่อ พระเอกเจ้าเล่ห์ และ “คลั่ง” รักหนักมาก

ข้อเสียเพียงหนึ่งเดียวของ ‘อีอูยอน’ นักแสดงที่ได้ชื่อว่าเป็นสุภาพบุรุษผู้แสนดี และไม่เคยมีแอนตี้แฟน คือการเปลี่ยนผู้จัดการส่วนตัวบ่อย

หลังจากเปลี่ยนผู้จัดการไปแล้ว 5 คนในปีเดียว ‘ชเวอินซอบ’ แฟนคลับของอีอูยอนก็ได้เข้ามาเป็นผู้จัดการส่วนตัวคนใหม่ และสามารถปรับตัวเข้าได้กับทุกรสนิยมที่จู้จี้จุกจิกของอีอูยอนได้อย่างไร้ที่ติ

ทว่าสำหรับอีอูยอนแล้ว ผู้จัดการส่วนตัวแบบนั้นน่าสงสัยเป็นที่สุด

เขารู้สึกสนใจในการกระทำของอีกฝ่าย ในขณะเดียวกันความรู้สึกบางอย่างก็เริ่มก่อตัวขึ้นโดยไม่รู้ตัว

ทว่าในตอนที่เขารู้สึกดีกับอินซอบมากขึ้นเรื่อยๆ อีกฝ่ายก็ (ลอบ) แทงข้างหลัง (เบาๆ) และพยายามจะหนีไป

“ถ้าผมปล่อยคุณอินซอบไป แล้วผมจะอยู่ยังไงล่ะครับ”

TW : Coercion / Dubious Consent / Dirty talk / Toxic relationship / Violence / Rape

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท