รู้สึกตัวอีกที ข้าก็เป็นเซียนซะแล้ว [原來我是世外高人] – บทที่ 188 ท่านเซียนมาแล้ว ทำตัวดี ๆ หน่อย มิฉะนั้นข้าเอาชีวิตเจ้าแน่!

บทที่ 188 ท่านเซียนมาแล้ว ทำตัวดี ๆ หน่อย มิฉะนั้นข้าเอาชีวิตเจ้าแน่!

บทที่ 188 ท่านเซียนมาแล้ว ทำตัวดี ๆ หน่อย มิฉะนั้นข้าเอาชีวิตเจ้าแน่!

พลังของตาเดินสุดท้ายนี้สยดสยองแกร่งกล้าปานใด สุดท้ายกลับถูกทลายในชั่วพริบตา!

จักรพรรดิหมากรุกหวงหลงจิตใจว้าวุ่น ทั้งยังสะท้านเป็นที่สุด

ห่างชั้นกันมากจริง ๆ!

ต่อให้เขามีพลังสังสารวัฏคอยคุ้มกายก็ไม่ไหว มิใช่คู่ต่อสู้ของต้นหลิวและก้อนหินเลย

เขาไม่อาจทำใจเชื่อได้ลง

แดนต่ำต้อยเยี่ยงนี้ มิหนำซ้ำสิ่งแวดล้อมยังย่ำแย่ถึงขีดสุด เหตุไฉนถึงให้กำเนิดต้นหลิวและก้อนหินที่มีพลังแกร่งกล้าเพียงนี้ออกมาได้

เขาไม่รู้ขอบเขตของต้นหลิวและก้อนหิน

แต่มิต้องสงสัยเลยว่าต้นหลิวและก้อนหินเหนือเขาไปไกลมาก ต่างกันราวฟ้ากับเหวแน่นอน!

มิฉะนั้น ต้นหลิวและก้อนหินคงไม่สามารถทลายการโจมตีอันทรงพลังที่สุดของเขาในชั่วพริบตา!

ยามนี้ เขาสำนึกเสียใจแทบบ้า

หากรู้อย่างนี้ ไม่ว่าอย่างไรเขาก็คงไม่อวดดีเช่นนี้ มาโดยไม่สืบเสาะข้อมูล

“เหน็บแนมอันใดกัน…ความจริงทั้งนั้น!”

เขาถอนหายใจ

ก่อนนี้ที่ต้นหลิวและก้อนหินล้อเลียนว่าเขาเป็นผู้ฝึกตนขอบเขตก่อกำเนิดนภา เขาโกรธเคืองอย่างยิ่ง รู้สึกว่าต้นหลิวและก้อนหินกำลังหยามเกียรติของเขา

แต่ตอนนี้เขาเข้าใจแล้ว วาจาเหล่านั้นหาใช่คำเหน็บแนม หากแต่คือความจริง

เขาสู้ไม่ได้จริง ๆ ซ้ำยังห่างชั้นกันมากโขด้วย…

“ลมปราณเหมือนกับสิ่งมีชีวิตสองตนก่อนหน้านี้ พวกเขาเป็นพวกเดียวกัน!”

“บังอาจหมายหัวท่านเซียน ข้าจะเชือดให้หมด!”

ต้นหลิวและก้อนหินสัมผัสถึงลมปราณจากสังสารวัฏจากจักรพรรดิหมากรุกหวงหลงได้ จิตสังหารของพวกมันพลันพลุ่งพล่าน หมายจะสังหารจักรพรรดิหมากรุกหวงหลงเสียที่นี่

จักรพรรดิหมากรุกหวงหลงมิได้เอ่ยวาจาขอความเมตตา

ตรงกันข้าม ใบหน้าของเขาฉายรอยยิ้มคล้ายว่าหลุดพ้นแล้ว

เขามีชีวิตในแดนสังสารวัฏมานานนับแสนปี บัดนี้ไม่ใช่ทั้งมนุษย์ไม่ใช่ทั้งผี เขาเบื่อจะมีชีวิตเช่นนี้มานานแล้ว การได้ตายที่นี่สำหรับเขาถือเป็นการหลุดพ้นชนิดหนึ่ง

“ท่านเซียนมาได้อย่างไร!”

เวลานั้นเอง ต้นหลิวก็สัมผัสได้ว่าท่านเซียนกำลังเดินมาทางนี้

ท่านเซียนล่วงรู้ทุกอย่าง ไม่มีสิ่งใดที่ท่านไม่ทราบ ไม่มีทางที่จู่ ๆ ท่านจะมาที่นี่ ท่านเซียนต้องรับรู้เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตรงนี้แล้วแน่ ๆ

ท่านเซียนมาที่นี่ เกรงว่าคงมีสิ่งอื่นเตรียมไว้สำหรับคนผู้นี้!

มิฉะนั้นเหตุใดท่านเซียนถึงไม่รีบมาตั้งแต่ก่อนหน้า เหตุใดถึงเลือกมาในยามที่มันกำลังจะฆ่าเขา…

คิดมาถึงนี่ มันรีบหดก้านหลิวกลับไป มิกล้าปลิดชีพจักรพรรดิหมากรุกหวงหลง

“หากบังอาจทำอันตรายต่อท่านเซียน ข้าเอาชีวิตเจ้าแน่!”

ก้อนหินกล่าวกับจักรพรรดิหมากรุกหวงหลงอย่างโหดเหี้ยม ก่อนจะกลับไปอยู่ที่เดิมของมันอย่างรวดเร็ว

มันคิดไม่ต่างจากต้นหลิว รู้สึกเหมือนกันว่าท่านเซียนอาจเตรียมสิ่งอื่นไว้สำหรับคนผู้นี้

แท้จริงแล้ว พวกมันคิดผิดถนัด

ปลาในโอ่งน้ำเหลือไม่มากแล้ว หลี่จิ่วเต้าเพียงเดินมาตกปลาให้แมวน้อยสีขาวเท่านั้น…

เหมียว!

ลั่วสุ่ยส่งเสียงร้องอย่างมีความสุขในอ้อมอกท่านเซียน ท่านเซียนดูแลนางดียิ่ง ไม่เคยรอให้ปลาหมดแล้วค่อยมาตก แต่มาตกเก็บไว้ล่วงหน้าเสมอ กลัวว่าวันใดวันหนึ่งนางจะไม่มีปลาให้กิน

ผู้ใดจะเปรมปรีดิ์ได้เท่านาง!

ศีรษะแมวน้อยของนางถูไปมาในอ้อมอกท่านเซียน ความสุขเอ่อล้นอยู่ในหัวใจ

รู้ใจดีจริง…

หลี่จิ่วเต้าเห็นท่าทางพะเน้าพะนอของแมวน้อยสีขาวแล้ว นึกในใจว่ามันช่างฉลาดเหลือเกิน รู้ว่าเขามาตกปลาเติมอาหารแมวให้ ถึงได้เอาใจเขาอยู่เช่นนี้

“วางใจเถิด ข้าไม่ปล่อยให้เจ้าหิวหรอก”

หลี่จิ่วเต้าคลี่ยิ้ม มือลูบขนของแมวน้อยสีขาวไปมา

สบายมือจริง

มิน่าเล่า คนดาวเคราะห์สีฟ้าถึงชอบลูบแมวกันจัง…

อีกด้าน จักรพรรดิหมากรุกหวงหลงได้ยินวาจาที่ต้นหลิวกล่าวกับก้อนหินแล้วนิ่งค้างเหมือนคนโง่

ท่านเซียน?

แดนต่ำต้อยเยี่ยงนี้มีท่านเซียนอยู่ด้วยหรือ!?

เขาหันมองรอบ ๆ เหลือบไปเห็นหลี่จิ่วเต้ากำลังเดินมา

นี่น่ะหรือท่านเซียน?

ไร้ซึ่งพลังปราณ เป็นเพียงปุถุชนธรรมดาเท่านั้น

ไม่สิ!

เขาเห็นตะกร้าไผ่สานบนหลังของหลี่จิ่วเต้า ก็พลันตะลึงงันไปทันที!

นั่นมันตะกร้าไผ่สานที่ทำจากไผ่สวรรค์ม่วง!

ยุคโบราณ สมณะอู้เจวี๋ยในวิถีพุทธบรรลุขอบเขตมหาจักรพรรดิ ทะลวงผ่านสวรรค์ชั้นแล้วชั้นเล่า จนมาถึงสวรรค์ชั้นที่สามสิบสาม

ที่นั่นสมณะอู้เจวี๋ยได้พบป่าไผ่ม่วงที่ตั้งอยู่ท่ามกลางม่านหมอกเลือนราง จึงเกิดความรู้แจ้ง บรรลุขอบเขตมหาจักรพรรดิ

ต่อมาสมณะอู้เจวี๋ยอยากนำไผ่ม่วงจำนวนหนึ่งกลับมา ทว่าทำอย่างไรก็ไม่สำเร็จ ท้ายสุดก็ต้องล้มเลิกความตั้งใจไป

สมณะอู้เจวี๋ยบันทึกประสบการณ์บนสวรรค์ชั้นนอกของเขาไว้ และเรียกไผ่ม่วงเหล่านั้นว่าไผ่สวรรค์ม่วง มีประสิทธิภาพช่วยให้รู้แจ้งได้อย่างน่าทึ่ง

ในยุคต่อมา ยอดฝีมือมากมายปรารถนาบรรลุขอบเขตมหาจักรพรรดิ จึงเดินทางไปยังสวรรค์ชั้นนอก หมายจะเกิดการรู้แจ้ง ณ ป่าไผ่สวรรค์ม่วง จนนำไปสู่การบรรลุ กลายเป็นมหาจักรพรรดิ

อนิจจา ยอดฝีมือเหล่านั้นนอกจากไม่สำเร็จแล้ว ยังไปไม่กลับอีกด้วย

หลังจากนั้น ป่าไผ่สวรรค์ม่วงจึงค่อย ๆ กลายเป็นเรื่องเล่าขาน ไม่มีผู้ใดกล้าเอาตัวไปลองอีก

“เรื่องนั้นมิใช่เพียงเรื่องเล่า หากแต่เป็นเรื่องจริง!”

จักรพรรดิหมากรุกหวงหลงเกิดในยุคโบราณเช่นกัน

เพียงแต่เขาเกิดค่อนข้างช้า และเกิดภายหลังยุคสมณะอู้เจวี๋ยอยู่พอสมควร

เขาไม่เคยไปตามหาป่าไผ่สวรรค์ม่วงที่สวรรค์ชั้นสามสิบสามเพื่อบรรลุขอบเขตมหาจักรพรรดิ

ทว่าก่อนที่เขาใกล้สิ้นอายุขัยและก้าวสู่เส้นทางสังสารวัฏ เขาเคยเดินทางไปยังสวรรค์ชั้นสามสิบสามพร้อมสหาย เพื่อตามหาป่าไผ่สวรรค์ม่วง

เส้นทางสังสารวัฏเต็มไปด้วยภยันตราย ไม่เคยได้ยินว่าผู้ใดฝ่าเส้นทางสังสารวัฏสำเร็จจนได้มีชีวิตอีกชาติ

เพราะเช่นนั้น หากไม่จวนตัวจริง พวกเขาย่อมไม่อยากก้าวสู่เส้นทางสังสารวัฏ

ครานั้นพวกเขานึกถึงตำนานของป่าไผ่สวรรค์ม่วงขึ้นได้ จึงคิดยืมพลังจากป่าไผ่สวรรค์ม่วงมาช่วยในการบรรลุ ดูว่าสามารถบรรลุขอบเขตมหาจักรพรรดิได้หรือไม่ และบรรลุสู่ตำแหน่งเซียน!

แน่นอนว่าพวกเขาทำสำเร็จ ค้นพบป่าไผ่สวรรค์ม่วงที่ตั้งอยู่ท่ามกลางม่านหมอกเลือนราง!

ตอนนั้นพวกเขาทั้งหมดต่างตกตะลึง

ป่าไผ่สวรรค์ม่วงน่าทึ่งอย่างที่เขาว่า พวกเขาได้เห็นความลับเซียน หากพวกเขาสามารถเข้าไปในป่าไผ่สวรรค์ม่วง เกรงว่าคงบรรลุขอบเขตมหาจักรพรรดิและก้าวสู่ตำแหน่งเซียนแล้วจริง ๆ!

น่าเสียดาย ไม่ว่าพวกเขาทำอย่างไรก็ไม่อาจเข้าไปในป่าไผ่สวรรค์ม่วงได้

ป่าไผ่สวรรค์ม่วงแฝงไว้ซึ่งพลังแกร่งกล้า!

และเป็นพลังที่พวกเขาไม่อาจทลายได้!

สุดท้าย พวกเขาก็ต้องกลับไปด้วยความผิดหวัง เลือกเข้าไปเสี่ยงบนเส้นทางสังสารวัฏ

“คนผู้นี้คือท่านเซียนตัวจริง!”

หลังได้เห็นตะกร้าไผ่สานที่ทำจากไผ่สวรรค์ม่วง จักรพรรดิหมากรุกหวงหลงจึงหมดสิ้นความสงสัย

นอกจากท่านเซียน ยังจะมีผู้ใดสามารถนำไผ่สวรรค์ม่วงออกมาจากป่าไผ่สวรรค์ม่วงได้อีก!

เป็นถึงท่านเซียนเลยหรือนี่!

มิน่าต้นหลิวและก้อนหินถึงแข็งแกร่งปานนี้!

มิน่า…ผู้บรรลุสังสารวัฏถึงเลือกพำนักในเมืองปุถุชน!

และมิน่าถึงหาญกล้าท้าทายแดนสังสารวัฏ!

จักรพรรดิหมากรุกหวงหลงกระจ่างแจ้งแล้วทุกอย่าง

ท่านเซียนมีความสามารถพอจะทำเช่นนี้ได้จริง ๆ!

‘แดนสังสารวัฏทำอะไรไว้มากมาย ทั้งหมดก็เพื่อได้บรรลุเป็นเซียน!’

เขาคิดในใจ

แม้นเขาไม่ทราบถึงภูมิหลังและประวัติความเป็นมาที่แท้จริงของแดนสังสารวัฏ ไม่รู้ว่าอาณาจักรนิรนามที่เชื่อมต่อกับแดนสังสารวัฏนั้นเป็นอาณาจักรเช่นไร

แต่เขารู้ว่าทุกสิ่งเกี่ยวข้องกับการบรรลุเซียน!

สิ่งมีชีวิตในแดนสังสารวัฏก็อยากบรรลุเป็นเซียนเช่นเดียวกัน!

“ฝ่ายที่รนหาที่ตายคือแดนสังสารวัฏต่างหาก!”

เขาหัวเราะเย้ยหยันตัวเองในใจ

ยามเขามา เขาบอกว่าผู้ที่ท้าทายแดนสังสารวัฏนั้นรนหาที่ตาย ทว่าบัดนี้เขารู้แล้ว ฝ่ายที่รนหาที่ตายคือแดนสังสารวัฏ!

บังอาจท้าทายท่านเซียน…

แดนสังสารวัฏต่างหากที่ไม่รู้ที่ต่ำที่สูง!

เวลานี้หลี่จิ่วเต้าหันมาเห็นจักรพรรดิหมากรุกหวงหลงเช่นกัน และเห็นว่าสีหน้าของจักรพรรดิหมากรุกหวงหลงแปรเปลี่ยนไปเรื่อย

‘อ๋อ ที่แท้กำลังตรึกตรองตาเดินหมากสุดท้ายนี้อยู่หรือ!’

เขาหัวเราะในใจ ทีแรกยังสงสัยอยู่ว่าเหตุใดสีหน้าของจักรพรรดิหมากรุกหวงหลงถึงแปรเปลี่ยนไปเรื่อย เมื่อได้เห็นกระดานหมากที่ค้างตาเดินอยู่เบื้องหน้าจักรพรรดิหมากรุกหวงหลงจึงได้เข้าใจ

จักรพรรดิหมากรุกหวงหลงไม่รู้ว่าควรเดินกระดานที่ค้างอยู่นี้อย่างไรต่อ!

รู้สึกตัวอีกที ข้าก็เป็นเซียนซะแล้ว [原來我是世外高人]

รู้สึกตัวอีกที ข้าก็เป็นเซียนซะแล้ว [原來我是世外高人]

Status: Ongoing

‘หลี่จิ่วเต้า’ ชายหนุ่มผู้ถูกส่งตรงจากดาวเคราะห์สีฟ้ามายังโลกแห่งการฝึกตน ทว่ากลับไร้ซึ่งคุณสมบัติใด ๆ ในการเข้าสู่วิถีผู้ฝึกตน เขาไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากหันมาตกปลา วาดภาพและเขียนกลอนขาย

อันที่จริงหลี่จิ่วเต้ารู้เพียงเล็กน้อยว่า เจ้าแมวน้อยที่มาหาตนเป็นครั้งเป็นคราวเพื่อขอปลากินนั้น แท้จริงแล้วคือพยัคฆ์ขาว ส่วนชายผมขาวที่แข่งเขียนพู่กันกับเขาเป็นตัวตนระดับบรรพกาล และที่จะลืมไปไม่ได้ สตรีผู้งดงามที่มาร้องขอให้เขาช่วยวาดรูปอยู่ทุกวัน นางถึงกับเป็นเซียนในตำนาน!

ชายหนุ่มนิ่งอึ้งไปครู่หนึ่ง “เอาล่ะ…เช่นนั้น ข้าเป็นใครกัน?”

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท