ร้อยรักปักดวงใจ – ตอนที่ 192 ลับลมคมใน(ปลาย)

ตอนที่ 192 ลับลมคมใน(ปลาย)

ตะกร้า​หวาย​หาง​่าย​ ​แต่​คนดู​แล​เด็ก​ไม่ได้​หาง​่าย​เหมือน​ตะกร้า

เวลา​นั้น​เอง​ ​สือ​อี​เหนียง​ก็​เริ่ม​รู้สึก​เป็นกังวล​ใจ​ขึ้น​มา

ตง​ชิง​จึง​เสนอตัว​ออกมา​ ​“​มิเช่นนั้น​ ​ให้​บ่าว​ไป​ดี​หรือไม่​เจ้า​คะ​ ​อย่างไร​เสียที​่​ตรงนั้น​ก็​ห่าง​จาก​เรือน​ของฮู​หยิน​ห้า​ค่อนข้าง​ไกล​ ​คงจะ​ไม่เป็นไร​หรอก​กระมัง​”

หู่​พั่ว​เอง​ก็​รู้สึก​เห็นด้วย​ ​“​อย่างไร​เสียที​่​ตรงนั้น​ก็​เป็นพื้น​ที่​ส่วนตัว​ของ​ท่าน​โหว​ ฮู​หยิน​ห้า​เป็น​น้อง​สะใภ้​ ​แม้ว่า​จะ​เดิน​ผิด​ที่​ผิดทาง​ ​ก็​คงจะ​ไม่​หลง​เข้าไป​ใน​นั้น​อย่างแน่นอน​เจ้าค่ะ​”

สือ​อี​เหนียง​รู้สึก​ว่า​มีเหตุผล​ ​หู่​พั่ว​จึง​เข้า​โรง​ครัว​ไปหา​ตะกร้า​หวาย​ที่​ใช้​ใส่​ผล​ผิง​กั่ว[1] ​และ​ยัง​แสร้งทำ​เป็น​ขู่​เอา​ผล​ผิง​กั่ว​หนัก​หลาย​สิบ​ชั่ง​ ​ตั้งใจ​จะ​ใส่​ไว้​ใน​ตะกร้า​หวาย​สักพัก​ ​เพื่อ​ที่​ใคร​เดิน​เข้ามา​ใกล้​ก็​จะ​ได้กลิ่น​ของ​ผล​ผิง​กั่ว​ ​สามารถ​กำจัด​ความสงสัย​ของ​ผู้อื่น​ได้

นาง​จัดการ​เรื่อง​นี้​ได้​ค่อนข้าง​ดีที​เดียว​ ​แต่​ก็​มีปัญหา​ใหม่​เกิดขึ้น​มา​อีก

จะ​จับ​เฟิ​่ง​ชิง​ใส่​ตะกร้า​หวาย​อย่างไร

เขา​ขดตัว​งอ​ ​แววตา​จับจ้อง​และ​ระแวดระวัง​พวก​นาง​อยู่​ตลอดเวลา​ ​ยัง​เผย​ให้​เห็น​สีหน้า​ร้ายกาจ​ที่​ไม่​เหมือน​เด็กน้อย​ออกมา​ด้วย

สือ​อี​เหนียง​จึง​ลอง​ใช้​วิธี​แบบ​เด็กน้อย​ไป​สื่อสาร​ปัญหา​เหล่านั้น​กับ​เขา​ ​“​…​พวกเรา​จะ​ส่ง​เจ้า​ไป​ยัง​ที่พัก​ของ​เจ้า​ ​เจ้า​ไม่ต้อง​กลัว​”​ ​จากนั้น​ก็​ชี้​ไป​ยัง​ตง​ชิง​ ​“​พี่​หญิง​คน​นี้​จะ​ไปเป็นเพื่อน​เจ้า​ด้วย​ ​วันข้างหน้า​นาง​จะ​ดูแล​อาหารการกิน​ ​การ​นอน​ ​และ​ยัง​ช่วย​เจ้า​อาบน้ำ​ซัก​เสื้อผ้า​อีกด้วย​…​”

ดูออก​อย่างชัดเจน​ว่า​เฟิ​่ง​ชิง​เป็น​เด็ก​ที่​ฉลาด​มาก​คน​หนึ่ง​ ​เขา​สามารถ​เข้าใจ​ความหมาย​ของ​สือ​อี​เหนียง​ได้​ในทันที​ ​แต่​เขา​ก็ได้​รีบ​แสดงท่าที​ของ​ตัวเอง​ออกมา​ให้​เห็น​ ​รีบ​กอด​เสา​ของ​เตียง​เตา​ไว้​แน่น​ ​ราวกับว่า​ ​ต่อให้​ตาย​เขา​ก็​ไม่ยอม​ไป​ไหน​ทั้งนั้น

สือ​อี​เหนียง​อด​ไม่ได้​ที่จะ​กุมขมับ​ ​หันไป​สั่ง​กับ​ตง​ชิง​ว่า​ ​“​เจ้า​อยู่​เฝ้า​เขา​ที่นี่​ก็แล้วกัน​!​ ​ข้า​ยัง​ต้อง​ไป​เจอ​กับฮู​หยิน​สาม​ ​ปรึกษาหารือ​เรื่อง​วัน​ปีใหม่​อีก​”​ ​แต่​ก็​นึกถึง​เรื่อง​เมื่อครู่นี้​ที่​ตง​ชิง​ถูก​เฟิ​่ง​ชิง​กัด​ ​จึง​พูด​ขึ้น​ว่า​ ​“​เรียก​ปินจ​วี​๋​เข้ามา​ด้วย​ก็แล้วกัน​!​ ​คน​เยอะ​จัดการ​อะไร​ได้​ง่าย​ขึ้น​”

ตง​ชิง​เอง​ก็​กลัว​ว่า​ตน​คนเดียว​จะ​รับมือ​กับ​เด็ก​ไม่ไหว​ ​เมื่อ​ได้ยิน​เช่นนี้​ก็​รีบ​ออก​ไป​เรียก​ปินจ​วี​๋​เข้ามา​ทันที

ปินจ​วี​๋​ได้ยิน​มาตั​้ง​แต่เช้า​ว่า​ท่าน​โหว​และฮู​หยิน​คุย​กัน​อยู่​ใน​เรือน​ ​และ​ได้​สั่ง​ไว้​ว่า​ไม่​ให้​ใคร​เข้าไป​โดย​เด็ดขาด​ ​จากนั้น​ก็​เรียก​ตง​ชิง​เข้าไป​ ​ผ่าน​ไป​ครู่เดียว​ก็ได้​ยิน​เสียง​ตะโกน​ร้อง​กรี๊ด​ออกมา​ ​จากนั้น​ท่าน​โหวก​็​เดิน​ออกมา​ ​ส่วนฮู​หยิน​และ​ตง​ชิง​นั้น​ไม่ได้​ออกมา​ด้วย​ ​และ​ไม่ได้​เรียก​ให้​ใคร​เข้าไป​ปรนนิบัติ​รับใช้​ ​จากนั้น​ตง​ชิง​ก็​ออกมา​เรียก​หู่​พั่ว​ให้​เข้าไป​…​ทุกคน​ต่าง​ก็​ไม่รู้​ว่า​เกิดเรื่อง​อัน​ใด​ขึ้น​กัน​แน่​ ​ต่าง​พากัน​เงียบกริบ​ไม่กล้า​ส่งเสียง​ใดๆ​ ​ขณะที่​ปินจ​วี​๋​กำลัง​เป็นกังวล​ใจอยู่​นั้น​ ​ก็​เห็น​ตง​ชิง​ออกมา​ตาม​นาง​ ​นาง​จึง​เดินตาม​หลัง​ตง​ชิง​เข้าไป​ ​เงยหน้า​ขึ้น​มาก​็​เห็น​เด็ก​แปลกหน้า​คน​หนึ่ง​นั่ง​อยู่​บน​เตียง​เตา​ ​อีกทั้ง​ยัง​มีตา​ชั้นเดียว​ที่​เหมือนกับ​สวี​ลิ่ง​อี๋​ไม่มี​ผิด​ ​นาง​อึ้ง​จน​อ้า​ปาก​ตาค้าง​ ​พูดจา​ติดอ่าง​ไป​หมด​ ​“​นี่​…​นี่​มัน​เกิดเรื่อง​อัน​ใด​ขึ้น​กัน​แน่​”

สือ​อี​เหนียง​ยัง​ไม่ทัน​จะ​ได้​พูด​อะไร​ ​ก็​มีสาว​ใช้​เข้ามา​เรียน​ว่า​อี๋​เหนียง​ทั้ง​สาม​มาคา​รวะ​สือ​อี​เหนียง

สือ​อี​เหนียง​จึง​ให้​ตง​ชิง​อธิบาย​เรื่อง​นี้​กับ​ปินจ​วี​๋​ ​ส่วน​ตน​ก็​ออก​ไป​ยัง​ห้องโถง​เพื่อ​รับ​การ​คารวะ​จาก​อี๋​เหนียง​ทั้ง​สาม​ ​พูดคุย​กัน​เพียง​ครู่หนึ่ง​ก็​รีบ​ส่ง​แขก​กลับ

เมื่อ​กลับ​เข้า​เรือน​มา​ ​ปินจ​วี​๋​ที่​เข้าใจ​ใน​สถานการณ์​แล้ว​ ​ก็​แสดง​สีหน้า​แววตา​หวาดวิตก​และ​กังวลใจ​พร้อมกับ​เดิน​เข้ามา​หา​ ​“ฮู​หยิน​ ​ปิดบัง​ได้​ชั่วคราว​ ​แต่​ไม่​สามารถ​ปิดบัง​ได้​ชั่วชีวิต​ ​บ่าว​ว่า​เรื่อง​นี้​ ​ควร​รีบ​เปิดเผย​ตั้งแต่​เนิ่นๆ​ ​จะ​ดีกว่า​เจ้าค่ะ​”

สือ​อี​เหนียง​จะ​ไม่รู้​ได้​อย่างไร​กัน

“​รอท่าน​โหวก​ลับ​มา​แล้ว​ค่อย​ว่า​กัน​!​”​ ​นาง​พูด​ขึ้น​อย่าง​ไตร่ตรอง​ ​“​ตอนนี้​เรา​ยัง​ไม่รู้​เจตนา​ที่แท้​จริง​ของ​ท่าน​โหว​ ​บุ่มบ่าม​ไป​ ​หาก​ทำ​เสีย​เรื่อง​ท่าน​โหว​เข้า​ ​เกรง​ว่า​อนาคต​จะ​ไม่มีวัน​ที่อยู่​เย็นเป็นสุข​กระมัง​”

ปินจ​วี​๋​พยักหน้า​รับรู้​ ​จากนั้น​ก็ได้​เตือน​สือ​อี​เหนียง​ว่า​ ​“​ใกล้​ถึง​เวลา​ที่จะ​ต้อง​ไปหา​ไท่ฮู​หยิน​แล้ว​เจ้าค่ะ​!​”

สือ​อี​เหนียง​พยักหน้า​เบา​ๆ​ ​จากนั้น​ก็​มอบหมาย​เด็ก​ให้​พวก​นาง​ดูแล​ ​ส่วน​ตน​ก็​สวม​เสื้อคลุม​ ​จากนั้น​ก็​พาลี​่ว​์​อวิ​๋น​และ​หง​ซิ่ว​ติดตาม​ไป​ยัง​เรือน​ของ​ไท่ฮู​หยิน

ฮู​หยิน​สาม​ไป​ที่นั่น​ตั้งแต่​เช้า​แล้ว​ ​สือ​อี​เหนียง​คารวะ​ไท่ฮู​หยิน​เสร็จ​เรียบร้อย​ ​ก็​ตรง​ไปหาฮู​หยิน​สามตา​มที​่​ได้​นัดหมาย​ไว้

ตอนที่​นาง​ไป​ถึง​ ​ท่าน​ป้า​ที่​เป็น​ผู้ดูแล​ทุกคน​ล้วน​มาถึง​พร้อมเพรียง​แล้ว​ ​รวมตัว​อยู่​ใน​ห้องโถง​และ​กำลัง​รอคำ​สั่ง​จากฮู​หยิน​สาม​ ​เมื่อ​เห็น​สือ​อี​เหนียง​เดิน​เข้ามา​ ​ก็​พากัน​ย่อ​ตัว​ทำความเคารพ​และ​กล่าว​ทักทาย​ตาม​ๆ​ ​กัน​ ​สีหน้าท่าทาง​ดูกระ​ตือ​รือ​ร้น​เป็นอย่างมาก

สือ​อี​เหนียง​ยังคง​ให้​ความเคารพฮู​หยิน​สาม​ใน​ฐานะ​ผู้ดูแล​หลัก​ของ​เรือน​ ​จึง​ให้​สาวใช้​เข้าไป​เรียนฮู​หยิน​สาม​สัก​คำ​ ​ส่วน​ตน​นั้น​ก็​คุย​เรื่อยเปื่อย​กับ​เหล่า​บรรดา​ท่าน​ป้า​ที่​เป็น​ผู้ดูแล​อยู่​ครู่หนึ่ง​ ​จากนั้น​นาง​ก็​ยิ้ม​พร้อมกับ​พยักหน้า​เล็กน้อย​เพื่อ​ขอตัว​ไป​ยัง​ห้อง​ปีก​ทิศตะวันออก

ฮู​หยิน​สาม​ยิ้ม​ขึ้น​ด้วย​รอยยิ้ม​ที่​ค่อนข้าง​ฝืน​ ​ดู​อารมณ์​ไม่​ค่อย​ดีสัก​เท่าไร​ ​“​น้อง​สะใภ้​มา​แล้ว​หรือ​!​”

ชิว​หลิง​รีบ​ลุกขึ้น​มา​เชื้อเชิญ​สือ​อี​เหนียง​ไป​นั่ง​ที่​ฝั่ง​ตรงข้าม​ของฮู​หยิน​สาม​ ​จากนั้น​ก็​รีบ​ไป​ชงชา​มา​ให้​ทันที

ฮู​หยิน​สาม​หันไป​มอง​กิริยาท่าทาง​ที่​นิ่ง​สงบ​ของ​สือ​อี​เหนียง​ ​แล้ว​พูด​ขึ้น​ว่า​ ​“​…​ได้ยิน​มา​ว่า​เจ้า​หมั้น​หมาย​สาวใช้​คนสนิท​กับ​ว่าน​ต้า​เสี่ยน​ ​จะ​กำหนด​วัน​ช่วงต้น​ฤดูใบไม้ผลิ​ของ​ปีหน้า​หรือ​”

ไม่รู้​ว่า​ใคร​เป็น​คน​ปล่อยข่าว​ลือ​ ​อย่างไร​เสีย​ก็​ไม่ได้​มีสาม​สื่อ​หก​พิธี[2]ครบ​ทุกขั​้น​ตอน​เสียหน่อย​ ​สือ​อี​เหนียง​ไม่​อยาก​จะ​พูด​เรื่อง​นี้​ให้​เด็ดขาด​อย่าง​สิ้นเชิง​ ​จึง​พูด​ขึ้น​อย่าง​คลุมเครือ​ว่า​ ​“​ต้อง​ดู​ว่า​ทางโน้น​มี​วาสนา​นี้​หรือไม่​!​”

ฮู​หยิน​สาม​จึง​ยิ้ม​ขึ้น​พร้อมกับ​พูดว่า​ ​“​จะ​ว่า​ไป​แล้ว​ ​นาง​ก็​เป็น​คนสำคัญ​ของ​เรือน​เจ้า​ ​ก็​ควรจะ​จัดเตรียม​ให้​ดี​ถึง​จะ​ถูก​”

สือ​อี​เหนียง​ยังคง​นิ่งเงียบ​ ​พลาง​พูด​ออก​ไป​ว่า​ ​“​สิ่ง​เหล่านี้​ก็​ล้วน​ทำตาม​ขนบธรรมเนียมประเพณี​เก่าแก่​เจ้าค่ะ​”

ฮู​หยิน​สาม​รู้สึก​ว่าน​้ำ​เสียง​และ​คำพูด​ของ​สือ​อี​เหนียง​ไม่​ค่อย​พอใจ​และ​ไม่​ค่อย​สนใจ​เท่าไร​นัก​ ​นาง​จึง​เปลี่ยนไป​พูด​เรื่อง​อื่น​แทน​ ​“​เจ้า​คอย​ดู​อยู่​ข้างๆ​ ​ก่อน​ ​หาก​มีต​รง​ไหน​ที่​ไม่เข้าใจ​ก็​เปิด​หนังสือ​บัญชี​ขึ้น​มาดู​ ​หรือว่า​ถาม​ข้า​ก็ได้​!​”

“​พี่สะใภ้​สาม​ ​เชิญ​ตามสบาย​เจ้าค่ะ​!​”​ ​น้ำเสียง​ของ​สือ​อี​เหนียง​ค่อนข้าง​เกรงใจ​ ​จึง​ทำให้ฮู​หยิน​สาม​พอใจ​เป็นอย่างมาก​ ​จะ​ว่า​ไป​แล้ว​ ​สือ​อี​เหนียง​ก็​เป็น​คนที​่​ฉลาด​หัวไว​และ​เชื่อฟัง​คน​หนึ่ง​ ​หาก​ไม่ใช่​เพราะ​ทั้งสอง​ถูก​คั่น​ด้วย​ตำแหน่ง​ฐานะ​ ​นาง​เอง​ก็​อยาก​ที่จะ​คบค้าสมาคม​กับ​สือ​อี​เหนียง​เสียด​้วย​ซ้ำ

เมื่อ​ความคิด​เช่นนี้​แล่น​ผ่าน​ใน​หัว​ของ​นาง​ ​นาง​ก็​รีบ​หันไป​สั่ง​กับ​ชิว​หลิง​ว่า​ ​“​ร้อย​คุณงามความดี​ ​กตัญญู​กตเวทิตา​มา​เป็นอัน​ดับ​หนึ่ง​ ​เช่นนั้น​ก็​ให้​ป้า​รับใช้​ที่​ดูแล​ศาล​บรรพชน​เข้ามา​ชี้แจง​เรื่อง​สิ่งของ​ที่จะ​ต้อง​ตระเตรียม​สำหรับ​การ​เซ่นไหว้​ว่า​เป็น​อย่างไรบ้าง​ก่อน​ก็แล้วกัน​”

ชิว​หลิง​ขานรับ​แล้วจึง​ออก​ไป​ทันที

สือ​อี​เหนียง​รวบรวม​สมาธิ​อีกครั้ง​ ​ตั้งใจ​จดจ่อ​ดูกา​รจั​ดกา​รงาน​ใน​เรือน​ของฮู​หยิน​สาม

*****

เวลา​ช่วง​เช้า​ผ่าน​ไป​อย่างรวดเร็ว​ ฮู​หยิน​สาม​ให้​ชิว​หลิง​จัดระเบียบ​เรื่อง​ทั้งหมด​ที่​จัดการ​และ​ทำการ​ตัดสินใจ​ไป​เมื่อเช้านี้​ออกมา​ใหม่​ ​จากนั้น​ก็ได้​ไป​ยัง​เรือน​ของ​ไท่ฮู​หยิน​พร้อม​สือ​อี​เหนียง​ ​“​…​ถือโอกาส​นี้​ไป​ทานข้าว​กับ​ผู้หลักผู้ใหญ่​ ​พูดคุย​กับ​ผู้หลักผู้ใหญ่​ ​จะ​ได้​ให้ท่า​นรั​บรู​้​เรื่อง​พวก​นี้​ด้วย​”

แต่​สือ​อี​เหนียง​กลับเป็น​ห่วง​และ​กังวล​เจ้า​เผือก​ร้อน​มือ​ที่​เรือน​ของ​ตน​ ​จึง​หา​ข้ออ้าง​ว่า​ ​“​ข้า​ขอตัว​กลับ​เรือน​ไป​เปลี่ยน​ชุด​เสียหน่อย​!​ ​รื้อ​ค้น​หนังสือ​บัญชี​ทั้ง​เช้า​ ​รู้สึก​ว่า​มือ​เปื้อน​ฝุ่น​เต็มไปหมด​”

บัญชี​พวก​นั้น​ค่อนข้าง​เก่าแก่​ ​ปกติ​จะ​ถูก​จัดเก็บ​ไว้​ใน​ห้องเก็บของ​ ​จะ​รื้อ​ค้น​มาดู​ก็ต่อเมื่อ​มีต​รง​ไหน​ที่​ไม่เข้าใจ​หรือ​ต้องการ​นำมา​อ้างอิง​พิจารณา​ ​แต่ละ​หน้า​ของ​หนังสือ​บัญชี​จึง​เต็มไปด้วย​ฝุ่นผง

ฮู​หยิน​สาม​เอง​ก็​เคย​รื้อ​ค้น​หนังสือ​บัญชี​เหล่านั้น​ ​เมื่อ​ได้ยิน​แล้วก็​ยิ้ม​ขึ้น​พร้อมกับ​พูดว่า​ ​“​งั้น​ข้า​ไป​ก่อน​แล้วกัน​!​”​ ​กับ​เรื่อง​ที่สามา​รถ​นำหน้า​ผู้อื่น​และ​ข่ม​เหล่า​บรรดา​สะใภ้​ด้วยกัน​ได้​ ​นาง​ก็​มักจะ​กระตือรือร้น​เสมอ

สือ​อี​เหนียง​ยิ้ม​ขึ้น​พลาง​ขอตัว​กลับ​เรือน​ไป

คนที​่​รอ​ปรนนิบัติ​รับใช้​ก็​ยัง​ยืน​เฝ้า​อยู่​หน้า​ประตู​ห้องโถง​ของ​เรือน​หลัก​หรือ​ยืน​รอ​อยู่​ใต้​ชายคา​เหมือนเดิม​ ​ห้อง​ชั้นใน​เงียบสนิท​ไม่มีใคร​ ​ราวกับว่า​เรื่อง​ที่เกิด​ขึ้น​เมื่อเช้านี้​เป็น​แค่​เรื่อง​ที่​ตน​มโน​คิด​ไป​เอง​อย่างไร​อย่างนั้น

ซวง​อวี​้​เดิน​เข้ามา​เรียน​ว่า​ ​“ฮู​หยิน​เจ้า​คะ​ ​พี่​ตง​ชิง​ ​พี่​หู่​พั่ว​และ​พี่​ปินจ​วี​๋​ไป​ที่​เรือน​ปั้น​เย​่ว​์​พั่น​แล้ว​เจ้าค่ะ​”

แสดงว่า​สามารถ​พา​เด็ก​ไป​ที่โน่น​ได้​อย่างราบรื่น​อย่างนั้น​หรือ

สือ​อี​เหนียง​จึง​ถอนหายใจ​ออกมา​อย่าง​โล่งอก​ ​จากนั้น​ก็​ยิ้ม​ขึ้น​ด้วย​สีหน้า​ปกติ​พร้อมกับ​พูด​ขึ้น​ว่า​ ​“​เหตุใด​จู่ๆ​ ​ถึง​ไป​ที่​เรือน​ปั้น​เย​่ว​์​พั่น​ได้​ล่ะ​”

“​เห็น​บอกว่า​ใกล้​จะ​ปีใหม่​แล้ว​ ​จ้าว​อิ่ง​ที่​เรือน​ปั้น​เย​่ว​์​พั่น​อยาก​จะ​หา​สัก​สอง​สาม​คนที​่​มือ​ไม้​คล่องแคล่ว​ว่องไว​ไป​ช่วย​ทำความสะอาด​และ​จัดระเบียบ​ข้าวของ​เสียหน่อย​ ​พี่​หู่​พั่ว​ก็​เลย​บอกว่า​ที่นั่น​เป็น​ห้อง​หนังสือ​ของ​ท่าน​โหว​ ​สาวใช้​ที่​ไม่รู้​จัก​หนังสือ​จะ​แยกแยะ​ไม่ได้​ว่า​ของ​สิ่ง​ไหน​สำคัญ​หรือไม่​สำคัญ​บ้าง​ ​ก็​เลย​พา​พี่​ตง​ชิง​และ​พี่​ปินจ​วี​๋​ไป​ด้วย​เจ้าค่ะ​”

ฟัง​ไม่​ค่อย​ได้ใจ​ความเท่า​ไร​นัก

ดูแล​้ว​คง​ต้อง​รอ​ให้​ทั้ง​สาม​กลับมา​ก่อน​แล้ว​ค่อย​ซักถาม​ก็แล้วกัน

สือ​อี​เหนียง​พยักหน้า​รับรู้​ ​จากนั้น​ก็​เดิน​เข้า​เรือน​ไป​เปลี่ยน​ชุด​ใหม่​ ​พลาง​ถาม​ขึ้น​ว่า​ ​“​ท่าน​โหวก​ลับ​มา​แล้ว​หรือไม่​”

“​ท่าน​โหว​ยัง​ไม่​กลับมา​เจ้าค่ะ​”

ดูท่า​คงจะ​ต้อง​ใช้​ข้ออ้าง​ของ​หวัง​ลี่​เสีย​แล้ว

สือ​อี​เหนียง​ครุ่นคิด​ระหว่าง​เดินทาง​ไป​ยัง​เรือน​ของ​ไท่ฮู​หยิน

*****

หลังจาก​กลับ​จาก​ทาน​มื้อ​เที่ยง​กับ​ไท่ฮู​หยิน​ ​หู่​พั่ว​ก็​อยู่​ที่​เรือน​แล้ว

ไม่​รอ​ให้​สือ​อี​เหนียง​ได้​เอ่ยปาก​ ​นาง​ก็​พยักหน้า​ให้​กับ​สือ​อี​เหนียง​ ​เพื่อ​บอกเป็นนัย​ว่า​ได้​จัดการ​เสร็จ​เรียบร้อย​แล้ว

สือ​อี​เหนียง​จึง​ค่อย​รู้สึก​วางใจ​ขึ้น​มา​ ​ปลีกตัว​จาก​คน​ปรนนิบัติ​รับใช้​ ​จากนั้น​ก็​ถาม​เกี่ยวกับ​รายละเอียด​ของ​สถานการณ์

“​…​พอ​พวก​บ่าว​เข้าใกล้​หน่อย​ ​เขา​ก็​จะ​กัด​เอา​ ​ก็​เลย​จนปัญญา​ ​บ่าว​ทั้ง​สาม​จึง​ตัดสินใจ​ใช้กำลัง​ปิดปาก​เด็ก​ไว้​ ​แล้ว​จับ​มัด​มือ​มัด​เท้า​ใส่​เด็ก​ลง​ไป​ใน​ตะกร้า​หวาย​ทีเดียว​”​ ​น้ำเสียง​ของ​หู่​พั่ว​แผ่วเบา​ลง​ ​เพื่อที่จะ​บอก​กับ​สือ​อี​เหนียง​เป็นนัย​ว่า​เรื่อง​นี้​ได้​ผ่าน​ไป​แล้ว​ ​“​เวลา​นั้น​ยัง​เช้า​มาก​ ​ตลอดทาง​ไม่​เจอ​ใคร​เลย​ ​แต่​จ้าว​อิ่ง​เห็น​พวก​บ่าว​แล้วก็​ตกใจ​เป็นอย่างมาก​ ​บ่าว​ก็​เลย​อธิบาย​เหตุการณ์​ทั้งหมด​ให้​เขา​ฟัง​ ​เขา​นั้น​เด็ดขาด​ไม่​ลังเล​เลย​แม้แต่​นิดเดียว​ ​รีบ​ให้​พวก​บ่าว​เข้าไป​ใน​เรือน​ทันที​ ​อีกทั้ง​ยัง​ไป​ช่วย​ขอน​้ำ​ร้อน​มา​ให้​ ​บ่าว​และ​พี่​ตง​ชิง​ฝืน​บังคับ​คุณชาย​น้อย​เฟิ​่ง​ชิง​อาบน้ำ​จน​เสร็จ​ ​เปลี่ยน​น้ำ​ไป​สาม​รอบ​จึง​ค่อย​สะอาดสะอ้าน​ขึ้น​มา​ ​ปินจ​วี​๋​ก็​ไป​ขอ​เสื้อผ้า​จาก​สะใภ้​หนาน​หย่ง​มาส​อง​สาม​ตัว​ ​จึง​ค่อย​จัดการ​ทุกอย่าง​เรียบร้อย​ ​พี่​ตง​ชิง​กับ​พี่​ปินจ​วี​๋​อยู่​เฝ้า​ที่นั่น​ ​บ่าว​กลัว​ว่า​ท่าน​จะ​เป็นกังวล​ใจ​ ​ก็​เลย​กลับมา​เรียน​เรื่อง​นี้​กับ​ท่าน​ก่อน​เจ้าค่ะ​”

“​คุณชาย​น้อย​เฟิ​่ง​ชิง​?​”​ ​สือ​อี​เหนียง​รู้สึก​ค่อนข้าง​ประหลาดใจ

นึกไม่ถึง​เลย​ว่า​จะ​เป็น​เด็กผู้ชาย

แววตา​ของ​หู่​พั่ว​ค่อนข้าง​คลุมเครือ​ ​“​เจ้าค่ะ​ ​เป็นคุณ​ชายน้อย​”

สือ​อี​เหนียง​มอง​แล้วก็​ถาม​ต่อ​เสียง​ขรึม​ว่า​ ​“​ยัง​มีเรื่อง​อื่น​อีก​หรือไม่​”

หู่​พั่ว​ลังเล​อยู่​ครู่หนึ่ง​ ​จากนั้น​ก็​พูด​ขึ้นเสียง​แผ่วเบา​ว่า​ ​“​บน​ตัว​ของ​คุณชาย​น้อย​เฟิ​่ง​ชิง​มีบาด​แผล​ด้วย​เจ้าค่ะ​!​”

มีบาด​แผล​!

สือ​อี​เหนียง​นึกถึง​ตอนที่​เขา​เพิ่ง​มา​ ​ทั้ง​สกปรก​ทั้ง​มอมแมม​…​จึง​ขมวดคิ้ว​แน่น​ ​“​บาดแผล​แบบ​ใด​”

“​ดูเหมือน​จะ​ใช้​ไม้​ไผ่​กว้าง​สอง​นิ้ว​เฆี่ยนตี​ ​เขียว​บ้าง​ม่วง​บ้าง​ ​ส่วนใหญ่​ถูก​เฆี่ยน​บน​หลัง​ ​มี​รอยแผล​ใหม่​ด้วย​ ​มี​รอยแผล​ที่​เพิ่งจะ​ถูก​เฆี่ยน​เมื่อ​วัน​สอง​วันที่​ผ่าน​มา​ ​และ​ยัง​มี​รอยแผล​เก่า​ด้วย​เจ้าค่ะ​”​ ​หู่​พั่ว​พูด​อย่าง​ไตร่ตรอง​ ​“​ที่​ต้นขา​ก็​มี​…​ล้วน​เป็นแผล​ที่อยู่​ใน​ร่มผ้า​ทั้งนั้น​เจ้าค่ะ​”

สวี​ลิ่ง​อี๋​รู้เรื่อง​นี้​หรือไม่​!

สือ​อี​เหนียง​หรี่​ตาลง​ ​เปลี่ยนเป็น​ดุดัน​ขึ้น​มา​ฉับพลัน

นาง​รังเกียจ​คนที​่​รังแก​ข่มเหง​สตรี​และ​เด็ก​มาก​ที่สุด

“​ตอนนี้​เด็ก​เป็น​อย่างไรบ้าง​แล้ว​”​ ​น้ำเสียง​ของ​นาง​เคร่งขรึม

“​ขดตัว​กลม​หลบ​อยู่​ใน​มุม​เตียง​ ​ไม่ยอม​ให้​ใคร​เข้าใกล้​เลย​”​ ​น้ำเสียง​ของ​หู่​พั่ว​ค่อนข้าง​เป็นกังวล​ใจ​ ​“​ตอนที่​บ่าว​ออกมา​ก็​ยัง​นอน​อยู่​อย่างนั้น​ ​ข้าว​เที่ยง​ก็​ไม่ยอม​ทาน​เลย​เจ้าค่ะ​”

คำพูด​ประโยค​นี้​ได้​ย้ำ​เตือนสติ​ของ​สือ​อี​เหนียง

“​พวก​เจ้า​ทานข้าว​แล้ว​หรือไม่​”

“​ทาน​แล้ว​เจ้าค่ะ​!​”​ ​หู่​พั่ว​ตอกกลับ​ ​“​จ้าว​อิ่ง​เป็น​คน​ช่วย​ยก​อาหาร​มา​ให้​ ​บอก​กับ​คนนอก​แค่​ว่า​มา​ขอให้​พวก​บ่าว​ช่วย​งาน​เท่านั้น​เจ้าค่ะ​”

สือ​อี​เหนียง​พยักหน้า​รับรู้​ ​“​ทุกอย่าง​รอ​ให้ท่าน​โหวก​ลับ​มาก​่อน​แล้ว​ค่อย​ว่า​กัน​!​”​ ​แต่​ความขุ่นเคือง​ใน​ใจ​ของ​นาง​กลับ​ไม่ได้​ถดถอย

หู่​พั่ว​ขานรับ​แล้วจึง​พูด​ขึ้น​ว่า​ ​“ฮู​หยิน​ ​บ่าว​พาท​่าน​ไป​พักผ่อน​ยาม​บ่าย​เสียหน่อย​ดี​หรือไม่​เจ้า​คะ​ ​ทาง​นั้น​มีพี​่​ตง​ชิง​และ​พี่​ปินจ​วี​๋​อยู่​ด้วย​ ​ท่าน​ไม่ต้อง​เป็นกังวล​ใจ​ไป​”

สือ​อี​เหนียง​จะ​หลับ​ลง​ได้​อย่างไร​กัน​ ​นาง​อิง​บน​หมอน​พลาง​พูดคุย​กับ​หู่​พั่ว​ ​“​ยิ่ง​คิด​ข้า​ก็​ยิ่ง​รู้สึก​ว่า​เรื่อง​นี้​มี​ลับลมคมใน​ ​ถ้าหากว่า​ท่าน​โหว​มี​เด็ก​คน​นี้​อยู่​ข้างนอก​ ​ตาม​นิสัย​ของ​คน​อย่าง​ท่าน​โหว​ ​ถึงแม้ว่า​จะ​ไม่ได้​อ่อนโยน​และ​เอาใจใส่​เท่าไร​นัก​ ​แต่​ก็​คง​ดูแล​ตาม​ความเหมาะสม​ไม่​ให้​ขาดตกบกพร่อง​ใดๆ​ ​อย่างไร​เสียเด็ก​ก็​คงจะ​ไม่ต้อง​ตกระกำลำบาก​ถึง​เพียงนี้​ ​ที่มา​ของ​เด็ก​คน​นี้​ ​เกรง​ว่า​คงจะ​มีบา​งอย​่าง​แน่นอน​”

หู่​พั่ว​ริน​ชา​พร้อมกับ​ยก​มา​ให้​สือ​อี​เหนียง​ด้วยตัวเอง

“​เป็นไปได้​หรือไม่​ว่า​ก่อนหน้านี้​ท่าน​โหว​จะ​ไม่รู้​เรื่อง​นี้​”​ ​นาง​คาดเดา​ว่า​ ​“​มิเช่นนั้น​ ​จู่ๆ​ ​ท่าน​โหวก​็​จะ​คิดได้​ขึ้น​มา​ฉับพลัน​ ​บุ่มบ่าม​ออก​ไป​กลางดึก​เช่นนั้น​หรือ​เจ้า​คะ​”

ไม่รู้​เรื่อง​?​ ​ต้อง​อยู่​ภายใต้​สถานการณ์​เช่นไร​ถึง​จะ​ไม่รู้​เรื่อง​ได้​เล่า​ ​หรือ​จะ​เป็นผลิต​ผล​จาก​เหตุสุดวิสัย​ของ​การ​พบ​รัก​กับ​สาวงาม​กัน​…?

————————–

[1]ผล​ผิง​กั่ว​ ​ผล​แอปเปิล

[2]สาม​สื่อ​หก​พิธี ​พิธีแต่งงาน​แบบ​ชาวจีน​โบราณ​ ​โดย​มีสาม​ขั้นตอน​และ​หก​พิธีการ

ร้อยรักปักดวงใจ

ร้อยรักปักดวงใจ

Status: Ongoing

เมื่อจวนสกุลหลัว มีภรรยาเอกหนึ่งคนและอนุภรรยาอีกหกคน จึงตามมาด้วยพี่น้องต่างมารดามากมาย

หลัวหยวนเหนียง บุตรีคนโตจากนายหญิงใหญ่ ได้แต่งเป็นภรรยาเอกของ สวีลิ่งอี๋ ที่มีบรรดาศักดิ์เป็นถึงหย่งผิงโหว แม่ทัพใหญ่

ทว่า ช่างโชคร้ายที่หลัวหยวนเหนียงล้มป่วนหนักและรู้ดีว่าใกล้ถึงวาระสุดท้าย นางจึงวางแผนการใหญ่กับมารดา

นั่นคือ การเลือกหนึ่งในหญิงสาวพี่น้องสกุลหลัวที่ยังไม่ได้ออกเรือนมาคอยดูแล จุนเกอ บุตรชายสุดที่รักเพียงคนเดียว และ...

คอยรักษาอำนาจของสกุลหลัวไว้ในฐานะภรรยาเอก โดยการแต่งงานกับหย่งผิงโหวเพื่อเป็นภรรยาตัวแทน!

สุดท้าย ผู้ถูกเลือกนั้นกลับกลายเป็นบุตรีของอนุภรรยา คุณหนูสิบเอ็ดผู้รักความสงบอย่าง สืออีเหนียง

แม้ไม่อาจหนีพ้นชะตากรรมที่มีผู้กำหนดมาให้ มีแต่ต้องเผชิญกับความวุ่นวายตรงหน้าต่อไป

ทักษะการปักผ้า ไหวพริบที่ติดตัวมา และเสน่ห์สุขุมดั่งน้ำนิ่ง อาจนำไปสู่กระแสน้ำพัดพาเหนือใครจะคาดเดา!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท