บทที่ 190 ข้าโกรธมาก เจ้าพยายามทำให้ข้าเสพติดอยู่หรือเปล่า?
จักรพรรดิหมากรุกหวงหลงจำได้ชัดเจนว่าก่อนที่ท่านเซียนจะมา ต้นหลิวได้กล่าวว่า ‘ท่านเซียนมาแล้ว’
ก้อนหินยังบอกว่าหากเขาบังอาจทำอันตรายท่านเซียน จะเอาชีวิตของเขาด้วย
เจ้าสองตัวนี้เรียกได้ แต่เขาเรียกกลับโดนทุบตีงั้นหรือ?
ทว่านี่ก็เพราะเขาไม่สามารถเอาชนะต้นหลิวและก้อนหินนี้ได้ หากสามารถเอาชนะต้นหลิวได้ เขาจะต้องสับต้นหลิวมาทำเป็นฟืน บดขยี้หินให้เป็นผง แล้วโยนลงละลายแม่น้ำเสีย!
พวกมันจะรังแกกันเกินไปแล้ว!
“เจ้าเหมือนพวกเราได้หรือ?”
ต้นหลิวฟาดกิ่งต้นหลิวอีกกิ่งหนึ่งลงมา แต่คราวนี้มันไม่ได้ฟาดโดนหัวของจักรพรรดิหมากรุกหวงหลง แต่มันฟาดเข้าที่หลังของจักรพรรดิหมากรุกหวงหลงแทน
ถ้าหัวของจักรพรรดิหมากรุกหวงหลงถูกตบอีกครั้ง เกรงว่ามันจะเป่าหัวของจักรพรรดิหมากรุกหวงหลงออกไปจริง ๆ
มันเห็นท่านเซียนชี้แนะจักรพรรดิหมากรุกหวงหลงทั้งหมด ยามนี้มันจึงไม่กล้าฆ่าจักรพรรดิหมากรุกหวงหลงแล้ว
จักรพรรดิหมากรุกหวงหลงโกรธมาก
นี่มันตีเขาอีกแล้ว?
อีกอย่าง คำกล่าวของต้นหลิวคืออันใดกัน?
พวกมันหมายความว่าอย่างไร?
เหุตใดเขาถึงเป็นเหมือนต้นหลิวและก้อนหินนี่ไม่ได้?
“อย่าเพิ่งไม่ยอมรับ เพราะเจ้าไม่ได้สังเกตจริง ๆ ว่าท่านเซียนกำลังท่องไปในโลกมนุษย์ในฐานะปุถุชน”
ก้อนหินกล่าว ขณะจ้องมองไปที่จักรพรรดิหมากรุกหวงหลง
ทุกการกระทำของจักรพรรดิหมากรุกหวงหลง โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเขาเรียกชื่อท่านเซียนในตอนท้าย แสดงให้เห็นอย่างชัดเจนว่าจักรพรรดิหมากรุกหวงหลงไม่ได้ตระหนักว่า ท่านเซียนกำลังท่องในโลกมนุษย์ในฐานะปุถุชนอยู่
“พวกเจ้ามันไร้ความปรานี!”
จักรพรรดิหมากรุกหวงหลงกัดฟันและไม่โต้เถียงต่อไป
ยังจะเถียงบ้าอะไร?
หากเขายังคงโต้เถียงต่อไป คงไม่แคล้วถูกต้นหลิวทุบตีจนตาย!
ในใจของเขารู้สึกหดหู่ยิ่งนัก
จักรพรรดิผู้สง่างามผู้ปกครองสวรรค์และโลกในอดีต ได้หวนกลับมาด้วยความช่วยเหลือจากพลังสังสารวัฏ ซึ่งความแข็งแกร่งของเขาก็นับว่าร้ายกาจขึ้น
แม้แต่เขตหวงห้ามทั้งเก้าก็ไม่กล้าแตะต้องเขา และให้ความเคารพเขาพอสมควร
แต่ในท้ายที่สุด เขากลับถูกต้นหลิวและก้อนหินทุบตี…
อนิจจา ยังจะมีจักรพรรดิที่น่าสังเวชเช่นเขาอีกหรือไม่?
แต่เมื่อคิดว่าต้นหลิวและก้อนหินเป็นผู้ติดตามท่านเซียน เขาก็รู้สึกดีมากขึ้น
ท่านเซียน…
นั่นคือเป้าหมายที่ผู้ฝึกตนทุกคนมุ่งหมาย ไม่น่าแปลกใจที่ต้นหลิวกับก้อนหินจะแข็งแกร่งมากเช่นนี้
“พวกเจ้าเป็นตี้หวง ตี้จวิน หรือเทียนตี้?”
เขาถามต้นหลิวและก้อนหิน
เป็นความจริงที่ขอบเขตมหาจักรพรรดิเป็นขอบเขตสูงสุดของการบ่มเพาะ
ทว่าขอบเขตมหาจักรพรรดินั้นกว้างใหญ่เกินไป และความแตกต่างของความแข็งแกร่งระหว่างคนสองคนในขอบเขตมหาจักรพรรดินั้นก็กว้างใหญ่มาก!
ขอบเขตมหาจักรพรรดิบางคนสามารถกวาดล้างขอบเขตมหาจักรพรรดิหลายร้อยคนได้อย่างง่ายดาย
ผู้คนเรียกขอบเขตมหาจักรพรรดิเช่นนั้นว่า ‘ตี้หวง’
ขอบเขตมหาจักรพรรดิสามารถกวาดล้างขอบเขตมหาจักรพรรดินับพันได้อย่างง่ายดาย
ผู้คนเรียกจักรพรรดิผู้ยิ่งใหญ่ว่า ‘ตี้จวิน’
สำหรับ ‘เทียนตี้’ นั่นคือการดำรงอยู่ที่คงกระพันอย่างแท้จริง ผู้ซึ่งสามารถสังหารขอบเขตมหาจักรพรรดินับหมื่นได้ด้วยความคิดเดียว และเป็นที่รู้จักในฐานะการดำรงอยู่ที่ใกล้เคียงกับเซียนที่สุด!
“ตี้หวง ตี้จวิน เทียนตี้อันใด?.. ข้าไม่เคยได้ยินและไม่รู้จัก”
ต้นหลิวกล่าว
ไม่เคยได้ยิน?
จักรพรรดิหมากรุกหวงหลงตกตะลึง
“เป็นเรื่องปกติที่จะไม่รู้กัน”
เขาคิดเกี่ยวกับมัน
ตัวตนเช่นตี้หวง ตี้จวิน และเทียนตี้ ไม่เคยปรากฏในอาณาจักรนี้มาก่อน
อาณาจักรนี้เป็นเพียงอาณาจักรระดับต่ำ และขอบเขตต่อสู้สูงสุดก็คือขอบเขตจักรพรรดิ ซึ่งขอบเขตขั้นพลังที่ทรงพลังเช่นตี้หวง ตี้จวิน และเทียนตี้ นั้นไม่เคยมีปรากฏ
ตัวเขาเองก็ไม่เคยรู้ว่ามีการแบ่งแยกเช่นนี้ในขอบเขตมหาจักรพรรดิ
ต่อมาเขาไปยังแดนสังสารวัฏ จึงได้รู้ว่าในขอบเขตมหาจักรพรรดินั้นมีความแตกต่างกันอยู่ โดยรู้ว่ายอดฝีมือขอบเขตมหาจักรพรรดินั้นเรียกว่าตี้หวง ตี้จวิน และเทียนตี้!
“ท่านเซียน… ไม่สิ ผู้อาวุโสอยู่ในเมืองนี้ใช่หรือไม่?”
เขาต้องการจะเรียกบุคคลนั้นว่าเป็นท่านเซียน แต่เมื่อเห็นกิ่งต้นหลิวสั่นไหวอีกครั้ง เขาก็รีบเปลี่ยนคำพูดและเรียกเพียงว่าผู้อาวุโส ด้วยกลัวว่าต้นหลิวจะฟาดเขาอีก
“แน่นอนว่าท่านเซียนอยู่ในเมืองนี้ แต่เจ้าจะไปหาท่านเซียนงั้นหรือ?”
ต้นหลิวถาม
ไม่ให้เขาเรียก แต่ตัวเองกลับเรียกได้?
จักรพรรดิหมากรุกหวงหลงคิดในใจว่าเจ้าต้นหลิวช่างเหลือจะทนยิ่งนัก!
“อืม”
เขาพยักหน้าและต้องการเข้าไปในเมืองเพื่อตามหาท่านเซียน
ท่านเซียนไม่เพียงแต่ไม่ฆ่า แต่ยังช่วยชี้แนะให้เขาด้วย ซึ่งเขาอยากรู้ว่าเพราะเหตุใด
สิ่งเหล่านี้ย่อมไม่ทำโดยไร้เหตุผล…
ผัวะ!
โดยไม่คาดฝัน กิ่งต้นหลิวฟาดเขาอีกครั้ง ซ้ำยังฟาดเขาคว่ำลงกับพื้นโดยตรง!
“ข้าจะ&%^…!”
จักรพรรดิหมากรุกหวงหลงสาปแช่งเสียงดัง นี่คิดทำให้เขา…เสพติดหรือ?
“ไร้สมอง!”
ต้นหลิวพูดว่า “ถ้าท่านเซียนต้องการคุยกับเจ้า ไยเขาไม่พูดที่นี่? ท่านเซียนกลับไปที่เมือง ซึ่งหมายความว่าท่านเซียนไม่ต้องการคุยกับเจ้า”
ในตอนแรกจักรพรรดิหมากรุกหวงหลงโกรธมาก แต่หลังจากได้ยินสิ่งที่ต้นหลิวพูด เขาก็เงียบไป
ต้นหลิวพูดถูกแล้ว
เห็นได้ชัดว่าท่านเซียนไม่ต้องการพูดอะไรกับเขา มิฉะนั้นท่านเซียนจะไม่จากไปโดยตรง
แต่…ทำไมกัน?
เขาคิดไม่ออก
“ไปเสียเถอะ”
ต้นหลิวกล่าว
“ท่านเซียนชอบอยู่เงียบ ๆ ดังนั้นเมื่อเจ้ากลับไป เจ้าต้องฉลาดกว่านี้ และอย่าโพนทะนาเรื่องของท่านเซียน!”
มันพูดอีกครั้ง
“เจ้ากล้าริเล่นกลกับท่านเซียน หากมิใช่ว่าท่านเซียนไม่สนใจเจ้าเช่นเจ้า เจ้าคงไม่มีชีวิตรอดแล้ว!”
ก้อนหินกล่าวบ้าง
จักรพรรดิหมากรุกหวงหลงไม่พูดจา แต่ออกจากที่นี่ไปพร้อมกับกระดานหมาก
ระหว่างทาง เขาสงสัยว่าเหตุใดท่านเซียนถึงปล่อยเขาไป ทั้งยังชี้แนะให้เขาด้วย
“เข้าใจแล้ว!”
หลังจากเดินไปมาไม่รู้กี่รอบ จู่ ๆ เขาก็ตะโกนขึ้น เมื่อเข้าใจทุกอย่าง
ท่านเซียนชอบที่จะอยู่เงียบ ๆ ปล่อยเขาไปและชี้แนะให้เขา นี่ไม่ใช่บอกชัดเจนหรือว่า ให้เขาไปแก้ปัญหาเรื่องแดนสังสารวัฏ?
ด้วยการชี้นำของท่านเซียน การทะลวงผ่านอุปสรรคของขอบเขตย่อมมิใช่ปัญหา ซ้ำแล้วเขายังสามารถทำลายข้อจำกัดของแดนสังสารวัฏในร่างกายตัวเองได้อีกด้วย
เขาสามารถฟื้นร่างกายที่เป็นอิสระโดยไม่ต้องกลับไปแดนสังสารวัฏ
ซึ่งหากเขาไม่นำตัวผู้บรรลุสังสารวัฏกลับไปยังแดนสังสารวัฏ แดนสังสารวัฏจะไม่เลิกรา และจะต้องส่งคนมาที่นี่อีกครั้งเพื่อจับตัวผู้บรรลุสังสารวัฏเป็นแน่
ถึงเวลานั้นท่านเซียนย่อมต้องถูกรบกวน
ท้ายที่สุดแล้ว แดนสังสารวัฏก็ไม่รู้จักตัวตนของท่านเซียน
ดังนั้นท่านเซียนจึงปล่อยเขาไปและให้คำแนะนำเขา ซึ่งความหมายคือให้เขาไปแก้ปัญหาในด้านของแดนสังสารวัฏ
“แม้ข้าจะไม่รู้ว่าเหตุใดท่านเซียนจึงท่องในโลกมนุษย์ในฐานะคนธรรมดา แต่เห็นได้ชัดว่าประสบการณ์นี้มีความสำคัญมากต่อท่านเซียน ท่านเซียนไม่เต็มใจที่จะสละสถานะความเป็นคนธรรมดาของตนและไม่ต้องการลงมือเอง…”
จักรพรรดิหมากรุกหวงหลงเป็นคนช่างคิด
หากท่านเซียนต้องการเคลื่อนไหว แดนสังสารวัฏทั้งสิบก็ไม่ใช่คู่ต่อสู้ของท่านเซียน
แต่เห็นได้ชัดว่าท่านเซียนไม่แสดงท่าทีที่จะลงมือเอง…
“ข้าคิดมากไปแล้ว!”
จักรพรรดิหมากรุกหวงหลงยิ้มอย่างขมขื่นและกล่าวว่า “ในสายตาของข้า แดนสังสารวัฏนั้นทรงพลังและอยู่ยงคงกระพัน แต่ในสายตาของท่านเซียน แดนสังสารวัฏนั้นไม่นับเป็นอันใดเลย! ท่านเซียนจึงไม่สนใจจะลงมือเอง!”
นี่มันก็เหมือนกับฝูงมดที่คิดจะจัดการกับเหล่าเซียน แล้วเหล่าเซียนจะทำสงครามเพื่อจัดการกับกลุ่มมดปลวกหรือไม่?
ย่อมไม่แน่นอน!
นี่มันเสียฐานะท่านเซียนเกินไป!
“จะจัดการอย่างไรดี…”
เขาขมวดคิ้วอย่างใช้ความคิด
ต้นหลิวเตือนเขาไม่ให้เปิดเผยตัวตนของท่านเซียน
นอกจากนี้ แม้จะไม่ได้รับคำเตือนจากต้นหลิว เขาก็ไม่กล้าเปิดเผยตัวตนท่านเซียนตามอำเภอใจ
หากท่านเซียนต้องการเปิดเผยตัวตน ยามเขาส่งสิ่งมีชีวิตแดนสังสารวัฏทั้งสองตัวกลับมา เขาคงเปิดเผยตัวตนไปแล้ว
แต่ท่านเซียนไม่ได้ทำ
เห็นได้ชัดว่าท่านเซียนไม่ต้องการเปิดเผยตัวตน
ลองคิดดูเสีย ‘เซียน’ ตัวตนอันห่างไกลและสูงส่ง ซึ่งเป็นเป้าหมายร่วมกันของสิ่งมีชีวิตที่ฝึกตนทั้งหมด
หากตัวตนของท่านเซียนรั่วไหลออกไป แล้วสิ่งมีชีวิตจากสวรรค์และโลกทั้งหมดแห่แหนมาหาเขา ท่านเซียนจะยังอยู่อย่างสงบสุขได้อย่างไร…
“ข้าก็กำจัดเจ้าตำหนักทิ้ง แล้วขึ้นเป็นเจ้าตำหนักแทนสิ!”
จักรพรรดิหมากรุกหวงหลงตบหัวของตนเอง และในที่สุดก็เข้าใจว่าเหตุใดท่านเซียนถึงต้องการชี้แนะให้เขา!