มือปราบจ้าวรีบเข้ามาในห้องนอน เซี่ยอวิ๋นจิ่นกับลู่เจียวเห็นสีหน้าเขาไม่ค่อยดีนัก รีบถามว่า “เกิดเรื่องอะไรหรือ”
มือปราบจ้าวมองเซี่ยอวิ๋นจิ่นแล้วก็มองลู่เจียว กล่าวน้ำเสียงหนักใจว่า “เมื่อคืนรองนายอำเภอ หยางกับเผิงจู่ปู้ฆ่าตัวตายแล้ว”
เซี่ยอวิ๋นจิ่นขมวดคิ้วแน่น ลู่เจียวกล่าวว่า “พวกเขาฆ่าตัวตายก็เพื่อปกป้องครอบครัวกระมัง”
เบื้องหลังรองนายอำเภอหยางกับเผิงจู่ปู้เกี่ยวพันถึงพ่อค้าใหญ่อำเภอชิงเหอ แม้ว่าพ่อค้าสถานะต่ำต้อย แต่พ่อค้ามีเงิน มีเงินก็ใช้ผีโม่แป้งได้
นับประสาอันใดกับการที่แม้พวกเขาเปิดโปงพ่อค้าใหญ่พวกนั้นออกมา พ่อค้าใหญ่ก็ได้แต่ผลักไปให้ใครสักคนในตระกูลออกมารับหน้าไป ถึงตอนนั้นไม่แน่พ่อค้าใหญ่อาจเอาคืนกับภรรยาและลูกหรือญาติสนิทของพวกเขา ดังนั้นที่พวกเขาทำได้ก็มีแต่ฆ่าตัวตายเพื่อจบเรื่องเท่านั้น
มือปราบจ้าวเองคิดถึงเรื่องนี้แล้วก็เงียบกริบไม่กล่าวอันใด
แม้ว่ารองนายอำเภอหยางกับเผิงจู่ปู้จะละโมบเงินทอง แต่อย่างไรก็ทำงานกับเขามาหลายปี ตอนนี้ทั้งสองคนมาฆ่าตัวตาย ความจริงในใจเขาเองก็เสียใจอย่างบอกไม่ถูก
ก่อนหน้านี้เขาเคยถามพวกเขาว่าไยต้องทำเช่นนี้ ละโมบเงินทองแล้วไม่มีโอกาสได้ใช้ ได้แต่เก็บซ่อนไว้ ไยต้องละโมบด้วย
ตอนนั้นรองนายอำเภอหยางกับเผิงจู่ปู้ยิ้มขื่นตอบว่า คนจนเรา เงินก็คือชีวิต เห็นแล้วจะไม่หวั่นไหวได้อย่างไร ความจริงตอนแรกพวกเขาก็พยายามอดกลั้นไว้อย่างที่สุดแล้ว
แต่สู้พวกเขามอบให้ครั้งแล้วครั้งเล่าไม่ได้ ทุกครั้งเห็นก้อนเงินขาววาบวับคืนกลับไป ในใจเหมือนหลั่งโลหิต ต่อมาพวกเขาครุ่นคิดแล้ว รับสักครั้งก็ได้ ปรากฏใจกล้าขึ้นเรื่อยๆ ก้าวเดินถึงก้าวที่ไม่อาจย้อนคืนได้อีกแล้ว
“พวกเขาสองคนฆ่าตัวตาย เช่นนั้นพวกเราก็ทำอะไรพ่อค้าน่าแค้นใจพวกนั้นไม่ได้แล้ว”
เซี่ยอวิ๋นจิ่นกล่าวน้ำเสียงเยียบเย็นว่า “แค่ทำอะไรพวกเขาไม่ได้ชั่วคราวเท่านั้น ตอนนี้พวกเขาไม่มีแหคอยปกป้องแล้ว พวกเราต้องคิดหาทางจัดการพวกเขา ช้าเร็วย่อมต้องหาโอกาสได้”
มือปราบจ้าวพยักหน้า มองเซี่ยอวิ๋นจิ่นกล่าวว่า “สองวันนี้เจ้าก็พักรักษาตัวไปก่อน ส่วนข้าจะไปช่วยนายอำเภอหูจัดการที่ว่าการอำเภอ ก่อนหน้านี้ทุกคนในที่ว่าการอำเภอถูกรองนายอำเภอหยางกับเผิงจู่ปู้ซื้อตัวไปหมดแล้ว หลายคนล้วนเป็นคนวงในด้วย ก็รับเงินกันไม่ได้น้อยเลย ดังนั้นนายอำเภอกำลังตรวจสอบ ตรวจสอบไปถึงผู้ใดรับสินบนก็จะไม่ปล่อยไปแม้แต่คนเดียว”
เซี่ยอวิ๋นจิ่นพยักหน้าเล็กน้อย มือปราบจ้าวยังกล่าวว่า “อีกสองวัน หากไม่มีอะไรข้าก็จะไปตามสืบหาตัวเสิ่นซิ่ว ต้องหาตัวหญิงผู้นี้ออกมาให้ได้”
“ตกลง”
พอเซี่ยอวิ๋นจิ่นคิดถึงเรื่องเสิ่นซิ่วขึ้น ใบหน้าก็พลันดุดันอย่างบอกไม่ถูก
มือปราบจ้าวพูดต่ออีกสองสามคำว่าให้เซี่ยอวิ๋นจิ่นรักษาอาการบาดเจ็บดีๆ แล้วก็กลับไป
ในห้อง เซี่ยอวิ๋นจิ่นหันไปมองลู่เจียวกล่าวว่า “ตอนนี้เจ้าไปไหนมาไหนได้อิสระแล้ว ตอนนี้พ่อค้าในอำเภอชิงเหอจะไม่ลงมืออะไรง่ายๆ อีก หากไม่เหนือความคาดหมาย เกรงว่าพวกเขาคงหันมาสนใจเจ้าและข้าแทน พวกเขาอาจจะคิดมาดึงพวกเราไปสร้างแหความสัมพันธ์ใหม่”
“ตอนนี้ข้ารักษาอาการบาดเจ็บอยู่บ้าน พวกเขาไม่สะดวกมากล่อมข้าไปเป็นพวก ดังนั้นระยะนี้พวกเขาอาจจะจับจ้องที่เจ้า ตอนเจ้าออกไปก็ระวังหน่อย จะต้องพาหร่วนจู๋ไปด้วย”
“อืม ข้ารู้แล้ว”
ลู่เจียวพยักหน้ารับคำเสียงหนึ่ง ระยะนี้เพราะมีคนจ้องมองพวกเขา นางไม่กล้าไปไหนมาไหนเลย แม้แต่ที่ดินที่นางซื้อไว้พันหมู่ก็ไม่ได้ไปดู สามโรงผลิตก็ไม่ได้ไป
ตอนนี้พ่อค้าพวกนั้นไม่เคลื่อนไหว นางก็จะได้หาโอกาสไปดูที่ดินปลูกสมุนไพรและสามโรงผลิตเสียหน่อย
ขณะลู่เจียวกำลังคิดอยู่ นอกประตู ลู่กุ้ยก็รีบเดินเข้ามารายงานว่า “พี่เจียว สวีเหนียงจื่อกลับมาแล้ว”
ลู่เจียวพยักหน้าเล็กน้อย มองไปยังเซี่ยอวิ๋นจิ่นกล่าวว่า “ข้าไปต้อนรับสวีเหนียงจื่อสักครู่ จากนั้นก็จะไปดูที่ดินปลูกสมุนไพรกับนางหน่อย”
เซี่ยอวิ๋นจิ่นยิ้มแย้มกำชับลู่เจียวว่า “เจ้าอย่าลืมพาเฝิงจือกับหร่วนจู๋ไปด้วย”
ก่อนหน้านี้ลู่เจียวเคยเล่าให้เขาฟังว่าหร่วนจู๋ฝีมือร้ายกาจ นางพาหร่วนจู๋ไปด้วย เขาก็วางใจได้ในระดับหนึ่ง
ลู่เจียวพยักหน้า หันหลังเดินออกไป เซี่ยอวิ๋นจิ่นด้านหลังพลันเอ่ยเรียก “เจียวเจียว”
ลู่เจียวคิดว่าเขาเรียกนางเพราะมีเรื่องอะไร ก็ชะงักหันหน้าไปมอง เห็นผู้ชายบนเตียงทำสีหน้าจริงจังกล่าวว่า “ข้าจะอยู่บ้านพักฟื้นอย่างเชื่อฟัง ดังนั้นเจ้าอย่าได้เป็นห่วงข้า”
หน้าประตู ลู่เจียวอดถลึงตาใส่เซี่ยอวิ๋นจิ่นทีหนึ่งไม่ได้ ผู้ใดเป็นห่วงเจ้า ใครเป็นห่วงเจ้ากัน
แต่ลู่เจียวขี้เกียจจะพูดจามากความกับเจ้าหมอนี่ หันหลังออกไปทันที เซี่ยอวิ๋นจิ่นด้านหลังอดส่งเสียงหัวเราะเบาๆ ขึ้นไม่ได้
ตอนนี้เขาชอบหยอกเจียวเจียวเล่นมาก ทำเช่นนี้จะไม่ดีไหมนะ แต่เขาอดไม่ไหว
เห็นผู้หญิงที่ปกติสงบนิ่งถูกเขาหยอกจนแสดงท่าทางหลากหลาย เขาก็อดคิดอยากจะหยอกนางเล่นไม่ได้
ลู่เจียวพาเฝิงจือกับหร่วนจู๋ไปเรือนด้านหลัง ลู่กุ้ยพาสวีเหนียงจื่อกับจิ่นซิ่วบุตรสาวเข้ามาแล้ว
พวกนางเห็นลู่เจียวเข้ามาก็ รีบลุกขึ้นคำนับกล่าวว่า “เหนียงจื่อ ไม่เป็นอะไรใช่ไหม”
“ท่านน้าลู่ ไม่เป็นอะไรใช่ไหม”
ตระกูลสวีห่างจากอำเภอชิงเหอค่อนข้างไกล ดังนั้นไม่รู้การเคลื่อนไหวระยะนี้ของอำเภอชิงเหอแม้แต่น้อย จนกระทั่งเข้าอำเภอมา จึงได้ยินว่าระยะนี้อำเภอชิงเหอเกิดเรื่องขึ้นมากมาย รองนายอำเภอ หยางกับเผิงจู่ปู้ถึงกับเป็นคนเลว รับสินบนคนละแสนกว่าตำลึง
นางยังได้ยินว่าระยะนี้ตระกูลเซี่ยประสบเรื่องราวไม่น้อย ก่อนหน้านี้เอ้อร์เป่าก็ถูกคนชั่วจับตัวไป
ลู่เจียวได้ฟังความเป็นห่วงของสวีเหนียงจื่อก็ยิ้มกล่าวว่า “ตอนนี้ไม่เป็นไรแล้ว ทุกอย่างผ่านไปแล้ว”
สวีเหนียงจื่อพยักหน้า “ไม่เป็นไรก็ดีๆ”
สวีเหนียงจื่อกล่าวจบก็ชี้ไปที่ห่อผลผลิตพื้นบ้านสองห่อใหญ่ข้างกายอย่างรู้สึกเก้อเขิน กล่าวว่า “แม้รู้ว่าเหนียงจื่อมีหมดแล้ว แต่นี่คือน้ำใจเล็กน้อยจากข้า ระยะนี้ข้ากับจิ่นซิ่วอยู่บ้านตระกูลสวี ไม่มีอะไรก็ขึ้นเขาไปเก็บผักป่า ตากแห้งแล้วก็นำมาให้เหนียงจื่อ”
ลู่เจียวรีบยิ้มกล่าวว่า “เจ้าอย่าได้กล่าวเช่นนี้ ข้าชอบมากจริงๆ”
นางกล่าวจบมองไปยังเฝิงจือ กล่าวว่า “เอาผักป่าสองห่อใหญ่นี้ไปไว้ที่ห้องครัว บอกกับฮวาเสิ่นว่าวันนี้นำผักป่าสองอย่างออกมาทำกับข้าว”
“เจ้าค่ะ เหนียงจื่อ”
เฝิงจือหิ้วห่อผักป่าสองห่อใหญ่ไปส่งเรือนด้านหลังอย่างดีอกดีใจ
สวีเหนียงจื่อกับจิ่นซิ่วเห็นเองก็ดีใจมาก เดิมพวกนางยังเป็นห่วงว่าเหนียงจื่อจะรู้สึกไม่ดีหรือเหล่า
ตอนนี้ดูท่าพวกนางคิดมากไปแล้ว
ลู่เจียวหันไปมองสวีเหนียงจื่อกับจิ่นซิ่วกล่าวว่า “วันนี้ตอนเที่ยงพวกเจ้าสองคนก็อยู่กินข้าวด้วยกัน”
สวีเหนียงจื่อกลับส่ายหน้าปฏิเสธ “ก่อนหน้านี้เหนียงจื่อบอกว่าเชิญข้ามาช่วยท่านดูแลที่นาในโรงบ้าน พวกเราไปดูที่นากันก่อนดีไหม”
สวีเหนียงจื่อไม่อยากอยู่กินข้าวที่ตระกูลเซี่ย เพราะข้างบ้านคือบ้านตระกูลซู แม้ว่านางหย่ากับซูต้าไห่หย่าแล้ว แต่คิดถึงว่าข้างบ้านก็คือบ้านอดีตสามีนาง นางก็ยังรู้สึกอึดอัดอยู่ไม่น้อย
ลู่เจียวมองออกว่าสวีเหนียงจื่ออึดอัด ก็ไม่ฝืนใจนาง
เพียงแต่พอนางคิดจะลุกขึ้นไปหอยาเป่าเหอกับสวีเหนียงจื่อ นอกประตู ลู่กุ้ยยิ้มตาหยีวิ่งเข้ามารายงาน
“พี่เจียว มีคนมาจากหมู่บ้านตระกูลเซี่ย”
ลู่เจียวตกใจหันไปมองลู่กุ้ยถามว่า “ผู้ใดมา”
“พี่รองของพี่เขยมา บอกว่าจะถามเรื่องเลี้ยงปลิง ได้ยินว่าปลิงที่พวกเขาเลี้ยงระยะนี้ตายไปจำนวนหนึ่ง พี่รองเป็นห่วงว่าจะเกิดปัญหา ดังนั้นจึงได้มาหาพี่เจียวที่อำเภอชิงเหอด้วยตัวเอง จะถามว่าตรงไหนที่มีปัญหา”