บทที่ 192 ตี้หวงก็เอาชนะไม่ได้เช่นกัน ถูกทุบตีอีกครั้ง เขาอยากร้องไห้จริง ๆ!
บึ้ม บึ้ม บึ้ม!
เสียงระเบิดดังสนั่นหวั่นไหวขนาดใหญ่ ดุจการก่อพายุบนท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยดวงดาว พลังที่ไม่อาจจินตนาการได้กำลังรวมตัวกัน ซึ่งฉากนั้นน่าสยดสยองเป็นอย่างยิ่ง!
มันคือความก้าวหน้าอีกครั้งในขอบเขตมหาจักรพรรดิ!
ฉากเช่นนี้ช่างน่าสะพรึงกลัวจริง ๆ!
มหาเต๋าเส้นทางแล้วเส้นทางเล่าพากันปรากฏขึ้น โดยลอยอยู่เหนือศีรษะจักรพรรดิหมากรุกหวงหลง
ซึ่งมหาเต๋าเส้นทางหนึ่งสว่างไสวเป็นพิเศษ!
นี่คือเส้นทางหมากรุกที่จักรพรรดิหมากรุกหวงหลงฝึกฝน!
จะเห็นได้ว่ามีร่องรอยขนาดใหญ่และเล็กจำนวนมากบนหมากรุกนี้ ซึ่งสิ่งเหล่านี้คือร่องรอยที่ผู้ประสบความสำเร็จได้ทิ้งไว้บนหมากรุก!
บึ้ม!
ในเวลานี้เอง พลันมีเสียงแตกหักดังชัดออกมาจากร่างของจักรพรรดิหมากรุกหวงหลง เขาได้ทะลวงผ่านคอขวดของขอบเขตและมาถึงอีกขั้นของขอบเขตมหาจักรพรรดิแล้ว!
กลีบของมหาเต๋าตกลงมายังท้องฟ้านอกอาณาเขต และแสงมงคลทั้งหลายพร่างพราวไปทั่วท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยดวงดาว เพลงสดุดีของมหาเต๋าถูกบรรเลงดูไม่ธรรมดา!
จักรพรรดิหมากรุกหวงหลงลืมตาขึ้น แสงสีทองสองดวงก็พลันพุ่งออกมา และในชั่วพริบตา พวกมันก็ทะลุทะลวงไปยังดวงดาวที่ไม่รู้ว่าตั้งอยู่ไกลแค่ไหน!
บึ้ม!
ดวงดาวระเบิดและกลายเป็นเศษดาวร่วงหล่นลงมาทันที
“ช่างทรงพลังอะไรเช่นนี้…”
จักรพรรดิหมากรุกหวงหลงรู้สึกว่าร่างกายของเขาเต็มไปด้วยความแข็งแกร่งซึ่งห่างไกลเกินกว่าความแข็งแกร่งก่อนหน้านี้
ปัจจุบันเขาสามารถบดขยี้มหาจักรพรรดิให้ตายได้อย่างง่ายดาย!
“สามารถทลายข้อจำกัดในร่างกายได้แล้ว!”
ดวงตาของเขาเปล่งประกาย เขาเปลี่ยนพลังทั้งหมดในร่างกายและโจมตีข้อจำกัดที่เหลืออยู่ในร่างกายของเขาโดยพลังสังสารวัฏ
นี่เป็นข้อจำกัดที่เจ้าตำหนักกำหนดไว้กับเขา เพื่อที่จะควบคุมเขาได้สะดวก
โชคดีที่เจ้าตำหนักที่เขาอยู่นั้นไม่ได้แข็งแกร่งเกินไป
เขาได้กลายเป็นตี้หวงและมาถึงระดับเดียวกับเจ้าตำหนัก ภายใต้การโจมตีของพลังทั้งหมดในร่างกายของเขา ข้อจำกัดก็พังทลายลงอย่างสมบูรณ์!
ครั้นไม่มีข้อจำกัด เขาก็ได้รับอิสรภาพอย่างสมบูรณ์!
ตอนนี้จักรพรรดิหมากรุกหวงหลงสามารถไปที่ไหนก็ได้โดยไม่มีข้อจำกัดใด ๆ
เขาสามารถเลือกที่จะไม่กลับไปแดนสังสารวัฏได้
การย้อนกลับไปในดินแดนแห่งสังสารวัฏ แม้ว่าเขาจะฆ่าเจ้าตำหนักลงได้ เขาก็อาจไม่ปลอดภัย
หากเจ้าตำหนักคนอื่นค้นพบเขา ชะตากรรมของเขาจะต้องเลวร้ายมากอย่างแน่นอน
“ท่านเซียนชี้แนะเต๋าแห่งหมากรุกแก่ข้า ช่วยให้ข้าทะลวงผ่าน ซ้ำยังให้ความสามารถในการทำลายข้อจำกัดในร่างกาย แล้วข้าจะผิดต่อท่านเซียนได้อย่างไร”
จักรพรรดิหมากรุกหวงหลงพึมพำ
เขาเต็มใจที่จะเสี่ยงอยู่ในแดนสังสารวัฏเพื่อท่านเซียน
“ไปได้!”
เขาก้าวไปข้างหน้าเพื่อเข้าสู่เส้นทางสังสารวัฏและกลับสู่แดนสังสารวัฏ
ทว่าเมื่อก้าวไปได้ครึ่งทาง เขาก็หยุดเท้ากะทันหัน
“ไม่สิ หลังจากไปครั้งนี้ ข้าไม่รู้ว่าตัวเองจะได้กลับมาอีกเมื่อไหร่ และข้าอาจจะกลับมาไม่ได้ด้วยซ้ำ! ให้ตาย ข้าขอแก้แค้นก่อนเถอะ!”
เขากัดฟัน ขณะคิดถึงอดีตที่ต้นหลิวทำกับเขา
จักรพรรดิหมากรุกหวงหลงตัดสินใจทุบตีต้นหลิวก่อนที่จะจากไป ทั้งยังต้องการตัดกิ่งของต้นหลิวออกทั้งหมด!
“ตอนนี้ข้าเป็นตี้หวงแล้ว ดังนั้นข้าก็น่าจะเอาชนะพวกเขาได้!”
จักรพรรดิหมากรุกหวงหลงให้กำลังใจตัวเองในใจ
จากนั้นเขาก็ปรากฏตัวขึ้นที่นอกเมืองอีกครั้ง กลับมาหาต้นหลิวและก้อนหินโดยเฉพาะ
“เจ้ากลับมาทำอันใดที่นี่?” ต้นหลิวถาม
“อ้อ ไม่มีอะไร ข้าแค่จะมาบอกลาพวกเจ้า”
จักรพรรดิหมากรุกหวงหลงกล่าวด้วยรอยยิ้ม ซึ่งภายนอกมองไม่เห็นความผิดปกติ
ทว่าจู่ ๆ เขาก็เอากระดานจตุรงค์มังกรอำพันออกมาและปิดกั้นพื้นที่นี้
เขารู้ว่าท่านเซียนอยู่ในเมือง จึงไม่กล้าปล่อยให้ความผันผวนที่นี่แพร่กระจายไปยังเมืองชิงซานและรบกวนท่านเซียนได้
“เจ้าพยายามจะทำอะไร?”
“แค่บอกลา เหตุใดเจ้าต้องปิดกั้นพื้นที่ด้วย?”
ต้นหลิวกับก้อนหินเอ่ยถาม
“ไม่มีอะไร ข้าแค่คิดว่ากิ่งต้นหลิวของเจ้ายุ่งเหยิงเกินไป ข้าเลยอยากจะตัดแต่งมันให้เจ้า และรูปร่างของหินของเจ้าก็ไม่ดีนัก ข้าจะขัดมันให้เจ้าเอง”
จักรพรรดิหมากรุกหวงหลงกล่าวด้วยรอยยิ้มที่เต็มไปด้วยความมั่นใจ
เขาเป็นตี้หวงแล้ว ดังนั้นเขาจึงไม่กลัว!
เขาได้สร้างเกมหมากรุกไว้บนกระดานจตุรงค์มังกรอำพันแล้ว ร่างทั้งร่างเคลื่อนไหวทันที โดยดึงพลังหมากรุกอันทรงพลังออกมา และโจมตีไปที่ต้นหลิวกับก้อนหินอย่างรวดเร็ว!
“ไสหัวไป!”
ต้นหลิวพูดด้วยความโกรธ และกิ่งต้นหลิวก็ฟาดออกมาทันที
ท่าทีของจักรพรรดิหมากรุกหวงหลงพลันเปลี่ยนไป
พลังของต้นหลิวนับว่าน่ากลัวอย่างแท้จริง ต้องเรียกว่าน่าสะพรึงกลัวจนเกินไป พลังหมากรุกถูกทำลายทันที แล้วกิ่งต้นหลิวก็พุ่งเข้าใส่เขาโดยตรง!
ทันใดนั้น ราวกับว่าเขากลายเป็นแสง ร่างถูกฟาดกระเด็นออกไปนอกอาณาเขตทันที ก่อนจะกระทบเข้ากับดวงดาว!
โครม!
ดวงดาวพลันระเบิดออก ร่างกายของจักรพรรดิหมากรุกหวงหลงแทบจะแตกสลาย เขา…เกือบตาย!
“เจ้านี่มันจะแข็งแกร่งเกินไปแล้วนะ!”
จักรพรรดิหมากรุกหวงหลงกำลังสาปแช่งในใจอย่างรู้สึกอึดอัด
เขาหวังแก้แค้น กลับจบลงด้วยการขโมยข้าวสารไม่สำเร็จ มิหนำซ้ำยังถูกทุบตีอีก!
หากรู้เร็วกว่านี้ ก็ไม่ไปหรอก!
ตนช่างน่าสังเวชเหลือเกิน!
ยามนี้เขาตัดความคิดเรื่องการแก้แค้นออกไปโดยสิ้นเชิง ก้าวเข้าไปในเส้นทางสังสารวัฏอย่างซื่อสัตย์และกลับไปยังแดนสังสารวัฏ
…
ณ ภาคกลาง
“ไม่พบสิ่งผิดปกติ”
“ทุกอย่างในพรรคจื่อเสียเหมือนเดิม!”
ยอดฝีมือที่ไปพรรคจื่อเสียเพื่อตรวจสอบ หลังจากการสืบสวนแล้ว พวกเขาก็กลับไปที่กองกำลังของตนเพื่อรายงาน
พวกเขาได้ทำการตรวจสอบอย่างละเอียด แต่ไม่พบสิ่งผิดปกติ
“ไม่แตกต่าง?”
“แล้วเหตุใดพวกเขาถึงได้ยอมแพ้เล่า?”
หลังจากได้ยินรายงาน ผู้นำของกองกำลังโลกที่ซ่อนอยู่จำนวนมากก็พากันขมวดคิ้ว
ไม่มีอะไรผิดปกติ แต่กองกำลังทั้งแปดกลับยอมแพ้อย่างนั้นหรือ?
แปลกยิ่งนัก!
ทว่าแม้พวกเขาจะไม่สามารถเข้าใจได้ แต่พวกเขาก็จะไม่ยอมแพ้ในการต่อสู้เพื่ออัจฉริยะสะท้านฟ้า
นี่คืออัจฉริยะสะท้านฟ้าเชียวนะ หากได้รับมาแล้วก็ย่อมฝึกฝนได้ง่าย หากเด็กเหล่านั้นเติบโตก่อนที่ภัยพิบัติจะเกิดขึ้น พวกเขาย่อมมีโอกาสสูงที่จะรอดพ้นจากภัยพิบัติด้วยพรสวรรค์ของพวกเขา!
ทั้งหมดตกลงกันทันที ก่อนจะเริ่มการแข่งขันอีกครั้งเพื่อตัดสินว่าผู้ใดจะมีคุณสมบัติรับอัจฉริยะสะท้านฟ้าไป
มันเป็นไปไม่ได้ที่พวกเขาจะแห่ไปชิงตัวคน ด้วยจะทำให้เกิดความโกลาหล และมีโอกาสมากที่พวกเขาทั้งหมดจะถูกเปิดโปง
ในตอนท้ายของการแข่งขัน แปดกลุ่มใหม่ก็ปรากฏตัวขึ้น ซึ่งพวกเขาต่างมีคุณสมบัติในการรับอัจฉริยะสะท้านฟ้าไป
“พวกเจ้าไปได้ ควบคุมพรรคจื่อเสียก่อน และนำพวกเขาเหล่านั้นกลับมาเมื่อถึงเวลา”
“จำไว้ว่าอย่าได้เปิดเผยตัว!”
ยอดฝีมือถูกส่งออกไปโดยผู้นำของกองกำลังทั้งแปด
พวกเขายังไม่กล้าพาอัจฉริยะสะท้านฟ้าทั้งแปดกลับมาทันที ด้วยจะทำให้เกิดความวุ่นวายและอาจเปิดโปงพวกเขาได้
ชายฉกรรจ์แปดคนพากันมุ่งหน้าไปทางแดนบูรพาทิศ
…
แดนบูรพาทิศ
พรรคจื่อเสีย
“ไม่มีการเคลื่อนไหวมาหลายวันแล้ว พวกเขากลัวจนไม่กล้ามากันอีกงั้นหรือ?”
อันหลานเสวี่ยเอียงศีรษะของนาง ท่าทางนั้นดูบริสุทธิ์และน่ารักยิ่ง
นางมีภาพทิวทัศน์หิมะที่ท่านเซียนมอบให้ จึงรอคอยให้คนเหล่านั้นมา เพื่อที่พวกเขาจะได้มอบสมบัติให้กับนาง
“ผู้คนที่มาที่นี่ล้วนตายตกกันหมด ทั้งอาวุธจักรพรรดิศักดิ์สิทธิ์ก็ถูกชิงมา พวกเขาจะไม่หวาดกลัวได้หรือ? หากพวกเขายังกล้ากลับมาอีกจริง ๆ ข้าก็ชื่นชมพวกเขาแล้ว!”
บรรพชนของพรรคจื่อเสียกล่าว
“ช่างน่าเสียดายนัก หาไม่แล้วพวกเราจะได้เก็บเกี่ยวสมบัติมากขึ้น!”
เขายังตั้งหน้าตั้งตารอคนเหล่านั้นกลับมาอยู่
ด้วยวิธีนี้พวกเขาสามารถได้รับสมบัติมากขึ้น
ทว่าตามการคาดเดาของเขา คนพวกนั้นไม่น่าจะกลับมาอีก
ท้ายที่สุดก็มีคนตายซ้ำแล้วซ้ำเล่า ทั้งยังเสียอาวุธจักรพรรดิศักดิ์สิทธิ์ไปแปดชิ้น หากเป็นผู้ใดก็ต้องกลัวทั้งนั้น!
ในเวลานี้เอง พลันมีร่างแปดร่างมาที่พรรคจื่อเสียอย่างเงียบ ๆ และปรากฏตัวต่อหน้าอันหลานเสวี่ยกับบรรพชนของพรรคจื่อเสีย
“พวกเจ้าสองคน ออกไปคุยกันหน่อยได้หรือไม่?”
ร่างหนึ่งกล่าว