ตอนที่ 139 ราชวงศ์เทพขนนกครองอำนาจสูงสุด กลับสู่เมือง!
เมื่อเห็นว่ากู่จวินเทียนที่อยู่ในระดับเทพสวรรค์พ่ายแพ้กับกระบี่ของหนิงฝาน สำนักจวินเทียนทั้งหมดตกอยู่ในความเงียบงัน
ทุกคน… ตกตะลึง! เกินกว่าจะรับไหว! และไม่อาจเชื่อสายตา…
สีหน้าของทุกคนล้วนเผยความสับสนงุนงง
“เจ้าคือผู้ใดกัน?!”
“เปิดเผยตัวตนของเจ้าออกมา!!!”
ใบหน้าของกู่จวินเทียนเผยความหวาดหวั่น เวลานี้เขาสูญเสียทั้งอำนาจและความสง่างามที่สั่งสมมาเนิ่นนานหมดสิ้นแล้ว
ทั้งร่างชุ่มโชกด้วยโลหิต อีกทั้งยังบาดเจ็บสาหัส เนื้อหนังขาดวิ่น จิตวิญญาณในร่างกายก็ยังไหลเวียนอย่างเอื่อยเฉื่อย
เมื่อนึกถึงความยิ่งใหญ่ที่สั่งสมมาตลอดแปดพันปี เขากลับกลายมาอยู่ในสภาพเช่นนี้ได้อย่างไร!
ชิ้ง!
ร่างของหนิงฝานสว่างวาบ ทันใดนั้น คมกระบี่เย็นยะเยือกก็พาดวางอยู่บนลำคอของอีกฝ่าย
“ดูเหมือนเจ้ากำลังจะตาย… อย่างนั้นแล้วข้าจะให้เจ้าได้ตายอย่างสงบ!”
พรึ่บ!
สิ้นเสียง แสงศักดิ์สิทธิ์สว่างวาบจากร่างของหนิงฝานเผยร่างที่แท้จริงด้านในออกมา
ชายหนุ่มมีรูปร่างสูงโปร่ง สวมเสื้อคลุมธรรมดา ใบหน้าอ่อนเยาว์และสง่างามยิ่งกว่าบุตรสวรรค์เจี้ยนเหยี่ยน!
โอ้!
เมื่อหนิงฝานเปิดเผยร่างที่แท้จริงแล้ว ทุกคนยกเว้นผู้พิทักษ์ขาวดำยิ่งตื่นตระหนกมากกว่าเดิม!
ในใจพวกเขาคิดว่าหนิงฝานที่สามารถเอาชนะกู่จวินเทียนระดับเทพสวรรค์ด้วยกระบวนท่าเดียวจะต้องมีอายุไม่น้อยกว่าหนึ่งพันปีเป็นแน่
ทว่าร่างที่แท้จริงของหนิงฝานนั้นอายุน้อยยิ่งกว่าบุตรสวรรค์เจี้ยนเหยี่ยนด้วยซ้ำ อายุของเขาไม่น่าจะเกินร้อยปี!
ชายหนุ่มที่อายุเพียงร้อยปีนี้เข้าสู่ระดับเทพสวรรค์ในตำนานได้… นับว่าน่าหวาดหวั่นยิ่งเสียกว่าสัตว์ประหลาด!
“เจ้า!”
ดวงตาของกู่จวินเทียนแทบจะถลนออกมา บุคคลที่ชนะเขาด้วยกระบี่เดียวนี้เป็นเพียงชายหนุ่มที่อายุไม่ถึงร้อยปี
“กู่จวินเทียน… จดจำเอาไว้ บุคคลที่ตัดศีรษะของเจ้าคือจักรพรรดิแห่งแคว้นรกร้าง… หนิงฝาน!”
พรึ่บ!
สิ้นเสียง กระบี่ก็ฟันลง ศีรษะของกู่จวินเทียนก็ลอยขึ้นไปในอากาศทันที
เวลานี้ผู้ปกครองสูงสุดระดับเทพสวรรค์ กู่จวินเทียน ตายแล้ว!
ตู้ม!
หลังจากกู่จวินเทียนตายโดยสมบูรณ์ สำนักจวินเทียนทั้งหมดตกอยู่ในความโกลาหล
“อ๊าก! เจ้าสำนักตายแล้ว!”
“เจ้าสำนักระดับเทพสวรรค์ในตำนาน ผู้สง่างามและน่าสะพรึงกลัวถูกสังหารอย่างง่ายดายถึงเพียงนี้”
“จักรพรรดิแห่งแคว้นรกร้าง… หนิงฝาน! เขามาจากแคว้นรกร้างที่ห่างไกลที่สุดในสี่แคว้นรอบนอก!”
“เมื่อใดกันที่แคว้นรกร้างมีเทพยุทธ์ผู้แข็งแกร่งเช่นนี้มาจุติ!”
“หนิงฝาน! เขาคิดจะทำสิ่งใดกันแน่!”
“…”
ศิษย์นับหมื่นของสำนักจวินเทียน และกองกำลังจำนวนมากจากสี่แคว้นรอบนอกต่างส่งเสียงอย่างอึกทึก
ตู้ม!
ตู้ม!
ขณะนี้เหนือท้องฟ้าด้านบน
หนิงฝานยังคงกระชับกระบี่ในมือข้างหนึ่ง และอีกข้างหนึ่งถือศีรษะของกู่จวินเทียนเอาไว้ อีกทั้งทั่วร่างยังมีรัศมีระดับเทพสวรรค์พลุ่งพล่าน จากภาพนี้ชายคนนี้ไม่ต่างจากเทพแห่งการฆ่าฟันสักนิด
“ข้า!”
เวลานี้ หนิงฝานตะโกนไปโดยรอบพร้อมกับเผยแววตาที่เย็นชา
ทันทีที่กล่าวออกมา เสียงรอบข้างที่เคยวุ่นวายจึงเงียบงันโดยพลัน ทุกคนหันมองหนิงฝานโดยไม่รู้ตัว
“ราชวงศ์เทพขนนกแห่งแคว้นรกร้าง หนิงฝาน!”
“วันนี้ด้วยศีรษะของกู่จวินเทียน ผู้นำสำนักจวินเทียน… ข้าขอประกาศให้พวกเจ้ารู้ว่า นับแต่นี้ไป สี่แคว้นรอบนอกจะถูกปกครองโดยแคว้นรกร้างของข้า ภายใต้ราชวงศ์เทพขนนก!”
จากนั้นก็บังเกิดเสียงท้องฟ้าคำรามลั่น
เสียงฟ้าร้องคำรามราวจะพังทลายลง ดังกึกก้องในหูของทุกคนจนเวียนหัว
ทุกคนที่ได้ยินสั่นสะท้านอย่างพร้อมเพียง ต่างหวาดหวั่นอย่างไม่อาจควบคุมได้
ไม่มีใครคาดคิดมาก่อนว่าหนิงฝานจะมาจากราชวงศ์เทพขนนกในแคว้นรกร้าง แล้วยังสามารถตัดศีรษะของกู่จวินเทียนเพื่อให้กองกำลังทั้งหมดในสี่แคว้นรอบนอกยอมศิโรราบ
“เอาล่ะ มอบวิญญาณมาให้ข้าพร้อมกับยอมจำนนเสีย!”
หนิงฝานกล่าวอีกครั้ง ใบหน้าของกองกำลังทั้งหมดบิดเบี้ยวอย่างอัปลักษณ์
การยอมจำนนโดยการมอบวิญญาณนั่นหมายความว่า ชีวิตของพวกเขาจะตกอยู่ในมือของผู้อื่นโดยสมบูรณ์ สิ่งนี้ยากที่จะยอมรับ
แต่หากไม่ยอมรับ…
หนิงฝานที่สามารถสังหารกู่จวินเทียนระดับเทพสวรรค์ได้… หากพวกเขากล้าขัดขืน ผู้ใดจะสามารถก้าวออกจากสำนักจวินเทียนนี้ได้!
ยอม?
หรือไม่ยอม?
สถานที่แห่งนี้ตกอยู่ในความเงียบงันชั่วครู่หนึ่ง
“สำนักจวินเทียนของข้ายินดีที่จะยอมจำนน!”
ทันใดนั้น ผู้พิทักษ์ขาวดำในฝูงชนคุกเข่าลงและตะโกนออกมา จากนั้นวิญญาณปฐมภูมิของทั้งสองถูกเปิดเผยออกมาทันที
วิญญาณปฐมภูมิของพวกเขาอยู่ในมือของหนิงฝานนานแล้ว ดังนั้นสิ่งที่พวกเขากำลังทำตอนนี้คือการร่วมมือกับหนิงฝานเพื่อปราบปรามกองกำลังทั้งหมด
หากแต่เป็นจริงงั้นหรือ…
เมื่อใครบางคนเห็นภาพนี้แล้ว ผู้ฝึกยุทธ์หลายคนของสำนักจวินเทียนรีบคุกเข่าลงทันที
“ข้า จากสำนักจวินเทียนแห่งแคว้นเอกภพ ยอมจำนน!”
“ข้า จากสำนักจวินเทียนแห่งแคว้นโลกา ยอมจำนน!”
…
“ข้า ปรมาจารย์จากสำนักจวินเทียน ยอมจำนน!”
ท้ายที่สุด สำนักจวินเทียนย่อยทั้งหมด หรือแม้แต่ผู้นำสำนักย่อยก็เลือกที่จะยินยอมและมอบวิญญาณปฐมภูมิให้อย่างว่าง่าย
ท้ายที่สุดแล้ว แม้แต่ผู้นำสำนักจวินเทียนยังตายตก
แล้วผู้ใดจะเป็นคู่ต่อสู้ของหนิงฝานได้?
เขาไม่ใช่คู่ต่อสู้ที่ใครก็สามารถต่อต้านได้ ทางเลือกจึงมีเพียงหนทางเดียวคือ ยอมจำนน!
เมื่อเห็นว่าแม้แต่สำนักจวินเทียนที่ได้รับขนานนามว่าเป็นกองกำลังอันดับหนึ่งในสี่แคว้นรอบนอกยอมจำนนแล้ว กองกำลังอื่น ๆ จึงรีบคุกเข่าลง
“สำนักกระบี่สวรรค์ของข้ายอมจำนนแล้ว!”
“พรรคภูตผียอมจำนนแล้ว!”
“วิหารเทพโอสถยอมจำนนแล้ว!”
“อาณาจักรปีศาจโบราณยอมจำนนแล้ว!”
“พันธมิตรสวรรค์ยอมจำนนแล้ว!”
“พรรคเทพปีศาจยอมจำนนแล้ว!”
“สำนักตะวันวิถีม่วงยอมจำนนแล้ว!”
“ทัพอสูรโลหิตมังกรยอมจำนนแล้ว!”
“…”
กองกำลังทรงพลังที่สุดในสี่แคว้นรอบนอกเลือกที่จะยอมจำนนทั้งหมด
วิญญาณปฐมภูมิมากมายล่องลอยขึ้นสู่ท้องฟ้าส่องสว่างพร่างพราว
“ยอดเยี่ยม!”
เมื่อเห็นเช่นนี้แล้ว หนิงฝานพยักหน้ารับอย่างพึงพอใจ ก่อนจะโบกมือเพื่อจัดการเก็บวิญญาณปฐมภูมิทั้งหมดกลับคืน
การปราบกองกำลังเหล่านี้เท่ากับว่าเขาปราบปรามสี่แคว้นรอบนอกเสร็จสิ้นทั้งหมด
ในอนาคต แม้ว่าพลังจิตวิญญาณฟ้าดินในแคว้นรกร้างจะดึงดูดความสนใจของสี่แคว้นรอบนอก ก็คงไม่มีผู้ใดกล้าหาญจะต่อต้านราชวงศ์เทพขนนกอีกแน่นอน!
“จักรพรรดิหนิงฝาน ขอให้ท่านอายุยาวนับหมื่นปี ครองโลกาและสวรรค์จวบจนฟ้าดินสลาย!”
เสียงตะโกนแซ่ซ้องดังขึ้น และสุดยอดงานประชันจวินเทียนก็ได้สิ้นสุดลงแล้ว
จากนี้ไป นามของหนิงฝานจะดังระบือลือไกลไปทั่วทั้งสี่แคว้นรอบนอก
นี่คือผู้ปกครองสูงสุดคนใหม่!
และกองกำลังของแคว้นรกร้างนามว่า ราชวงศ์เทพขนนก ก็เข้ามาแทนที่สำนักจวินเทียนในฐานะกองกำลังอันดับหนึ่งในสี่แคว้นรอบนอก!
…
หลังจากปราบกองกำลังที่ทรงพลังที่สุดในสี่แคว้นรอบนอกแล้ว หนิงฝานตัดสินใจกลับสู่แคว้นรกร้างทันที!
ก่อนที่จะจากไป เขาหันมองกองกำลังทั้งหมดอย่างครุ่นคิดชั่วครู่ก่อนจะกล่าวว่า “ในเมื่อพวกเจ้ายอมจำนนต่อข้าแล้ว ข้าจะพาพวกเจ้ากลับสู่ราชวงศ์เทพขนนกด้วย เพื่อไม่ให้เกิดความวุ่นวายหากราชวงศ์เทพขนนกต้องการจะเรียกใช้พวกเจ้า!”
“รับคำสั่งองค์จักรพรรดิ!”
เมื่อได้ยินแล้ว ทุกคนในที่แห่งนี้พยักหน้ารับทันที
หนิงฝานพาสำนักจวินเทียน พันธมิตรสรรค์ พรรคเทพปีศาจ ทัพอสูรโลหิตมังกร และกองกำลังอื่น ๆ กลับสู่ราชวงศ์เทพขนนก!
ด้วยการสร้างค่ายอาคมเคลื่อนย้ายข้ามแคว้นของสำนักจวินเทียน ทุกคนจึงสามารถเดินทางข้ามแคว้นเอกภพ และแคว้นอุทกได้อย่างง่ายดาย ในไม่ช้าจึงมาถึงแคว้นรกร้าง
เมื่อทุกคนเข้าสู่แคว้นรกร้าง พวกเขาเห็นพลังจิตวิญญาณฟ้าดินแห่งสวรรค์ล่องลอยอยู่เหนือน่านฟ้าสูงหนึ่งหมื่นจั้ง มันเปรียบเสมือนดวงอาทิตย์อีกดวง!
“โอ้สวรรค์! นี่คือพลังจิตวิญญาณระดับสุริยันในตำนาน!”
“พลังจิตวิญญาณฟ้าดินในแคว้นรกร้างกำลังก่อตัว และยังคงเป็นระดับที่ไม่เคยปรากฏขึ้นมาก่อน!”
“โอ้! พลังจิตวิญญาณระดับสุริยัน! มีข่าวลือว่าแม้แต่ดินแดนแห่งเซียนในแคว้นเซียนยังเป็นเพียงรัศมีระดับจันทราเต็มดวง เวลานี้หากรัศมีระดับสุริยันฟื้นขึ้นมาอย่างเต็มที่ พลังจิตวิญญาณฟ้าดินในแคว้นรกร้างนี้จะยิ่งใหญ่กว่าแคว้นเซียนหลายเท่า!”
“ไม่แปลกใจเลยว่า เหตุใดจักรพรรดิหนิงฝานจึงต้องการรวบรวมสี่แคว้นรอบนอก หากไม่รวบรวมกองกำลังไว้ก่อนหน้า หลังจากมีข่าวลือรั่วไหลออกไป กองกำลังของทั้งสี่แคว้นรอบนอกจะต้องบุกเข้ายึดครองพื้นที่ของแคว้นรกร้างเป็นแน่!”
“…”
ขณะนี้ทุกคนจึงเข้าใจว่า เหตุใดหนิงฝานจึงมุ่งหน้าสู่สำนักจวินเทียนเพื่อเอาศีรษะของกู่จวินเทียน และยึดครองตำแหน่งผู้ปกครองสี่แคว้นรอบนอกแทน!
เพราะสุดท้ายแล้วพลังจิตวิญญาณฟ้าดินนี้เป็นสิ่งล่อลวงชั้นดีที่ไม่ว่าใครก็ไม่อาจต่อต้าน!
หนิงฝานไม่คิดสนใจความประหลาดใจของพวกเขาเหล่านั้น เขาพาคนทั้งหมดตรงสู่เมืองเทพขนนกทันที
เมื่อทุกคนย่างก้าวเข้าสู่สามพันดินแดน เสียงกลองรบดังสนั่นขึ้นจากทิศทางของเมืองเทพขนนก
“หืม? มีผู้บุกโจมตีเมืองเทพขนนกอย่างนั้นหรือ!”
เมื่อเห็นเช่นนี้แล้ว หนิงฝานขมวดคิ้วแน่น ก่อนที่ร่างกายของเขาจะสว่างวาบกลายเป็นลำแสงมุ่งสู่ราชวงศ์เทพขนนก