ร้อยรักปักดวงใจ – ตอนที่ 196 ความทุกข์ยาก(ต้น)

ตอนที่ 196 ความทุกข์ยาก(ต้น)

เมื่อ​ส่ง​นาย​หญิง​เฉียว​ออก​ไป​แล้ว​ ​สือ​อี​เหนียง​ก็ได้​กลับ​เข้าไป​ใน​เรือน​ชั้นใน​ ​ก็​เห็น​สวี​ลิ่ง​อี๋​ที่​กำลัง​นอน​อิง​หมอน​บน​เตียง​เตา​ริม​หน้าต่าง​ด้วย​อาการ​เหม่อลอย

นาง​ยิ้ม​พร้อมกับ​เดิน​เข้าไป​ริน​ชา​ให้​สวี​ลิ่ง​อี๋

สวี​ลิ่ง​อี๋​ได้ยิน​เสียง​เคลื่อนไหว​จึง​ค่อย​ได้สติ​ขึ้น​มา​ ​หันไป​ถาม​นาง​ว่า​ ​“​เจ้า​ว่า​ส่ง​เด็ก​ไป​ไว้​ที่​บ้านเกิด​ให้​เซียง​อี้​ช่วยดูแล​ดี​หรือไม่​”

สือ​อี​เหนียง​พลัน​เห็นภาพ​หญิง​ร่าง​ท้วม​วัยกลางคน​ที่​ดู​สุขุม​นิสัย​ดี​คน​หนึ่ง​ปรากฏ​ขึ้น​มา​ใน​หัว

“​นาง​เคย​ปรนนิบัติ​รับใช้​ท่าน​แม่​มาก​่อน​”​ ​สือ​อี​เหนียง​พูด​ขึ้น​ด้วย​รอยยิ้ม​ ​“​ท่าน​โหว​เอง​ก็​สนิท​คุ้นเคย​ ​คงจะ​รู้​นิสัยใจคอ​ของ​นาง​เป็น​อย่างดี​ ​ในเมื่อ​รู้สึก​ว่า​เหมาะสม​ ​ก็​คงจะ​ไม่มี​อะไร​ผิดพลาด​หรอก​เจ้าค่ะ​”

สวี​ลิ่ง​อี๋​หยัด​กาย​ลุกขึ้น​ ​“​ไป​ ​เรา​ไปหา​ท่าน​แม่​ด้วยกัน​…​เรื่อง​นี้​ไม่ว่า​อย่างไร​ก็​ต้อง​บอกกล่าว​กับ​ผู้หลักผู้ใหญ่​อยู่ดี​”

สือ​อี​เหนียง​รู้สึก​ว่า​เรื่อง​นี้​ควร​ให้​สวี​ลิ่ง​อี๋​เป็น​คน​ไป​ปรึกษาหารือ​กับ​ไท่ฮู​หยิน​คนเดียว​ดีกว่า​ ​ตน​เข้าไป​อยู่​ใน​เหตุการณ์​ด้วย​ ​หาก​ผู้หลักผู้ใหญ่​ทำตัว​ไม่​ถูก​ขึ้น​มา​ ​ก็​พลอย​แต่​จะ​ไป​สร้าง​ความลำบาก​ใจ​ให้​กับ​ผู้อื่น​เสียเปล่า

“​ท่าน​โหว​ไม่​ไปดู​เด็ก​เสียหน่อย​หรือ​เจ้า​คะ​”​ ​นาง​พูด​ขึ้น​ ​“​ได้ยิน​มา​ว่า​ไม่ยอม​ทานข้าว​ ​ข้า​เอง​ยัง​กังวลใจ​อยู่​เลย​”

สวี​ลิ่ง​อี๋​ลังเล​อยู่​ครู่หนึ่ง​ ​“​ช่างเถิด​!​ ​อย่างไร​เสียอีก​ไม่​กี่​วัน​ก็​ต้อง​ส่ง​เขา​ออก​ไป​แล้ว​”

ราวกับว่า​กลัว​การ​ใกล้ชิด​สนิทสนม​อย่างไร​อย่างนั้น

เหมือน​ฟ้าผ่า​กลาง​หิน​ ​สือ​อี​เหนียง​จู่ๆ​ ​ก็​เหมือนกับ​จะเข้า​ใจ​เรื่อง​บางอย่าง​ขึ้น​มา

มนุษย์​เรา​ล้วน​อาศัย​การ​ใกล้ชิด​สนิทสนม​ถึง​เกิด​เป็นความ​รู้สึก​ขึ้น​มา​ได้

ถึงแม้ว่า​เขา​จะ​เป็นห่วง​สถานการณ์​ของ​เด็ก​คน​นี้​ ​แต่​ก็​แค่​เรียก​หู่​พั่ว​มาถาม​ไถ่​ไม่​กี่​คำ​โดยที่​ไม่​ไปดู​ด้วยตัวเอง​เลย​ ​เห็นได้ชัด​ว่า​เขา​กลัว​จะ​สนิทสนม​กับ​เด็ก​จน​กลายเป็น​ความสัมพันธ์​ขึ้น​มา​…

นาง​อด​ไม่ได้​ที่จะ​ทอดถอนใจ​เบา​ๆ

สวี​ลิ่ง​อี๋​กลับ​รู้สึก​ว่า​สือ​อี​เหนียง​นั้น​ผิดหวัง​ใน​ตัว​เขา​ ​เขา​ลังเลใจ​อยู่​ครู่หนึ่ง​แล้วจึง​พูด​ขึ้น​ว่า​ ​“​มิเช่นนั้น​ ​เจ้า​ไปดู​เอง​เสียหน่อย​ดี​หรือไม่​ ​ส่วน​ข้า​ก็​ไปหา​ท่าน​แม่​ ​ไป​พูด​เรื่อง​นี้​กับ​ท่าน​”

เดิมที​สือ​อี​เหนียง​ก็​ไม่ได้​อยาก​ไป​อยู่​แล้ว​ ​แน่นอน​ว่านาง​จะ​ต้อง​ตอบ​ตกลง​อยู่​แล้ว

เมื่อ​ส่ง​สวี​ลิ่ง​อี๋​ออก​ไป​เรียบร้อย​ ​นาง​ก็​ลังเล​ว่า​จะ​ไปดู​เด็กดี​หรือไม่​ ​แต่​จู่ๆ​ ​หู่​พั่ว​ก็​วิ่ง​เข้ามา

สีหน้า​ของ​นาง​ซีดเผือด​ ​ย่อ​ตัว​ทำความเคารพ​สือ​อี​เหนียง​ด้วย​ความเร่ง​รีบ​ ​จากนั้น​ก็​ส่งสายตา​ให้​กับ​สือ​อี​เหนียง​ ​“ฮู​หยิน​ ​พ่อบ้าน​ไป๋​ให้​ข้ามา​หา​ท่าน​เจ้าค่ะ​”

พ่อบ้าน​ไป๋​ให้​มาหา​…​ความคิด​แรก​ที่​ผุด​ขึ้น​ใน​หัว​ของ​สือ​อี​เหนียง​ก็​คือ​ ​เกิดเรื่อง​ขึ้นกับ​เด็ก​คน​นั้น​!

นาง​รีบ​พา​หู่​พั่ว​เข้าไป​ใน​ห้อง​ชั้นใน​ทันที

หู่​พั่ว​รอต​่อ​ไม่ไหว​จึง​รีบ​พูด​ขึ้น​ว่า​ ​“​คุณชาย​น้อย​เฟิ​่ง​ชิง​หาย​ไป​แล้ว​เจ้าค่ะ​!​”

ใน​หัว​ของ​สือ​อี​เหนียง​ขาวโพลน​ไป​หมด​ ​หัวใจ​เต้น​รัว​ไม่​เป็นจังหวะ​ ​“​พูด​ให้​ชัดเจน​หน่อย​ ​หาย​ไป​แล้ว​หมายความว่า​อย่างไร​!​”​ ​ใบหน้า​ของ​นาง​ขาวซีด​ราวกับ​กระดาษ​ก็​ไม่​ปาน

หู่​พั่ว​พูด​ขึ้นเสียง​ต่ำ​ว่า​ ​“​บ่าว​กำลัง​เอา​ของ​ไป​ที่นั่น​ ​คุณชาย​น้อย​เฟิ​่ง​ชิง​ก็​หลบ​อยู่​ใน​มุม​เตียง​ ​ไม่ว่า​จะ​เกลี้ยกล่อม​อย่างไร​เขา​ก็​ไม่ยอม​ทาน​อะไร​เลย​…​จากนั้น​พี่​ตง​ชิง​ก็​ออก​ความคิดเห็น​ว่า​ลอง​วาง​ของกิน​ไว้​บน​เตียง​เตา​ ​เดี๋ยว​เขา​ก็​คงจะ​มาทาน​เอง​ ​พวก​บ่าว​ก็​เลย​ทำตาม​คำสั่ง​ของ​พี่​ตง​ชิง​ ​วาง​ของกิน​ไว้​บน​เตียง​เตา​ ​ผ่าน​ไปราว​ครึ่ง​ชั่ว​ยาม​ ​ทั้ง​คุณชาย​น้อย​เฟิ​่ง​ชิง​และ​ของกิน​ก็​หาย​ไป​แล้ว​เจ้าค่ะ​”

สือ​อี​เหนียง​ถอนหายใจ​ออกมา​ ​“​เด็ก​ไป​แอบ​กิน​อยู่​ใน​กองข้าว​ของ​ตรงไหน​สักที​่​กระมัง​”

หู่​พั่ว​รีบ​ส่ายหน้า​ ​สีหน้า​ของ​นาง​เต็มไปด้วย​ความ​ตื่นตระหนก​ ​“​พ่อบ้าน​ไป๋​ ​หลิน​ปัว​และ​จ้าว​อิ่ง​ก็​มาช​่ว​ยกัน​หา​แล้ว​ ​แต่​ก็​หาไม่​เจอ​เลย​เจ้าค่ะ​”

จู่ๆ​ ​สือ​อี​เหนียง​ก็​นึกถึง​คนซื้อ​เด็ก​ที่​หายตัว​ไป​และ​ยัง​หาไม่​เจอ​จนถึง​ตอนนี้​…

นาง​รู้สึก​ว่า​เรื่อง​นี้​คงจะ​บานปลาย​แล้ว

“​เจ้า​ไป​ที่​เรือน​ของ​ไท่ฮู​หยิน​ ​แจ้ง​เรื่อง​นี้​กับ​ท่าน​โหว​โดยที่​ไม่​ให้​ผู้อื่น​รู้เรื่อง​”​ ​สือ​อี​เหนียง​สีหน้า​เคร่งขรึม​ ​แววตา​เต็มไปด้วย​ความสุขุม​ ​พลอย​ทำให้​หู่​พั่ว​รู้สึก​อุ่นใจ​ไป​ด้วย​ ​“​ข้า​จะ​ไป​ที่​เรือน​ปั้น​เย​่ว​์​พั่น​”

ถึงแม้ว่า​หู่​พั่ว​จะ​ไม่รู้​เรื่อง​นี้​เท่า​สือ​อี​เหนียง​ ​แต่​เด็ก​อายุ​สาม​ขวบ​คน​หนึ่ง​หายตัว​ไป​จาก​เรือน​ปั้น​เย​่ว​์​พั่น​ ​ไม่ว่า​จะ​คิด​อย่างไร​ก็​น่าแปลกใจ​เหลือเกิน

นาง​จึง​รีบ​พยักหน้า​รับรู้

“​สูด​ลมหายใจ​แล้ว​ตั้งสติ​ ​อย่า​ให้​ผู้อื่น​จับ​พิรุธ​ได้​”​ ​สือ​อี​เหนียง​กำชับ​หู่​พั่ว​ ​ส่วน​นาง​เอง​ก็ได้​สูด​ลมหายใจ​เข้า​เต็ม​ปอด

ในเมื่อ​เรื่อง​มัน​เกิดขึ้น​แล้ว​ ​คิดมาก​ไป​ก็​ไม่​เกิด​ประโยชน์​ ​สิ่ง​เดียว​ที่จะ​ทำได้​ใน​ตอนนี้​ก็​คือ​รีบ​คิด​หาวิ​ธี​จัดการ​รับมือ​กับ​ปัญหา

เมื่อ​คิด​เช่นนี้​ ​จิตใจ​พลัน​สงบ​ลง​ในทันที

สือ​อี​เหนียง​เดิน​ออก​ไป​พร้อมกับ​หู่​พั่ว​ด้วย​สีหน้า​ท่าที​ที่​ปกติ​ ​จากนั้น​ก็​ให้​สาวใช้​ไป​ตาม​จู๋​เซียง​มา

“​พวก​นาง​กำลัง​เก็บ​ข้าวของ​อยู่​ที่​เรือน​ปั้น​เย​่ว​์​พั่น​ ​พวกเรา​ก็​ไปดู​ด้วย​เสียหน่อย​”​ ​สือ​อี​เหนียง​พูด​ขึ้นกับ​จู๋​เซียง​ด้วย​รอยยิ้ม

จู๋​เซียง​เอง​ไม่ได้​เอะใจ​อะไร​ ​นาง​ยิ้ม​พร้อมกับ​ตอบกลับ​ไป​ว่า​ ​“​บ่าว​อยาก​ไปดู​อยู่​ตลอด​ ฮู​หยิน​เอง​ก็​อยาก​ไปดู​หรือ​เจ้า​คะ​”

“​ใช่​สิ​!​”​ ​สือ​อี​เหนียง​พูดคุย​กับ​นาง​พลาง​พานาง​และ​หู่​พั่ว​ไป​ยัง​สวนดอกไม้​ ​หู่​พั่ว​แยกจาก​สือ​อี​เหนียง​ที่​ประตู​สวนดอกไม้​ ​จากนั้น​ก็​เดิน​เรียบ​ผนัง​ทางเดิน​ที่​มีหน้า​ต่าง​ตรง​ไป​ยัง​เรือน​ของ​ไท่ฮู​หยิน​ ​ส่วน​สือ​อี​เหนียง​ก็​พา​จู๋​เซียง​เดินผ่าน​ประตู​ศาลา​ปี้​อี​ขึ้นไป​บน​ระเบียง​ทางเดิน​หิน​กรวด​ทาง​ทิศตะวันออก​ ​ผ่าน​ศาลา​ชุน​เหยี​่​ยน​ถิง​ ​จากนั้น​ก็​เดิน​เรียบ​ไป​ตาม​ทางเดิน​ที่​แคบ​เล็ก​ข้าง​เนินเขา

จู๋​เซียง​เก็บ​สีหน้า​ไม่​แสดงออก​แต่อย่างใด​ ​เมื่อ​เห็น​ว่า​ทั้งสอง​ข้างทาง​มี​กิ่ง​หนาม​ยื่น​ออกมา​เป็นพักๆ​ ​นาง​จึง​เดิน​นำหน้า​สือ​อี​เหนียง​ไป​ก่อน​ ​ไม่นาน​ก็​เห็น​คลอง​น้ำ​ที่​ค่อนข้าง​กว้าง​หนึ่ง​สาย​ ​และ​เหนือ​คลอง​ก็​มี​กระดาน​ไม้​สีแดง​พาด​อยู่​ด้วย

นี่​ก็​คงจะ​เป็น​สะพาน​ทางเข้า​หลัง​สวนดอกไม้​ที่​ลี่ว​์​อวิ​๋​นพูด​ถึง​ ​ทางเดียว​ที่สามา​รถ​เข้าไป​ใน​เรือน​ปั้น​เย​่ว​์​พั่น​ได้

นาง​หันไป​ประคอง​สือ​อี​เหนียง​ ​“ฮู​หยิน​ ​ระวัง​เจ้าค่ะ​”

สือ​อี​เหนียง​พยักหน้า​เบา​ๆ​ ​จากนั้น​ก็​มอง​สังเกต​เรือน​ที่​มุง​ด้วย​หญ้าคา​ทั้ง​สาม​หลัง​ใต้​เนินเขา​ข้างหน้า​นั่น

รอบ​ๆ​ ​ถูก​ล้อมรอบ​ไป​ด้วย​ต้นไม้​สูงใหญ่​ ​กำแพง​รั้ว​ที่​ทำ​ขึ้น​จาก​ดินเหนียว​ผสม​ฟางข้าว​ ​ด้านใน​แบ่ง​สัดส่วน​ชัดเจน​ ​บ่อน้ำ​บาดาล​ก่อ​จาก​ก้อนหิน​ ​กว้าน​น้ำ​ที่​ทำ​ขึ้น​จาก​ไม้​ต้น​หลิว​ ​มี​ครบ​ไป​เสีย​ทุกอย่าง​ ​หาก​เลี้ยง​ห่าน​ ​เป็ด​หรือ​ไก่​เสียหน่อย​ ​ก็​คงจะ​หน้าตา​เหมือนลาน​สวน​ที่​บ้านนอก​ไม่มี​ผิด

ทั้งสอง​รีบ​เดิน​ไป​ถึง​ประตูรั้ว​ ​ขณะที่​กำลังจะ​ขาน​เรียก​นั้น​ ​ก็​มี​เด็กหนุ่ม​อายุ​ราว​สิบ​หกสิบ​เจ็ด​ปี​ออกมา​พอดี​ ​เมื่อ​เขา​เห็น​สือ​อี​เหนียง​ก็ดี​ใจ​เป็นอย่างมาก​ ​“ฮู​หยิน​ ​ท่าน​มา​แล้ว​หรือ​ขอรับ​”

เป็น​จ้าว​อิ่ง​…

สือ​อี​เหนียง​พยักหน้า​เล็กน้อย

จ้าว​อิ่ง​รีบ​สาวเท้า​มา​เปิด​ประตูรั้ว​ ​“​กลัว​ว่า​คุณชาย​น้อย​เฟิ​่ง​ชิง​จะ​หลบ​อยู่​ตรงไหน​สักที​่​ ​ก็​เลย​ลงกลอน​ประตูรั้ว​ไว้​ขอรับ​”​ ​เขา​รีบ​อธิบาย

“​ระมัดระวัง​และ​รอบคอบ​ไว้​ดีกว่า​เสมอ​!​”​ ​สือ​อี​เหนียง​ตอบรับ​พลาง​เดิน​เข้าไป​ใน​เรือน​ปั้น​เย​่ว​์​พั่น​พร้อม​จ้าว​อิ่ง

ด้านใน​ค่อนข้าง​แตกต่าง​จาก​ด้านนอก​ ​หลังคา​มุง​หญ้าคา​และ​ปูพื้น​ด้วย​หิน​กรวด​ ​หน้าต่าง​ทำ​ด้วย​กระจก​ ​ใน​ตู้​ชั้น​วาง​มี​เครื่องเรือน​ที่​ทำ​จาก​ไม้​หวง​ลี่​วาง​ประดับ​อยู่

พ่อบ้าน​ไป๋​และ​หลิน​ปัว​รีบ​ออกมา​คารวะ​ทันที

สือ​อี​เหนียง​พูด​ขึ้น​ด้วย​สีหน้า​ที่​เคร่งขรึม​ว่า​ ​“​ค้นหา​ที่ใด​ไป​บ้าง​แล้ว​”

หว่าง​คิ้ว​ของ​นาง​มี​ความ​น่าเกรงขาม​ ​พลอย​ทำให้​พ่อบ้าน​ไป๋​และ​หลิน​ปัว​ชะงัก​และ​รู้สึก​อึ้ง​ไป​ตาม​ๆ​ ​กัน​ ​พ่อบ้าน​ไป๋​จึง​ค่อย​พูด​ขึ้น​ว่า​ ​“​ค้นหา​หมด​แล้ว​ ​ตอนนี้​กำลัง​เตรียม​จะ​ไป​ค้นหา​ด้านนอก​ของ​เรือน​ขอรับ​”​ ​เพิ่ง​พูด​จบ​ ​ตง​ชิง​และ​ปินจ​วี​๋​ก็​เดิน​ออกมา​จาก​ห้อง​ทาง​ทิศตะวันออก​ด้วย​สีหน้า​ท่าที​ที่​รู้สึก​ผิด​ ​ดวงตา​ของ​ทั้งสอง​บวม​และ​แดง​ราวกับ​ผล​ท้อ

“ฮู​หยิน​ ​เป็นความ​ผิด​ของ​พวก​บ่าว​เอง​”​ ​ทั้งสอง​คุกเข่า​ลง​อย่าง​พร้อมเพรียง​โดย​ไม่ได้​นัดหมาย​ ​“​ที่​ไม่ได้​รับผิดชอบ​สิ่ง​ที่​ท่าน​มอบหมาย​ให้​ดีเจ​้า​ค่ะ​”

“​ลุกขึ้น​เถิด​!​”​ ​ตอนนี้​มานั​่ง​ถามหา​ความผิด​จะ​มีประโยชน์​อัน​ใด​ ​สิ่ง​สำคัญ​ก็​คือ​ทุกคน​ควรจะ​ร่วม​ด้วย​ช่วยกัน​หา​คน​ให้​เจอ​ถึง​จะ​ถูก

จู๋​เซียง​เดิน​เข้าไป​ช่วย​ประคอง​ทั้งสอง​ให้​ลุกขึ้น

สือ​อี​เหนียง​ให้​พ่อบ้าน​ไป๋​ ​หลิน​ปัว​และ​จ้าว​อิ่ง​พา​เดิน​สำรวจ​พื้นที่​ใน​เรือน

ห้อง​ทาง​ทิศตะวันออก​คือ​ห้อง​หนังสือ​ ​ล้วน​เป็น​ชั้น​หนังสือ​ทั้งหมด​ ​บน​เตียง​เตา​ใหญ่​ริม​หน้าต่าง​มีโต​๊ะ​สี่เหลี่ยม​วาง​ตั้งอยู่​ ​บน​โต๊ะ​มีตำ​รา​ ​‘​หัวใจ​พระ​สูตร​’​ ​เล่ม​หนึ่ง​วาง​อยู่​ ​ส่วน​ทาง​ทิศตะวันตก​เป็น​หอนอน​ ​เตียง​ใน​ห้อง​เป็น​เตียง​ไม้​หนา​นมู​่​ลายฉลุ​ที่​มี​หลังคา​แบบ​หก​เสา​ ​แขวน​ด้วย​ม่าน​เตียง​ผ้าไหม​ทอกึ​่ง​ใหม่​กึ่ง​เก่า​สีน้ำเงิน​หิน​ ​ที่นอน​สีม่วง​น้ำเงิน​ ​ผ้านวม​สีน้ำเงิน​สด​ ​ที่​ข้าง​เตียง​เป็น​ฉาก​บานพับ​ที่​ทำ​จาก​ไม้​กฤษณา​ ​ประตู​สี่​บานพับ​ตั้ง​สูงตระหง่าน​ ​ที่​ผนังห้อง​มี​กระบี่​หลง​เฉวียน​แขวน​อยู่​ ​ที่​ริม​หน้าต่าง​มีพิณ​กู่​ฉิน​วาง​ตั้งอยู่​ด้วย

“​เด็ก​หาย​ไป​จาก​ตรงไหน​”​ ​สือ​อี​เหนียง​ถาม​ขึ้น

ตง​ชิง​พูด​ขึ้นเสียง​พึมพำ​ว่า​ ​“​หาย​ตรง​หอนอน​เจ้าค่ะ​”

สือ​อี​เหนียง​กวาดตา​มอง​อย่างละเอียดถี่ถ้วน​ ​แต่​ไม่​พบ​กับ​ประตู​หลัง​เลย​ ​จึง​หันไป​ถาม​จ้าว​อิ่ง​ว่า​ ​“​นอกจาก​ประตูรั้ว​ที่​เรา​เดิน​เข้ามา​เมื่อครู่นี้​ ​ยัง​มีทาง​อื่น​ที่สามา​รถ​ออก​ไป​ได้​อีก​หรือไม่​”

จ้าว​อิ่ง​นำทาง​สือ​อี​เหนียง​เดิน​ออกจาก​ประตู​ไป​ ​ขณะที่​กำลัง​ยืน​บน​ขั้นบันได​ ​จ้าว​อิ่ง​ก็ได้​ชี้​ไป​ทางเดิน​หิน​กรวด​ที่อยู่​ข้าง​เนินเขา​ ​“​ออกจาก​ตรงนี้​จะ​ไป​ทะลุ​ช่อง​กำแพง​ของ​เรือน​นอก​ ​พ้น​จาก​ช่อง​กำแพง​มุ่ง​ตรง​ไป​ทาง​ทิศตะวันตก​ ​ก็​จะ​เจอ​ประตู​ข้าง​ ​พ้น​จาก​ประตู​ข้าง​ก็​จะ​เป็น​เรือน​นอก​ ​แต่​ปกติ​แล้ว​ประตู​บาน​นี้​จะ​ลงกลอน​ไว้​ตลอด​ ​มี​แต่​บ่าว​และ​หลิน​ปัว​ที่​มี​กุญแจ​”​ ​พูด​จบ​ก็​ล้วง​เอา​กุญแจทอง​แดง​ออกมา​ทั้ง​พวง​ ​“​นี่​เป็น​ของ​บ่าว​ขอรับ​”

หลิน​ปัว​ที่อยู่​ข้างๆ​ ​เมื่อ​ได้ยิน​แล้วก็​รีบ​นำ​กุญแจทอง​แดง​ที่​ห้อย​อยู่​ตรง​คอ​ขึ้น​มา​ให้​สือ​อี​เหนียง​ดู​ ​“​ส่วน​นี่​เป็น​ของ​บ่าว​ขอรับ​”

“​เมื่อครู่นี้​พวก​บ่าว​ก็ได้​ไปดู​แล้ว​ ​กลอน​ประตู​ข้าง​ยังอยู่​เหมือนเดิม​ไม่ได้​ขยับ​ ​ตำหนิ​ที่​เคย​ทิ้ง​ไว้​เมื่อ​ครั้ง​ที่แล้ว​ก็​ยังอยู่​ขอรับ​”

สือ​อี​เหนียง​พยักหน้า​รับรู้​ ​จากนั้น​ก็​เดิน​เข้าไป​ใน​ห้อง​พร้อม​หลิน​ปัว​ ​จ้าว​อิ่ง​ ​พ่อบ้าน​ไป๋​ ​จู๋​เซียง​และ​คนอื่นๆ

สือ​อี​เหนียง​หันไป​สั่ง​กับ​จู๋​เซียง​ว่า​ ​“​เจ้า​ไป​นำ​พู่กัน​ ​หมึก​และ​ก็​กระดาษ​มา​หน่อย​ ​จด​สถานที่​ทั้งหมด​ ​ที่​ที่​ทุกคน​เคย​ค้นหา​ลง​บน​กระดาษ​ ​ดู​ว่า​มีต​รง​ไหน​ที่​ตกหล่น​หรือไม่​ ​จากนั้น​ก็​แบ่ง​เป็น​จุด​ๆ​ ​แยกย้าย​กัน​ค้นหา​ใหม่​ ​เด็ก​ไม่ใช่​วัตถุ​สิ่งของ​ ​แต่​ขยับ​และ​วิ่ง​เป็น​”​ ​จากนั้น​ก็​หันไป​หา​พ่อบ้าน​ไป๋​ ​“​เรื่อง​นี้​คง​ต้อง​รบกวน​พ่อบ้าน​ไป๋​ช่วย​ตรวจสอบ​ ​บอกว่า​ของ​ที่​เรือน​ปั้น​เย​่ว​์​พั่น​หาย​ ​ขอให้​พ่อบ้าน​ไป๋​ไป​ช่วย​สอบถาม​ ​นอกจาก​เรา​ไม่​กี่​คน​นี้​แล้ว​ ​ยัง​มี​คนอื่น​เข้ามา​ใน​เรือน​ปั้น​เย​่ว​์​พั่น​หรือไม่​ ​อีก​ครึ่ง​ชั่ว​ยาม​ท่าน​ค่อย​กลับมา​บอก​ข้า​ ​หาก​ข้า​เข้าใจ​สถานการณ์​ชัดเจน​ ​ก็​จะ​ได้​วางแผน​และ​จัดการ​ได้​ง่าย​ขึ้น​”

พ่อบ้าน​ไป๋​เห็น​สือ​อี​เหนียง​พูดจา​เสียง​แผ่วเบา​มาโดยตลอด​ ​แต่​พอล​งมือ​ทำ​อะไร​ขึ้น​มาก​ลับ​มีระบบ​ระเบียบ​เป็น​ขั้น​เป็น​ตอน​ ​พูดจา​ฉะฉาน​ชัดเจน​ ​แม้ว่า​จะ​เป็นตัว​เขา​ ​ก็​คงจะ​ทำได้​เพียงแค่​จัดการ​วางแผน​อย่างนี้​ไป​ก่อน​ ​พลัน​นึก​ไป​ถึง​ท่าน​โหว​ที่​ย้าย​ข้าวของเครื่องใช้​ประจำวัน​ไป​ที่​เรือน​หลัก​จน​หมด​…​จึง​โค้ง​ตัว​พร้อมกับ​ขานตอบ​ ​“​ขอรับ​”​ ​จากนั้น​ก็​ไป​ตรวจสอบ​ที่พัก​ของ​เหล่า​บรรดา​ผู้ดูแล​ทันที

จู๋​เซียง​รีบ​ไปริน​ชาร้อน​มา​ให้​สือ​อี​เหนียง​ก่อน​เป็นอัน​ดับ​แรก​ ​จากนั้น​ก็​ไปรวม​ตัว​กับ​ปินจ​วี​๋​ ​ตง​ชิง​ ​หลิน​ปัว​และ​จ้าว​อิ่ง​ ​จด​พื้นที่​ที่​ได้​ทำการ​ค้นหา​ไป​แล้ว​ลง​บน​กระดาษ

“​ใต้​เตียง​ ​หลัง​ม่าน​เตียง​ ​หลังฉาก​บานพับ​ ​ใน​ตู้​ทรง​สูง​ ​ใต้โต๊ะ​ทำงาน​…​”

ดูเหมือนว่า​ที่​ที่​พอ​จะ​หา​ได้​ก็​หา​จน​ครบ​แล้ว

สือ​อี​เหนียง​ถาม​จ้าว​อิ่ง​ว่า​ ​“​ใคร​รับผิดชอบ​ห้อง​ทิศตะวันออก​ ​ใคร​รับผิดชอบ​ห้อง​ทิศตะวันตก​ ​แล้ว​ใคร​รับผิดชอบ​ห้องโถง​”

จ้าว​อิ่ง​ตอบกลับ​ว่า​ ​“​แม่นาง​ตง​ชิง​และ​แม่นาง​ปินจ​วี​๋​รับผิดชอบ​ห้อง​ทิศตะวันตก​ ​บ่าว​และ​หลิน​ปัว​รับผิดชอบ​ห้อง​ทิศตะวันออก​ ​แม่นาง​หู่​พั่ว​และ​พ่อบ้าน​ไป๋​รับผิดชอบ​ห้องโถง​ขอรับ​”

“​ดี​ ​ตอนนี้​ให้​ตง​ชิง​และ​จ้าว​อิ่ง​รับผิดชอบ​ห้องโถง​ ​ปินจ​วี​๋​และ​จู๋​เซียง​รับผิดชอบ​ห้อง​ทิศตะวันออก​ ​ส่วน​หลิน​ปัว​รับผิดชอบ​ห้อง​ทิศตะวันตก​ ​ทุกคน​ออก​ไป​ช่วยกัน​ค้นหา​อีก​รอบ​”

ทั้ง​หก​ขานรับ​อย่าง​พร้อมเพรียง​ ​ค้นหา​ทั้ง​สาม​ห้อง​ใหม่​อีก​รอบ​ ​แต่​ก็​ยังคง​หาไม่​เจอ​เหมือนเดิม

ภายใต้​การ​ดูแล​รับผิดชอบ​ของ​คน​เข้มงวด​เช่น​พ่อบ้าน​ไป๋​ก็​ยัง​ไม่​เจอ​อะไร​เลย​ ​จึง​เป็นไปไม่ได้​ว่า​ตัวเอง​ออกหน้า​แล้ว​จะ​มี​อะไร​เปลี่ยนแปลง​ ​สือ​อี​เหนียง​คาดการณ์​ไว้​ตั้งแต่แรก​ ​เพียงแต่ว่า​เรื่อง​นี้​สำคัญ​หนักหนา​ ​หาก​ตน​ไม่​ลงมือ​ค้นหา​เอง​สัก​รอบ​ก็​จะ​ไม่​วางใจ

ตอนนี้​ดูแล​้ว​คงจะ​ต้อง​รอ​ข่าวคราว​จาก​พ่อบ้าน​ไป๋​เท่านั้น​แล้ว

ทุกคน​ต่าง​พากัน​ท้อ​และ​ถอดใจ​กัน​หมด​ ​โดยเฉพาะ​ตง​ชิง​และ​ปินจ​วี​๋​ ​ราวกับ​มะเขือ​ที่​โดน​ปกคลุม​ด้วย​เกล็ด​น้ำแข็ง​ก็​ไม่​ปาน​…​ห่อเหี่ยว​ไป​เสีย​หมด

เพราะ​ใน​ตอนแรก​ ​ตง​ชิง​เป็น​คน​ออก​ความคิดเห็น​ ​ปินจ​วี​๋​เป็น​คน​เออออ​เห็นด้วย​ ​หาก​จะ​ลำดับ​ซักถาม​ความผิด​ ​พวก​นาง​ก็​คือ​คนร้าย​ที่​ทำความ​ผิด

สือ​อี​เหนียง​ยิ้ม​ขึ้น​อย่าง​ปลอบโยน​ ​พลาง​พูด​กับ​ทุกคน​ว่า​ ​“​นั่งลง​พักผ่อน​ก่อน​เถิด​!​ ​ยุ่ง​วุ่นวาย​มาค​รึ​่​งค​่อ​นวัน​ ​ทุกคน​คงจะ​เหนื่อย​กัน​แล้ว​”​ ​จากนั้น​ก็​หันไป​สั่ง​จู๋​เซียง​ให้​ริน​น้ำชา​สัก​ถ้วย​ให้​กับ​ทุกคน​ ​“​จะ​ได้​รู้สึก​สดชื่น​ขึ้น​บ้าง​ ​แล้ว​พวกเรา​ค่อย​ไป​ค้นหา​ต่อ​”

ไม่มีใคร​อยาก​ให้​เกิดเรื่อง​เช่นนี้​ขึ้น​ ​ควรจะ​ยิ่ง​ต้อง​สุขุม​ใจเย็น​ ​เวลานี้​ไม่​ควร​มานั​่ง​หา​ผู้รับผิดชอบ​ก่อน​ ​มัน​จะ​พลอย​ทำให้​ทุกคน​เสียกำลังใจ​ ​ประเดี๋ยว​ยัง​ต้องตาม​หา​คน​ ​มิฉะนั้น​ทุกคน​จะ​พากั​นก​ลัว​การรับผิด​ชอบ​ ​ไม่มี​ใจ​จะ​สร้าง​ผลงาน​ ​ขอ​แค่​ไม่มี​ส่วน​รับผิดชอบ​เป็น​พอ​ ​แน่นอน​ว่า​คงจะ​ไม่​ตั้งอกตั้งใจ​พยายาม​อย่างเต็มที่​เป็นแน่

จู๋​เซียง​ริน​น้ำชา​อย่าง​คล่องแคล่ว​ว่องไว

นอกจาก​ตง​ชิง​และ​ปินจ​วี​๋​ที่​สีหน้า​ค่อนข้าง​ย่ำแย่​ ​สีหน้า​ของ​คนอื่นๆ​ ​ดู​ผ่อนคลาย​ลง​บ้าง​แล้ว

แต่​ใน​หัว​ของ​สือ​อี​เหนียง​กลับ​ไม่​หยุด​ครุ่นคิด

นาง​รู้สึก​ว่า​หาก​ถูก​คนอื่น​ลักพาตัว​ไป​ ​เช่นนั้น​คนที​่​มา​ลักพาตัว​ก็​ไม่​ควร​สร้าง​ความลำบาก​โดย​การนำ​อาหาร​ไป​ด้วย

แต่​ก็​ค้นหา​จน​ครบ​ทุกที่​หมด​แล้ว​ ​หาก​ไม่​ถูก​ลักพาตัว​ไป​ ​จะ​ลอยหาย​ไป​ใน​อากาศ​ได้​หรือ​อย่างไร​กัน

เมื่อ​ความคิด​เช่นนี้​แล่น​ผ่าน​ใน​หัว​ ​นาง​ก็​อด​ไม่ได้​ที่จะ​แหงนหน้า​ขึ้นไป​มอง​บน​หลังคา

อาจ​เป็น​เพราะ​ต้องการ​ความเรียบง่าย​แบบ​เรือน​หญ้าคา​ ​เรือน​ปั้น​เย​่ว​์​พั่น​จึง​ไม่ได้​ทำ​ฝ้า​เพดาน​ ​เพียงแค่​ทาสี​ดำ​เงา​ลง​บน​เสา​ที่​โผล่​พ้น​ออก​ไป​ด้านนอก​เท่านั้น

“​หลิน​ปัว​ ​จ้าว​อิ่ง​ ​พวก​เจ้า​ตาม​ข้ามา​!​”

ทั้งสอง​รีบ​วาง​ถ้วย​ชาลง​ ​จากนั้น​ก็​รีบ​เดินตาม​สือ​อี​เหนียง​ไป​ยัง​ห้อง​ทิศตะวันตก​ของ​หอนอ​นข​อง​สวี​ลิ่ง​อี๋

“​พวก​เจ้า​ลอง​ปีน​ขึ้นไป​ดู​”​ ​สือ​อี​เหนียง​ชี้​ไป​ที่​ด้านบน​ของ​เตียง​ไม้​หนา​นมู​่​หัว​เตียงลาย​ฉลุ​ที่​มี​เสา​หก​ต้น

ทั้งสอง​อึ้ง​ไป​ชั่วขณะ​ ​และ​ไม่ได้​พูด​สิ่งใด​ออกมา

หลิน​ปัว​รีบ​ยก​เก้าอี้​ไม้​มา​อย่างรวดเร็ว​ ​จ้าว​อิ่ง​ก็​ปีน​ขึ้นไป​ยืน​บน​เก้าอี้​ ​จากนั้น​ก็​กอด​เสา​เขย่ง​เท้า​มอง​ไป​ยัง​ด้านบน​ของ​เตียง

“ฮู​หยิน​!​”​ ​เขา​รีบ​หันหน้า​มา​พลาง​แสดง​สีหน้า​ดีอกดีใจ​ ​“​คุณชาย​น้อย​เฟิ​่ง​ชิง​อยู่​ด้านบน​ขอรับ​”

ร้อยรักปักดวงใจ

ร้อยรักปักดวงใจ

Status: Ongoing

เมื่อจวนสกุลหลัว มีภรรยาเอกหนึ่งคนและอนุภรรยาอีกหกคน จึงตามมาด้วยพี่น้องต่างมารดามากมาย

หลัวหยวนเหนียง บุตรีคนโตจากนายหญิงใหญ่ ได้แต่งเป็นภรรยาเอกของ สวีลิ่งอี๋ ที่มีบรรดาศักดิ์เป็นถึงหย่งผิงโหว แม่ทัพใหญ่

ทว่า ช่างโชคร้ายที่หลัวหยวนเหนียงล้มป่วนหนักและรู้ดีว่าใกล้ถึงวาระสุดท้าย นางจึงวางแผนการใหญ่กับมารดา

นั่นคือ การเลือกหนึ่งในหญิงสาวพี่น้องสกุลหลัวที่ยังไม่ได้ออกเรือนมาคอยดูแล จุนเกอ บุตรชายสุดที่รักเพียงคนเดียว และ...

คอยรักษาอำนาจของสกุลหลัวไว้ในฐานะภรรยาเอก โดยการแต่งงานกับหย่งผิงโหวเพื่อเป็นภรรยาตัวแทน!

สุดท้าย ผู้ถูกเลือกนั้นกลับกลายเป็นบุตรีของอนุภรรยา คุณหนูสิบเอ็ดผู้รักความสงบอย่าง สืออีเหนียง

แม้ไม่อาจหนีพ้นชะตากรรมที่มีผู้กำหนดมาให้ มีแต่ต้องเผชิญกับความวุ่นวายตรงหน้าต่อไป

ทักษะการปักผ้า ไหวพริบที่ติดตัวมา และเสน่ห์สุขุมดั่งน้ำนิ่ง อาจนำไปสู่กระแสน้ำพัดพาเหนือใครจะคาดเดา!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท