ตอนที่ 141 ปัสสาวะราด ความสงบคืนสู่เทพขนนก
“กองกำลังอันดับหนึ่งแห่งสี่แคว้นรอบนอก… สำนักจวินเทียน!”
“พันธมิตรสวรรค์! พรรคเทพปีศาจ! สำนักวิถีตะวันม่วง! ทัพอสูรโลหิตมังกร! สำนักกระบี่สวรรค์! ทั้งหมดล้วนแต่เป็นกองกำลังที่แข็งแกร่งที่สุดในสี่แคว้นรอบนอก!”
ยามนี้ใบหน้าของราชาอสรพิษในชุดคลุมสีดำ และผู้นำสำนักเทพทั้งสี่ล้วนเผยสีหน้าหวาดกลัว ร่างกายของพวกเขาไม่อาจหยุดสั่นสะท้านได้
ยิ่งใหญ่เกินไป!
บุคคลเหล่านี้ล้วนแต่เป็นผู้ทรงอำนาจและมีอิทธิพลกล้าแกร่ง!
“หืม? เรื่องนี้…”
คนของราชวงศ์เทพขนนกซึ่งนำโดยหลัวชิงเซียน ต่างเผยแววตาตื่นตระหนกด้วยเช่นกัน ร่างกายแข็งทื่อราวกับว่าได้เผชิญหน้ากับศัตรูมากอำนาจ
กลิ่นอายของแต่ละคนล้วนแล้วแต่น่าหวาดกลัวกว่าราชาอสรพิษในชุดคลุมสีดำเสียอีก มันมากเสียจนทุกคนเพิกเฉยต่อคนผู้นั้นไปโดยสมบูรณ์
เวลานี้เมื่อหนิงฝานเห็นว่าหลัวชิงเซียนกำลังเผยท่าทีกังวลและหวาดกลัว ชายหนุ่มก็ยกยิ้ม ก่อนจะกล่าวคำเสียงเบา “ที่รัก อย่าได้หวาดกลัวไปเลย คนพวกนี้หาได้มีเจตนาร้ายต่อเรา!”
“พวกเจ้าทุกคน! นี่คือภรรยาของข้า… จักรพรรดินีแห่งราชวงศ์เทพขนนก!”
สิ้นเสียงของหนิงฝานกล่าวแนะนำ
ทันใดนั้น กลุ่มเทพยุทธ์ผู้แข็งแกร่งที่นำโดยสำนักจวินเทียนก็คุกเข่าลงพร้อมคำนับจักรพรรดินีหลัวชิงเซียนอย่างพร้อมเพรียง
“คำนับองค์จักรพรรดินี!”
เสียงตะโกนดังกึกก้องสมเกียรติลั่นไปทั่วหล้า!
“เอ่อ? เรื่องนี้…”
เมื่อเห็นว่าเหล่าเทพยุทธ์ผู้แข็งแกร่งทำความเคารพตนเอง หลัวชิงเซียนพลันเผยความยินดีออกมาอย่างไม่อาจปิดกั้น
อ๊าก!!!
จบสิ้นแล้ว!!!
พวกเราพบเจอกับของจริง!!!
เมื่อเห็นเช่นนี้แล้ว ราชาอสรพิษในชุดคลุมสีดำและผู้นำสำนักเทพทั้งสี่ต่างหวาดกลัวจนแทบจะเข่าทรุดลงกับพื้น
แม้ว่าพวกเขาจะไม่ทราบว่า เหตุใดกลุ่มเทพยุทธ์ผู้แข็งแกร่งซึ่งนำโดยสำนักจวินเทียน ถึงคุกเข่าต่อหน้าราชวงศ์เทพขนนกมากเช่นนี้!
แต่สิ่งหนึ่งที่พวกเขาสามารถตระหนักได้ในเวลานี้คือ… จุดจบของพวกเขามาถึงแล้ว!
นี่คือเรื่องจริง!
ชั่วอึดใจถัดมา
หนิงฝานเอ่ยเสียงแผ่วเบากับคนข้างกาย “ที่รัก แล้วข้าจะอธิบายเรื่องราวให้เจ้าฟังภายหลัง!”
จากนั้นเขาก็หันกลับมาพูดกับเหล่าเทพยุทธ์มากอำนาจ “เก็บกวาดกลุ่มคนตาบอดพวกนี้ให้หมดเสีย!”
“ทราบแล้ว!”
ทุกคนพยักหน้า ก่อนจะหันกลับมาจับจ้องราชาอสรพิษในชุดคลุมสีดำพร้อมด้วยผู้นำสำนักเทพทั้งสี่
เมื่อถูกจับจ้องด้วยแววตาเย็นชาของเทพยุทธ์ผู้แข็งแกร่งนับไม่ถ้วน ราชาอสรพิษที่เคยสง่างามและยิ้มเย้ยหยันในคราวแรก เวลานี้หวาดกลัวจนฉี่รดขาตนเอง
“ผู้ยิ่งใหญ่!”
“ผู้ยิ่งใหญ่โปรดฟังคำข้า! ทั้งหมดนี้ไม่เกี่ยวข้องกับข้าทั้งสิ้น ข้าถูกสำนักเทพทั้งสี่ล่อลวงออกมา โปรดปล่อยข้าไป!”
…
“อ๊าก!”
“ได้โปรดปล่อยข้า!”
“ดวงตาของพวกเรานั้นมืดมนมองไม่เห็นภูเขาสูงใหญ่ โปรดไว้ชีวิตพวกเรา!”
ผู้นำสำนักเทพทั้งสี่หวาดกลัวจนแทบจะกัดลิ้นตาย ทั้งหมดล้วนแต่คุกเข่าร้องขอความเมตตา
ทว่า…
เมื่อหนิงฝานออกคำสั่งแล้ว ทุกคนจึงเพิกเฉยต่อการอ้อนวอนขอชีวิตนี้
อ๊าก! อ๊าก! อ๊าก!
ทุกคนเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็ว ราชาอสรพิษในชุดคลุมสีดำและผู้นำสำนักเทพทั้งสี่ย่อมไร้พลังต่อต้าน พวกเขาตายตกอย่างน่าอนาถ ท่ามกล่างเสียงกรีดร้องสนั่นหวั่นไหว ผู้ฝึกยุทธ์นับล้านของสำนักเทพทั้งสี่ก็ถูกกวาดล้างจนหมดสิ้น
หลังจากนั้นไม่นาน ด้านนอกเมืองก็กลับมาสู่ความสงบอีกครั้ง
“สามี…”
เมื่อเห็นศัตรูถูกสังหารหมดสิ้น จักรพรรดินีหลัวชิงเซียนพลันเอ่ยปากถามอย่างไม่คิดอดทนอดกลั้นอีกต่อไป
แต่หนิงฝานส่ายศีรษะพร้อมกล่าวด้วยรอยยิ้ม “ภรรยาเอ๋ย กลับวังกันก่อนเถิด แล้วค่อยพูดคุยกัน”
แล้วหนิงฝานกับหลัวชิงเซียนก็จับมือกันกลับสู่พระราชวังเทพขนนก
ส่วนกลุ่มเทพยุทธ์ผู้ทรงพลังก็เดินติดตามเข้าสู่เมืองเทพขนนกอย่างซื่อสัตย์
…
“อะไรนะ!!! ตอนนี้สามีของข้าเป็น… เทพสวรรค์!”
ภายในพระราชวังเทพขนนก วิหารทองคำ จักรพรรดินีหลัวชิงเซียนอุทานออกมาเสียงดัง
หนิงฝานเริ่มบอกเล่าเรื่องราวที่ผ่านมากว่าสิบปีทีละเรื่อง
จักรพรรดินีหลัวชิงเซียนยิ่งตื่นตระหนกมากขึ้น
“สามี… หมายความว่ามิใช่เพียงท่านแค่แก้ไขสถานการณ์อันตรายที่ซุกซ่อนภายในสำนักจวินเทียนเท่านั้น แต่ท่านยังถือโอกาสนี้สยบกองกำลังยิ่งใหญ่แห่งสี่แคว้นรอบนอกด้วย”
“ราชวงศ์เทพขนนกของเรานับว่าเป็นกองกำลังอันดับหนึ่งแห่งสี่แคว้นรอบนอกแล้วหรือ?!”
ในที่สุด จักรพรรดินีหลัวชิงเซียนก็รับรู้ทุกสิ่ง ใบหน้าของนางคล้ายกับล่องลอยอยู่ในความฝัน
“ถูกต้อง!”
หนิงฝานพยักหน้ารับ
หลังจากได้รับคำยืนยันหนักแน่น ในที่สุดจักรพรรดินีจึงตระหนักได้ว่านี่มิใช่ความฝัน และทั้งหมดคือความจริง ใบหน้ายินดีเผยออกอย่างไม่ปิดบัง
หนิงฝานออกจากดินแดนไปเพียงสิบปี ไม่เพียงแต่เข้าสู่ระดับเทพสวรรค์ ทว่ายังมีอำนาจเหนือสี่แคว้นรอบนอกอีกด้วย
แน่นอนว่าเหล่าขุนนางที่เหลือล้วนแต่ยินดีด้วยเช่นกัน
“จากนี้ไป สำนักจวินเทียนจะหลอมรวมเป็นหนึ่งเดียวกับราชวงศ์เทพขนนก!”
รองผู้นำสำนักจวินเทียนทั้งสองที่อยู่ในระดับครึ่งก้าวเทพสวรรค์โค้งคำนับให้จักรพรรดินีหลัวชิงเซียน
อีกทั้งพวกเขายังหยิบแหวนมิติซึ่งมากด้วยทรัพยากรล้ำค่าที่ใช้สำหรับการฝึกฝนของสำนักจวินเทียนมอบให้ครึ่งหนึ่ง รวมถึงเม็ดยาวิเศษ สมบัติวิญญาณ และอีกมากมายที่ทุกคนคาดไม่ถึงก็มอบให้!
“เรื่องนี้…”
เมื่อมองทรัพยากรที่สำนักจวินเทียนมอบให้ จักรพรรดินีหลัวชิงเซียนไม่ได้รับโดยทันที เพราะบุคคลตรงหน้าอยู่ในระดับครึ่งก้าวเทพสวรรค์!
ในอดีต… บุคคลเหล่านี้ล้วนแต่เป็นสิ่งมีชีวิตที่น่าสะพรึงไม่อาจต้านทาน
หนิงฝานหัวเราะก่อนจะเอ่ยปาก “ที่รัก เป็นเพราะพวกเขามีเจตนาที่ดี เจ้ารับไว้เถิด ด้วยวิธีนี้จะทำให้ราชวงศ์เทพขนนกสามารถพัฒนาต่อไป และเป็นกองกำลังอันดับหนึ่งในสี่แคว้นรอบนอกได้อย่างแท้จริง!”
“ขอบคุณแล้ว!”
จักรพรรดินีหลัวชิงเซียนรับแหวนมิตินี้ไว้ทันที
ขณะเดียวกัน นางก็รู้สึกมั่นคงยิ่งขึ้น เพราะเวลานี้สามีของนางเป็นถึงเทพยุทธ์ระดับเทพสวรรค์แล้ว!
“ข้า พันธมิตรสวรรค์แห่งแคว้นโลกา คำนับราชวงศ์เทพขนนก!”
“ข้า พรรคเทพปีศาจแห่งแคว้นโลกา คำนับราชวงศ์เทพขนนก!”
“ข้า สำนักวิถีตะวันม่วงแห่งแคว้นโลกา คำนับราชวงศ์เทพขนนก!”
“ข้า ทัพอสูรโลหิตมังกรแห่งแคว้นโลกา คำนับราชวงศ์เทพขนนก!”
…
“ข้า สำนักกระบี่สวรรค์แห่งแคว้นเอกภพ คำนับราชวงศ์เทพขนนก!”
“ข้า พรรคภูตผีแห่งแคว้นเอกภพ คำนับราชวงศ์เทพขนนก!”
“ข้า วิหารเทพโอสถแห่งแคว้นเอกภพ คำนับราชวงศ์เทพขนนก!”
“ข้า อาณาจักรปีศาจโบราณแห่งแคว้นเอกภพ คำนับราชวงศ์เทพขนนก!”
…
ทันทีที่สำนักจวินเทียนคำนับเสร็จสิ้น เหล่าเทพยุทธ์ผู้แข็งแกร่งทั้งหมดต่างตรงเข้ามาเพื่อโค้งคำนับต่อจักรพรรดินีหลัวชิงเซียน ในขณะเดียวกันยังมอบทรัพยากรกว่าครึ่งของกองกำลัง เพื่อแสดงถึงความจงรักภักดี!
“ขอบคุณยิ่งแล้ว!”
หลัวชิงเซียนไม่คิดปฏิเสธอีกต่อไป ความสง่างามของจักรพรรดินีถูกเผยออกมา และนางก็เก็บแหวนมิติทั้งหมดด้วยการโบกมือเพียงครั้ง!
จากนั้นจึงกล่าววาจาเคร่งขรึม “ในเมื่อกองกำลังทั้งหมดคำนับต่อข้าและราชวงศ์เทพขนนกแล้ว ราชวงศ์เทพขนนกจึงไม่คิดหมิ่นเกียรติของพวกท่าน ทว่า… ข้าคิดว่าเมื่อข้ายินยอมให้สี่แคว้นรอบนอกคงอยู่อย่างอิสระ จะมีบางคนที่ยินยอมเพียงปาก แต่กลับคิดต่อต้านอยู่ลึก ๆ!”
“พวกข้ามิกล้า!”
เหล่าชายร่างใหญ่ถึงกับตัวสั่นสะท้าน
ไม่ต้องกล่าวถึงหนิงฝานผู้น่าหวาดกลัวที่อยู่ในระดับเทพสวรรค์เลย แต่พวกเขาไม่กล้าทำอะไรเช่นนั้น เพราะวิญญาณปฐมภูมิล้วนแต่อยู่ในมือของอีกฝ่าย!
“เช่นนั้นก็ดี!”
หลัวชิงเซียนพยักหน้ารับอย่างสง่างาม
ด้วยทรัพยากรจำนวนมหาศาลที่กองกำลังเหล่านี้มอบให้ ซ้ำยังมีความช่วยเหลือจากกองกำลังเหล่านี้ นางยิ่งมีความมั่นใจในการพัฒนาราชวงศ์เทพขนนกให้เป็นกองกำลังอันดับหนึ่งอย่างแท้จริงในสี่แคว้นรอบนอก!
ภายในวิหารทองคำ หลัวชิงเซียนพูดคุยรายละเอียดกับเหล่าเทพยุทธ์ผู้แข็งแกร่งเรื่องการพัฒนาของราชวงศ์เทพขนนก
อย่างเช่น ราชวงศ์เทพขนนกต้องการรับผู้เล่นแร่แปรธาตุระดับสูง ผู้สร้างศัสตราวุธระดับสูง ผู้ชำนาญในการสร้างค่ายกลระดับสูง และความสามารถอื่น ๆ จากกองกำลังหลัก
แล้วอีกอย่างหนึ่งคือ จะมีการก่อตั้งศูนย์กลางค่ายกลเคลื่อนย้ายข้ามแคว้น ณ ใจกลางดินแดนรกร้างไปสู่แคว้นอื่น ๆ
พอตกดึก ผู้คนทั้งหมดในห้องโถงจึงได้แยกย้ายกันจากไป
ณ พระราชวังจักรพรรดินี
ทันทีที่หนิงฝานกับหลัวชิงเซียนกลับเข้ามา ทั้งสองกอดและจูบกันอย่างดุเดือด
พวกเขาไม่ได้พบเจอกันนานนับสิบปี ความคิดถึงย่อมต้องมากล้นเป็นธรรมดา!
หลังจากนั้นไม่นาน…
เสียงรัญจวนทรงเสน่ห์ก็ดังขึ้นภายในพระราชวังจักรพรรดินี