องค์ชายสามมีนิสัยเงียบสงบ ราวกับเกิดเรื่องใหญ่เพียงใดก็ไม่ตกตะลึง เพียงแต่หลายปีมานี้บนตัวของเขาก็ไม่มีเรื่องใดเกิดขึ้น ถึงแม้ไม่ได้หายไปจากสายตาของทุกคนเหมือนองค์ชายหก แต่ปรากฏอยู่ในสายตาของทุกคนก็ดุจดั่งไม่อยู่
ไม่คิดว่าในขณะที่เดินทางมาถึงเมืองหลวงใหม่ องค์ชายสามเป็นคนแรกที่โด่งดังไปทั่วเมืองหลวง
เรื่องนี้เป็นแค่ความบังเอิญหรือแผนการ?
ความคิดขององค์ชายห้าวนเวียนอยู่ครึ่งวัน เวลานี้จึงรีบถาม “พี่สามรู้จักกับเฉินตันจู?”
มิฉะนั้นเหตุใดเฉินตันจูจึงพุ่งเป้าหมายมายังองค์ชายสาม เหตุใดจึงไม่รักษาให้ผู้อื่น
องค์ชายสามไม่ได้ปิดบัง พยักหน้าด้วยรอยยิ้ม “ข้าเคยพบกับนางในวัดถิงอวิ๋น”
องค์ชายห้านึกขึ้นได้ องค์ชายสามมักไปปฏิบัติธรรมรักษาตัวที่วัดถิงอวิ๋น หลายวันก่อนเฉินตันจูถูกฮองเฮากักบริเวณไว้ในวัดถิงอวิ๋น ที่แท้ก็เป็นเช่นนี้ ทั้งสองคนพบกันในวัดถิงอวิ๋น
“นางเห็นข้าไอ จึงถามอาการของข้า บอกว่าจะรักษาให้ข้า” องค์ชายสามพูดด้วยรอยยิ้ม “ข้าคิดว่านางเพียงแค่พูดเล่น ที่แท้เป็นเรื่องจริงจัง”
องค์ชายสองพูดด้วยรอยยิ้ม “น้องสาม เรียกว่าจริงจังได้อย่างไร มีการรักษาเช่นนี้ที่ใดกัน ทำให้ร้านยาทั่วเมืองต่างวิตก นางรักษาได้ก็รักษา รักษาไม่ได้ก็อย่าได้โอ้อวด”
องค์ชายสามสีหน้าตะลึง “ทำให้ผู้อื่นตกใจ? เช่นนี้ย่อมไม่ดีนัก” ก่อนจะส่ายหัวอย่างรู้สึกผิด “ข้าไม่ควรตอบรับนาง ควรบอกกับนางให้กระจ่างว่าโรคของข้ารักษาไม่หาย”
องค์ชายสี่หัวเราะเบาๆ ถามขึ้น “เฉินตันจูนั้นงดงามมากหรือไม่”
พวกเขารู้จักต่อเฉินตันจูผู้นี้ แต่สิ่งที่ได้ยินล้วนเป็นความยโสโอหัง ความโหดเหี้ยมร้ายกาจ ส่วนรูปลักษณ์ของนางเป็นอย่างไรกลับไม่มีผู้ใดกล่าวถึง อายุไม่มาก แต่โอหังเพียงนี้ รูปลักษณ์ย่อมไม่อัปลักษณ์
องค์ชายสามไม่วิจารณ์รูปลักษณ์ของหญิงสาวลับหลัง จึงพูดเพียง “ผู้อายุน้อยล้วนงามตา”
องค์ชายสี่เบะปาก องค์ชายสามเป็นคนที่ระมัดระวังและน่าเบื่อหน่าย
องค์ชายสองขมวดคิ้ว “น้องสาม ข้าเชื่อเจ้า เจ้าย่อมไม่มีทางคิดอันใดกับเฉินตันจูนั้น แต่เฉินตันจูนั้นต้องคิดอันใดกับเจ้าอย่างแน่นอน”
อ๋า? เช่นนี้หรือ องค์ชายทั้งหลายผงะ
“พี่สาม” องค์ชายสี่เรียกขาน “หากเฉินตันจูชอบท่านขึ้นมา ทำอย่างไร หากนางตามรังควานร้องจะแต่งงานกับท่าน เสด็จพ่ออาจ…”
ฮ่องเต้ปกป้องเฉินตันจูนี้อย่างมาก อีกทั้งยังตำหนิชนชั้นสูงที่มาจากเมืองซีจิงเพื่อนาง เห็นได้ชัดว่านางยังมีประโยชน์ภายในใจของฮ่องเต้ ส่วนองค์ชายอย่างพวกเขา สำหรับฮ่องเต้ที่มีองค์รัชทายาท อีกทั้งองค์รัชทายาทยังมีบุตรชายแล้วนั้น อันที่จริงไม่มีประโยชน์อันใด…
โดยเฉพาะองค์ชายสามที่ร่างกายอ่อนแอ
หากเฉินตันจูต้องการขึ้นมา ฮ่องเต้อาจยกองค์ชายสามให้เฉินตันจูจริง
คนอย่างเฉินตันจู หากมีส่วนเกี่ยวข้องด้วยคงไม่มีชื่อเสียงที่ดี อีกทั้งยังต้องถูกชนชั้นสูงจากซีจิงกีดกันและรังเกียจ…อืม องค์ชายนั้นคงจะไร้ประโยชน์ องค์ชายห้าคิดในใจ เช่นนี้ก็ไม่เลว แต่ เรื่องดีเช่นนี้ใช้บนตัวขององค์ชายสามน่าเสียดายเล็กน้อย ถึงแม้องค์ชายสามจะไม่เกี่ยวข้องกับเฉินตันจู เดิมทีเขาก็เป็นแค่คนไร้ประโยชน์อยู่แล้ว…
องค์ชายสองและองค์ชายสี่มององค์ชายสามด้วยความเห็นใจ
“เจ้าโชคร้ายเหลือเกิน เหตุใดจึงเผชิญหน้ากับนางตอนที่กักบริเวณในวัดถิงอวิ๋น” องค์ชายสี่พูด
องค์ชายสามหัวเราะ “พวกเจ้าคิดมากไปแล้ว คุณหนูตันจูเป็นไต้ฟู นางแค่มีจิตใจของคนเป็นไต้ฟูเท่านั้น”
องค์ชายสองเลิกคิ้ว “คงจะมีแค่น้องสามที่เห็นนางเป็นไต้ฟูกระมัง”
การเปิดร้านยารักษาโรคของเฉินตันจู คนทั้งเมืองหลวงคงไม่มีผู้ใดเชื่อ แต่องค์ชายสามเชื่อ จึ๊ๆ หมายความว่าอย่างไร
องค์ชายสามมองพี่น้องทั้งสองหยอกล้อด้วยสายตา ส่ายหัวอย่างระอา
องค์ชายห้าฟังอยู่ด้านข้าง เขาเรียบเรียงเรื่องทั้งหมด พอจะกระจ่างแล้ว จึงวางใจลง เขาเรียกขานพี่สองพี่สี่ “พวกท่านคิดมากไปแล้ว เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับความสัมพันธ์ชายหญิงแต่อย่างใด” เขาตบไหล่ขององค์ชายสาม พูดอย่างเห็นใจ “พี่สามถูกเฉินตันจูหลอกใช้”
ทั้งสามฉงนอีกครั้ง มองเขา
“พวกท่านยังไม่รู้ใช่หรือไม่” องค์ชายห้าหัวเราะ “โจวเสวียนอยากได้จวนตระกูลเฉิน กำลังซื้อจวนกับเฉินตันจู เฉินตันจูรู้ว่าโจวเสวียนรับมือยาก นางกำลังหาที่พึ่ง”
ที่แท้ก็เป็นเช่นนี้หรือ องค์ชายสองและองค์ชายสี่มององค์ชายสาม แต่ที่พึ่งนี้อ่อนแอไปหรือไม่
องค์ชายสามพูดสิ่งที่พวกเขาคิดในใจออกมา หัวเราะเยาะตนเอง “ถึงแม้ข้าจะเป็นองค์ชาย แต่ข้าไม่อาจเทียบ โจวเสวียนได้ เกรงว่าจะช่วยนางไม่ได้”
องค์ชายห้าโบกมือ “นางไม่ได้ต้องการให้ท่านช่วย นางเพียงแค่สร้างเรื่องว่ากำลังจะรักษาโรคให้ท่าน เพื่อให้เสด็จพ่อเห็น เมื่อถึงเวลา เสด็จพ่อย่อมต้องรับเจตนาของนาง พี่สาม เสด็จพ่อให้ความสำคัญกับโรคของท่านเสมอมา”
องค์ชายสามเงียบ
องค์ชายสี่ขุ่นเคือง “เฉินตันจูทำเกินไปแล้ว อย่างไรพี่สามก็เป็นองค์ชาย แต่ถูกนางวางแผนหลอกใช้เช่นนี้”
องค์ชายห้าออกความเห็น “พี่สาม ท่านไปฟ้องนางต่อหน้าเสด็จพ่อก่อน ให้เสด็จพ่อสั่งสอนนาง เช่นนี้ถือเป็นการช่วยโจวเสวียน ให้โจวเสวียนซื้อจวนได้อย่างราบรื่น”
องค์ชายสองพยักหน้า “เช่นนี้ดี หนึ่งได้สั่งสอนเฉินตันจู สองทำให้โจวเสวียนไม่เกิดความบาดหมางกับเจ้า”
ตัวต้นเรื่องอย่างเฉินตันจูไม่รู้คำวิจารณ์ด้านนอกและความคาดเดาของเหล่าองค์ชายในพระราชวังแม้แต่น้อย แต่ถึงแม้จะรู้นางก็ไม่สนใจ นางเดินทางมาโรงเหล้าเจรจาการซื้อขายกับโจวเสวียน
ถึงแม้พวกเขาทั้งสองอยู่ในเหตุการณ์ แต่ไม่ต้องให้พวกเขาพูด พ่อค้าทั้งห้าของทางเฉินตันจู และพ่อค้าหนึ่งคนของทางโจวเสวียน ตอบโต้ไปมา เจ้าบอกราคาข้ากดราคา คำนวณ วาดเขียน แม้กระทั่งบันทึกท้องถิ่น บทกลอนบทกวีล้วนถูกหยิบออกมา ทั้งสองฝ่ายตอบโต้จนหน้าแดง โต้แย้งอย่างสนุกสนาน
โจวเสวียนถือแก้วชามองไปตรงข้าม หญิงสาวตรงข้ามยิ้มแย้มอยู่เสมอตั้งแต่นั่งลง
“เจ้ายิ้มอันใด” โจวเสวียนถาม
เฉินตันจูมองเขา ยิ้ม “ข้าดีใจ”
ล้วนบอกว่าเฉินตันจูนี้โอหังโหดเหี้ยม แต่จากที่เขาดู นางเป็นคนที่แปลกประหลาด ตั้งแต่พบหน้ากันครั้งแรก การกระทำล้วนแตกต่างจากสิ่งที่เขาคาดไว้
โจวเสวียนฉีกยิ้มมุมปาก เอ่ย “ที่แท้คุณหนูตันจูดีใจที่ได้ขายจวนทิ้งเช่นนี้ จริงด้วย เจ้าทอดทิ้งได้แม้แต่บิดา จวนหลังเดียวจะเป็นอันใดไป”
เมื่อเขาพูดประโยคนี้ออกมา หางตาเหลือบเห็นรอยยิ้มของหญิงสาวชะงักไป รอยยิ้มนั้นแปรเปลี่ยนไปดุจดั่งที่เขาหวัง แต่ไม่รู้เหตุใด ภายในใจของเขาไม่รู้สึกดีใจแม้แต่น้อย
หญิงสาวนั้นไม่ได้พูดสิ่งใด แต่สาวรับใช้ที่นั่งอยู่ข้างตัวนางมีสีหน้าขุ่นเคือง ในขณะที่กำลังจะลุกขึ้น “เจ้า…”
เฉินตันจูดึงอาเถียนเอาไว้ พูดกับโจวเสวียน “เพียงแค่ซื้อขายตามราคาตลาด ข้าสามารถทำการค้านี้กับคุณชายโจวได้ ข้ามีความจริงใจอย่างยิ่ง”
นางหยุดยิ้มแล้ว สีหน้าเรียบเฉย โจวเสวียนเงยหน้า “เช่นนั้นตั้งราคาเด็ดขาดเสีย เหตุใดต้องต่อรองเช่นนี้”
เฉินตันจูพูด “อันที่จริงคุณชายไม่ต้องใช้เงินก็สามารถทำให้ข้ายกจวนให้คุณชายได้ เพียงแต่คุณชายต้องรับปากเงื่อนไขข้าข้อหนึ่ง”
ยกให้? เงื่อนไข?
โจวเสวียนมองนาง “เงื่อนไขอันใด”
อาเถียนเรียกขานคุณหนูเสียงเบาอย่างร้อนใจอยู่ด้านหลัง เหล่าพ่อค้าที่อยู่ท่ามกลางการโต้เถียงก็เงี่ยหูข้างหนึ่งขึ้น
เฉินตันจูพูด “เพียงแค่ท่านเขียนสัญญาเอาไว้ หลังจากที่ท่านตาย จวนหลังนี้จะส่งคืนให้ข้าก็พอ”
ภายในห้องเงียบสงัดลงทันที หมายความว่าอย่างไร
ถึงแม้โจวเสวียนตายไป แต่ตอนที่ตายเขายังมีภรรยาและบุตรหลาน จวนหลังนี้จะให้เจ้าอย่างไร ยกเว้นโจวเสวียนไม่มีภรรยาและบุตรหลาน…
ผู้ใดสามารถไม่มีภรรยาและบุตรหลาน? ยิ่งไปกว่านั้นคนผู้นั้นยังเป็นท่านโหวที่กำลังจะถูกสถาปนาอีก นอกเสียจากเขาจะตายในอายุยังน้อย ไม่ทันได้มีภรรยาและให้กำเนิดบุตร…
นางกำลังสาปแช่งให้โจวเสวียนตายเร็วหรือ เหล่าพ่อค้าถลึงตาโต คุณหนูตันจูร้ายกาจมากเสียจริง โจวเสวียนจะลงมือตีคนหรือไม่ พวกเขาจะเดือดร้อนไปด้วยหรือไม่ ทันใดนั้นพวกเขาต่างตัวสั่นเทา
แต่โจวเสวียนที่นั่งอยู่ทางนั้นไม่ได้โกรธแม้แต่น้อย หากแต่ยังหัวเราะร่า
“ได้” เขาพูด พลางสะบัดแขนเสื้อ “นำพู่กันและหมึกมา!”