ตอนที่ 951 ไม่มีก็ไปแย่งมา
จักรพรรดิสวรรค์ที่ทำให้ชางเวยยกย่องว่าไม่เลวได้ ต้องไม่ใช่เทพเซียนที่ครองตำแหน่งอย่างโง่เขลาไม่ทำอะไรเลยเป็นแน่ แต่เหตุใดผ่านมานานเพียงนี้แล้ว จักรพรรดิสวรรค์ผู้นี้ยังปล่อยให้นางจับเทพเซียนและสัตว์เทพโดยไม่มีการเคลื่อนไหวอันใดเลย
จากที่นางลองคิดคำนวณ โลกเทพสมควรมาส่งสัตว์ปีศาจรอบที่สองมาตั้งนานแล้วจึงจะถูก
ซ่งอิงเม้มปาก
“ข้าคิดว่า…ไม่แน่จักรพรรดิสวรรค์ผู้นี้กำลังคบคิดว่าจะสังหารข้าอย่างไร” ซ่งอิงกล่าวอย่างจริงจัง
“บังเอิญจริง ข้าเองก็คิดเช่นนี้เหมือนกัน” จากนั้น จู่ๆ ชางเวยก็หยิบกระดาษภาพแผ่นหนึ่งออกมา “สิ่งนี้…คือเหล็กหมาดทะลวงฟ้า เจ้าพอจะจำได้หรือไม่”
ซ่งอิงจ้องมองกระดาษภาพใบนั้น ในหัวนึกถึงภาพฉากไม่น่าอภิรมย์ฉากหนึ่ง
“ในอดีตข้าถูกมันแทงหัวใจจนตายกระมัง” ซ่งอิงถูๆ จมูก ส่งเสียงหัวเราะฮึๆ “โลกเทพนี่ปรากฏผู้มีพรสวรรค์ขึ้นมาอีกแล้วสินะ ข้าคิดไม่ถึงเลยว่าในโลกนี้ยังมีของที่ควบคุมข้าได้อยู่อีก”
“ไม่ใช่ควบคุมเจ้า…เพียงแต่ของสิ่งนี้มีพลังมหาศาล เทพเซียน ปีศาจและภูตธรรมดาทั่วไปล้วนรับไม่ไหว ของสิ่งนี้เป็นของล้ำค่าของขุนเขาผูอิ่งทางด้านข้า คนอื่นหลอมไม่ได้ ก่อนหน้านี้เหล็กหมาดทะลวงฟ้านั่นเป็นสิ่งที่ฟ่านโยวแอบหลอมขึ้นมา แม้แต่ท่านอาจารย์ของข้าก็ไม่รู้ หลังจากท่านรับรู้เรื่องนี้ก็รู้สึกผิดมากและจากไปในเวลาต่อมาไม่นานนัก”
ตอนนั้นซ่งอิงและอาจารย์ของเขาเป็นมิตรที่ดีต่อกัน
ในเวลานั้นขุนเขาผูอิ่งจัดว่าเป็นสถานที่ซึ่งได้รับความเคารพเลื่อมใส มีความสำคัญมากในโลกเทพ จักรพรรดิปีศาจต้องการร่วมมือกับเผ่าพันธุ์เทพ จึงเลี่ยงไม่ได้ที่จะพูดคุยกับอาจารย์ของเขา
เดิมทีเป็นสถานการณ์ที่ทั้งสองฝ่ายต่างได้ประโยชน์ ภายหลังต่อมาจักรพรรดิปีศาจถูกวางแผนร้ายใส่ เทพเซียนไม่น้อยที่มีความสัมพันธ์อันดีงามกับจักรพรรดิปีศาจต่างก็มีความคิดร้ายไม่น้อยเกิดขึ้นในใจด้วยเช่นกัน
“หากเป็นอย่างที่ว่านั้น ในตอนนี้มีเพียงท่านที่หลอมของสิ่งนี้ได้สินะ” ซ่งอิงถาม
“ใช่” ชางเวยกล่าว
แต่ไม่รู้ว่าด้วยเหตุใด ช่วงนี้เขามักจะรู้สึกไม่สบายใจนัก
“จักรพรรดิสวรรค์กำลังคบคิดหาวิธีหลอมของสิ่งนี้อยู่หรือไม่” ซ่งอิงเม้มปาก จากนั้นจู่ๆ ดวงตาก็สะท้อนประกาย “ท่านว่าของสิ่งนี้มีผลทั้งเทพและภูตผีปีศาจใช่หรือไม่ เช่นนั้นเราก็หลอมขึ้นมาสักอันเป็นเช่นไร”
ชางเวยตะลึงงัน
เขาไม่เคยคิดเลยจริงๆ…
เพียงแต่ว่าเหล็กหมาดทะลวงฟ้านี้ต้องมีพลังเทพเท่านั้นจึงจะกระตุ้นให้ใช้งานได้ แต่บัดนี้ซ่งอิงก็มีพลังเทพเช่นกันนี่ ต่อให้ซ่งอิงใช้ไม่ได้ เขาก็ใช้ได้!
“ได้” ชางเวยกล่าวตอบในทันที
“ดี!” ซ่งอิงยิ้มยิงฟัน “ต้องการของอะไรบ้างเจ้าก็บอกข้าได้เลย หากไม่มี ข้าก็จะไปแย่งมาจากโลกเทพ”
“ไม่จำเป็นหรอก เหล็กหมาดทะลวงฟ้านี้ถึงแม้ต้องมีพลังเทพเท่านั้นจึงจะใช้งานได้ แต่ของทุกอย่างโดยพื้นฐานแล้วล้วนมีที่โลกปีศาจ โดยเฉพาะโลกปีศาจของเจ้าที่เพิ่งฟื้นฟู หลายปีมานี้เต็มไปด้วยพลังชีวิต ต้องมีทรายวิญญาณห้าธาตุไม่น้อยเป็นแน่ เพียงแต่ต้องหาคนไปยังพื้นที่ห้าธาตุเพื่อค้นหาเสียหน่อย ไม่ยากหรอก”
ส่วนแร่วิญญาณสีชาดนั้นยิ่งหาง่ายไปใหญ่
สองอย่างนี้เป็นของที่สำคัญมาก นอกจากพวกนี้ก็ยังต้องการแร่อื่นๆ อีกหน่อย ซึ่งเขามีหมดแล้ว
เพียงแต่ว่าการหลอมเหล็กหมาดทะลวงฟ้าต้องใช้จิตใจและการบำเพ็ญเพียร ช่วงเวลานี้จะให้ใครรบกวนไม่ได้ มิฉะนั้นจะล้มเหลวได้ง่ายมาก
มีซ่งอิงอยู่ ใครหน้าไหนจะรบกวนชางเวยได้
เพียงแต่โลกปีศาจนี้กดทับพลังเทพเซียนอยู่บ้าง อยู่ที่นี่เพื่อหลอมทำขึ้นมาไม่ได้ ซ่งอิงและฮั่วจ้าวยวนจึงพากันไปหาสถานที่สักแห่งที่ปลอดผู้คนในโลกเทพแล้วคุ้มครองกันเอง หากทางด้านโลกปีศาจมีเรื่องอะไรเกิดขึ้น จะมีคนติดต่อนาง ซึ่งการเดินทางไปมาก็ไม่เปลืองเวลามากมายแต่อย่างใด
ในเวลาไม่กี่วันก็ตระเตรียมวัตถุดิบเพียบพร้อมแล้ว
ซ่งอิงประหลาดใจไม่น้อยทีเดียว
ถ้ำที่หาได้อยู่ห่างไกลเป็นพิเศษเช่นกัน ซ่งอิงปลดปล่อยพลังมิติป้องกันเล็กๆ ไว้โดยรอบ พลังปีศาจนางแข็งแกร่งมาก ถึงแม้ไม่มีนางคอยคุ้มกัน แต่มีพลังมิติป้องกันนี้ก็ยังรับประกันได้ว่าชางเวยจะไม่ถูกรบกวน
ชางเวยใช้เวลากว่าครึ่งปีหลอมขึ้นมา และในเวลานี้เอง โลกเทพก็เพิ่งให้คนนำสัตว์ปีศาจมาส่ง
ตอนที่ 952 แผลหายดีก็ลืมไปว่าเคยเจ็บ
ผู้ที่มาในครั้งนี้คือเทพชีมู่
ซ่งอิงยังเหมือนก่อนหน้านี้ สมควรต้อนรับก็ให้การต้อนรับ มองดูเป็นมิตรมาก
หลังจากชีมู่เสินจวินเห็นซ่งอิงก็งุนงงอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นดูอึดอัดเล็กน้อย กล่าวว่า “สัตว์ปีศาจของครั้งนี้…ไม่ขาดหายไปเป็นแน่ ข้าตรวจสอบเองครั้งแล้วครั้งเล่า ตอนนี้ไม่พบว่ามีสัตว์ปีศาจถูกลักซ่อนเอาไว้แล้ว…”
ซ่งอิงนับเองรอบหนึ่ง ซึ่งก็พอประมาณกับที่คิดไว้จริงๆ
หากอยากจะเจาะจงสัตว์ปีศาจทีละตัว เกรงว่าจะไม่ค่อยได้เรื่อง
เหล่าสัตว์ปีศาจในตอนนี้ก็เป็นจำนวนพอประมาณแล้ว ถึงแม้ยังเหลืออีกไม่กี่ตน ภายภาคหน้าก็จะมีคนเอาส่งกลับมาได้เช่นกัน ขอเพียงตอนนี้สัตว์ปีศาจส่วนใหญ่ได้กลับสู่บ้าน ไม่ถูกจับเป็นตัวประกัน เช่นนั้นก็เพียงพอแล้ว
“ยังคงเป็นเทพชีมู่ที่ค่อนข้างไว้ใจได้ เทพคนก่อนหน้าผู้นั้นพูดแต่คำโกหกหลอกลวง ทำเอาข้าผิดหวังมากจริงๆ” ซ่งอิงยิ้มตาหยี
ชีมู่เบิกตาโตชั่ววูบ
เอาแล้วๆ! สีหน้าอารมณ์ที่คุ้นเคย!
ถึงแม้นางหน้าตาไม่เหมือนตอนนั้นแล้ว แต่ท่าทางแปลกๆ ของนางไม่เปลี่ยนไปเลยแม้แต่นิดเดียว!
เทพชีมู่เลียริมฝีปาก รู้สึกกลืนไม่เข้าคายไม่ออกเล็กน้อย มองซ้ายมองขวาแล้วกล่าว “เทพชางเวย…ไฉนจึงไม่อยู่ล่ะ”
“เขาหรือ ช่วงนี้ดูเหมือนเขาจะมีธุระน่ะ” ซ่งอิงตอบสบายๆ
เทพชีมู่ขมวดคิ้ว
ที่แท้เป็นอย่างที่คาดการณ์ไว้จริงๆ ชางเวยผู้นี้คงจะไปซ่อนตัวเพื่อหลอมเหล็กหมาดทะลวงฟ้าแล้วเป็นแน่
แววตาที่มองไปยังซ่งอิงอีกครั้งเจือความเห็นอกเห็นใจเล็กน้อย
ชีมู่มองสุราตรงหน้าแล้วถอนหายใจ ก่อนจะดื่มมันหมดในอึกเดียว ผ่านไปครู่หนึ่งก็กล่าว “เจ้า…เหตุใดจึงชอบชางเวย”
ชางเวยผู้นี้ไม่มีอารมณ์ขันแม้แต่น้อย ฟ่านโยวผู้นั้นถึงแม้ไม่ดีเช่นเดียวกัน แต่ตอนนั้นก็มีเสน่ห์มากกว่า มีความเย่อหยิ่ง มีเทพธิดาสาวๆ ไม่น้อยชื่นชอบเขา
ชางเวยที่เหมือนคนแก่ผู้นั้น ไร้ชีวิตชีวาจะตาย
ซ่งอิงมองเขาอย่างสงสัย “ก็เพียงแค่มองเขาแล้วสบายตา นี่ยังต้องมีเหตุผลอีกหรือ”
ใช่ จริงอยู่ที่ชางเวยพูดน้อยและเคร่งขรึมจนดูน่าอึดอัด แต่ไม่ว่าตอนนั้น หรือตอนนี้ คนที่อยู่ข้างนางก็ล้วนเป็นคนผู้นี้ นี่ยังไม่เพียงพออีกหรือ
แน่นอนว่านางผู้นี้ค่อนข้างเย็นชา เป็นไปไม่ได้ที่จะบอกว่านางรักชางเวยอย่างที่ตายไปแล้วก็ยังขอฟื้นมาใหม่ อย่างมากก็เพียงปฏิบัติต่อเขาแตกต่างจากคนอื่นหน่อยเท่านั้น
ตอนที่อยู่โลกมนุษย์ ยามใกล้ตาย นางเคยถามเขา
ถามเขาว่ารู้สึกเสียใจภายหลังหรือไม่ ตลอดชีวิตในโลกมนุษย์นั้น เขาอยู่ข้างกายนางมาโดยตลอด ไม่มีใครอื่นอีก ถึงขั้นกลบเสน่ห์ทั้งหมดที่มีไว้มิดชิด
นางยังเคยกล่าวอย่างตรงไปตรงมาด้วยว่า อาจเป็นเพราะสวรรค์ไร้จิตใจ ดังนั้นถึงแม้ว่าเขาให้ทุ่มเททุกสิ่งอย่าง นางก็ไม่เกิดความรู้สึกรักที่มากมายเหลือเกิน
แต่ตอนนั้นเขาบอกว่า ที่เขาทำทั้งหมดก็เพราะทำตามใจตัวเอง ไม่ได้ทำเพื่อให้ได้ใจนาง
ชะตาชีวิตยืนยาว อดมีความรู้สึกเบื่อหน่ายอยู่บ้างไม่ได้
การมีใครสักคนข้างเคียงย่อมไม่ใช่เรื่องเลวร้าย
หากคนผู้นี้เป็นเขา นางรู้สึกเชื่อได้อย่างหมดใจ ไม่ต่อต้านและปฏิเสธ
เช่นนี้ก็เพียงพอแล้ว
เทพชีมู่ค่อนข้างหงุดหงิดงุ่นง่านในใจ “เจ้านี่ยังสายตาเหมือนตอนนั้น มีตาหามีแววไม่จริงๆ”
“???” ซ่งอิงขมวดคิ้ว
เจ้าหมอนี่จะเอาอีกแล้วใช่หรือไม่
“เทพชีมู่ นี่ท่านคงไม่ได้ยังหลงใหลในตัวข้าไม่รู้ลืมหรอกกระมัง ถ้ำงูในตอนนั้นน่าเบื่อไปจึงทำให้ท่านแผลหายดีก็ลืมไปว่าเคยเจ็บตัว[1]สินะ” ซ่งอิงหัวเราะกล่าว
“เจ้าพูดไร้เหลวไหลอันใด ข้าเป็นถึงเสินจวินผู้สง่างาม จะตกหลุมรักจักรพรรดิปีศาจได้อย่างไร! ตอนนั้นเป็นเพียงเหตุเหนือความคาดหมาย หลายปีมานี้ข้านับจำนวนเทพธิดาน้อยที่ข้าตามเกี้ยวไม่ได้ด้วยซ้ำ เจ้าถือเป็นเพียงส่วนหนึ่งเล็กๆ เท่านั้นเอง ไม่เกี่ยวข้องกับตัวตนของเจ้าสักหน่อย!” เทพชีมู่กล่าวทันที
พูดจบ เมื่อคิดขึ้นมาอีกครั้งก็รู้สึกปวดหัว
ช่างน่าโมโหยิ่งนัก!
“จู๋อิ๋ง” เทพชีมู่เรียกขึ้นมากระทันกัน “เจ้า…เจ้าระวังชางเวยไว้หน่อย”
“???” ซ่งอิงสับสน “ทำไมเล่า”
เทพชีมู่รู้สึกยากจะปริปากพูดเล็กน้อย “โดยสรุป…ชางเวยไม่ได้ซื่อสัตย์อย่างที่เจ้าคิด เขาเองก็ไม่ได้จริงใจกับเจ้า หากเจ้าไม่อยากเป็นเหมือนเมื่อครั้งก่อน ก็ระวังตัวไว้หน่อยเป็นการดีที่สุด”
[1] แผลหายดีก็ลืมไปว่าเคยเจ็บตัว (好了伤疤忘了疼) เปรียบเปรยว่า เมื่อใช้ชีวิตอย่างสุขสบายก็ลืมวันที่ยากลำบากในอดีต ไม่เอาบทเรียนจากอดีตมาเป็นอุทาหรณ์ย้ำเตือน