ตอนที่ 145 เทพสำรวจ กระบี่เดียวกำราบสิ้น!
ณ แคว้นรกร้าง เมืองหลวงเทพขนนก!
เมื่อเห็นพลังจิตวิญญาณฟ้าดินระเบิดออก ทั้งราชวงศ์เทพขนนกต่างก็รู้แล้วเรื่องใหญ่ได้เกิดขึ้นแล้ว
เพราะทุกคนต่างรู้ดีว่า เหตุการณ์นี้ย่อมต้องดึงดูดศัตรูต่างแคว้นมาอย่างแน่นอน!
จริงสิ!
บึ้ม!
ทันทีที่สิ้นเสียงคำรามดังกึกก้อง พลันปรากฏลำแสงแห่งสวรรค์ส่องมาจากที่ไกลโพ้นบนท้องฟ้า ราวกับว่าผืนนภานี้กำลังถูกแดนสวรรค์จับจ้อง!
ในตอนนี้เอง ผู้คนนับไม่ถ้วนต่างตื่นตกใจและหนิงฝานก็เป็นคนแรกที่มองขึ้นไป!
เมื่อเห็นลำแสงที่ส่องลงมาจากชั้นฟ้า พร้อมกับเงาร่างของผู้คนที่ปรากฏขึ้น มีทั้งวัยกลางคน คนชรา เหล่าสัตว์ร้าย และปีศาจ ซึ่งล้วนแตกต่างกัน!
ทว่าสิ่งที่เหมือนกันคือ ทุกคนต่างปลดปล่อยกลิ่นอายระดับเทพสวรรค์ออกมา นับว่าน่าสะพรึงกลัวอย่างมิอาจหาผู้ใดเทียบได้!
ในบรรดาพวกเขา มีร่างสามร่างซึ่งกลิ่นอายอยู่เหนือกว่าระดับเทพสวรรค์ มิหนำซ้ำ มันยังเป็นกลิ่นอายที่คล้ายคลึงกับกลิ่นอายของโลงศพสีทองสองโลงของถ้ำปีศาจบรรพกาลชั้นสี่!
“มาไวกันเสียจริง!” หนิงฝานเลิกคิ้ว
ขณะเดียวกัน จักรพรรดินีหลัวชิงเซียนและคนอื่น ๆ ในราชวงศ์เทพขนนกต่างก็ยิ่งรู้สึกหวาดกลัวมากขึ้นไปอีก!
พลังปราณของพวกเขาช่างน่าเกรงขามยิ่งนัก ราวกับว่าพวกเขาจุติลงมาจากสวรรค์ชั้นเก้า ให้รู้สึกราวกับว่าหายใจไม่ออก
ส่วนร่างหลายร่างนั้นก็กำลังพูดคุยกันอยู่ เสียงของพวกเขาดังราวกับฟ้าร้อง ทำเอาทั้งแคว้นรกร้างสั่นสะเทือนอย่างบ้าคลั่ง!
“อืม! พลังจิตวิญญาณระดับสุริยัน! เป็นพลังจิตวิญญาณระดับสุริยันในตำนานจริง ๆ!”
“ฮ่า ๆๆ! โบราณเคยกล่าวไว้ว่าเมื่อมีจุดสูงสุดก็ต้องมีจุดเสื่อมถอย! แม้คำพูดนั้นจะไม่ใช่เรื่องโกหก แต่ทั้งเก้าแคว้นนี้ก็แสนห่างไกลกัน ทว่าแคว้นที่ยากจนที่สุดอย่างแคว้นรกร้าง กลับเป็นที่ที่พลังจิตวิญญาณระดับสุริยันถือกำเนิดขึ้นเสียได้!”
“รอจนกว่าที่นี่จะฟื้นตัวเต็มที่ พลังจิตวิญญาณฟ้าดินจะต้องมีพลังเหนือกว่าดินแดนแห่งสวรรค์อย่างแคว้นเซียนเป็นแน่!”
“ดีมาก! หากพวกเราสามารถควบคุมแคว้นนี้เอาไว้ได้ ในภายภาคหน้ากองกำลังพันธมิตรแห่งเทพเจ้าของพวกเราจะสามารถเอาชนะแคว้นเซียนได้แน่ และแคว้นทั้งเก้าก็จะกลายเป็นเจ้าแห่งพิภพ”
“…”
ในที่สุด สายตาของพวกเขาต่างก็จ้องมองไปที่ราชวงศ์เทพขนนก!
จากนั้น พวกเขาก็มองไปยังหนิงฝานและผู้นำแห่งราชวงศ์เทพขนนกอย่างจักรพรรดินีหลัวชิงเซียน
เพียงแต่ว่า เหล่าผู้คนที่มองลงมา ดวงตาของพวกเขาเต็มไปด้วยความดูถูกเหยียดหยาม!
ราวกับว่าในสายตาของพวกเขา หนิงฝานและคนอื่น ๆ เป็นเพียงแค่กลุ่มมดตัวเล็ก ๆ เท่านั้น!
“เหล่าพวกมดทั้งหลาย ต่อจากนี้ไป แคว้นรกร้างจะต้องอยู่ภายใต้การควบคุมของแคว้นภายในทั้งสี่โดยมีกองกำลังพันธมิตรแห่งเทพเจ้าเป็นผู้ควบคุม ยังไม่รีบคุกเข่าและกล่าวตอนรับพวกข้าอีกหรือ!”
เสียงนั้นดังลั่นราวกับสายฟ้าแห่งสวรรค์ทั้งเก้า ดังกึกก้องไปทั่วทั้งแคว้นรกร้าง!
สายตาของพวกผู้มาใหม่เปรียบเสมือนข่ายจับนภา ช่วยเสริมให้ร่างเงาของพวกเขาเปี่ยมด้วยพลังศักดิ์สิทธิ์อันยิ่งใหญ่!
เพียงชั่วอึดใจ!
ผู้ฝึกยุทธ์ทุกคนในแคว้นรกร้างต่างก็รู้สึกสั่นเทิ้ม รวมถึงผู้นำแห่งราชวงศ์เทพอย่างจักรพรรดินีหลัวชิงเซียนด้วย ร่างกายของนางก็เหมือนจะไม่สามารถต้านทานแรงสั่นนั้นได้ จนต้องคุกเข่าลง!
ชิ้ง!
ในตอนนั้นเอง พลันเกิดเสียงกระบี่ดังขึ้น แล้วคลื่นพลังอันเหนือจินตนาการก็ระเบิดออกมาทันที!
ไม่เพียงเท่านั้น หนิงฝานในชุดคลุมที่ดูแสนจะธรรมดาก็พุ่งตัวขึ้นไปบนท้องฟ้าพร้อมกับกระบี่ของเขา!
“บังอาจ!”
“มดต่ำต้อยเยี่ยงเจ้า กล้าดีเยี่ยงไรถึงหันคมกระบี่มาทางข้า!”
เมื่อเห็นหนิงฝานปรากฏตัวพร้อมกับกระบี่ ทันใดนั้น ในบรรดาพวกเขาก็มีคนร้องออกมาด้วยความไม่พอใจ!
ทว่า…
หนิงฝานหาได้แยแสกับเสียงนั้นไม่ เขาแสยะยิ้มพร้อมกับพูดว่า “พวกชอบแอบอ้างตน เป็นเพียงภูตผียังกล้ามาวางตัวเป็นใหญ่ที่นี่อีกงั้นหรือ!”
“หืม?!”
เมื่อได้ยินเช่นนั้นแล้ว ร่างพวกนั้นต่างก็ขมวดคิ้วในทันที!
คาดไม่ถึงว่าหนิงฝานจะมองตัวตนของพวกเขาเป็นเช่นนั้น!
อย่างไรก็ตาม นี่ยิ่งทำให้พวกเขารู้สึกราวกับโดนกระตุ้นต่อมความโกรธ!
“บังอาจ!”
“ข้าเป็นถึงเทพสวรรค์ แม้จะเป็นเพียงเศษเสี้ยวของวิญญาณก็ตาม แต่พวกมดชั้นต่ำอย่างเจ้าก็ไม่มีสิทธิ์มาท้าทายข้า!”
“พวกที่กล้าท้าทายท่านเทพสวรรค์ จงตายเสีย!”
ทันใดนั้นก็บังเกิดเสียงกัปนาทขึ้น!
เช่นเดียวกับที่คนผู้นี้พูด แม้ว่าพวกเขาจะเป็นเพียงลำแสงแห่งวิญญาณ แต่ยังคงมีพลังน่าเกรงขามอยู่ไม่น้อย มือยักษ์นั้นเสมือนกับหัตถ์สวรรค์ทำลายล้างโลกที่จุติลงมาจากสวรรค์ทั้งเก้าชั้น แล้วพลังศักดิ์สิทธิ์อันน่าสะพรึงกลัวอย่างหาที่เปรียบมิได้อีกก็พุ่งเข้าใส่หนิงฝาน!
“เหอะ!”
เมื่อเห็นภาพตรงหน้าแล้ว หนิงฝานพลันยิ้มหยามเหยียดออกมา มือสับฟันกระบี่ออกไป แสงของกระบี่พลันสว่างวาบขึ้นมา แล้วมันก็สะท้อนเข้าไปในดวงตาของทุกผู้คน!
บึ้ม!
ร่างของพวกคนเมื่อครู่นี้ต่างก็เริ่มระเบิดออก!
“หืม?!”
“เจ้า…. เป็นระดับเทพสวรรค์!”
เมื่อเห็นหนิงฝานเริ่มเคลื่อนไหวอีกครั้ง เหล่าคนพวกนั้นก็ขมวดคิ้วทันที!
แม้ว่าพวกเขาจะเป็นเพียงเงาที่ส่องมาจากลำแสงโดยข่ายจับนภา แต่ก็ไม่มีผู้ใดสามารถปลิดชีพพวกเขาได้ และมีเพียงผู้ที่แข็งแกร่งในระดับเดียวกันเท่านั้นที่สามารถทำได้!
เมื่อหายประหลาดใจแล้ว ผู้นำอย่างเทียนจวินก็ยกยิ้มเย็นชาออกมาทันที
“ฮ่า ๆ!”
“น่าสนใจดีนี่!”
“คาดไม่ถึงว่าในแคว้นเล็ก ๆ อย่างแคว้นรกร้างจะมีระดับเทพสวรรค์อยู่ด้วย!”
เทียนจวินมองไปที่หนิงฝาน พร้อมกับพูดออกมาเสียงแหบต่ำ “เด็กน้อย ตัวข้ามีนามว่าเทียนจวิน เป็นผู้นำของกองกำลังพันธมิตรแห่งเทพเจ้าของแคว้นภายในทั้งสี่! เจ้าเป็นคนเก่ง เช่นนี้ข้าจะไม่ลงโทษเจ้า ทว่าเจ้าสนใจที่จะเข้าร่วมกองกำลังพันธมิตรแห่งเทพเจ้าของข้าหรือไม่!?”
“ได้! แต่ข้ามีเงื่อนไขอยู่ข้อหนึ่ง” ได้ยินคำพูดเช่นนั้น หนิงฝานก็ตอบกลับ
“โอ้ เงื่อนไขอันใดกัน?” เทียนจวินถามกลับด้วยรอยยิ้ม
“ต่อจากนี้ไปให้ข้าเป็นผู้นำกองกำลังพันธมิตรแห่งเทพเจ้า พวกเจ้าจะต้องส่งมอบจิตวิญญาณให้กับข้า และยอมจำนนต่อข้าเสีย!” ชายหนุ่มกล่าวตอบ
“บังอาจ!”
“โง่เขลาสิ้นดี!”
“เจ้าเป็นเพียงระดับเทพสวรรค์ธรรมดา ๆ แต่กลับกล้าพูดจาอวดดีเยี่ยงนี้กับข้าหรือ!”
“หากว่าบรรพบุรุษของพวกข้าอยู่ที่นี่ พวกท่านคงทุบตีเจ้าจนตายไปแล้ว!”
ได้ยินหนิงฝานพูดเช่นนั้น เหล่าเทพสวรรค์ต่างโกรธจัด!
และรอยยิ้มบนหน้าของเทียนจวินก็หายไปในทันที เหลือไว้เพียงใบหน้าที่แสนเย็นชาเท่านั้น
“เจ้า! ในเมื่อไม่รู้จักผิดชอบชั่วดี เช่นนั้นข้าจะมอบความตายให้เจ้าเอง!”
ตู้ม!
หลังสิ้นเสียง เทียนจวินก็เริ่มลงมือ ทันใดนั้นเอง พลังอันน่าสะพรึงกลัวเยี่ยงคลื่นยักษ์ประหนึ่งพัดหาเข้าฝั่งก็ถาโถมเข้าใส่หนิงฝาน!
และพลังนี้ก็แข็งแกร่งกว่ายิ่งพลังของเทพสวรรค์เสียอีก!
“เป็นเพียงร่างเงา… กลับยังคงมีพลังเทพสวรรค์อยู่ด้วย?”
หนิงฝานขมวดคิ้วทันที!
คนผู้นี้อ้างตัวว่าเป็นผู้นำกองกำลังพันธมิตรแห่งเทพเจ้า เช่นนั้นก็น่าจะแข็งแกร่งกว่าที่เขาคิดเอาไว้แล้ว!
แต่แน่นอนว่า ร่างเงาเทพสวรรค์ตรงหน้า ไม่ได้อยู่ในสายตาของเขาเลย!
หึ!
เมื่อกระบี่สับฟันออกไป แสงกระบี่ก็พุ่งตรงเข้าหาเทียนจวินในทันควัน ตามมาด้วยปราณกระบี่ที่เสมือนดอกไม้สีเงิน แทงทะลุผ่านคิ้วของเทียนจวินในบัดดล!
โดยไม่รอให้ผู้อื่นได้ทันตอบสนอง ทันใดนั้น กระบี่อีกสิบสายของหนิงฝานก็พุ่งเข้าไปหาคนที่เหลือทั้งหมด ตรึงวิญญาณคนพวกนั้นที่ลอยตัวอยู่ในอากาศ!
“อ๊ะ!”
“เจ้าสารเลว!”
“เจ้าคนระยำ!”
ในเวลานี้ เหล่าเทพสวรรค์ต่างโกรธเกรี้ยวเป็นที่สุด เห็นได้ชัดว่าพวกเขาคิดไม่ถึงว่า หนิงฝานจะแข็งแกร่งถึงเพียงนี้!
โดยเฉพาะเทียนจวิน!
ในฐานะที่เป็นตัวตนที่อยู่ในระดับเทพสูงสุด แม้เขาจะเป็นเพียงร่างเงาวิญญาณ แต่ก็ไม่ใช่ว่าเทพสวรรค์ธรรมดา ๆ จะสามารถฆ่าเขาได้!
ทว่าต่อหน้าหนิงฝานในตอนนี้ เขากลับไม่มีพลังจะต้านทานอีกฝ่ายไหว!
ถึงกระนั้น สายตาของเทียนจวินก็เปลี่ยนไปเป็นน่ากลัวมากยิ่งขึ้น!
“เจ้าหนุ่ม!”
“เจ้าทำให้ข้าโกรธมาก รอให้ร่างจริงของข้ามาถึงแคว้นรกร้างเสียก่อนเถอะ! ถึงตอนนั้น ข้าจะทำให้เจ้าอยู่ไม่สู้ตาย!”
“ยามใดที่ร่างหลักของเรามาถึง เจ้าจักต้องไม่ตายดี!”
“เจ้า! รอกองกำลังพันธมิตรแห่งเทพเจ้าของข้าเสียก่อนเถิด!”
นอกจากเทียนจวินแล้ว ยังมีร่างเทพสวรรค์อื่น ๆ ที่แววตาเย็นชาและเผยจิตสังหารออกมาอย่างน่าหวั่นเกรง!
“วาจาไร้สาระเช่นนี้ ไม่จำเป็นต้องพูดกันแล้ว!”
“ขอให้พวกเจ้าเดินทางโดยสวัสดิภาพ!”
หนิงฝานหาได้สนใจคำขู่ของพวกเขาไม่ เพียงชายหนุ่มโบกมือ ปราณกระบี่ก็ปะทุออก แล้ววิญญาณของเทพสวรรค์ทั้งหมดก็หายไปในพริบตา วินาศกันจนหมดสิ้น!