ตอนที่ 144 แคว้นภายในทั้งสี่ พันธมิตรแห่งเทพเจ้า
ครืน!
ในวันนี้ พลังจิตวิญญาณฟ้าดินเหนือท้องฟ้ากว่าสองร้อยลี้ในแคว้นรกร้างพลันแปรเปลี่ยนไปอย่างกะทันหัน อย่างกับเป็นวันสำคัญที่ท้องฟ้าถูกเปิดกว้าง ชั้นเมฆถูกทำลาย และมีดวงอาทิตย์อีกดวงปรากฏขึ้น
สถานการณ์ตอนนี้ มิใช่เพียงแค่ขอบเขตเทพยุทธ์เท่านั้นที่สามารถมองเห็นปรากฏการณ์นี้ได้ ทว่าแม้แต่ผู้คนทั่วไปก็สามารถมองเห็นได้เช่นกัน
“สวรรค์!”
“นั่นมันอะไรกัน!”
“หืม! เหตุใดบนท้องฟ้าถึงมีดวงอาทิตย์อีกดวงปรากฏขึ้นล่ะ!?”
“…”
พลังจิตวิญญาณฟ้าดินลอยสูงตระหง่านอยู่บนท้องนภา ราวกับดวงอาทิตย์ดวงใหญ่ที่ส่องแสงสว่างไสวไปทั่วหล้า ปราณฟ้าดินอันไร้ที่สิ้นสุดพวยพุ่งออกมา ราวกับน้ำร้อนที่กำลังเดือดพล่านอย่างรุนแรง
ขวับ!
ทันใดนั้น หนิงฝานก็ทะยานขึ้นไปบนท้องฟ้าอย่างรวดเร็ว มองดูพลังจิตวิญญาณฟ้าดินที่เดือดพล่าน แล้วคิ้วของเขาก็ขมวดเข้าหากันทันที!
“สามี เกิดอันใดขึ้น? เหตุใดพลังจิตวิญญาณฟ้าดินจึงปรากฏขึ้นในโลกนี้!”
ยามนี้เอง จักรพรรดินีหลัวชิงเซียนและคนอื่น ๆ ในราชวงศ์เทพต่างก็พุ่งตัวขึ้นไปบนท้องฟ้า เพราะพวกเขาทุกคนต่างก็รู้สึกไม่ค่อยดีนัก!
หนิงฝานกล่าวด้วยสีหน้าจริงจัง “พลังจิตวิญญาณฟ้าดินได้รับการฟื้นฟูมาถึงห้าสิบปีแล้ว ตอนนี้มันคงถึงเวลาก้าวผ่านช่วงเริ่มต้นของความมั่นคง และใกล้ถึงเวลาของการระเบิดตัวแล้ว การระเบิดครั้งนี้คงทำให้เกิดความปั่นป่วนและความตื่นตระหนกไปทั่วทั้งสี่แคว้นรอบนอกเป็นแน่ ไม่สิ กระทั่งสี่แคว้นชั้นในก็อาจจะได้รับผลกระทบไปด้วย”
พรึ่บ!
ทันทีที่หนิงฝานพูดจบ พลังจิตวิญญาณฟ้าดินที่เหมือนดั่งดวงอาทิตย์ดวงใหญ่บนท้องฟ้า ก็พลันเกิดการสั่นคลอน และบังเกิดเสียงกัมปนาทดังกึกก้องไปทั่ว ตามมาด้วยคลื่นพลังอันกว้างใหญ่ที่น่าสะพรึงกลัวแผ่กระจายออกไป ราวกับกระแสน้ำที่ซัดสาดและถาโถมไปทั่วทุกทิศทุกทาง!
จากนั้น ระลอกแล้วระลอกเล่าก็แพร่กระจายออกไปอย่างไม่มีสิ้นสุด!
“โอ้!”
“สบายยิ่งนัก!”
“ข้า… จะทะลวงขั้นแล้ว!”
“สวรรค์! ข้าก็จะทะลวงขั้นเช่นกัน!”
เมื่อปราณแห่งฟ้าดินเคลื่อนผ่านไปราวกับสายลมในฤดูใบไม้ผลิ ร่างกายของเหล่าผู้ฝึกยุทธ์ทั่วทั้งราชวงศ์เทพขนก็ถูกชำระล้างจนสะอาด
ด้วยพลังจิตวิญญาณฟ้าดินนี้ ผู้คนจำนวนมากถึงกับทะลวงขั้นพร้อมกัน!
แม้แต่เหล่าปราชญ์ยุทธ์และเทพยุทธ์ทั้งหลาย ก็เหมือนจะเริ่มตระหนักได้แล้ว
อย่างไรก็ตาม…
หนิงฝาน จักรพรรดินีหลัวชิงเซียนและคนอื่น ๆ กลับมีท่าทางที่เคร่งขรึม!
แม้ว่าการระเบิดของพลังจิตวิญญาณฟ้าดินจะสามารถก่อให้เกิดประโยชน์ไม่รู้จบแก่ผู้ฝึกยุทธ์ในแคว้นรกร้าง และแม้แต่ผู้ฝึกยุทธ์ในสี่แคว้นรอบนอกได้!
ทว่าในขณะเดียวกันนั้น เหตุการณ์นี้ก็ส่งผลกระทบไปถึงนอกแคว้นทั้งสี่อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้!
และแล้ว…
ในขณะที่เกิดการสั่นสะเทือนของพลังจิตวิญญาณฟ้าดิน พลังปราณอันทรงพลังก็พัดผ่านราชวงศ์เทพขนไปยังแคว้นภายนอกอื่น ๆ ด้วยความเร็วสูง
สองหมื่นลี้!
ห้าหมื่นลี้!
สองล้านลี้!
ใช้เวลาเพียงไม่นาน ทั่วทั้งสี่แคว้นก็ได้รับผลกระทบของพลังจิตวิญญาณฟ้าดินที่มีต้นกำเนิดมาจากแคว้นรกร้าง!
และหลังจากกวาดผ่านไปทั่วทั้งสี่แคว้นรอบนอกแล้ว พลังจิตวิญญาณฟ้าดินก็ยังคงแพร่กระจายต่อไปอย่างเดือดพล่าน!
สองพันลี้!
สองล้านลี้!
พลังจิตวิญญาณฟ้าดินพุ่งไปยังสี่แคว้นชั้นในราวกับคลื่นมหานที!
…
สี่แคว้นชั้นในได้แก่ แคว้นสวรรค์ แคว้นปฐพี แคว้นลึกล้ำ และแคว้นมนุษย์
ดินแดนของทั้งสี่แคว้นล้วนเคยเป็นดินแดนแห่งพลังจิตวิญญาณระดับจันทรา ในบรรดาทั้งสี่แคว้นนี้ แคว้นสวรรค์เป็นระดับครึ่งเสี้ยวจันทรา ขณะที่อีกสามแคว้นเป็นระดับเสี้ยวของเสี้ยวจันทราอีกที
เมื่อพวกเขาสัมผัสได้ถึงพลังจิตวิญญาณฟ้าดินอันยิ่งใหญ่ เขตปกครองชั้นในทั้งสี่แคว้นก็ตกอยู่ในความโกลาหลในทันที!
เหล่าผู้ฝึกยุทธ์ภายในแคว้นทั้งสี่แคว้นนี้ ต่างก็สัมผัสได้ถึงมวลพลังที่เดือดพล่านนี้
“หืม? นี่คือพลังจิตวิญญาณฟ้าดินที่ฟื้นฟูอย่างนั้นหรือ!?”
“ทิศทางนี้คือทิศทางของแคว้นรกร้างที่เป็นแคว้นชั้นนอก! หรือว่า… แคว้นรกร้างกำลังฟื้นคืนพลังจิตวิญญาณฟ้าดิน!?”
“อืม! แต่เหตุใดข้ากลับรู้สึกว่าความแข็งแกร่งของพลังปราณนี้ มันแข็งแกร่งยิ่งกว่าพลังจิตวิญญาณระดับจันทราเล่า!”
“สวรรค์! หรือนี่จะเป็นพลังจิตวิญญาณระดับสุริยันในตำนาน!”
“เร็วเข้า! รีบแจ้งข่าวกับกองกำลังพันธมิตรแห่งเทพเจ้า นี่อาจจะเป็นโอกาสที่ดีของพวกเรา!”
“…”
ทันใดนั้น ทั่วทั้งสี่แคว้นชั้นในก็ถูกสั่นคลอนอย่างสมบูรณ์!
แตกต่างกับกองกำลังของสี่แคว้นชั้นนอก เพราะแม้สี่แคว้นชั้นในจะมีกองกำลังมากมาย แต่ว่ากองกำลังที่แข็งแกร่งที่สุดมีเพียงหนึ่งเดียว ซึ่งมีนามว่า ‘กองกำลังพันธมิตรแห่งเทพเจ้า’
กองกำลังพันธมิตรแห่งเทพเจ้า มิใช่กองกำลังเดียว แต่เป็นกองกำลังที่มีหลายฝ่าย!
และผู้ที่มีสิทธิ์เข้าร่วมกองกำลังพันธมิตรแห่งเทพเจ้าได้นั้น อย่างน้อยที่สุดต้องเป็นผู้ที่มีพลังที่แข็งแกร่งในระดับเทพสวรรค์!
และหลังจากที่สัมผัสได้ถึงการฟื้นฟูของพลังจิตวิญญาณฟ้าดินแคว้นรกร้างแล้ว ฝ่ายหนึ่งในกลุ่มพันธมิตรก็รีบนำสารนี้ไปยังศูนย์กลางกองกำลังพันธมิตรแห่งเทพเจ้าที่แคว้นสวรรค์ในทันที!
แคว้นมนุษย์ ได้แก่ ตำหนักชางหวง สำนักเทพสุริยันจันทรา หอคอยเสินเป่า
แคว้นลึกล้ำ ได้แก่ สำนักเสวียนโบราณ พรรคซางเต้า พรรคกระบี่คู่
แคว้นปฐพี ได้แก่ หอเคลื่อนพิภพ เผ่าปีศาจเพลิงโบราณ หอผนึกเทพ
แคว้นสวรรค์ ได้แก่ พันธมิตรต้านสวรรค์ เผ่าเทพวิถี วิหารหมื่นพระพุทธเจ้า
เหล่าทวยเทพทั้งหมดสิบห้าองค์มาถึงแล้ว และผู้นำคือ เผ่ามนุษย์ เผ่าปีศาจ เผ่าปีศาจ และอีกหลายเผ่ามากมาย ซึ่งล้วนแตกต่างกัน!
กองกำลังพันธมิตรแห่งเทพเจ้า วิหารแห่งทวยเทพ!
ขณะที่ระดับเทพสวรรค์มีทั้งหมดสิบแปดองค์ นั่งเรียงกันเป็นแถวในห้องโถง ลมหายใจของแต่ละคนลุ่มลึกดุจห้วงมหาสมุทร และความแข็งแกร่งก็ยากจะหาผู้ใดเทียบได้
โดยเฉพาะอย่างยิ่งร่างที่นั่งอยู่บนที่นั่งแรกและที่นั่งด้านข้างทั้งสอง
ที่นั่งทั้งสองข้างมีปีศาจสองตนประทับอยู่!
ปีศาจตนแรกนั้น ใบหน้าราวกับภูตผี ดูน่ากลัวเป็นอย่างยิ่ง มีร่างเป็นมังกรและมีเกล็ดขึ้นเต็มตัว ทั่วทั้งกายแอบแฝงไว้ด้วยพลังปราณที่แข็งแกร่งอย่างยิ่งยวด
ปีศาจอีกตนเป็นปีศาจสายฟ้าโบราณ เหนือร่างสูงใหญ่กำยำมีเสียงฟ้าร้องดังกึกก้องไม่รู้จบ และกลิ่นอายของมันก็อยู่สูงยิ่งกว่าระดับเทพสวรรค์!
และที่น่ากลัวที่สุดคือ ชายชราผมขาวซึ่งนั่งอยู่บนตำแหน่งแรก เขาสวมเสื้อคลุมตัวยาว ถึงใบหน้าจะดูเป็นแก่ชรามากแล้ว ทว่าดวงตาคู่นั้นกลับยังคงสว่างไสวราวกับโคมไฟสีทองอันน่าสะพรึงกลัว!
ลมปราณทั่วร่างของเขานับว่าน่ากลัวยิ่ง ไม่เพียงเหนือกว่าระดับเทพสวรรค์ทั้งหมด ทว่าแม้กระทั่งปีศาจที่มีใบหน้าราวกับภูตผี หรือปีศาจสายฟ้ายังดูด้อยกว่าเขาเสียอีก!
เขาผู้มีนามว่า ‘เทียนจวิน’ เป็นผู้นำของกองกำลังพันธมิตรแห่งเทพเจ้า!
ปีศาจหน้าผีและปีศาจสายฟ้าโบราณคือ รองผู้นำของกองกำลัง!
ความสามารถของพวกเขาทั้งสามนับว่าเก่งกาจเหนือระดับเทพสวรรค์ เพียงแต่พวกเขายังไม่อาจสัมผัสถึงขอบเขตเซียนธุลีสีชาดได้!
และผู้ฝึกยุทธ์ซึ่งอยู่ระหว่างขอบเขตเทพยุทธ์และขอบเขตเซียนธุลีสีชาด จะมีชื่อเรียกอีกอย่างว่า ระดับเทพสูงสุด
“ทุกท่านคงจะสัมผัสได้ถึงปราณฟ้าดินจากแคว้นรกร้างแล้วใช่หรือไม่!”
เทียนจวินเงยหน้าขึ้นมองหมู่ผู้คนด้วยดวงตาที่เป็นประกาย
ทุกคนพยักหน้าตอบรับ
แล้วเทียนจวินก็เอ่ยขึ้นต่อ “ปราณฟ้าดินเช่นนั้นหาใช่พลังจิตวิญญาณฟ้าดินธรรมดา ๆ อย่างแน่นอน อย่างน้อยก็ต้องอยู่ในระดับจันทราเต็มดวง หรืออาจจะเป็นตำนานที่มิเคยมีผู้ใดเคยพบเห็นมาก่อนอย่าง… ระดับสุริยัน”
ระดับสุริยัน!
ในเวลานี้ ผู้คนในห้องโถงต่างก็รู้สึกเดือดพล่าน!
“ใช่ ๆ! หากพลังจิตวิญญาณฟ้าดินที่เกิดขึ้นในแคว้นรกร้างเป็นระดับสุริยันจริง ๆ เช่นนั้นแล้ว ในภายภาคหน้าปราณฟ้าดินแห่งแคว้นรกร้างก็จะแข็งแกร่งเกินกว่าพลังจิตวิญญาณฟ้าดินในแคว้นของพวกเราทั้งสี่แคว้นน่ะสิ!”
“ไม่ต้องพูดถึงพลังระดับสุริยัน แม้จะเป็นพลังจิตวิญญาณฟ้าดินระดับจันทราเต็มดวงก็ตาม เพียงเท่านั้นก็สามารถเทียบได้กับแคว้นเซียนแล้ว!”
“นี่เป็นโอกาสที่ยิ่งใหญ่ และถือเป็นโอกาสอันดีของสี่แคว้นพวกเรา”
“ใช่แล้ว! หากพวกเรายึดครองแคว้นรกร้างเอาไว้ได้ และวางแผนดี ๆ ในภายภาคหน้า ความแข็งแกร่งของสี่แคว้นชั้นในของพวกเรา ก็จะเทียบเคียงหรืออยู่เหนือกว่าแคว้นเซียนได้อย่างแน่นอน!”
ทุกคนที่อยู่ในที่นี่ต่างก็เริ่มพูดคุยกัน ความทะเยอทะยานฉายชัดขึ้นมาในสายตาของทุก ๆ คน!
“หึ ๆ! ไม่ว่าจะเป็นระดับจันทราหรือระดับสุริยัน แคว้นรกร้างก็จะต้องตกอยู่ภายในกำมือของพวกเราอยู่ดี”
ตอนนี้เอง เทียนจวินพลันยิ้มขึ้นมาและเริ่มพูดต่ออีกครั้ง “เอาล่ะ ๆ ยามนี้พวกเราใช้ข่ายจับนภาเพื่อสำรวจพลังจิตวิญญาณฟ้าดินของแคว้นรกร้างกันก่อนเถิด!”
“ได้!”
“ตกลง!”
“รับทราบ!”
หลังจากที่ทุกคนพยักหน้า เทียนจวินก็หยิบสิ่งของชิ้นหนึ่งที่มีลักษณะเป็นสามเหลี่ยมขึ้นมา หน้าตาของมันคล้ายกับกระจกเรียบเนียน ดูแล้วเหมือนหยกธรรมดา ๆ ทั่วไป ทว่ากลับมีแสงสองสว่างสะท้อนออกมา!
ข่ายจับนภาเป็นอาวุธในระดับเทพสวรรค์ หากแต่ไม่ใช่อาวุธที่มีไว้โจมตีหรือทำร้ายผู้ใด มันเป็นเพียงอาวุธที่มีไว้เพื่อการสังเกตการณ์ และสามารถตรวจจับปราณฟ้าดินข้ามแคว้นได้!
โดยปกติแล้ว กองกำลังพันธมิตรแห่งเทพพระเจ้ามักใช้เจ้าสิ่งนี้เพื่อตรวจสอบกองกำลังภายใต้พันธมิตร!
ครืน! ครืน! ครืน!
ไม่นานนัก เพียงเปิดข่ายจับนภา จู่ ๆ แสงแห่งสวรรค์ก็สาดแสงจากกองกำลังพันธมิตรแห่งเทพพระเจ้าไปยังแคว้นรกร้าง!