รู้สึกตัวอีกที ข้าก็เป็นเซียนซะแล้ว [原來我是世外高人] – บทที่ 197 คุณชายหลี่ เมื่อใดจะได้ดื่มฉลองในงานวิวาห์ของท่าน?

บทที่ 197 คุณชายหลี่ เมื่อใดจะได้ดื่มฉลองในงานวิวาห์ของท่าน?

บทที่ 197 คุณชายหลี่ เมื่อใดจะได้ดื่มฉลองในงานวิวาห์ของท่าน?

จักรพรรดิหมากรุกหวงหลงสะบัดมือ ศพของนายตำหนักรวมถึงโลหิตสีดำที่สาดกระเซ็นอยู่ทั่วตำหนักล้วนมลายหายไป

“นับแต่นี้ไป ข้าคือนายตำหนักของตำหนักแห่งนี้!”

เขาเก็บกระดานจตุรงค์มังกรอำพันกลับไป หมอกดำพิศวงขจรขจายออกจากทั่วทั้งตัว บดบังรูปลักษณ์ของตัวเขาเอง

เขาจักแทนที่นายตำหนักนับตั้งแต่บัดนี้!

ดาบมารอมตะหนีหัวซุกหัวซุนไปทั้งทาง ไม่กล้าชะลอแม้แต่น้อย

ที่นี่เต็มไปด้วยสิ่งมีชีวิตที่กำลังตามหามันอยู่!

“บัดซบ ต้องหนีไปให้ไกลกว่านี้!”

มันนึกกลัวจากใจจริง หลายครั้งที่เกือบโดนสิ่งมีชีวิตจำนวนหนึ่งจับได้ จนพลังที่เหลือน้อยเต็มทีของมันต้องน้อยลงไปอีก

และตัวมันก็ได้รับรู้ว่าเชื้อสายของจักรพรรดิหยวนยังอยู่จริง ๆ ที่สิ่งมีชีวิตมากมายออกโรงตามหามัน ส่วนใหญ่แล้วมีสาเหตุจากเชื้อสายจักรพรรดิหยวน

“ระยำ! ฟื้นพลังได้เมื่อไหร่ ข้าจะเชือดพวกเจ้าให้หมด!”

มันโกรธหัวฟัดหัวเหวี่ยง จิตสังหารพลุ่งพล่าน

จักรพรรดิหยวนผนึกมันไว้เป็นช่วงเวลาแสนยาวนาน ลูกหลานของจักรพรรดิหยวนในยุคหลังยังคิดปราบปรามมันอย่างเต็มกำลัง มันสาบานว่าฟื้นตัวได้เมื่อใด จักล้างบางลูกหลานทั้งหมดที่มีอยู่ของจักรพรรดิหยวน!

“แล้วก็เจ้าพวกที่ตามจับข้า ต้องตายทั้งหมด!”

เสียงของมันเยียบเย็น ก่อนจะหนีไปอย่างรวดเร็ว

โดยไม่รู้ตัว มันหนีจากชิงโจวมาถึงแดนบูรพาทิศของเหยียนโจว

เพราะชิงโจวนั้นอยู่ด้านตะวันออกของเหยียนโจว

แดนบูรพาทิศในเหยียนโจว

เมืองชิงซาน

หลี่จิ่วเต้าตื่นแต่เช้าพลางบิดขี้เกียจ

เวลานี้ ในลานเหลือเพียงเขาคนเดียว

เขาได้เตือนเมิ่งจีทางอ้อมว่าจากบ้านมานานเกินไป คนที่บ้านอาจเป็นห่วงได้ ถึงเวลากลับบ้านได้แล้ว

เมิ่งจีฟื้นตัวเป็นปกติได้ตั้งนานแล้ว ไม่เหลือปัญหาใดสักจุด

ความคลุ้มคลั่งในตอนแรกหายไปจนสิ้น มิได้มีจินตนาการด้านฝึกตนที่ไม่สมเหตุสมผลอีกต่อไป

เขาชอบการอยู่คนเดียว ไม่ชอบร่วมอาศัยกับผู้อื่น แต่เดิมอยากเกลี้ยกล่อมให้เมิ่งจีไปจากที่นี่มาตั้งนาน

ทว่าเขาไม่กล้าเอ่ยปากมาโดยตลอด

ต่อมาระหว่างที่เขาสนทนากับเมิ่งจี ได้รู้ว่าเมิ่งจีมีคนในครอบครัวจริง ๆ จึงไหลตามน้ำไปว่าสายใยครอบครัวประเสริฐที่สุดในโลกนี้ หากมีเวลาควรอยู่กับครอบครัวให้มาก

สุดท้ายเมิ่งจีก็จากไป

“ใช่แล้ว สายใยครอบครัวคือสิ่งที่ประเสริฐที่สุดในโลกนี้…”

หลี่จิ่วเต้าถอนหายใจ นึกอิจฉาเมิ่งจีขึ้นมานิดหน่อย

เมิ่งจียังมีคนในครอบครัว แล้วเขาเล่า?

ในโลกแห่งการฝึกตนนี้ เขาอยู่ตัวคนเดียว…

ท่านเซียนคิดถึงครอบครัวหรือ?

ลั่วสุ่ยซึ่งอยู่อีกด้านเห็นสีหน้าท่านเซียนแล้วคิดในใจ

ครอบครัวของท่านเซียนอยู่ที่ภพเซียนหรือ?

นางคิดต่อ

แม้นางจะไม่รู้ว่าเหตุใดท่านเซียนถึงลงจากภพเซียนมาท่องโลกมนุษย์ในฐานะปุถุชน กระนั้นพอเห็นท่าทางคิดถึงครอบครัวเช่นนี้ของท่านเซียนแล้ว นางพลันรู้สึกระทมใจอย่างยิ่ง

ท่านเซียนก็มีช่วงเวลาที่ทำอะไรไม่ได้หรือ

นางคิดในใจก่อนจะวิ่งไปหาท่านเซียน ใช้ศีรษะน้อย ๆ ของตนถูต้นขาท่านเซียนไม่หยุด

“จริงสิ ข้ายังมีเจ้าอยู่เคียงข้างข้า”

หลี่จิ่วเต้าคลี่ยิ้ม อุ้มแมวน้อยสีขาวขึ้นมา มือลูบไล้ไปตามขนอันนุ่มลื่นของแมวน้อยสีขาว

“นายท่าน!”

เวลานั้นหลิงอินมาถึง นางมาพร้อมรอยยิ้มละไม งดงามดั่งนางเซียนในภาพวาด เพริศพริ้งเหนือมวลมนุษย์ ซ้ำแล้วยังมีบุคลิกโดดเด่น

‘ข้าเองก็ใช่ว่าไม่เหลือสิ่งใด หัวเดียวกระเทียมลีบเสียเมื่อไหร่’

หลี่จิ่วเต้าหัวเราะในใจ เขายังมีสหายอย่างหลิงอินอยู่

“ผู้อาวุโส!”

เซี่ยเหยียนก็มาด้วย นางสดใสเยาว์วัย ร่าเริงน่าเอ็นดู ยิ้มทีไรเผยให้เห็นลักยิ้มทั้งสองข้าง โฉมสะคราญยิ่ง

‘มีตั้งสองคน!’

หลี่จิ่วเต้าหัวเราะในใจขึ้นมาอีก

“ไปกันเถิด วันนี้ข้าอารมณ์ดี เราไปพายเรือเล่นที่ทะเลสาบชิงสุ่ยดีกว่า”

หลี่จิ่วเต้ากล่าว

“ได้เลย!”

“เยี่ยมไปเลย!”

หลิงอินและเซี่ยเหยียนต่างตอบรับอย่างยินดีปรีดา

“ไปกันเถิด”

หลี่จิ่วเต้าอุ้มแมวน้อยสีขาว ออกจากร้านไปพร้อมกับหลิงอินและเซี่ยเหยียน

“คุณชายหลี่ เมื่อใดจะได้ดื่มฉลองในงานวิวาห์ของท่านกันนี่! ตั้งแต่ท่านได้ดูตัวกับแม่นางหลิงอิน ข้าก็เห็นท่านสนิทชิดเชื้อกับแม่นางหลิงอินมากขึ้นเรื่อย ๆ คิดแล้วคงใกล้ลงเอยกันแล้วสิท่า!”

ทันทีที่หลี่จิ่วเต้าก้าวออกจากร้าน ก็เจอป้าหวังร้านข้าง ๆ

ป้าหวังเล่นหูเล่นตาใส่หลี่จิ่วเต้าขณะเอ่ย

นางมีสัมพันธ์อันดีงามกับมารดาของหลิงอิน ครานั้น ก็นางนี่แหละที่จับคู่ดูตัวให้หลิงอินกับคุณชายหลี่ได้พบกัน

เนื่องด้วยนางอยู่แค่ข้างบ้าน จึงเห็นหลิงอินมาหาคุณชายหลี่อยู่บ่อยครั้ง ซ้ำยังสนิทสนมกับคุณชายหลี่มากขึ้นเรื่อย ๆ

นางยินดีอยู่ในใจ รู้สึกว่าหลิงอินกับคุณชายหลี่มีวี่แววว่าจะลงเอยกัน!

ทว่าหลังจากนั้นนางเริ่มยินดีไม่ออก

ต่อมามีแม่นางผู้เลอโฉมนางหนึ่งมาหาคุณชายหลี่บ่อย ๆ…

นี่อย่างไร วันนี้แม่นางผู้เลอโฉมคนนั้นก็มาหาคุณชายหลี่อีกแล้ว!

นางกลัวว่าความสัมพันธ์ของหลิงอินกับคุณชายหลี่จะถูกทำลาย จึงตั้งใจรออยู่หน้าประตู หมายจะเร่งไฟให้หลิงอิน และอยากกดดันแม่งนางผู้เลอโฉมคนนี้ให้ยอมถอย!

ฟึ่บ!

หลังถ้อยคำนี้เอื้อนเอ่ยออกมา ต่อให้หลิงอินเป็นถึงตัวตนสูงส่งในสมัยโบราณกาลก็ต้านไม่ไหว ใบหน้าแดงก่ำราวลูกทับทิมที่สุกงอมเต็มที่!

จะให้นางต้านไหวได้เยี่ยงไร…

นี่…นี่…นี่คือท่านเซียนเชียวนะ!

ป้าหวังไยจึงกล้าพูดถึงขนาดนี้!

“หา?”

ดวงตาของเซี่ยเหยียนเบิกกว้าง ลูกตาแทบร่วงลงไปอยู่บนพื้น

อะไรนะ!?

ดูตัว!

ท่านเซียนกับหลิงอินรู้จักกันผ่านการดูตัวหรือ?

สวรรค์!

นางมึนงงไปหมด!

ตุ้บ!

หลังลั่วสุ่ยได้ยิน ก็ร่วงจากอ้อมอกท่านเซียนลงไปอยู่ที่พื้น

เมี๊ยว หลิงอินกับท่านเซียนมีความสัมพันธ์เช่นนี้กันด้วยหรือนี่!?

เหตุใดนางถึงไม่รู้!?

ป้าหวังเห็นแก้มหลิงอินแดงก่ำเป็นลูกทับทิม ยังคิดในใจไปว่าเด็กสาวผู้นี้ยังละอ่อนเกินไป หน้าบาง หน้าสิ่วหน้าขวานเช่นนี้ต้องหวังพึ่งป้าหวังของเจ้า!

ไม่เห็นหรือว่าแม่นางผู้เลอโฉมเข้ามาติดพันคุณชายหลี่? ขืนไม่รีบ ไม่เป็นฝ่ายรุกบ้าง คุณชายหลี่ได้หนีตามผู้อื่นแน่!

ป้าหวังเห็นสีหน้าตะลึงของเซี่ยเหยียนเช่นกัน นางยิ้มอย่างได้ใจ ชำเลืองเซี่ยเหยียนราวกับจะบอกว่าพวกเขาเป็นคู่กัน เจ้ามาทีหลังอย่าได้ยกตนข่มท่าน เข้าไปพัวพันให้วุ่นวาย

ทว่าเซี่ยเหยียนมองความหมายของสายตาป้าหวังไม่ออก

หากนางได้รับรู้ความคิดที่แท้จริงของป้าหวัง คงต้องบอกว่าท่านป้า ท่านเข้าใจผิดแล้ว ข้ามาก่อน หลิงอินมาทีหลัง!

ความจริงก็เป็นเช่นนั้น

เซี่ยเหยียนได้รู้จักหลี่จิ่วเต้าก่อน เพียงแต่ในภายหลังเซี่ยเหยียนตามจักรพรรดิเซี่ยกลับไปที่อาณาจักรเซี่ย และเพราะซากโบราณของราชวงศ์อวี่ฮว่าปรากฏสู่โลก เซี่ยเหยียนจึงต้องอยู่ต่อในอาณาจักรเซี่ยเป็นเวลานาน

หลิงอินเพิ่งมารู้จักหลิ่วจิ่วเต้าในภายหลัง

เพียงแต่ป้าหวังในตอนนั้นมิได้ใส่ใจเท่าใด มิได้จับตามอง ถึงเข้าใจว่าเซี่ยเหยียนมาทีหลัง

ตั้งแต่ป้าหวังจับคู่ดูตัวให้หลี่จิ่วเต้ากับหลิงอิน ถึงได้คอยจับตาดูเหตุการณ์ในบ้านหลี่จิ่วเต้า

“แค่ก ๆ…”

หลี่จิ่วเต้ากระแอมไออย่างอึดอัด บอกตามตรง หลิงอินนั้นดีมาก แต่เขาในตอนนี้ยังไม่มีความคิดด้านนั้น เขาอยากรอไปก่อนแล้วค่อยว่ากัน

“คือว่า…ป้าหวัง พวกเรายังมีธุระ ไว้กลับมาแล้วค่อยคุยกัน!”

หลี่จิ่วเต้าอุ้มแมวน้อยสีขาวบนพื้นขึ้นมา แล้วรีบร้อนไปจากที่นี่

บ้าจริง เขารู้จักป้าหวังดี ขืนสนทนากันต่อไป ไม่แน่ว่าป้าหวังอาจลากเขากับหลิงอินไปจัดงานหมั้นหมายเสียวันนี้เลยก็ได้!

“โอ๊ย ธุระใดสำคัญถึงปานนั้น! คุณชายหลี่ ท่านต้องใส่ใจให้มากกว่านี้ รีบแต่งงาน รีบมีลูก เรื่องพวกนี้สำคัญกว่าเรื่องไหน ๆ!”

ป้าหวังตะโกน

รู้สึกตัวอีกที ข้าก็เป็นเซียนซะแล้ว [原來我是世外高人]

รู้สึกตัวอีกที ข้าก็เป็นเซียนซะแล้ว [原來我是世外高人]

Status: Ongoing

‘หลี่จิ่วเต้า’ ชายหนุ่มผู้ถูกส่งตรงจากดาวเคราะห์สีฟ้ามายังโลกแห่งการฝึกตน ทว่ากลับไร้ซึ่งคุณสมบัติใด ๆ ในการเข้าสู่วิถีผู้ฝึกตน เขาไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากหันมาตกปลา วาดภาพและเขียนกลอนขาย

อันที่จริงหลี่จิ่วเต้ารู้เพียงเล็กน้อยว่า เจ้าแมวน้อยที่มาหาตนเป็นครั้งเป็นคราวเพื่อขอปลากินนั้น แท้จริงแล้วคือพยัคฆ์ขาว ส่วนชายผมขาวที่แข่งเขียนพู่กันกับเขาเป็นตัวตนระดับบรรพกาล และที่จะลืมไปไม่ได้ สตรีผู้งดงามที่มาร้องขอให้เขาช่วยวาดรูปอยู่ทุกวัน นางถึงกับเป็นเซียนในตำนาน!

ชายหนุ่มนิ่งอึ้งไปครู่หนึ่ง “เอาล่ะ…เช่นนั้น ข้าเป็นใครกัน?”

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท