ร้อยรักปักดวงใจ – ตอนที่ 207 ตกแต่ง(ปลาย)

ตอนที่ 207 ตกแต่ง(ปลาย)

เดิมที​สือ​อี​เหนียง​ก็​อิจฉา​ที่ฮู​หยิน​สอง​ได้​ใช้ชีวิต​ที่​สงบสุข​อยู่​ที่​ซี​ซาน​ใน​ช่วง​ปีใหม่​ ​ได้ยิน​สวี​ลิ่ง​อี๋​พูด​เช่นนี้​ ​แน่นอน​ว่านา​งก​็​ไม่​บังคับฮู​หยิน​สอง​ ​ออก​ไป​ส่งฮู​หยิน​สอง​ที่​ประตู​ด้วยตัวเอง

ระหว่างทาง​ ฮู​หยิน​สอง​พูดว่า​ ​“​น้อง​สะใภ้​สี่​ ​ที่จริง​แล้ว​ข้า​อยาก​จะ​พูดคุย​กับ​เจ้า​สองต่อสอง​”

ไม่​แปลกที่​นาง​มาบ​อก​ลา​ตัวเอง

สือ​อี​เหนียง​เข้าใจ​ขึ้น​มาทัน​ที​ ​ในเมื่อ​นาง​มีเรื่อง​อยาก​บอก​กับ​ตัวเอง​ขนาด​นี้​ ​เกรง​ว่า​หาก​ไม่​บรรลุเป้าหมาย​คงจะ​ไม่ยอม​แพ้​ ​นาง​จึง​ยิ้ม​แล้ว​พูดว่า​ ​“​พี่สะใภ้​สอง​มีสิ​่ง​ใด​ให้​ข้า​รับใช้​ก็​บอก​มา​ได้​เลย​เจ้าค่ะ​”

“​ไม่ได้​จะ​ให้​เจ้า​รับใช้​”​ ฮู​หยิน​สอง​ยิ้ม​อย่าง​แผ่วเบา​ ​“​เจ้า​ไม่จำเป็น​ต้อง​เกรงใจ​ข้า​ขนาด​นี้​”

สือ​อี​เหนียง​เห็นท่า​ที​สงบ​เยือกเย็น​ของ​นาง​ ​นาง​ก็​ยิ้ม​ให้ฮู​หยิน​สอง​

“​ข้า​บอก​ให้ท่าน​โหว​ยอมรับ​เด็ก​คน​นั้น​ ​เจ้า​คงจะ​ไม่สบายใจ​ใช่​หรือไม่​!​”​ ฮู​หยิน​สอง​หยุด​เดิน​ ​นาง​มอง​สือ​อี​เหนียง​ด้วย​สายตา​ที่​สงบนิ่ง​และ​ลึกซึ้ง​

“​ไม่ใช่​เจ้าค่ะ​!​”​ ​สือ​อี​เหนียง​ยิ้ม​ ​“​ข้า​คิด​ว่า​พี่สะใภ้​สอง​พูด​ถูก​ ​แทนที่จะ​ปล่อย​ให้​ผู้คน​วิพากษ์วิจารณ์​ ​ไม่​สู้​ยอมรับ​เด็ก​คน​นั้น​มา​เลี้ยง​เสีย​ ​ดีกว่า​มี​ข่าวลือ​ที่​ไม่น่าฟัง​”

“​เจ้า​คิด​แบบนี้​ก็ดี​”​ ฮู​หยิน​สอง​ได้ยิน​เช่นนี้​ก็​ตกใจ​ ​จากนั้น​ก็​ยิ้ม​แล้ว​พยักหน้า​ ​เดิน​ไป​ข้างหน้า​แล้ว​พูด​กับ​นาง​เบา​ๆ​ ​“​เรา​ต้อง​รู้​ว่า​ ​คนใน​ครอบครัว​เดือนร้อน​ ​ครอบครัว​ก็​จะ​อยู่​ไม่​เป็นสุข​ ​ตราบใดที่​ครอบครัว​ของ​เรา​เป็นสุข​ ​เรา​ก็​จะ​เป็นสุข​…​”

จากนั้น​ก็​สั่งสอน​นาง​เรื่อง​ความสามัคคี​ของ​คนใน​ครอบครัว

สือ​อี​เหนียง​รู้​ว่า​ทุกคน​คิด​ว่านาง​ยัง​เด็ก​จึง​ยัง​ไม่รู้​เรื่องราว​อะไร​ ​ดังนั้น​ ​เมื่อ​เกิดเรื่อง​อะไร​ขึ้น​พวกเขา​ก็​มักจะ​ทำตัว​ราวกับ​ผู้ใหญ่​สอน​เด็ก​ก็​ไม่​ปาน​ ​บางครั้ง​ก็​เจตนา​ดี​ ​แต่​บางครั้ง​ก็​มีความสุข​บน​ความทุกข์​ของ​คนอื่น​ ​ถึงแม้ว่า​น้ำเสียง​ของฮู​หยิน​สอง​จะ​เรียบ​นิ่ง​ ​แต่​นาง​ไม่ได้​มี​เจตนาร้าย​ ​สือ​อี​เหนียง​จึง​รับฟัง​มาต​ลอด​ทาง​ ​พยักหน้า​ตลอดทาง​ ​เดิน​ไป​ส่งฮู​หยิน​สอง​ที่​หน้า​ประตู​ฉุยฮ​วา​

รถม้า​รอ​อยู่​ตรงนั้น​อยู่​แล้ว​ ​ป้า​รับใช้​ที่​ติดตาม​มาด​้วย​ยก​บันได​มา​วาง​ ​แต่ฮู​หยิน​สอง​ไม่ได้​รีบ​ขึ้นรถ​ม้า​ ​นาง​พูด​กับ​สือ​อี​เหนียง​ ​“​…​สำหรับ​เรื่อง​อนาตค​ของ​เด็ก​คน​นั้น​ ​เจ้า​ก็​ไม่ต้อง​กังวล​ ​ในเมื่อ​ข้า​เป็น​คน​บอก​ให้​ทำ​เช่นนี้​ ​ข้า​ไม่มีทาง​ทำให้​เจ้า​ลำบากใจ​ ​ทำให้​ท่าน​โหว​เสียเงิน​แม้แต่​สลึง​เดียว​ ​ข้า​จะ​เป็น​คนรับ​ผิด​ชอบ​เอง​”

สือ​อี​เหนียง​ตกใจ

ฮู​หยิน​สอง​ยิ้ม​ ​นาง​พยักหน้า​แล้ว​ขึ้นไป​บน​รถม้า​

มองดู​รถม้า​ที่​กำลัง​แล่น​ออก​ไป​ ​สือ​อี​เหนียง​ก็​อด​หัวเราะ​ออกมา​ไม่ได้

ฮู​หยิน​สอง​ผู้​นี้​ช่าง​น่าสนใจ​ยิ่งนัก

และ​เมื่อ​สวี​ลิ่ง​อี๋​เห็น​นาง​ยิ้ม​กลับมา​ ​พลัน​นึกถึง​เมื่อก่อน​ที่​หยวน​เหนียง​และ​พี่สะใภ้​สอง​ไม่​ค่อย​ถูกชะตา​กัน​ ​เขา​จึง​ถาม​ด้วย​ความสงสัย​ ​“​เกิด​อะไร​ขึ้น​หรือ​ ​ดูดี​ใจ​ขนาด​นี้​?​”​

สือ​อี​เหนียง​เล่าเรื่อง​ที่ฮู​หยิน​สอง​พูด​กับ​ตัวเอง​ให้​สวี​ลิ่ง​อี๋​ฟัง​ ​“​…​อาจจะ​เป็นเพราะว่า​นาง​เป็น​คน​บอก​ให้​รับ​เด็ก​คน​นั้น​มา​เลี้ยง​ใน​เรือน​ของ​เรา​ ​นาง​คงจะ​ไม่สบายใจ​เจ้าค่ะ​”

สวี​ลิ่ง​อี๋​อด​ไม่ได้​ที่จะ​ขมวดคิ้ว​ ​“​ไม่ใช่​เรื่อง​ของ​ใคร​สักหน่อย​”​ ​จากนั้น​ก็​บอก​สือ​อี​เหนียง​ ​“​พี่สะใภ้​สอง​มี​กิจการ​ที่​ทำเงิน​ได้​สอง​สาม​กิจการ​ ​ถึงแม้ว่า​นาง​ไม่ได้​คลาด​แคลน​เงิน​ ​แต่ว่า​นาง​เป็น​ม่าย​ ​เรา​จะ​เอา​เงิน​นาง​ไม่ได้​”

“​ข้า​รู้​เจ้าค่ะ​”​ ​สือ​อี​เหนียง​พยักหน้า​ซ้ำๆ​ ​“​หาก​เรื่อง​นี้​แพร่​พราย​ออก​ไป​ ​คนอื่น​อาจจะ​คิด​ว่า​เรา​รังแก​คน​เป็น​ม่าย​ ​หาก​เป็น​เช่นนั้น​ ​ไม่ว่า​จะ​แก้ต่าง​อย่างไร​ก็​คง​ฟังไม่ขึ้น​”

สวี​ลิ่ง​อี๋​เห็น​ว่านาง​เข้าใจ​แล้ว​ ​เขา​ก็​อด​ไม่ได้​ที่จะ​ลูบ​หัว​นาง​แล้ว​พูดว่า​ ​“​ต่อไป​ข้า​เพิ่ม​เงิน​ให้​เจ้า​เดือน​ละ​ห้าสิบ​ตำลึง​”​ ​หยุด​ไป​ครู่หนึ่ง​แล้ว​พูดว่า​ ​“​เบิก​จาก​ลาน​ข้างนอก​”

สือ​อี​เหนียง​ตกใจ

สวี​ลิ่ง​อี๋​จะ​เอา​เงิน​ของ​ตัวเอง​มา​ให้​นาง​เช่นนั้น​หรือ

เพราะว่า​ต้อง​เลี้ยง​เฟิ​่ง​ชิง​ใน​เรือน​ของ​นาง​?

นาง​มีท​่า​ที​ลังเลใจ​ ​สวี​ลิ่ง​อี๋​ก็​พูด​ขึ้น​ว่า​ ​“​สาย​แล้ว​ ​ไป​ตรอก​กง​เสียน​แล้ว​เรา​ยัง​ต้อง​ไป​ตรอก​หง​เติง​”

สือ​อี​เหนียง​ตอบรับ​ ​สวม​เสื้อคลุม​แล้ว​ออก​ไป​ยัง​เรือน​ไท่ฮู​หยิน​กับ​สวี​ลิ่ง​อี๋

รู้​ว่า​พวกเขา​สอง​คน​จะ​ไป​พูด​เรื่อง​นี้​กับ​นายท่าน​สกุล​หลัว​ ​ไท่ฮู​หยิน​ก็​ถอนหายใจ​ ​ตบมือ​สือ​อี​เหนียง​เบา​ๆ​ ​แต่​ก็​ไม่​พูด​อะไร

มาถึง​ตรอก​กง​เสียน​ ​สถานการณ์​ไม่​เหมือนกับ​ที่​สือ​อี​เหนียง​คิด​ไว้​

สกุล​หลัว​ได้ยิน​ข่าวลือ​เรื่อง​นี้​แล้ว​ ​สำหรับ​เรื่อง​ที่​สวี​ลิ่ง​อี๋​จะ​ยอมรับ​บุตรนอกสมรส​คน​นั้น​เข้ามา​อยู่​ใน​สกุล​ ​นายท่าน​ใหญ่​ไม่เพียงแต่​ไม่ว่า​อะไร​ ​แล้วยัง​บอก​สือ​อี​เหนียง​ว่า​ต้อง​รัก​และ​เคารพ​สามี​ ​เชื่อฟัง​สามี​ ​อย่า​ทะเลาะ​กับ​สามี​เพราะ​เรื่อง​นี้​ ​แล้วยัง​บอก​ให้​นาง​เมตตา​ต่อ​บุตร​อนุ​ ​เป็น​ท่าน​แม่​ที่​จิตใจ​ดี​ศีลธรรม​ ​จะ​ได้​ไม่ผิด​ต่อ​คำสั่งสอน​ของ​นาย​หญิง​ใหญ่

สือ​อี​เหนียง​ได้ยิน​เช่นนี้​ก็​เหงื่อ​ตก​ ​อด​ไม่ได้​ที่จะ​แอบ​คิด​เดา​ใน​ใจ​ ​นายท่าน​ใหญ่​คงจะ​เข้าใจ​เรื่อง​นี้​ดี​ใช่​หรือไม่​…

และ​เมื่อ​หลัว​เจิ​้น​ซิ่ง​เห็น​ว่า​ทานพ​่​อพู​ดมาก​ขึ้น​เรื่อยๆ​ ​เขา​ก็​ขยิบตา​ให้​สือ​อี​เหนียง​ ​“​ยัง​ไม่ได้​ไป​คารวะ​ท่าน​แม่​ใช่​หรือไม่​!​”

สือ​อี​เหนียง​ถือโอกาส​ขอตัว​ออก​ไป​ ​ปล่อย​ให้​สวี​ลิ่ง​อี๋​ ​นายท่าน​ใหญ่​และ​หลัว​เจิ​้น​ซิ่ง​พูดคุย​กัน​ใน​ห้อง​หนังสือ

คุณนาย​ใหญ่​รอนา​งอยู​่​ใต้​ชายคา

เห็น​นาง​เดิน​ออกมา​ ​นาง​ก็​รีบ​เดิน​มาต​้อ​นรับ​แล้ว​พูด​เบา​ๆ​ ​“​เลี้ยงเด็ก​ในนามของ​ใคร​”

ถึงแม้ว่า​นาง​จะ​รู้​ว่า​สวี​ลิ่ง​อี๋​เคย​ให้สัญญา​ไว้​ ​แต่​นาง​ก็​ยังคง​กังวล

“​เลี้ยง​ในนามของถ​งอี​๋​เหนียง​เจ้าค่ะ​”

คุณนาย​ใหญ่​ถอนหายใจ​ด้วย​ความ​โล่งอก​ ​“​ดี​แล้ว​ ​ดี​แล้ว​”​ ​จากนั้น​ก็​พูด​อีกว่า​ ​“​ท่าน​แม่​ยัง​ไม่รู้​เรื่อง​นี้​ ​ประเดี๋ยว​เจ้า​อย่า​ได้​เผลอ​พูด​ออก​ไป​เชียว​”

สือ​อี​เหนียง​พยักหน้า​ ​เมื่อ​เงยหน้า​ขึ้น​มาก​็​เห็น​คุณนาย​สี่​เดิน​เข้ามา

นาง​ม้วน​ผม​เป็น​มวย​กลม​ ​สวม​เครื่องประดับ​สีทอง​ ​สวม​ชุด​อ่าว​สีเขียว​ ​สวม​กระโปรง​สีฟ้า​ ​สายตา​เป็นประกาย​ ​มีชีวิตชีวา

สือ​อี​เหนียง​รีบ​เดิน​เข้าไป​คำนับ​และ​ทักทาย​

คุณนาย​สี่​ยิ้ม​แล้ว​คำนับ​กลับ​ ​แต่กลับ​ไม่​ถาม​ว่านา​งมา​ทำไม​ ​แค่​ชวน​นาง​ไป​นั่ง​ที่​เรือน​หลัง​ ​“​…​อากาศ​หนาว​ ​ไป​นั่ง​ใน​ห้อง​จะ​ได้​อบอุ่น​”

สือ​อี​เหนียง​เอ่ย​ขอบคุณ​นาง​ ​“​ข้า​ยัง​ไม่ได้​ไป​คารวะ​ท่าน​แม่​เลย​เจ้าค่ะ​”

คุณนาย​สี่​และ​คุณนาย​ใหญ่​ช่วย​นาง​เปิดม่าน​ ​แล้วไป​ที่​ห้อง​ของ​นาย​หญิง​ใหญ่​ด้วยกัน​กับ​นาง​

อาการป่วย​ของ​นาย​หญิง​ใหญ่​ยัง​ไม่ดี​ขึ้น​ ​เมื่อ​เห็น​สือ​อี​เหนียง​นาง​ก็​ตกอกตกใจ​ ​มอง​ไป​ที่​ป้า​สวี​่​ที่อยู่​ข้างๆ​ ​ด้วย​สีหน้า​เป็นกังวล​ ​สือ​อี​เหนียง​รู้​ว่านาง​แปลกใจ​ที่​ตัวเอง​กลับมา​กะทันหัน​เช่นนี้​ ​ไม่​รอ​ให้​ป้า​สวี​่​ได้​พูด​อะไร​นาง​ก็​พูด​ก่อน​ว่า​ ​“​วันนี้​ท่าน​โหวดี​ขึ้น​มาก​แล้ว​ ​ดังนั้น​จึง​มา​เยี่ยม​ท่าน​พ่อ​เจ้าค่ะ​”

คุณนาย​ใหญ่​ก็​พูด​อยู่​ข้างๆ​ ​“​ท่าน​ไม่สบาย​ ​ท่าน​โหว​ไม่​สะดวก​เข้ามา​เยี่ยม​ ​ท่าน​พ่อ​จึง​ให้​เขา​อยู่​ที่​ห้อง​หนังสือ​เจ้าค่ะ​”

นาย​หญิง​ใหญ่​พยักหน้า

สือ​อี​เหนียง​ก็​ถามถึง​สุขภาพ​ของ​นาย​หญิง​ใหญ่​ ​พูดคุย​กัน​สอง​สาม​ประโยค​ ​นาย​หญิง​ใหญ่​ก็​ฉี่​รด​ที่นอน​ ​ป้า​สวี​่​และ​คุณนาย​สี่​รับใช้​นาง​เปลี่ยนเสื้อ​ผ้า​ ​คุณนาย​ใหญ่​จึง​พาสื​ออี​เหนียง​ไป​ที่​เรือน​ของ​ตัวเอง

ออกมา​ข้างนอก​ ​นาง​ก็​รีบ​พูดว่า​ ​“​สอง​สาม​วันนี้​อี๋​เหนียง​ห้า​ไม่​ค่อย​สบาย​ ​เจ้า​จะ​ไป​เยี่ยม​นาง​หรือไม่​”

สือ​อี​เหนียง​ตกใจ​ ​“​ขอบคุณ​พี่สะใภ้​ ​รบกวน​พี่สะใภ้​พา​ข้า​ไป​ที​เจ้าค่ะ​”

คุณนาย​ให้​ยิ้ม​แล้ว​พานาง​ไป​ที่​เรือน​ปีก​ทาง​ทิศตะวันออก​ของ​อี๋​เหนียง​ห้า

เพราะว่า​เป็น​ฤดูหนาว​ ​หน้าต่าง​ของ​เรือน​ปีก​จึง​ปิด​ทุก​บาน​ ​อีกทั้ง​ยัง​เป็น​หน้าต่าง​และ​ม่าน​แบบ​เก่า​ ​แสง​ใน​ห้อง​จึง​ค่อนข้าง​มืด​ ​ม่าน​สีฟ้า​ ​แม้​จะ​เป็นกลาง​วัน​แสกๆ​ ​ก็​เห็น​เพียงแต่​เงา​

“​อี๋​เหนียง​ห้า​ ​คุณหนู​สิบเอ็ด​มา​เจ้าค่ะ​!​”

ผ่าน​ไป​ชั่วครู่​ ​ใบหน้า​ที่​ยิ้มแย้ม​ก็​โผล่​ออกมา​จาก​ม่าน​

“​คุณหนู​…​คุณหนู​สิบเอ็ด​”​ ​อี๋​เหนียง​ห้า​พูด​ติดๆ​ ​ขัด​ๆ​ ​เห็น​สือ​อี​เหนียง​นาง​ดูไม่ได้​ดีใจ​ ​ใบหน้า​กลับ​แดงก่ำ​ ​ราวกับว่า​สือ​อี​เหนียง​มาร​บก​วน​นาง

สือ​อี​เหนียง​เห็น​เช่นนี้​ก็​รู้สึก​แปลกใจ​ ​นาง​ใช้​สายตา​ถาม​คุณนาย​ใหญ่

คุณนาย​ใหญ่​เอง​ก็​แปลกใจ​เหมือนกัน​ ​นาง​ส่ายหน้า​แล้ว​กระซิบ​บอก​เบา​ๆ​ ​“​เรื่อง​ใน​เรือน​ของ​ท่าน​พ่อ​ ​ข้า​ไม่​สะดวก​ที่จะ​ถาม​”​ ​จากนั้น​ก็​ยิ้ม​แล้ว​พูด​กับ​อี๋​เหนียง​ห้าว​่า​ ​“​ได้ยิน​มา​ว่า​ท่าน​ไม่สบาย​ ​คุณหนู​สิบเอ็ด​จึง​มา​เยี่ยม​ท่าน​เจ้าค่ะ​”

อี๋​เหนียง​ห้า​ลงมา​จาก​เตียง​ ​ได้ยิน​คุณนาย​ใหญ่​พูด​เช่นนี้​นาง​ก็​ส่ายหน้า​อย่างแรง​ ​“​ข้า​ไม่ได้​เป็น​อะไร​ ​ไม่ได้​เป็น​อะไร​ ​คุณหนู​สิบเอ็ด​ไม่ต้อง​มา​เยี่ยม​ข้า​หรอก​เจ้าค่ะ​”​ ​นาง​พูด​ด้วย​สีหน้า​ที่​ตื่นตระหนก

หรือว่า​นาย​หญิง​ใหญ่​จะ​พูด​อะไร​ ​ทำให้​อี๋​เหนียง​ห้า​หวาดกลัว​?

เห็น​สีหน้า​ของ​นาง​ ​ถึงแม้ว่า​จะ​สวม​ชุด​อ่าว​สีขาว​ที่​ใหม่เอี่ยม​ ​แต่​เสื้อกั๊ก​ยาว​ที่​แขวน​อยู่​บน​ราว​กลับเป็น​ชุด​เก่า​เมื่อ​สอง​สาม​ปีก่อน​ ​ใน​ห้อง​ไม่มี​สาวใช้​สัก​คน​ ​ถาม​นาง​ว่า​เป็น​อะไร​ ​นาง​ก็​ไม่​พูด​ ​สือ​อี​เหนียง​จึง​รู้สึก​มั่นใจ​

เพราะว่า​คุณนาย​ใหญ่​ยืน​อยู่​ข้างๆ​ ​อีกทั้ง​อี๋​เหนียง​ห้า​ก็​ยัง​มีท​่า​ที​ตกใจ​ ​สือ​อี​เหนียง​จึง​ไม่​สะดวก​ที่จะ​ซักถาม​เรื่องราว​ ​นั่ง​อยู่​ครู่หนึ่ง​ก็​ลุกขึ้น​ขอตัว​ลา​ ​จากนั้น​ก็​ไป​ที่​เรือน​ของ​คุณนาย​ใหญ่

พวก​นาง​สอง​คน​เดิน​เข้าไป​ใน​ห้อง​แล้ว​นั่งลง​บน​เตียง​เตา​ข้างหน้า​ต่าง​ ​สาวใช้​ยก​ชา​เข้ามา​ ​คุณนาย​ใหญ่​พูด​ปลอบใจ​สือ​อี​เหนียง​ ​“​เจ้า​ไม่ต้อง​เป็นห่วง​ ​ข้า​จะ​คอย​ดู​ให้​เจ้า​เอง​ ​หาก​เกิดเรื่อง​อัน​ใด​ขึ้น​ข้า​จะ​ส่ง​คน​ไปรา​ยงาน​เจ้า​”​

“​ขอบพระคุณ​พี่สะใภ้​ใหญ่​เจ้าค่ะ​!​”​ ​สือ​อี​เหนียง​ยิ้ม​แล้ว​จิบ​ชา​ ​“​เพราะว่า​เป็นเรื่อง​ใน​เรือน​ของ​ท่าน​พ่อ​ ​พี่สะใภ้​ใหญ่​ไม่​สะดวก​เข้าไป​ยุ่ง​ ​แต่​ข้า​เห็น​ว่า​อี๋​เหนียง​ไม่มี​คน​คอย​รับใช้​เลย​สัก​คน​ ​คง​ต้อง​ไหว้วาน​ให้​พี่สะใภ้​ใหญ่​ช่วยดูแล​นาง​สักหน่อย​”

คุณนาย​ใหญ่​หน้าแดง​ ​นาง​ตอบรับ​ด้วย​สีหน้า​ที่​กลืนไม่เข้าคายไม่ออก​ ​จากนั้น​ก็​เปลี่ยน​เรื่องราว​กับ​พยายาม​หลีกเลี่ยง​เรื่อง​นี้​ ​“​สอง​วันก่อน​ข้า​ไป​เยี่ยม​สือ​เหนียง​มา​”​ ​พูด​จบ​ก็​ถอนหายใจ​ ​“​เด็ก​ใน​ท้อง​รักษา​ไว้​ไม่ได้​จริงๆ​”

สือ​อี​เหนียง​พลัน​นึก​ขึ้น​มา​ได้​ ​ครั้งก่อน​ที่​กลับ​สกุล​เดิม​ ​นาง​บอกว่า​จิน​เหมย​ ​สาวใช้​ของ​สือ​เหนียง​ตั้งครรภ์

“​ว่า​อย่างไร​นะ​เจ้า​คะ​ ​หวัง​หลัง​ไป​ก่อเรื่อง​อีกแล้ว​?​”

“​ไม่ใช่​”​ ​คุณนาย​ใหญ่​พูด​ ​“​บอกว่า​นอน​เบื่อ​อยู่​ใน​เรือน​ ​จึง​ไป​ช่วย​ท่าน​ป้า​เก็บ​ไข่ไก่​สอง​ฟอง​ ​เด็ก​ก็​แท้ง​”

“​คง​เป็นเพราะว่า​สกุล​หวัง​ไม่มี​วาสนา​!​”​ ​สือ​อี​เหนียง​ไม่​ชอบ​หวัง​หลัง​อยู่​แล้ว​ ​นาง​ไม่ได้​อยาก​จะ​ฟัง​เรื่อง​ทุเรศ​ๆ​ ​ของ​เขา​ ​จึง​ซักถาม​ถึง​สือ​เอ้อร​์​เหนียง​แทน​ ​“​เหตุใด​จึง​ไม่เห็น​นาง​เลย​เล่า​”

“​อี๋​เหนียง​หก​ให้​นาง​อยู่​ใน​ห้อง​ทุกวัน​ ​หาก​ไม่​เขียน​กระดาษ​สอง​แผ่น​ก็​ไม่​อนุญาต​ให้​นาง​ออกมา​”

สือ​อี​เหนียง​นึกถึง​อู่​เหนียง​ ​แล้วก็​นึกถึง​เรื่อง​ที่นาง​ให้​ตน​ตามหา​ฟั่น​เหวย​กัง​ ​“​…​ช่วงนี้​ไม่ได้​กลับมา​เลย​หรือ​เจ้า​คะ​”

“​นาง​ตั้งครรภ์​ ​ไม่​สะดวก​ ​จึง​ไม่​กลับมา​”​ ​คุณนาย​ใหญ่​ตอบ​ ​แต่กลับ​พูดถึง​ชี​เหนียง​ ​“​…​นาง​ส่ง​ของ​มาตั​้​งมา​กมาย​ ​ข้า​ก็​พยายาม​ส่ง​ของขวัญ​ตอบแทน​ไป​ให้​นาง​ ​แต่​หาก​ต่อไป​เป็น​เช่นนี้​ทุกปี​ ​ก็​คงจะ​ไม่ไหว​จริงๆ​”

“​นี่​เป็น​ปี​แรก​ที่นาง​แต่งงาน​ ​แน่นอน​ว่า​ต้อง​จัด​ใหญ่โต​หน่อย​เจ้าค่ะ​”​ ​สือ​อี​เหนียง​ปาก​ตอบกลับ​คุณนาย​ใหญ่​ ​แต่​ใน​ใจ​กลับ​กำลัง​คิดถึง​อู่​เหนียง​

ดูเหมือนว่า​นาง​ไม่ได้​กลับมา​พูด​เรื่อง​นี้​ที่​สกุล​เดิม​!

ถึงแม้ว่า​ตัวเอง​จะ​ปฏิเสธ​ไป​อย่าง​อ้อม​ๆ​ ​แล้ว​ ​แต่​เกรง​ว่านาง​จะ​ยัง​ไม่ยอม​แพ้​…

ทั้งสอง​คนพูด​คุย​กัน​ ​สาวใช้​ที่​ห้อง​หนังสือ​ก็​เข้ามา​รายงาน​ ​“​ท่าน​โหว​จะ​กลับ​แล้ว​เจ้าค่ะ​”

คุณนาย​ใหญ่​พาสื​ออี​เหนียง​ไป​บอกลา​นาย​หญิง​ใหญ่​ ​จากนั้น​ก็​ออก​ไป​ส่ง​นาง​ที่​หน้า​ประ​ตุ​ฉุยฮ​วา

พวกเขา​สอง​คน​ไป​ที่​ตรอก​หง​เติง​ ​สกุล​ซุน​ของ​ติ้ง​หนาน​โหว

จวน​ของ​สกุล​ซุน​เล็ก​กว่า​สกุล​สวี​ ​ล้วนแต่​สร้าง​ตาม​กฎเกณฑ์​ของ​ตำแหน่ง​ท่าน​โหว​ ​ประตู​ใหญ่​และ​ห้องโถง​ล้วนแต่​ใหญ่​เล็ก​ไม่​เหมือนกัน​

ท่าน​โหว​อายุ​สี่​สิบ​ถึง​ได้รับ​ตำแหน่ง​ตาน​หยาง​เซี​่​ยน​จู่​ ​เคย​สู้​กับ​กบฏ​ใน​ซง​โจว​กับ​ฮ่องเต้​องค์​ก่อน​ ​ถึงแม้ว่า​เขา​จะ​รุ่น​ราว​คราว​เดียว​กับ​ไท่ฮู​หยิน​ ​แต่​หาก​ไม่พูดถึง​อายุ​ ​เขา​คือ​ขุนนาง​ที่​มี​ความสามารถ​ระดับ​ต้นๆ​ ​สวี​ลิ่ง​อี๋​เคารพ​เขา​เป็นอย่างมาก​ ​แต่​เขา​ก็​ไม่ได้​หลีกเลี่ยง​ที่จะ​พาสื​ออี​เหนียง​ไปหา​ติ้ง​หนาน​โหว​

รูปร่าง​ของ​ติ้ง​หนาน​โหว​ไม่ได้​สูง​มาก​นัก​ ​แต่​สุขภาพ​ดู​แข็งแรง​ ​ผม​ขาว​ ​ฝ่ามือ​ใหญ่​ราวกับ​ใบพัด​กำลัง​ถือ​หยก​กลม​สาม​ลูก​ที่​ขนาด​เท่า​กำปั้น​ของ​ทารก​หมุน​ไปมา

เขามอง​สือ​อี​เหนียง​ตั้งแต่​หัว​จรด​เท้า​ ​“​นี่​คือ​ภรรยา​ของ​เจ้า​หรือ​”

สายตา​ที่​อ่อนโยน​ ​รอยยิ้ม​ที่​แจ่มใส​ ​ทำให้​ผู้คน​รู้สึก​เข้าถึง​ได้​ง่าย​

สวี​ลิ่ง​อี๋​ตอบกลับ​ ​“​ขอรับ​”​ ​ด้วย​ความเคารพ​

เขา​ยิ้ม​ ​ ​“​ราวกับ​หัวหอม​”

สือ​อี​เหนียง​รู้สึก​เขินอาย

บอกว่า​ตัวเอง​ผอม​เกินไป​หรือว่า​ตัวเอง​เด็ก​เกินไป​…

สวี​ลิ่ง​อี๋​ได้ยิน​เช่นนั้น​ก็​ทำ​เพียงแค่​ยิ้ม​

ติ้ง​หนาน​โหว​บอก​ให้​สาวใช้​พาสื​ออี​เหนียง​ไปหาฮู​หยิน​ของ​ตัวเอง​ ​จากนั้น​ก็​ไป​ยัง​ห้อง​หนังสือ​กับ​สวี​ลิ่ง​อี๋​

สวี​ลิ่ง​อี๋​ไม่ได้​เกรงใจ​ติ้ง​หนาน​โหว​ ​เขา​พูด​สาเหตุ​ที่มา​ที่นี่​อย่างตรงไปตรงมา

เมื่อ​ได้​ฟัง​แล้ว​ติ้ง​หนาน​โหวก​็​ถอนหายใจ​ ​“​เจ้า​ตัดสินใจ​เอง​เถิด​”​

สวี​ลิ่ง​อี๋​เห็น​ว่า​ตัวเอง​นั้น​ได้​บอก​เขา​แล้ว​ ​จึง​พูดคุย​กับ​ติ้ง​หนาน​โหว​อีก​เพียง​สอง​สาม​ประโยค​ ​จากนั้น​ก็​ขอตัว​ลา

ร้อยรักปักดวงใจ

ร้อยรักปักดวงใจ

Status: Ongoing

เมื่อจวนสกุลหลัว มีภรรยาเอกหนึ่งคนและอนุภรรยาอีกหกคน จึงตามมาด้วยพี่น้องต่างมารดามากมาย

หลัวหยวนเหนียง บุตรีคนโตจากนายหญิงใหญ่ ได้แต่งเป็นภรรยาเอกของ สวีลิ่งอี๋ ที่มีบรรดาศักดิ์เป็นถึงหย่งผิงโหว แม่ทัพใหญ่

ทว่า ช่างโชคร้ายที่หลัวหยวนเหนียงล้มป่วนหนักและรู้ดีว่าใกล้ถึงวาระสุดท้าย นางจึงวางแผนการใหญ่กับมารดา

นั่นคือ การเลือกหนึ่งในหญิงสาวพี่น้องสกุลหลัวที่ยังไม่ได้ออกเรือนมาคอยดูแล จุนเกอ บุตรชายสุดที่รักเพียงคนเดียว และ...

คอยรักษาอำนาจของสกุลหลัวไว้ในฐานะภรรยาเอก โดยการแต่งงานกับหย่งผิงโหวเพื่อเป็นภรรยาตัวแทน!

สุดท้าย ผู้ถูกเลือกนั้นกลับกลายเป็นบุตรีของอนุภรรยา คุณหนูสิบเอ็ดผู้รักความสงบอย่าง สืออีเหนียง

แม้ไม่อาจหนีพ้นชะตากรรมที่มีผู้กำหนดมาให้ มีแต่ต้องเผชิญกับความวุ่นวายตรงหน้าต่อไป

ทักษะการปักผ้า ไหวพริบที่ติดตัวมา และเสน่ห์สุขุมดั่งน้ำนิ่ง อาจนำไปสู่กระแสน้ำพัดพาเหนือใครจะคาดเดา!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท