ตอนที่ 154 กระบี่หนึ่งแสนแปดพันเล่มที่ทำให้ทั้งลานงานชุมนุมคัดเลือกศิษย์ต้องตื่นตกใจ!
มองเห็นหนิงฝานก้าวเท้าขึ้นมา เยี่ยอู๋เต้าพลันขมวดคิ้วมุ่น!
และเหล่าบุตรศักดิ์สิทธิ์ที่อยู่ข้างหลังเขาต่างก็เริ่มส่งเสียงพูดคุยกัน!
“เจ้าเป็นผู้ใดกัน เหตุใดจึงกล้ามาเทียบกับบุตรศักดิ์สิทธิ์อย่างข้า!”
“ไสหัวไปให้พ้น! ตำแหน่งผู้สืบทอดกึ่งเซียนไม่ใช่สิ่งที่เจ้าจะเข้ามายุ่งด้วยได้!”
“เจ้าเป็นผู้ฝึกยุทธ์มาจากที่ใด ถึงกล้าทำตัวหยาบคายกับข้าเช่นนี้!”
“…”
ผู้คนที่อยู่ในลานงานชุมนุมคัดเลือกศิษย์ต่างก็รู้สึกประหลาดใจ!
คิดไม่ถึงว่าในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อเช่นนี้จะมีคนกล้าเข้ามายุ่งวุ่นวายกับเยี่ยอู๋เต้า!
หนิงฝานไม่ได้สนใจผู้คนเลย เขามองไปที่ปรมาจารย์เซียนกระบี่และทำท่าคำนับ “ข้าขอลองได้หรือไม่?”
แม้ว่าปรมาจารย์เซียนกระบี่จะไม่ได้คิดว่าหนิงฝานสามารถจะเอาชนะเยี่ยอู๋เต้าได้ แต่ก็ยังคงพยักหน้า “หากการประเมินในวันนี้ยังไม่จบลง เจ้าก็ยังสามารถลองได้!”
“ขอบคุณท่านมาก!”
ได้ยินเช่นนั้น หนิงฝานก็ก้าวเข้าไปตรงด้านหน้าของกล่องกระบี่!
บุตรสวรรค์เหล่านั้นต้องการจะพูดบางสิ่ง แต่เยี่ยอู๋เต้าห้ามเอาไว้!
“ด้วยความยินดี!”
“ให้เขาได้ลองดู พวกฝึกยุทธ์ธรรมดา ๆ หรือจะเหนือกว่าข้าได้ มั่นใจมากเกินไปแล้ว!”
เยี่ยอู๋เต้าหัวเราะขึ้นมา!
แน่นอนว่าเขาตั้งใจเอาไว้แล้วว่าทันทีที่เรื่องนี้จบลง เขาจะจัดการสั่งสอนหนิงฝานให้หลาบจำ!
ในขณะเดียวกัน
หนิงฝานมองดูกล่องกระบี่ซึ่งมีพลังศักดิ์สิทธิ์ปกคลุมอยู่ พลันสายตาก็มองไปเห็นมิติอันมืดมิดเข้า ซึ่งภายในนั้นมีกระบี่วางไว้อยู่ ที่ยิ่งไปกว่านั้น มันมีทั้งกระบี่วิญญาณไปจนถึงกระบี่เทพ!
รวม ๆ แล้วมีถึงหนึ่งแสนแปดพันเล่ม!
หึ่ง!
ชายหนุ่มไม่ได้ขยับตัว แต่กระตุ้นร่างแห่งเซียนกระบี่บรรพกาลให้ปลดปล่อยปราณกระบี่ออกมา!
ตู้ม! ตู้ม! ตู้ม!
ทันใดนั้นเอง ปราณกระบี่ก็ทำให้ศัสตราวุธในกล่องสั่นสะเทือน หลังจากนั้นแสงกระบี่ก็พวยพุ่งออกมาทีละเล่ม!
ร้อยเล่ม!
พันเล่ม!
หมื่นเล่ม!
เพียงพริบตาเดียว กระบี่กว่าหมื่นเล่มก็พุ่งตัวออกมาลอยอยู่รอบ ๆ ตัวของชายหนุ่ม มิหนำซ้ำ กระบี่ทุก ๆ เล่มยังส่งเสียงเปรมปรีดิ์ออกมาด้วย!
เห็นได้ชัดว่า ร่างแห่งเซียนกระบี่บรรพกาลนั้นดึงดูดอาวุธกระบี่พวกนี้เป็นอย่างมาก!
“หือ? สวรรค์!”
“กระบี่หมื่นเล่ม เขาเองก็สามารถหยิบกระบี่ขึ้นมาได้ถึงหมื่นเล่ม!”
“เยี่ยอู๋เต้าต้องใช้ฝักกระบี่คลุมฟ้า จึงจะสามารถเรียกกระบี่ได้หมื่นเล่ม แต่คนผู้นี้…เขาทำได้อย่างไร!”
“หรือว่าคนผู้นี้ยังมีร่างกระบี่แฝงอย่างอื่นอีก!”
“…”
เมื่อเห็นเช่นนั้นแล้ว ผู้คนต่างเกิดความโกลาหลในทันที!
ขณะเดียวกัน เยี่ยอู๋เต้าก็ขมวดคิ้วแน่น!
เขาใช้ฝักกระบี่คลุมฟ้าจึงสามารถเรียกกระบี่ได้หมื่นเล่มออกมาได้ แต่หนิงฝานใช้เพียงแค่ปราณของตนเองก็สามารถเรียกกระบี่ออกมาได้หมื่นเล่ม!
คนทั้งสองนับว่าแตกต่างอย่างเห็นได้ชัด!
และในเวลานี้เอง ผู้ที่ไม่ได้คาดหวังอะไรมากมายอย่างปรมาจารย์เซียนกระบี่ก็เกิดประกายขึ้นในดวงตา!
เห็นได้ชัดว่าเขามีแผนที่จะมอบตำแหน่งผู้สืบทอดนี้ให้กับหนิงฝาน!
เยี่ยอู๋เต้าตะโกนออกมาทันทีว่า “ปรมาจารย์เซียนกระบี่ หากนับเรื่องการมาก่อนมาหลัง แม้ว่าเขาจะสามารถหยิบกระบี่ออกมาได้เท่ากับข้า แต่หากท่านจะยกตำแหน่งผู้สืบทอดให้กับเขา ข้าคงไม่พอใจเป็นอย่างมากแล้ว!”
“และหมู่ตึกเซียนวิถีสวรรค์ของข้าก็ไม่มีทางยอมรับ!”
หากจะพูดว่าคำพูดก่อนหน้านั้นดูหยาบคาย แต่คำพูดประโยคหลังก็ถือว่าเป็นการข่มขู่อย่างเห็นได้ชัด!
“หืม?”
“บังอาจ!”
“เยี่ยอู๋เต้า ที่นี่คือสำนักเซียนกระบี่ ไม่ใช่หมู่ตึกเซียนวิถีสวรรค์ มิหนำซ้ำมันยังไม่ใช่ที่ที่เจ้าจะมาทำตัวเยี่ยงนี้ได้!”
ทันใดนั้น เหล่าคนในสำนักเซียนกระบี่ชั้นสูงต่างก็พูดคุยกันอย่างดุเดือด!
เยี่ยอู๋เต้าไม่ได้พูดอะไรและเพียงแค่ยิ้มขึ้นมา ใบหน้าของเขาไม่ได้เกรงกลัวเลยแม้แต่น้อย!
ไม่มีผู้ใดไม่รู้ว่า เวลาสุดท้ายของปรมาจารย์เซียนกระบี่มาถึงแล้ว!
และหากไม่มีปรมาจารย์เซียนกระบี่คอยควบคุม สำนักเซียนกระบี่ย่อมถูกกำหนดให้เป็นกองกำลังระดับสอง!
เพื่อสำนักเซียนกระบี่ ปรมาจารย์เซียนกระบี่เองก็ไม่กล้าที่จะทำให้หมู่ตึกเซียนวิถีสวรรค์ไม่พอใจ!
ทว่า…
หลังคำข่มขู่ของเยี่ยอู๋เต้า แม้ว่าปรมาจารย์เซียนกระบี่จะไม่ค่อยพอใจนัก แต่ก็ไม่ได้ลงมืออะไรกับเยี่ยอู๋เต้า!
อย่างที่เยี่ยอู๋เต้าคิด เขาสามารถทำตามอำเภอใจได้ และเพื่อสำนักเซียนกระบี่เอง อีกฝ่ายจึงไม่สามารถแตกหักกับหมู่ตึกเซียนวิถีสวรรค์ได้!
ปรมาจารย์เซียนกระบี่ตกอยู่ในสถานการณ์ที่กลืนไม่เข้าคายไม่ออก!
“ฮ่า ๆ เทียบกับเจ้า? เจ้าคิดมากเกินไปแล้ว!”
จู่ ๆ หนิงฝานก็หัวเราะขึ้นมา
จากนั้นร่างแห่งเซียนกระบี่บรรพกาลก็สั่นไหวอย่างรุนแรง และเขาก็ชี้ไปที่กล่องกระบี่!
“กระบี่จงมา!”
หลังสิ้นเสียงของหนิงฝาน กล่องกระบี่ทั้งหมดก็สั่นสะเทือน!
ตู้ม! ตู้ม! ตู้ม!
ทันใดนั้น กล่องกระบี่ก็ระเบิดออก ราวกับปราณกระบี่สะกดให้กล่องกระบี่ระเบิดออกมาอย่างบ้าคลั่ง!
สองหมื่นเล่ม!
ห้าหมื่นเล่ม!
แปดหมื่นเล่ม!
จนกระทั้งหนึ่งแสนแปดพันเล่ม!
ในเวลานี้ กระบี่ทั้งหนึ่งแสนแปดพันเล่มก็ลอยขึ้นมาล้อมรอบตัวของหนิงฝาน อีกทั้งกระบี่แต่ละเล่มยังแฝงไปด้วยปราณกระบี่ที่รุนแรง ราวกับจะทลายฟ้าดินให้ราบคาบ!
ผู้คนมากมายพลันแตกตื่นด้วยความตกใจ!
“โอ้สวรรค์!”
“กระบี่หนึ่งแสนแปดพันเล่ม!”
“เขาสามารถทำให้กระบี่ทุกเล่มในกล่องกระบี่ออกมาได้!”
“บัดซบ! คนผู้นี้ใช้วิธีการอันใดกัน เหตุใดถึงสามารถนำกระบี่ทั้งหมดออกมาได้!”
“…”
เห็นเช่นนั้นแล้ว ใบหน้าของเยี่ยอู๋เต้าก็เต็มไปด้วยความมืดมนปนกังวลใจ!
“สวรรค์!”
“ร่างเซียนกระบี่บรรพกาล!”
“นี่มันร่างเซียนกระบี่บรรพกาลในตำนาน!”
ทันใดนั้น ดวงตาของปรมาจารย์เซียนกระบี่ก็เปล่งประกายความหวังอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน!
สิ้นเสียงนั้น ก็พลันทำให้ผู้คนในลานงานชุมนุมคัดเลือกศิษย์ตื่นตกใจไปตาม ๆ กัน!
ร่างเซียนกระบี่บรรพกาล!
หรือนี่คือร่างเซียนกระบี่บรรพกาลในตำนานที่จะมาเป็นเซียนกระบี่ที่แข็งแกร่งรุ่นต่อไป!
“ดี ๆๆ! คิดไม่ถึงว่าในที่สุดเจ้าก็มาแล้ว ในที่สุดโชคก็นำพาให้ตามหาร่างเซียนกระบี่บรรพกาลจนเจอ ต่อจากนี้ หากข้าตายก็ไม่มีอะไรให้ต้องห่วงอีกแล้ว ไม่ต้องห่วงอีกแล้ว!”
ในเวลานี้เอง ปรมาจารย์เซียนกระบี่มองไปที่หนิงฝาน สายตาที่มองราวกับกำลังจ้องมองสมบัติอันล้ำค่า!
หลังจากนั้น เขาก็ถามหนิงฝานด้วยท่าทางตื่นเต้น “สหายตัวน้อย ไม่ทราบว่าเจ้ามีนามว่าอะไร เคยเข้าร่วมกองกำลังมาก่อนหรือไม่?”
“ข้ามีนามว่าหนิงฝาน เป็นเพียงผู้ฝึกยุทธ์ไร้สำนัก!” หนิงฝานตอบ
“ผู้ฝึกยุทธ์ไร้สำนัก ดียิ่งที่เป็นผู้ฝึกยุทธ์ไร้สำนัก!”
เมื่อได้ยินเช่นนั้น ปรมาจารย์เซียนกระบี่ยิ่งดีใจมากขึ้น และตอบกลับไปว่า “หนิงฝาน เจ้ามีร่างเซียนกระบี่บรรพกาล และสำนักเซียนกระบี่ของข้าเองก็เป็นสำนักฝึกกระบี่ นี่ช่างลงตัวพอดีเสียจริง! ขอเพียงเจ้าเข้าร่วมสำนักเซียนกระบี่ของข้า ข้าจะยกตำแหน่งผู้สืบทอดให้เจ้า ตกลงหรือไม่?”
“ตกลง!” หนิงฝานพยักหน้า!
เดิมทีการเข้าร่วมกับสำนักของแคว้นเซียนก็อยู่ในแผนการของเขาอยู่แล้ว!
ประการแรก เขาสามารถลงชื่อเข้าใช้ได้ ประการที่สอง เขาสามารถทำความเข้าใจเรื่องกองกำลังของแคว้นเซียนได้มากยิ่งขึ้น!
“ดี!”
“คนผู้นี้คือผู้สืบทอดของข้า!”
หลังจากได้ยินหนิงฝานตอบรับแล้ว ปรมาจารย์เซียนกระบี่ก็หยิบดวงแสงมรดกขึ้นมา ภายในแสงนั้นมีเคล็ดวิชาฝึกยุทธ์ สุดยอดพลัง โอสถล้ำค่า ศิลาวิญญาณ และอื่น ๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งมีบางอย่างที่สงวนเอาไว้ให้เฉพาะผู้สืบทอดเท่านั้น!
“เจ้ามันสมควรตาย!”
“ตำแหน่งผู้สืบทอดเป็นของเยี่ยอู๋เต้าเพียงผู้เดียว!”
ขณะที่หนิงฝานกำลังจะรับมรดกมานั้น เยี่ยอู๋เต้าที่ดูโกรธแค้นก็ตะโกนขึ้นมา!
ครืด!
ในเวลานี้เอง พลันปราณเทพสวรรค์ก็ปะทุขึ้น เยี่ยอู๋เต้าใช้ออกด้วยพลังทั้งหมดและพุ่งเข้าไปหาหนิงฝานในบัดดล!
ในความคิดของเยี่ยอู๋เต้า หากเขาไม่ได้ครอบครองมรดกนี้ ผู้อื่นก็อย่าได้หวัง!
เพราะไม่สามารถทำลายมรดกของผู้สืบทอดได้ เช่นนั้นก็ฆ่าหนิงฝานผู้นี้ให้ตายเสีย!
คิดท้าทายปรมาจารย์เซียนกระบี่?
คนที่ใกล้ความตายเช่นเขา ย่อมไม่มีอะไรที่จะต้องเกรงกลัวหมู่ตึกเซียนวิถีสวรรค์อีกต่อไป!
เมื่อเห็นเช่นนั้นแล้ว สีหน้าของปรมาจารย์เซียนกระบี่ก็ดูเย็นชาขึ้น เขายกมือขึ้นเพื่อเตรียมสกัดกั้น!
เพราะไม่ใช่เรื่องง่ายเลยที่เขาจะตามหาผู้สืบทอดจนเจอ เช่นนี้แล้ว จะให้เขาทนดูผู้สืบทอดถูกทำร้ายได้อย่างไร!
ทว่ายังไม่ทันที่เขาจะได้ลงมือ!
“รนหาที่ตาย!”
หนิงฝานพูดขึ้น พร้อมกับชี้นิ้วไปทางเยี่ยอู๋เต้า!
ตู้ม!
เสียงดังลั่นสนั่นไปทั่วบริเวณ การโจมตีของเยี่ยอู๋เต้าพลันย่อยยับเป็นเสี่ยง ๆ!
“อ๊าก!”
“เทพสูงสุด!!”
หลังจากรู้ถึงพลังของอีกฝ่ายแล้ว เยี่ยอู๋เต้าพลันร้องออกมาด้วยความตกใจ!
ทว่าไม่ทันรอให้เขาได้ร้องขอความเมตตา พลังนั้นก็วิ่งผ่านร่างกายของเขา ชั่วพริบตา เส้นลมปราณภายในตัวของเขาก็แตกออกเป็นเสี่ยง ๆ ร่างของเทพสวรรค์ร่วงหล่นลงมาราวกับน้ำตก!
เยี่ยอู๋เต้า… พิการ!
เมื่อเห็นเช่นนั้น ผู้คนทั่วทั้งลานงานชุมนุมคัดเลือกศิษย์ต่างก็ตกตะลึงไปในบัดดล!