ตอนที่ 155 เจ้าสำนักคนใหม่ หมู่ตึกเซียนวิถีสวรรค์!
เมื่อเห็นว่าหนิงฝานสามารถใช้เพียงนิ้วเดียวเพื่อทำลายเยี่ยอู๋เต้าได้นั้น ผู้คนทั้งลานงานชุมนุมคัดเลือกศิษย์ต่างก็ตื่นตกใจ!
มิหนำซ้ำยังคาดไม่ถึงว่า คนผู้นี้ซึ่งมีร่างเซียนกระบี่บรรพกาลจะเป็นเทพสูงสุดได้!
เทพสูงสุด!
แม้แต่ในบรรดากองกำลังชั้นหนึ่งอย่างสำนักเซียนกระบี่และหมู่ตึกเซียนวิถีสวรรค์เอง เขาก็ถือเป็นผู้ฝึกยุทธ์อันดับต้น ๆ แล้ว
“อ๊า!”
“เขาไม่ได้มีเพียงร่างเซียนกระบี่บรรพกาลเท่านั้น แต่ยังเป็นเทพสูงสุดด้วย!”
ในเวลานี้ แม้แต่ปรมาจารย์เซียนกระบี่ก็ตื่นตกใจเป็นอย่างมาก!
หลังจากความตกใจจางหายไป เขาก็หันไปมองเยี่ยอู๋เต้าผู้พิการ นัยน์ตาของเขาปรากฏความมืดมน!
“ไป!”
ยามนี้ เยี่ยอู๋เต้าผู้พิการไม่กล้าเอ่ยให้มากความอีก แต่เรียกให้บุตรศักดิ์สิทธิ์รีบพาตนกลับไป!
“สหายตัวน้อย คิดไม่ถึงเลยว่าเจ้าจะเป็นถึงเทพสูงสุดแล้ว และทั้ง ๆ ที่เจ้าก็ทราบดีว่าเยี่ยอู๋เต้าเป็นคนของหมู่ตึกเซียนวิถีสวรรค์ แต่เจ้ายังสามารถทำร้ายเขาได้ เห็นได้ชัดว่ามิได้เกรงกลัวหมู่ตึกเซียนวิถีสวรรค์เลย แท้จริงแล้วเจ้าคือเทพยุทธ์มาจากที่แห่งใดกัน?”
ปรมาจารย์เซียนกระบี่มองหนิงฝานด้วยสายตาจริงจัง!
หนิงฝานไม่อาจบอกความจริงถึงที่มาของตนเองได้ จึงส่ายหน้าในทันที “ข้าเป็นผู้ฝึกยุทธ์ธรรมดา ๆ หากท่านจะกลับใจ ข้าก็คงมิอาจบังคับท่านได้ ข้าขอตัวก่อน!”
พูดจบ ชายหนุ่มก็หันหลังและจากไป!
ในสายตาของผู้อื่น มรดกของผู้สืบทอดนั้นล้ำค่าเป็นอย่างยิ่ง แต่สำหรับเขานั้นจะมีหรือไม่มี ก็มีค่าเท่ากัน!
การกระทำของหนิงฝาน ทำให้กลุ่มผู้คนต่างถกเถียงกัน!
“หา?!”
“เขาต้องการจากไปจริง ๆ หรือ แต่นี่เป็นตำแหน่งผู้สืบทอดเลยนะ กระทั่งเทพสูงสุดเองก็ยังมีความต้องการเป็นอย่างมาก!”
“นี่คงเป็นนิสัยใจคอของเขา!”
“ฮ่า ๆ นิสัยใจคออันใด เห็นได้ชัดว่าเขากลัวหมู่ตึกเซียนวิถีสวรรค์จะมาเอาคืนมากกว่า!”
“…”
เมื่อมองดูแผ่นหลังที่จากไปของหนิงฝาน ปรมาจารย์เซียนกระบี่ก็รู้สึกลำบากใจอีกครั้ง!
ประการแรก หนิงฝานทำให้เยี่ยอู๋เต้าพิการ นี่ย่อมเป็นการยั่วโมโหหมู่ตึกเซียนวิถีสวรรค์แน่นอน และหากให้หนิงฝานเข้าร่วมกับสำนักเซียนกระบี่ ความโกรธเกลียดจากหมู่ตึกเซียนวิถีสวรรค์จะต้องส่งผลมาถึงสำนักเซียนกระบี่เป็นแน่!
แต่… สหายตัวน้อยเป็นถึงร่างเซียนกระบี่บรรพกาลในตำนาน อายุก็ยังน้อย แต่กลับสามารถฝึกฝนจนมาถึงเทพสูงสุดได้ หากให้เวลาเขาอีกสักหน่อย คนผู้นี้จะต้องฝึกฝนจนถึงขอบเขตกึ่งเซียนได้อย่างแน่นอน!
หรือบางทีอาจจะฝึกฝนได้ถึงขอบเขตเซียนธุลีสีชาดในตำนาน!
ยามนี้ เขาได้แต่คิดถึงข้อดีข้อเสียของเรื่องนี้อยู่ภายในใจ!
“ช้าก่อน สหายตัวน้อย!”
ฉับพลันนั้น ในขณะที่หนิงฝานกำลังจะออกจากลานคัดเลือกไป ปรมาจารย์เซียนกระบี่ก็เอ่ยปากรั้งเขาเอาไว้!
ชายหนุ่มหันหน้ากลับมา
ในเวลานี้เอง เหมือนกับว่าปรมาจารย์เซียนกระบี่จะเลือกได้แล้ว เขาจึงเอ่ยปากว่า “หนิงฝาน ตำแหน่งผู้สืบทอดของข้า ข้าจะยกให้เจ้า แต่ข้ามีเงื่อนไขหนึ่งข้อ!”
“หือ? เงื่อนไขอันใด!” หนิงฝานเลิกคิ้ว
“เงื่อนไขข้อนี้ก็คือ เจ้าจะต้องเป็นผู้นำของสำนักเซียนกระบี่ของข้า!” ปรมาจารย์เซียนกระบี่เอ่ยปากออกมาด้วยสีหน้าจริงจัง!
ฟึ่บ!
ได้ยินเช่นนั้น ผู้คนภายในลานงานชุมนุมคัดเลือกศิษย์ต่างระเบิดเสียงเซ็งแซ่ในทันที!
“สวรรค์! ข้าได้ยินเรื่องอันใดกัน!”
“ปรมาจารย์เซียนกระบี่ไม่เพียงแต่ต้องการยกตำแหน่งผู้สืบทอดให้เขา แต่ยังให้เขามาเป็นเจ้าสำนักเซียนกระบี่ด้วย!”
“นี่มันเรื่องอันใดกัน ข้าไม่เข้าใจ!”
“เจ้าโง่! ปรมาจารย์เซียนกระบี่กำลังเดิมพันด้วยอนาคตของสำนักเซียนกระบี่ หากร่างเซียนกระบี่บรรพกาลของเขาแข็งแกร่งขึ้น ก็จะไม่มีศัตรูที่ไหนกล้ามายุ่งกับแคว้นเซียนของเรา!”
“หากเป็นเช่นนั้นจริง หมู่ตึกเซียนวิถีสวรรค์จะไม่โกรธแค้นสำนักเซียนกระบี่หรือ?”
“แน่นอน ถึงได้พูดว่าปรมาจารย์เซียนกระบี่กำลังลงเดิมพันอยู่!”
“สำนักเซียนกระบี่ในวันนี้ จะพังพินาศหรือเจริญรุ่งเรืองกันนะ!”
“…”
โดยที่ไม่ได้สนใจคำพูดของผู้คนรอบข้าง หนิงฝานเพียงเลิกคิ้วขึ้น“ท่านแน่ใจหรือว่าจะให้ข้าเป็นเจ้าสำนักเซียนกระบี่? เมื่อครู่นี้ข้าเพิ่งทำให้เยี่ยอู๋เต้าเป็นคนพิการนะ!”
“แน่ใจ!”
สีหน้าของปรมาจารย์เซียนกระบี่จริงจังมาก!
แม้ว่าหลังจากให้หนิงฝานเป็นเจ้าสำนักเซียนกระบี่แล้วนั้น สำนักเซียนกระบี่จะต้องพังพินาศหรือเจริญรุ่งเรืองก็ตาม!
แต่ผลลัพธ์ของทั้งสองอย่างนี้ ก็คงดีกว่าปล่อยให้สำนักเซียนกระบี่ค่อย ๆ เลือนหายไปจากประวัติศาสตร์อย่างช้า ๆ!
“ได้!”
“ข้ารับปาก!”
หนิงฝานไม่ได้คิดทบทวนอะไรมากนัก ในที่สุดเขาก็พยักหน้าเพื่อเป็นการตอบรับ
การเป็นผู้นำของสำนักเซียนกระบี่ คงทำให้เขาสามารถทำเรื่องอื่น ๆ ได้ง่ายมากขึ้น!
“ยอดเยี่ยม!”
หลังจากที่หนิงฝานตกลง ปรมาจารย์เซียนกระบี่ก็พยักหน้าด้วยความพึงพอใจ!
หลังจากนั้น เขาก็ส่งมอบมรดกแห่งผู้สืบทอดและตราประทับที่แสดงถึงการเป็นเจ้าสำนักเซียนกระบี่ให้กับหนิงฝาน!
“สหายตัวน้อย ต่อจากนี้สำนักเซียนกระบี่ ข้าขอมอบมันให้เจ้า!”
ปรมาจารย์เซียนกระบี่เอ่ยพลางยิ้มให้กับหนิงฝาน
แล้วทันใดนั้น ปราณชีวิตของเขาก็เริ่มหมดลงอย่างรวดเร็ว!
ฟู่ว!
ท้ายที่สุด ร่างกายของปรมาจารย์เซียนกระบี่ก็เริ่มทรุดลงไปพร้อมกับรอยยิ้ม เพียงพริบตาเดียวเขาก็หายไปอย่างไร้ร่องรอย!
ปรมาจารย์เซียนกระบี่สิ้นแล้ว!
“น้อมส่งปรมาจารย์เซียนกระบี่สู่สรวงสรรค์!”
มองดูปรมาจารย์เซียนกระบี่สูญสิ้นและหายไปในความว่างเปล่า เหล่าผู้คนในสำนักเซียนกระบี่ ต่างคุกเข่าลงด้วยความเศร้าสลด!
หนิงฝานเองก็โค้งคำนับเช่นกัน!
อย่างไรแล้ว เขากับปรมาจารย์เซียนกระบี่ก็ได้พบกันโดยบังเอิญ แต่ท้ายที่สุดเขากลับกลายเป็นผู้สืบทอด และอีกฝ่ายยังให้เขาเป็นเจ้าสำนักเซียนกระบี่ด้วย!
ด้วยความไว้วางใจเช่นนี้ ก็เหมาะสมต่อการเคารพแล้ว!
“ทำความเคารพท่านเจ้าสำนักคนใหม่!”
หลังจากส่งปรมาจารย์เซียนกระบี่เสร็จ ผู้คนแห่งสำนักเซียนกระบี่ต่างก็พากันโค้งคำนับให้หนิงฝาน!
“มิต้อง!” หนิงฝานโบกมือไปมา
หลังจากนั้นก็มีผู้เฒ่าชราสิบคนเดินเข้ามา พวกเขาทั้งสิบนี้คือผู้อาวุโสแห่งสำนักเซียนกระบี่ ซ้ำยังมีรากฐานการฝึกฝนอยู่ในระดับเทพสูงสุด!
เพียงแต่ว่าบุคคลเหล่านี้ฝึกฝนมาจนถึงขั้นสูงสุดของขีดจำกัดแล้ว แม้ว่าจะมีมรดกของกึ่งเซียนอยู่ แต่ก็ไม่สามารถฝึกฝนจนถึงขึ้นนั้นได้แล้ว!
เพราะเหตุนี้ ปรมาจารย์เซียนกระบี่จึงต้องค้นหาผู้สืบทอด!
“เจ้าสำนักหนิงฝาน ขอเชิญท่านเข้าสำนัก!”
ภายใต้การนำของเหล่าท่านผู้อาวุโส หนิงฝานก็ถูกพาเข้ามาในสำนักเซียนกระบี่!
และทันทีที่หนิงฝานก้าวเท้าเข้าไปในสำนักเซียนกระบี่ งานชุมนุมคัดเลือกศิษย์ก็จบลง!
เพียงแต่ว่าขณะที่ผู้คนกำลังแยกย้ายกันนั้น สิ่งของต่าง ๆ ภายในงานชุมนุมคัดเลือกศิษย์พลันถูกพายุลูกใหญ่ซัดกระหน่ำอย่างรุนแรงและพัดพาทุกสิ่งไปจนหมด!
“โอ้! ได้ยินมาว่างานชุมนุมคัดเลือกศิษย์แห่งสำนักเซียนกระบี่เกิดเรื่องขึ้นแล้ว!”
“ได้ยินมาว่าปรมาจารย์เซียนกระบี่สิ้นชีพแล้ว และเขาก็มอบตำแหน่งผู้สืบทอดให้กับบุคคลนามว่าหนิงฝาน ซ้ำยังให้เขาเป็นเจ้าสำนักเซียนกระบี่อีกด้วย!”
“จริงหรือ! หนิงฝานผู้นั้น ช่างโชคดีเสียจริง!”
“หึ! อย่าไม่พอใจไปเลย คนผู้นั้นเขานับว่าเหมาะสมแล้ว ไม่ใช่เพียงแค่ร่างเซียนกระบี่บรรพกาล แต่ยังเป็นถึงเทพสูงสุดอีกด้วย!”
“ใช่แล้ว! ได้ยินมาว่าเยี่ยอู๋เต้า บุตรศักดิ์สิทธิ์แห่งหมู่ตึกเซียนวิถีสวรรค์ก็ถูกเขาทำให้พิการมาแล้ว!”
“อะไรนะ! เช่นนี้แล้ว หมู่ตึกเซียนวิถีสวรรค์จะยอมแพ้ได้เยี่ยงไร!”
“จะว่าไปแล้ว สำนักเซียนกระบี่จะต้องเจอปัญหาใหญ่เป็นแน่ อาจจะถึงขั้นถูกเนรเทศออกจากแคว้นเซียนได้!”
“…”
เรื่องราวงานชุมนุมคัดเลือกศิษย์แห่งสำนักเซียนกระบี่พลันแพร่กระจายไปจนทั่ว ทำให้ผู้คนต่างพูดถึงจนไม่รู้จบ!
…
เหตุการณ์ในงานชุมนุมคัดเลือกศิษย์แห่งสำนักเซียนกระบี่ถูกผู้คนพูดถึงไปทั่วแคว้นเซียน!
ณ หมู่ตึกเซียนวิถีสวรรค์ มหาวิหารบ่มเพาะ!
“เจ้าสารเลวนั่น!”
“กล้าทำให้บุตรศักดิ์สิทธิ์แห่งหมู่ตึกเซียนวิถีสวรรค์พิการ เจ้าหนิงฝานผู้นี้ช่างกล้าดีเสียจริง!”
บังเกิดเสียงดังขึ้นและทั้งตำหนักก็สั่นสะเทือนอย่างรุนแรง!
ชายชราผมขาวในชุดคลุมพูดขึ้น ทั่วร่างของเขาปลดปล่อยกลิ่นอายกึ่งเซียนออกมา!
คนผู้นี้มีนามว่าเต้าหลิง เป็นผู้นำแห่งหมู่ตึกเซียนวิถีสวรรค์ และพลังของคนผู้นี้อยู่ในขอบเขตกึ่งเซียนอย่างแท้จริง!
และคนที่อยู่ข้างล่างนั้น
ผู้พิการอย่างเยี่ยอู๋เต้า เขาคุกเข่าลงกับพื้นด้วยใบหน้าอ่อนแรง ทว่าแววตาเต็มไปด้วยความโกรธแค้นและขุ่นเคือง!
“เจ้าหมู่ตึก ได้โปรดล้างแค้นให้ข้าด้วย ข้าต้องการให้เจ้าหนิงฝานตาย!”
เพื่อรักษาชีวิตของตัวเองไว้ในงานชุมนุมคัดเลือก เขาจึงไม่กล้าแสดงความคิดเห็นใด ๆ อีก!
และเมื่อสามารถกลับมาถึงหมู่ตึกเซียนวิถีสวรรค์ได้ เขาก็เต็มไปด้วยอารมณ์โกรธแค้นหนิงฝานราวกับจะกินเลือดกินเนื้อ!
เจ้าหมู่ตึกเซียนวิถีสวรรค์พูดขึ้นด้วยความเย็นชา “แค่ฆ่าเจ้าหนิงฝานคงจะไม่พอ ข้าได้ยินมาว่าปรมาจารย์เซียนกระบี่สิ้นชีพในงานชุมนุมคัดเลือก และหากไม่มีปรมาจารย์เซียนกระบี่ที่เป็นกึ่งเซียนแล้ว สำนักเซียนกระบี่ก็ถูกกำหนดให้ต้องล่มสลายแล้ว!”
“ผู้ใดก็ได้เข้ามา! จงนำคำสั่งนี้ไปแจ้งแก่ทุกคน รวบรวมผู้ที่แข็งแกร่งในหมู่ตึกแล้วไปที่สำนักเซียนกระบี่!”
“ก่อนอื่นฆ่าหนิงฝานผู้นั้นเสีย และประการที่สอง ทำลายสำนักเซียนกระบี่ซะ!”