ร้อยรักปักดวงใจ – ตอนที่ 215 ตรุษจีน(กลาง)

ตอนที่ 215 ตรุษจีน(กลาง)

เช้า​วันรุ่งขึ้น​ฟ้า​ยัง​ไม่ทัน​สาง​สือ​อี​เหนียง​ก็​ตื่นขึ้น​มาทาน​ซาลาเปา​ไส้​เนื้อ​กับ​สวี​ลิ่ง​อี๋​สอง​ลูก​ ​จากนั้น​ก็​ไป​แต่งตัว

พึ่ง​จะ​แต่งตัว​เสร็จ​ปินจ​วี​๋​ก็​อุ้ม​สวี​ซื่อ​เจี​้ย​เข้ามา​ ​อี๋​เหนียง​ทั้ง​สาม​ ​ป้า​เถา​และ​คนอื่นๆ​ ​ต่าง​ก็​มา​อวยพร​วัน​ตรุษจีน​ให้​พวกเขา

สวี​ซื่อ​เจี​้ย​ยัง​ไม่ลืม​ตา​ ​ท่าทาง​งัวเงีย​เอาหน้า​ซุก​ไหล่​ปินจ​วี​๋

สือ​อี​เหนียง​ยิ้ม​พลาง​ลูบ​ผม​สีดำ​ขลับ​ของ​เขา​ ​หยิบ​ถุงเงิน​ออกมา​มอบให้​พวก​นาง​แล้ว​พาส​วี​ซี่อ​เจี​้ย​ไปหา​ไท่ฮู​หยิน​พร้อมกับ​สวี​ลิ่ง​อี๋

ไท่ฮู​หยิน​ตื่น​แล้ว​ ​กำลัง​ให้​ป้า​ตู้​ไป​นำผล​ไม้​และ​ขนม​มา​ ​“​…​กลับมา​เร็ว​ที่สุด​คือ​ตอนต้น​ยาม​อู่​ ​ข้า​จำได้​ว่า​มี​ปี​หนึ่ง​ที่​ลาก​ยาว​ไป​จนถึง​ยาม​เว​่ย​”

นี่​ก็​คือ​เหตุผล​ที่ว่า​ทำไม​สือ​อี​เหนียง​กับ​สวี​ลิ่ง​อี๋​ถึง​ไม่กล้า​ทาน​โจ๊ก​เป็น​อาหารเช้า

ใคร​จะ​ไปรู​้​ว่า​เมื่อถึง​ตอนนั้น​จะ​เกิดเรื่อง​อัน​ใด​ขึ้น​ ​เป็นไปไม่ได้​ที่จะ​สามารถ​ไป​เข้า​ห้องน้ำ​กลางคัน​ได้

สือ​อี​เหนียง​ยิ้ม​พลาง​พยักหน้า​ ​ให้​สวี​ซื่อ​เจี​้ย​ไป​อวยพร​ตรุษจีน​แก่​ไท่ฮู​หยิน​ ​จากนั้น​ก็​ไป​ช่วย​ป้า​ตู้​จัด​ข้าวของ​ใส่​กล่อง

คุณชาย​สาม​และฮู​หยิน​สาม​มาถึง​แล้ว​ ​ด้านหลัง​ยัง​มีส​วี​ซื่อ​ฉิน​ ​สวี​ซื่อ​อวี​้​และ​สวี​ซื่อ​เจี่ยน​ตามมา​ด้วย

สวี​ซื่อ​เจี่ยน​เดิน​เข้า​ประตู​มาก​็​ถาม​ขึ้น​ว่า​ ​“​จุน​เกอ​ล่ะ​ ​เขา​ยัง​ไม่​ตื่น​หรือ​”

ได้ยิน​มา​ว่า​เมื่อวาน​นี้​พวกเขา​เล่น​กัน​จนถึง​ต้น​ยาม​โฉ่ว

“​ข้า​ตื่น​ตั้ง​นาน​แล้ว​!​”​ ​จู่ๆ​ ​จุน​เกอ​ก็​มายื​นอยู​่​ที่​หน้า​ประตู​ ​“​ข้า​ไม่ได้​นอน​ตื่น​สาย​สักหน่อย​!​”

เขา​ถลึงตา​ใส่​สวี​ซื่อ​เจี่ย​นอย​่าง​ไม่พอใจ​ ​หลังจากนั้น​ก็​วิ่ง​ไป​อวยพร​ตรุษจีน​ให้​ไท่ฮู​หยิน​ ​“​ขอให้​สมพร​ปรารถนา​ใน​วัน​ตรุษจีน​นะ​ขอรับ​”

ไท่ฮู​หยิน​ยิ้ม​พลาง​ลูบ​หัว​เขา

เขา​หันไป​หา​สวี​ซื่อ​เจี​้ย​ ​“​เจ้า​มา​อวยพร​ตรุษจีน​ให้ท่าน​ย่า​แล้ว​หรือยัง​”​ ​ท่าทาง​เหมือน​กำลังจะ​บอกว่า​สวี​ซื่อ​เจี​้ย​ควรจะ​ทำ​อย่างไร

ปินจ​วี​๋​รีบ​พูด​ขึ้น​มา​ว่า​ ​“​อวยพร​แล้ว​เจ้าค่ะ​ ​พอ​มาถึง​ก็​รีบ​มา​อวยพร​ตรุษจีน​ให้​ไท่ฮู​หยิน​เลย​เจ้าค่ะ​”

เขา​พยักหน้า​ด้วย​ความพึงพอใจ

ทำเอา​ไท่ฮู​หยิน​หัวเราะ

คุณชาย​สาม​กับฮู​หยิน​สาม​ก็​หัวเราะ​เช่นกัน​ ​พาส​วี​ซื่อ​ฉิน​และ​คนอื่นๆ​ ​เข้าไป​อวยพร​ตรุษจีน​ให้​กับ​ไท่ฮู​หยิน​ ​คุณชาย​ห้า​ประคองฮู​หยิน​ห้า​เข้ามา

ทุกคน​ทักทาย​กัน​อย่างสนิทสนม

เมื่อ​ไท่ฮู​หยิน​เห็น​ว่า​ล่วงเลย​เวลา​มามาก​แล้ว​ ​จึง​ให้​ป้า​ตู้​อยู่​ดูแล​จวน​แล้ว​พาบุ​ตร​ชาย​กับ​ลูกสะใภ้​ไป​วัง​หลวง

พวกเขา​แยกทาง​กันที่​หน้า​ประตู​พระราชวัง​ ​สวี​ลิ่ง​อี๋​พาส​วีลิ​่ง​หนิง​และ​สวี​ลิ่ง​ควน​ไป​เข้าเฝ้า​ฮ่องเต้​ที่​ตำหนัก​เฟิ​่ง​เซียน​ ​ไท่ฮู​หยิน​พาสื​ออี​เหนียง​ ฮู​หยิน​สาม​และฮู​หยิน​ห้า​ไป​เข้าเฝ้า​ฮองเฮา​ที่​พระตำหนัก​คุน​หนิง

นอก​ประตู​ราช​วัง​ได้​จัดตั้ง​กระโจม​ไว้​นาน​แล้ว​ ​กระโจม​ของ​นางใน​อยู่​ทาง​ทิศตะวันตกเฉียงเหนือ​ ​กระโจม​ของ​องค์​หญิง​อยู่​ทาง​ทิศตะวันออกเฉียงใต้​ ​กระโจม​ของ​บรรดาฮู​หยิน​อยู่​ทาง​ทิศตะวันตกเฉียงใต้

เมื่อ​เข้าไป​ใน​กระโจม​ ​สือ​อี​เหนียง​ก็​เห็น​ใบหน้า​ที่​คุ้นเคย​มากมาย

หลินฮู​หยิน​และ​คุณนาย​ใหญ่​สกุล​หลิน​จวน​เวย​เป่ย​โหว​ ​กานฮู​หยิน​จวน​จง​ฉินปั​๋ว​ ​ถังฮู​หยิน​จวน​จง​ซาน​โหว​ ​เฉียวฮู​หยิน​จวน​เฉิงกั​๋​วกง​ ​แล้วยัง​มีบร​รดา​พี่สะใภ้​ของ​คุณนาย​ใหญ่​สกุล​หลิน​ ​แต่กลับ​ไม่เห็น​หวงฮู​หยิน​และ​คุณนาย​สาม​สกุล​หวง​จวน​หย่ง​ชัง​โหว

ล้วน​เป็น​คนคุ้นเคย​กัน

ไท่ฮู​หยิน​พาบร​รดา​สะใภ้​เข้าไป​คำนับ​ ​ก็​พลัน​ได้ยิน​เสียงหัวเราะ​ดัง​แว่ว​มาจาก​ทาง​ประตู​ ​ทุกคน​จึง​อด​ไม่ได้​ที่จะ​หันไป​มอง

เห็น​หญิง​รับใช้​เจ็ด​แปด​คน​กำลัง​รุมล้อมฮู​หยิน​ของ​เจี​้​ยน​หนิง​โหว​และฮู​หยิน​ของ​โซ่ว​ชังปั​๋ว​เดิน​เข้ามา

บางคน​เดิน​เข้าไป​ทักทาย​ ​บางคน​ยืน​อยู่​ที่​เดิม​ส่ง​ยิ้ม​พลาง​พยักหน้า​ให้​ ​บางคน​ก็​หันหน้า​ไป​พูดคุย​กับ​คน​ข้างๆ​ ​ทำเป็น​มองไม่เห็น

ส่วนฮู​หยิน​เจี​้​ยน​หนิง​โหว​และฮู​หยิน​โซ่ว​ชังปั​๋ว​ใบหน้า​ต่าง​ก็​เปื้อน​ไป​ด้วย​รอยยิ้ม​ ​ทักทาย​คนที​่​เดิน​เข้าไป​หา​อย่าง​อบอุ่น​ ​พยักหน้า​ทักทาย​คนที​่​ยิ้ม​ให้​เหล่านั้น​ ​บรรยากาศ​ครึกครื้น​เป็นอย่างมาก

สือ​อี​เหนียง​ได้ยิน​เสียง​คน​ข้างหลัง​ส่งเสียง​ ​“​เหอะ​”​ ​อย่าง​เย็นชา​ ​พูดเสี​ยง​เบา​ว่า​ ​“​ตอนนี้​อยู่​ใน​พระตำหนัก​คุน​หนิง​ ​เหตุใด​ทำตัว​ไร้มารยาท​เช่นนี้​!​”

นาง​ลังเล​ว่า​จะ​หันกลับ​ไป​มองว่า​ใคร​เป็น​คนพูด​ดี​หรือไม่​ ​แต่กลับ​เห็นฮู​หยิน​เจี​้​ยน​หนิง​โหว​เดิน​เข้ามา​ด้วย​รอยยิ้ม

“​ไท่ฮู​หยิน​”​ ​นาง​ทักทาย​ไท่ฮู​หยิน​มา​แต่ไกล​ ​“​ข้า​เห็นท่าน​ตั้งแต่งา​นพิ​ธี​ศพ​ของ​องค์​ชาย​ห้า​เมื่อ​ครั้งก่อน​ ​ท่าน​สุขภาพ​แข็งแรง​ดี​หรือไม่​”

การ​สิ้นพระชนม์​ของ​องค์​ชาย​ห้า​ไม่ได้​เป็น​เพียง​ความ​โศกเศร้า​ของ​ราชวงศ์​ ​แต่​ยัง​เป็นความ​โศกเศร้า​ของ​สกุล​สวี​ ​บวก​กับ​ข่าวลือ​เรื่อง​การ​จากไป​ของ​องค์​ชาย​ห้า​ ​เมื่อ​ทุกคน​เห็น​ว่า​คำพูด​ของฮู​หยิน​เจี​้​ยน​หนิง​โหว​มีบา​งอย​่าง​แอบแฝง​ก็​เผย​ให้​เห็น​แววตา​สงสัย​ ​บางคน​ก็​มีสี​หน้า​ผิดหวัง​ ​บางคน​ก็​ขมวดคิ้ว​ ​บางคน​ก็​ยินดี​ใน​ความทุกข์​ของ​คนอื่น​ ​ทุกคน​ต่าง​จับจ้อง​ไป​ที่​ไท่ฮู​หยิน

ไท่ฮู​หยิน​ที่​ถูก​ทุกคน​จ้องมอง​กลับ​มีสี​หน้า​สงบนิ่ง​ ​แววตา​ดู​เรียบ​เฉย​ ​“​ถึงแม้ว่า​ข้า​จะ​แก่​แล้ว​ ​แต่​โชคดี​ที่​ฟัน​ยังดี​อยู่​ ​ยัง​ทานข้าว​ได้​เหมือนเดิม​ ​ขอบคุณฮู​หยิน​เจี​้​ยน​หนิง​โหว​ที่​เป็นห่วง​!​”​ ​ท่าทาง​ดู​ยัง​ทานข้าว​ได้​เอร็ดอร่อย​และ​พละกำลัง​แข็งแรง​ดี

คำพูด​ของ​ไท่ฮู​หยิน​ที่ซ่อน​เข็ม​เอาไว้​ทุกคน​ล้วน​ฟังออก​ ​แต่​ก็​ไม่มีใคร​พูด​อะไร​พากัน​จ้องเขม็ง​ไป​ที่​ทั้งสอง​คน

ฮู​หยิน​เจี​้​ยน​หนิง​โหว​ผู้​นั้น​แอบ​โมโห​อยู่​ใน​ใจ

นึกถึง​ตอนนั้น​ที่​ฮ่องเต้​ยัง​เป็น​เพียง​องค์​ชาย​ ​สกุล​สวี​ก็​ทำตัว​เหมือน​เด็กดี​ต่อหน้า​ไท​เฮา​ ​ตอนนี้​บุตรสาว​ได้​เป็น​ฮองเฮา​แล้ว​ ​ก็​เปลี่ยนเป็น​เย่อหยิ่ง​ไม่รู้​จัก​คนอื่น​ ​สกุล​สวี​ปฏิเสธ​ความหวังดี​ของ​สกุล​หยาง​ซ้ำแล้วซ้ำเล่า​ ​แล้วยัง​แนะ​ให้​คน​สกุล​เหวิน​แย่งชิง​กิจการ​เครื่องลายคราม​กับ​สกุล​หยาง​ ​ครั้งนี้​หาก​ไม่​แสดงอำนาจ​ให้​พวกเขา​เห็น​ ​เกรง​ว่า​ต่อไป​จะ​หยิ่งยโส​มากกว่า​นี้​ ​แล้ว​สกุล​หยาง​จะ​มีทาง​รอด​ได้​อย่างไรเล่า

เมื่อ​ใน​ใจ​ก็​คิดได้​เช่นนี้​ก็​ส่งเสียง​ ​“​เหอะ​”​ ​อย่าง​เย็นชา​ ​พูด​ด้วย​สีหน้า​นิ่ง​ว่า​ ​“​ไท่ฮู​หยิน​ช่าง​โชคดี​เสีย​จริง​!​ ​มีบุ​ตร​ชาย​และ​ลูกสะใภ้​ที่​กตัญญู​ ​มีลูก​หลาน​ห้อมล้อม​ ​ย่อม​ทาน​อิ่ม​นอนหลับ​เป็นธรรมดา​”​ ​จากนั้น​ก็​เหลือบ​ไป​มอง​สือ​อี​เหนียง​ ​“​จริง​สิ​ ​ได้ยิน​ว่า​ท่าน​มี​หลานชาย​เพิ่ม​มา​หนึ่ง​คน​ ​เหตุใด​ไม่​พา​เข้า​วัง​มา​ให้​ฮองเฮา​ดู​หน้า​สักหน่อย​ ​ถึงอย่างไร​ก็​เป็น​เด็ก​ที่อยู่​ใน​ความดูแล​ของฮู​หยิน​หย่ง​ผิง​โหว​ ​คิด​ว่า​กิริยามารยาท​คงจะ​แตกต่าง​จาก​คน​ทั่วไป​ ​”

หย่ง​ผิง​โหว​สวี​ลิ่ง​อี๋​เลี้ยง​บุตร​ไว้​นอก​จวน​ ​บุตรชาย​อายุ​สาม​ขวบ​พึ่ง​จะ​เอา​เข้า​จวน​ ​นี่​เป็นข่าว​ใหญ่​ที่เกิด​ขึ้น​ใน​เมือง​เยี​่​ยน​จิง​เมื่อ​ไม่​กี่​วัน​มานี​้​ ​ทั้งคน​สูงศักดิ์​ไป​จนกระทั่ง​พ่อค้า​แม่ค้า​เมื่อ​เจอ​หน้า​กัน​ก็​ถามถึง​ข่าวใหญ่​ว่า​ ​‘​เจ้า​รู้​หรือไม่​’​ ​มี​ใคร​บ้าง​จะ​ไม่รู้ไม่เห็น​เรื่อง​นี้​!

แต่​การ​พูดตรงไปตรงมา​ขนาด​นี้​ใน​โอกาส​เช่นนี้​นั้น​…​เสียมารยาท​เกินไป​แล้ว​!

มี​คน​อยู่​ไม่​กี่​คนที​่​สามารถ​ปกปิด​ความตกใจ​ไว้​ได้​ ​พวกเขา​มอง​ไป​ที่​ไท่ฮู​หยิน​และ​สือ​อี​เหนียง​ ​ผู้คน​ที่​มอง​ไป​ที่ฮู​หยิน​สาม​และฮู​หยิน​ห้า​ก็​มี​ไม่น้อย​เช่นกัน

ชั่วขณะ​นั้น​ ​ทั้ง​กระโจม​พลัน​เงียบสงัด

หลังจาก​เรื่อง​สวี​ซื่อ​เจี​้ย​แพร่งพราย​ออก​ไป​ ​สือ​อี​เหนียง​ก็​เตรียม​ทำใจ​ไว้​แล้ว​ ​เกิดเรื่อง​ซุบซิบ​ใหญ่โต​เช่นนี้​ ​ใครก็ตาม​ที่​เจอ​หน้านา​งก​็​คง​ถามถึง​เรื่อง​นี้​ ​นาง​จึง​ทำใจ​ไว้​แล้ว​ ​ตัดสินใจ​ใช้​ความ​นิ่ง​สยบ​ทุก​การเคลื่อนไหว​ ​ใช้​คำพูด​ของ​ไท่ฮู​หยิน​มารั​บมื​อกับ​คน​เหล่านี้​ ​แต่​คิดไม่ถึง​ว่า​จะ​มี​คนพูด​ออกมา​ใน​สถานการณ์​เช่นนี้

ดูเหมือนว่า​การ​เตรียมใจ​ของ​ตน​จะ​ยัง​ไม่พอ

นาง​หุบ​ยิ้ม​ ​มองฮู​หยิน​เจี​้​ยน​หนิง​โหวด​้ว​ยสี​หน้า​เคร่งขรึม

สำหรับ​การ​โจมตี​ที่​มุ่ง​ประสงค์ร้าย​เช่นนี้​ ​สือ​อี​เหนียง​รู้สึก​ว่า​ไม่​ควร​เกรงใจ​ ​ยิ่ง​ไม่​ควร​เอาแต่​ถอย​หนี​และ​อดทน​ ​นาง​ต้อง​ตอบโต้​กลับ​ด้วย​แรง​ทั้งหมด​ที่​มี​ ​มิฉะนั้น​คน​ประเภท​นี้​จะ​ทำตัว​หยิ่งยโส​มากขึ้น​ ​จนกระทั่ง​คิด​ว่า​ผู้อื่น​เกรงกลัว​นาง​ ​จะ​ทำให้​นาง​พูด​สิ่ง​ที่​ไม่น่าฟัง​มากขึ้น​กว่า​เดิม

แต่​อย่างไรก็ตาม​ตน​ก็​เป็น​ลูกสะใภ้​ ​ตอนนี้​มี​ไท่ฮู​หยิน​อยู่​ด้วย​ ​จะ​ไป​โต้แย้งฮู​หยิน​เจี​้​ยน​หนิง​โหว​ข้ามหน้าข้ามตา​ไท่ฮู​หยิน​ไม่ได้​ ​มิเช่นนั้น​จะ​ดู​เสียมารยาท

นาง​อด​หันไป​มอง​ไท่ฮู​หยิน​ไม่ได้

ส่วนฮู​หยิน​สาม​ที่​ยืน​อยู่​ข้างหลัง​สือ​อี​เหนียง​ดู​อึดอัด​เล็กน้อย

ทั้งหมด​เป็นความ​ผิด​ของ​เรือน​สี่​!​ ​แต่​ตอนนี้​กลับ​ทำให้​ทุกคน​ต้อง​ขายหน้า​ตาม​ไป​ด้วย

นาง​มอง​ไป​ที่ฮู​หยิน​ห้า

เห็น​เพียง​ว่าฮู​หยิน​ห้า​กำลัง​ขมวดคิ้ว

ฮู​หยิน​เจี​้​ยน​หนิง​โหว​ผู้​นี้​ ​ไม่​แปลก​เลย​ที่​คนอื่นๆ​ ​จะ​ไม่ชอบหน้า​!

นาง​รู้ตัว​หรือไม่​ว่า​ตัวเอง​กำลัง​พูด​อะไร​ออกมา​

คำ​โบราณ​กล่าว​ไว้​ว่า​ ​‘​ตี​คน​อย่า​ตีหน้า​’​ ​นาง​ทำ​เช่นนี้​ไม่เพียงแต่​ตบหน้า​สกุล​สวี​เท่านั้น​ ​แต่​ยัง​ตบหน้า​ฮองเฮา​ด้วย​ ​สกุล​หยาง​เป็น​สกุล​เดิม​ของ​ไท​เฮา​ ​ส่วน​สกุล​สวี​เป็น​สกุล​เดิม​ของ​ฮองเฮา​ ​แต่​ไท​เฮา​ไม่ใช่​พระราช​มารดา​แท้ๆ​ ​ของ​ฮ่องเต้​ ​การ​พูดจา​เสียดสี​กัน​เช่นนี้​ต่อหน้า​สาธารณชน​ ​จะ​ให้​บรรดาฮู​หยิน​เหล่านี้​คิด​อย่างไร

เกรง​ว่า​ไม่​ถึง​ครึ่ง​วัน​ ​ทั่วทั้ง​เมือง​เยี​่​ยน​จิง​คงจะ​แพร่ข่าว​เรื่อง​ความ​ไม่ลงรอยกัน​ระหว่าง​ไท​เฮา​กับ​ฮองเฮา​!

นาง​มอง​ไป​ที่​ไท่ฮู​หยิน

ไท่ฮู​หยิน​เพียงแต่​ยิ้ม​ ​“ฮู​หยิน​เจี​้​ยน​หนิง​โหว​พูด​ถูก​แล้ว​”​ ​จากนั้น​ก็​ยิ้ม​พลาง​จับมือ​สือ​อี​เหนียง​ ​“​ลูกสะใภ้​ข้า​ผู้​นี้​ ​ข้า​ไม่ได้​อยาก​จะ​ชม​นัก​หรอก​ ​แม้​จะ​อายุ​ยังน้อย​แต่กลับ​รู้จัก​วางตัว​ ​รู้จัก​ขอบเขต​ ​การ​ที่​ให้​นาง​เป็น​คนดู​แล​เด็ก​ ​ทำให้​ข้าวาง​ใจ​เป็น​ร้อย​เท่า​พัน​เท่า​”

การ​ที่​ไม่ได้​ปฏิเสธ​แล้วก็​ไม่ได้​โต้แย้ง​คำพูด​ของฮู​หยิน​เจี​้​ยน​หนิง​โหว​ ​ทำให้​สถานการณ์​บานปลาย​ยิ่งขึ้น

เมื่อฮู​หยิน​ทุกคน​ในที่นี้​ได้ยิน​ก็​หัวเราะ​เบา​ๆ​ ​มี​เพียงฮู​หยิน​เจี​้​ยน​หนิง​โหว​เท่านั้น​ที่​มีสี​หน้า​หม่นหมอง​ ​ท่าทาง​เหมือน​กำลังจะ​พูด​อะไร​บางอย่าง​ ​แต่​ใคร​จะ​ไปรู​้​ว่า​จู่ๆ​ ​ไท่ฮู​หยิน​ก็​หันหลัง​ให้​นาง​ทำเอา​ทุกคน​มองตาม

เห็น​เพียง​นาง​ยิ้ม​พลาง​ถาม​ถังฮู​หยิน​ที่​ยืน​อยู่​ข้างๆ​ ​“​เอ๊ะ​ ​เหตุใด​จึง​ไม่เห็น​นาย​หญิง​สี่​จวน​เจ้า​เล่า​ ​นาง​เสียงเพราะ​เหมือน​นก​การ​เวก​ ​เวลา​พูดจา​นั้น​น่าฟัง​เป็นอย่างมาก​ ​ข้ามัก​จะ​บอก​กับ​บรรดา​ลูกสะใภ้​ของ​ข้าว​่า​ต้อง​เรียนรู้​วิธีการ​พูด​อย่าง​นาย​หญิง​สี่​สกุล​ถัง​จึง​จะ​ถูก​!​”​ ​มี​เจตนา​แอบ​ประชด​ว่าฮู​หยิน​เจี​้​ยน​หนิง​โหว​ไม่รู้​จัก​พูด​ ​จากนั้น​ก็​ลาก​ไป​ถึง​ผู้อาวุโส​ที่​ไม่รู้​จัก​สั่งสอน

ถังฮู​หยิน​มีสี​หน้า​ลังเล

นาง​ไม่​อยาก​ล่วงเกิน​สกุล​สวี​ ​แต่​สกุล​หยาง​ก็​เป็น​ญาติ​ของ​นาง​ ​นาง​ไม่​สามารถ​เข้าข้าง​คนนอก​ได้​!

ส่วนฮู​หยิน​โซ่ว​ชัง​โหว​ที่​คอย​จับตาดู​อยู่​ตลอด​เห็น​ว่า​พี่สะใภ้​ของ​ตัวเอง​เสียเปรียบ​ก็​หันหน้า​มาม​อง​ด้วย​สีหน้า​ไม่​เป็นมิตร

บรรยากาศ​ใน​กระโจม​ประเดี๋ยว​ก็​เงียบ​ ​ประเดี๋ยว​ก็​ครึกครื้น

ฮู​หยิน​ห้า​หันไป​มอง​แล้ว​รีบ​เข้าไป​พยุง​แขน​ไท่ฮู​หยิน​ทันที​ ​“​เดี๋ยว​ท่าน​แม่​ก็​ให้​เรา​ทำตาม​นาย​หญิง​สี่​สกุล​ถัง​ ​เดี๋ยว​ก็​ให้​ทำตาม​คุณนาย​ใหญ่​สกุล​หลิน​ ​แล้วยัง​ให้​เรา​ทำตาม​คุณนาย​สาม​สกุล​หวง​…​พวกเรา​ควรจะ​ทำตาม​ใคร​ดี​ ​ท่าน​แม่​ควรจะ​พูด​ให้​แน่นอน​ด้วย​นะ​เจ้า​คะ​”​ ​คำพูด​ออดอ้อน​เหมือน​เด็ก​ทำให้​ความตึงเครียด​ใน​กระโจม​ลดลง​อย่าง​ทันที

ทุกคน​พากัน​หัวเราะ

กานฮู​หยิน​เป็น​ญาติ​ของ​ไท่ฮู​หยิน​ ​ใน​สถานการณ์​เช่นนี้​นาง​ย่อม​ต้อง​ช่วย​สกุล​สวี​ ​เปลี่ยน​จาก​ปกติ​ที่นา​งค​่อ​นข​้าง​เก็บตัว​ ​ตอนนี้​รีบ​ยิ้ม​แล้ว​พูด​หยอกล้อ​กับฮู​หยิน​ห้าว​่า​ ​“​แม่​สามี​ของ​เจ้า​บอก​ให้​เจ้า​เรียนรู้​การ​พูด​การ​จา​จาก​นาย​หญิง​สี่​สกุล​ถัง​ ​เรียนรู้​การ​ดูแล​เรือน​จาก​คุณนาย​ใหญ่​สกุล​หลิน​ ​แล้ว​เรียนรู้​การ​ทำให้​แม่​สามี​มีความสุข​จาก​คุณนาย​สาม​สกุล​หวง​…​”​ ​ทันใดนั้น​ก็​มี​คนพูด​ต่อว่า​ ​“​ใคร​กำลัง​ให้ท้าย​ลูกสะใภ้​ข้า​อยู่​หรือ​”

ทุกคน​มอง​ไป​ตาม​เสียง​ ​เห็น​ว่า​คุณนาย​สาม​สกุล​หวง​กำลัง​ประคอง​หวงฮู​หยิน​จวน​หย่ง​ชัง​โหว​เดิน​เข้ามา

“​ใคร​ใช้​ให้​พวก​เจ้า​มาสาย​กัน​เล่า​”​ ฮู​หยิน​กาน​จงใจ​พูด​หยอกล้อฮู​หยิน​หย่ง​ชัง​โหว​ ​เช่นนี้​จึง​ทำให้ฮู​หยิน​โซ่ว​ชังปั​๋​วที​่​กำลัง​เดิน​เข้ามา​กลายเป็น​อากาศธาตุ​ ​“​ไม่​เข้าข้าง​ลูกสะใภ้​เจ้า​แล้ว​จะ​ให้​ไป​เข้าข้าง​ใคร​กัน​”

แม้ว่า​เมื่อครู่นี้​หวงฮู​หยิน​จวน​หย่ง​ชัง​โหว​จะ​ไม่ได้​อยู่​ที่นี่​ ​แต่​เมื่อ​เห็น​สตรี​สกุล​สวี​และ​สตรี​สกุล​หยาง​กำลัง​เผชิญหน้า​กัน​นาง​ก็​พอ​จะ​เดา​ออก

นาง​ไม่ต้องการ​ให้​สกุล​สวี​กับ​สกุล​หยาง​ทะเลาะ​กัน​ในเวลานี้​ ​ไท​เฮา​เอง​ก็​อายุ​มาก​แล้ว​ ​สักวันหนึ่ง​ก็​ต้อง​จากไป​ ​แต่​วัน​เวลา​ของ​ฮองเฮา​ยัง​อีก​ยาว​ไกล​ ​จะ​ให้​ล่วงเกิน​ไท​เฮา​จน​ขึ้นชื่อว่า​อกตัญญู​ไม่ได้

ฮู​หยิน​หย่ง​ชัง​โหว​รีบ​หยิก​ลูกสะใภ้​สาม​ของ​ตน​เบา​ๆ​

คุณนาย​สาม​สกุล​หวง​เป็น​คน​เฉลียวฉลาด​ ​เมื่อ​เข้ามา​เห็น​สถานการณ์​ตึงเครียด​ระหว่าง​ทั้งสอง​สกุล​ ​ซ้ำ​ยัง​โดน​แม่​สามี​หยิก​อีก​ ​มี​หรือ​จะ​ไม่เข้าใจ​ ​รีบ​ยิ้ม​แล้ว​พูด​ขึ้น​มาทัน​ที​ว่า​ ​“​จะ​บอกว่า​ข้า​พูด​เอาอกเอาใจ​แม่​สามี​ได้​อย่างไร​ ​ข้า​ไป​พูด​เอาอกเอาใจ​แม่​สามี​เมื่อไร​ ​ข้า​ตั้งใจ​ปรนนิบัติ​แม่​สามี​ด้วยใจจริง​ต่างหาก​!​”​ ​จากนั้น​ก็​แกล้งทำ​เป็นไร​้​เดียงสา​แล้ว​พูด​กับฮู​หยิน​หย่ง​ชัง​โหว​ว่า​ ​“​ท่าน​แม่​ ​ท่าน​ต้อง​ทวง​คืน​ความยุติธรรม​ให้​ข้า​นะ​เจ้า​คะ​”

ทำเอา​ทุกคน​พากัน​หัวเราะ

มี​ขันที​วิ่ง​เข้ามา​ด้วย​รอยยิ้ม​ ​“ฮู​หยิน​ทุกท่าน​ ​ฮองเฮา​ได้มา​ประทับ​ ณ​ ​พระที่นั่ง​แล้ว​ขอรับ​”

สีหน้า​ทุกคน​พลัน​สงบ​ ​ยืน​เรียง​กันตา​มระ​ดับ​ตำแหน่ง​ของ​สามี​ตัวเอง​ ​ได้ยิน​เสียง​บรรเลง​ดนตรี​ดัง​มาจาก​พระตำหนัก​คุน​หนิง

เป็น​หวง​กุ้ย​เฟย​ที่​นำ​เหล่า​นางใน​มา​อวยพร​ตรุษจีน​ให้​แก่​ฮองเฮา

สีหน้า​ทุกคน​เคร่งขรึม​มากขึ้น​กว่า​เดิม

ร้อยรักปักดวงใจ

ร้อยรักปักดวงใจ

Status: Ongoing

เมื่อจวนสกุลหลัว มีภรรยาเอกหนึ่งคนและอนุภรรยาอีกหกคน จึงตามมาด้วยพี่น้องต่างมารดามากมาย

หลัวหยวนเหนียง บุตรีคนโตจากนายหญิงใหญ่ ได้แต่งเป็นภรรยาเอกของ สวีลิ่งอี๋ ที่มีบรรดาศักดิ์เป็นถึงหย่งผิงโหว แม่ทัพใหญ่

ทว่า ช่างโชคร้ายที่หลัวหยวนเหนียงล้มป่วนหนักและรู้ดีว่าใกล้ถึงวาระสุดท้าย นางจึงวางแผนการใหญ่กับมารดา

นั่นคือ การเลือกหนึ่งในหญิงสาวพี่น้องสกุลหลัวที่ยังไม่ได้ออกเรือนมาคอยดูแล จุนเกอ บุตรชายสุดที่รักเพียงคนเดียว และ...

คอยรักษาอำนาจของสกุลหลัวไว้ในฐานะภรรยาเอก โดยการแต่งงานกับหย่งผิงโหวเพื่อเป็นภรรยาตัวแทน!

สุดท้าย ผู้ถูกเลือกนั้นกลับกลายเป็นบุตรีของอนุภรรยา คุณหนูสิบเอ็ดผู้รักความสงบอย่าง สืออีเหนียง

แม้ไม่อาจหนีพ้นชะตากรรมที่มีผู้กำหนดมาให้ มีแต่ต้องเผชิญกับความวุ่นวายตรงหน้าต่อไป

ทักษะการปักผ้า ไหวพริบที่ติดตัวมา และเสน่ห์สุขุมดั่งน้ำนิ่ง อาจนำไปสู่กระแสน้ำพัดพาเหนือใครจะคาดเดา!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท