Full-time Artist ใครว่าผมไม่เหมาะเป็นศิลปิน – ตอนที่ 172 รีเซ็ต (1)

ตอนที่ 172 รีเซ็ต (1)

ยามที่มหาคลื่นแห่งยุคสมัยกำลังถาโถมเข้ามา และผู้คนซึ่งกำลังจะจมในเกลียวคลื่นก็มักจะรู้สึกตัวหลังจากที่เหตุการณ์เกิดขึ้นแล้วเสมอ กระทั่งในจงโจวก็เริ่มเสนอข่าวเกี่ยวกับข้อเสนอการผนวกแต่ละทวีปเข้าด้วยกันถี่ขึ้นเรื่อยๆ จนประชาชนกลุ่มที่มีความอ่อนไหวด้านการเมืองต่ำที่สุดของแต่ละทวีปเริ่มสัมผัสได้ถึงความผิดปกติ

ในที่สุดก็มีการเคลื่อนไหวในหมู่ประชาชน

บนอินเทอร์เน็ตของแต่ละทวีปซึ่งเรียกได้ว่ากึ่งๆ ถูกปิดกั้น ก็เริ่มมีการคาดคะเนและถกเถียงกันด้วยความไม่เชื่อมั่น และเมื่อเจ้าหน้าที่ระดับสูงของแต่ละทวีปเผชิญกับการสัมภาษณ์ ก็จะเริ่มพูดจาละล่ำละลักคลุมเครือ จึงพอจะอนุมานออกมาเป็นข้อเท็จจริงซึ่งชวนให้ทุกคนตกใจ

‘คงไม่ได้จะรวมกันจริงๆ หรอกใช่ไหม’

‘วัฒนธรรมของแต่ละทวีปจะถูกผนวกรวม?’

‘จุดเริ่มต้นของข้อเสนอนี้คือต้องย้อนไปเมื่อสิบแปดปีก่อน ตอนที่มันปรากฏขึ้นใหม่ๆ  ก็กลายเป็นประเด็นถกเถียงกันบนบลูสตาร์ แต่ผลักดันไปใช้ได้ยากทีเดียวเลย ดังนั้นผ่านมาสิบแปดปีแล้วก็ยังไม่เป็นรูปเป็นร่าง หรือว่าปีนี้จะมีตัวแปรอื่น?’

‘รวมกันก็ดีนะ’

‘คุณโลกสวยไปหรือเปล่า’

‘ทุกเรื่องมีทั้งข้อดีข้อเสีย รวมแล้วใช่ว่าจะมีแต่ข้อดี บางพื้นที่มีการพัฒนาทางวัฒนธรรมที่ล้าหลัง เพราะเหตุนี้อาจทำให้สูญเสียวัฒนธรรมที่เป็นเอกลักษณ์ หรือแม้แต่การถ่ายทอดวัฒนธรรมของตัวเองอาจถูกลดทอน แต่สำหรับภาพรวมของทวีปใหญ่ นี่เป็นจุดเปลี่ยนสำคัญในการพัฒนาเลยละ’

“…”

จุดหนึ่งที่ยืนยันได้ก็คือ สถานการณ์โดยรวมของบลูสตาร์ จะต้องเกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างแน่นอนหลังจากการผนวกรวม ทว่าจวบจนวันนี้ คนส่วนมากยังคงเชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่ง

จนกระทั่งวันที่ 8 ธันวาคม

จงโจวก็ประกาศกฎหมายอย่างเป็นทางการ

ในฐานะทวีปนำร่องของข้อเสนอ ฉินโจวกับฉีโจวก็ผนวกกันอย่างเป็นทางการ ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไปทั้งสองทวีปรวมเป็นหนึ่งเดียว ไม่ว่าจะเป็นการคมนาคมอย่างระบบรางความเร็วสูง การคมนาคมทางอากาศ หรือแม้แต่ทางเรือก็จะถูกเพิ่มศักยภาพขึ้นอย่างเป็นประวัติการณ์!

ขอแนะนำสักหน่อย

ระบบรางความเร็วสูงเป็นการคมนาคมทางบกที่รวดเร็วที่สุดของบลูสตาร์ มีความเร็วเกือบ 2000 กิโลเมตร/ชั่วโมง หากมองในแง่ประสิทธิภาพของยานพาหนะขนาดใหญ่ สามารถเกทับยานพาหนะภาคพื้นดินของโลกได้ทุกประเภท

ไม่เพียงเท่านี้

ต่อให้ใช้เทคโนโลยีประเภทเดียวกัน การคมนาคมขนส่งทุกประเภทของบลูสตาร์รวมไปถึงอากาศยาน ก็สามารถเอาชนะโลกได้ และในปัจจุบันหลังจากการบัญญัติข้อกฎหมายนี้อย่างเป็นทางการ ระยะเวลาซึ่งสั้นที่สุดในการไปมาหาสู่กันระหว่างทั้งสองพื้นที่ได้ย่อลงเหลืออยู่ภายในสองชั่วโมง!

อย่างเร็วที่สุดก็แค่หนึ่งชั่วโมง!

เมื่อก่อนถ้าคิดจะลงมติเรื่องนี้กันจริงๆ ก็พอจะทำได้อยู่หรอก แต่เพราะลึกๆ แล้วแต่ละทวีปมีแนวคิดของความเป็นเอกเทศ ดังนั้นรูปแบบของการคมนาคมจึงก่อให้เกิดข้อจำกัดการไปมาหาสู่และติดต่อระหว่างกัน แต่เทคโนโลยีในภาพรวมนั้นปรากฏการปรับโฉมขนาดยักษ์ใหญ่ กอปรกับนโยบายจากทางการ บางทีอาจเกี่ยวข้องกับการเปลี่ยนแปลงนี้ก็ได้ สรุปแล้วระยะทางจะไม่เป็นอุปสรรคในการติดต่อระหว่างทวีปอีกต่อไป

ครืนๆๆ!

ทั้งบลูสตาร์ต้องสั่นสะเทือน!

ในที่สุดแล้วดาวดวงนี้ก็เข้าสู่โหมดประเด็นร้อน ผู้คนจากทวีปอื่นๆ ย่อมรู้สึกว่าตนเองก็มีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ เพียงเพราะฉินโจวกับฉีโจวผนวกกัน คนที่พอจะมีสามัญสำนึกสักหน่อยก็น่าจะรู้ว่านี่เป็นวิธีที่แสนอนุรักษ์นิยมของจงโจว

นัยยะทางการเมืองของเรื่องนี้คือ

ในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า จงโจวจะดำเนินนโยบายผนวกรวมแต่ละทวีป ฉินโจวกับฉีโจวเป็นเพียงจุดเริ่มต้น บางทีในปีหน้าอาจมีทวีปอื่นมาเข้าร่วม จนกว่าคลื่นคลั่งแห่งยุคสมัยจะกลืนกินไปทั่วทุกมุมของบลูสตาร์!

อันที่จริงดินแดนที่ประเด็นนี้ร้อนแรงที่สุด

ก็คงหนีไม่พ้นสองทวีปนำร่อง

เพราะในวันที่ข้อเสนอนี้ถูกประกาศว่าผ่านอย่างเป็นทางการ ประชาชนชาวฉินโจวต่างตื่นเต้นที่รู้ว่า ขอเพียงจ่ายเงินก็สามารถคลิกเลือกทั้งภาพยนตร์จากทางฉีโจวได้ ส่วนเกมทั้งหลายก็ไม่มีปัญหาเช่นกัน แน่นอนว่ารวมไปถึงพวกดนตรีด้วย นอกจากนั้นแล้ว แอปพลิเคชันของคอมพิวเตอร์ของทั้งสองฝั่ง ก็ล้วนสามารถใช้ได้โดยไร้ข้อจำกัด

บ้าไปแล้ว!

ประชาชนชาวฉินโจวดีอกดีใจกันเหลือเกิน เมื่อก่อนอยากดูภาพยนตร์ของฉีโจวไม่ใช่เรื่องง่าย เนื่องจากสิ่งที่เรียกว่าการปกครองตนเองของแต่ละทวีป ทว่าในตอนนี้ทุกสิ่งของฉีโจวเปิดกว้างต่อฉินโจว ตัวอย่างเช่นโฮมเธียเตอร์ซึ่งทางฉีโจวพัฒนาขึ้นและผู้คนต่างเฝ้ารออยากติดตั้งมานาน แต่เป็นเพราะข้อจำกัดระหว่างสองทวีปอีกนั่นละ ที่ทำให้เมื่อก่อนหากจะติดตั้งโฮมเธียเตอร์อาจต้องจ่ายเงินกว่าหนึ่งล้าน ทว่าในตอนนี้จ่ายแค่สามสี่แสนก็ทำได้แล้ว

ยังมีแคปซูลเล่นเกมอีก!

ทางฉีโจวมีนวัตกรรมใหม่ล่าสุดของแคปซูลเล่นเกม แม้ว่าเทคโนโลยีนี้จะยังไม่สมบูรณ์แบบ แต่แคปซูลเล่นเกมประเภทนี้เริ่มใช้ในฉีโจว แถมยังได้เสียงตอบรับที่ไม่เลวเลย แต่ฉินโจวกลับใช้งานไม่ได้ด้วยข้อจำกัดเหล่านี้เอง ทว่าทั้งหมดทั้งมวลเหล่านี้ไม่ใช่ปัญหาอีกต่อไป!

สรุปได้เป็นคำพูดว่า

หลังจากการผนวกรวมของฉินโจวและฉีโจว ชีวิตของผู้คนจากทั้งสองพื้นที่ทั้งด้านจิตใจและด้านวัตถุ ล้วนเกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างพลิกฟ้าพลิกแผ่นดิน ตั้งแต่ชีวิตประจำวัน รวมไปถึงการผสมสานของกระแสนิยมต่างๆ ไปจนถึงวิทยาศาสตร์เทคโนโลยี รวมไปถึงผลงานด้านศิลปะวัฒนธรรมที่สำคัญ ผู้คนมากมายถึงขั้นตั้งหน้าตั้งตารอให้ทั้งสองทวีปผนวกรวมกัน

และในฉีโจว

ก็มีการเปลี่ยนแปลงเหมือนกัน

ฉินโจวมีหลายอย่างที่ทางฉีโจวเฝ้ารออย่างใจจดใจจ่อ คงไม่ต้องอธิบายรายละเอียดทีละอย่าง สรุปแล้วความรู้สึกโดยรวมของทั้งสองทวีปนั้นคล้ายคลึงกัน ทุกคนสนุกสนานเพลิดเพลินกับความสำเร็จในหลายๆ ด้านของอีกทวีปหนึ่งได้อย่างเต็มที่ ต่อให้การเปลี่ยนแปลงในทำนองนี้เพิ่งจะเริ่มต้นขึ้น ท้ายที่สุดแล้วการเปลี่ยนแปลงอาจจำเป็นต้องใช้เวลาระยะหนึ่ง ทว่าชีวิตของทุกคนกลับได้รับอิทธิพลมามากมายแล้ว

……

ในการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญในประวัติศาสตร์ที่ทั้งสองทวีปผนวกเข้าหากัน หลินเยวียนในฐานะมนุษย์ตัวกระจิริด ยามที่แรงกระแทกมาโดยไม่ทันตั้งตัว เขาเองก็ถึงกับรู้สึกราวกับว่าตนทะลุมิติมาอีกครั้ง แม้ว่าเขาจะมีความคุ้นเคยกับทั้งสองทวีปในระดับหนึ่งก็ตามแต่ ดังนั้นไม่ต้องบอกก็คงรู้ว่าคนที่ชั่วชีวิตนี้ไม่เคยไปทวีปอื่นจะมีปฏิกิริยาอย่างไรกับแรงกระแทกที่เกิดขึ้นเช่นนี้

และเมื่อเทียบกับหลินเยวียนแล้ว

เจี่ยนอี้ออกจะตื่นเต้นอยู่บ้าง เอาแต่พร่ำเพ้อทั้งวัน “ถ้างั้นหลังจากนี้ฉันก็ไม่ต้องมาตามล่าฝันที่ฉีโจว อุตสาหกรรมภาพยนตร์ของฉีโจวก็จะเข้าสู่ตลาดของฉินโจวอย่างรวดเร็ว นักแสดงของทั้งสองฝั่งก็จะมีอนาคตที่สดใส”

วาทศิลป์ที่มีถูกงัดมาใช้จนหมดแล้ว

บางครั้งเขาก็จะมาตามติดหลินเยวียนแจเพื่อพูดคุยเรื่องการเปลี่ยนแปลงในชีวิต ปฏิกิริยาของเขาอันที่จริงแล้วนับว่ารวดเร็วพอสมควรเลย “นายเชื่อมั้ยว่าต่อไปฉีโจวจะบุกวงการเพลงครั้งใหญ่ ไม่ใช่แค่นักแสดงอย่างฉัน งานสายศิลปะบันเทิงทั้งหมดจะได้เจอกับทางเลือกที่มากขึ้น!”

หลินเยวียนถาม “ตัวอย่างเช่น?”

เจี่ยนอี้ปรบมือพร้อมฉีกยิ้ม “ตัวอย่างเช่นนาย เซี่ยนอวี๋เป็นนักแต่งเพลงมือทองของฉินโจว ด้วยสถานะความเป็นคนฉินโจวของนาย ถ้าทางฉีโจวอยากเชิญนายไปก็ต้องทุ่มเงินมหาศาลจ่ายให้นาย ลำพังค่าใช้จ่ายในแต่ละปีก็สูงลิบแล้ว ถึงยังไงแต่ละทวีปก็ต้องปกป้องตัวเอง แต่ตอนนี้สองทวีปผนวกกันแล้ว นายคิดว่าบริษัทบันเทิงทางฉีโจวจะยังยอมก้มหัวให้ทางฉินโจวในด้านดนตรีเหรอ”

หลินเยวียนครุ่นคิดอยู่ชั่วขณะ

เจี่ยนอี้พูดพลางใช้วัจนลีลา “หัวใจสำคัญที่ทำให้ดนตรีของฉินโจวประสบความสำเร็จก็คือคนมีความสามารถ หลังจากนี้บริษัทยักษ์ใหญ่ในฉีโจวก็จะมาเปิดบริษัทที่ฉินโจว พอทั้งสองทวีปไม่เหลือข้อจำกัดระหว่างกันอีกต่อไป ฉีโจวจะดึงตัวบุคลากรที่มีความสามารถด้านดนตรีมาก็ไม่ใช่เรื่องยาก พอมีคนเก่งๆ มาอยู่ด้วยแล้ว บริษัทบันเทิงยักษ์ใหญ่ของฉีโจวจะต้องยังสั่งผลิตเพลงกับสตาร์ไลท์ไปทำไมอีกล่ะ ในเมื่อความสามารถของนักแต่งเพลงบริษัทตัวเองก็พอสูสีแล้ว!”

“แล้ว…”

“แล้วคนเก่งๆ ในสายงานดนตรีของฉินโจวก็จะมีทางเลือกมากขึ้น เมื่อก่อนทุกคนก็แห่ไปที่บริษัทอย่างสตาร์ไลท์ เพราะสตาร์ไลท์เป็นหนึ่งในบริษัทท็อปๆ ของฉินโจว ต่อไปตัวเลือกของพวกเขาก็มีมากขึ้น บริษัทจากฉีโจวอย่างธันเดอร์หรือชีซิงก็ต้องเข้ามาแน่ อาจถึงขั้นเข้ามาล่าหัวคนเก่งๆ จากบริษัทในฉินโจวไปโดยไม่เกี่ยงราคาเลยด้วยซ้ำ!”

หลินเยวียนเข้าใจแล้ว

เจี่ยนอี้พูดต่อว่า “ความสามารถในการทำเพลงของนายน่ะสุดยอดมาก เมื่อถึงตอนนั้นจะต้องมีคนฉีโจวมาดึงตัว แถมสวัสดิการที่ให้นายอาจดีกว่าสตาร์ไลท์อีก สตาร์ไลท์จะต้องให้สวัสดิการที่ดียิ่งกว่าเพื่อรั้งนายไว้ ดังนั้นสำหรับพวกเขาแล้ว นี่เป็นเรื่องที่ดีนะ ฝ่ายที่สัมผัสได้ถึงแรงกดดันจริงๆ คงจะเป็นบรรดาบริษัทใหญ่ทั้งหลาย ดูจากสตาร์ไลท์ก็ได้ พวกนายจะนั่งนิ่งไม่ทำอะไรเลยหรือไง”

หลินเยวียนพยักหน้า

สิ่งที่สามารถคาดการณ์ได้ก็คือ บริษัทในฉินโจวอย่างสตาร์ไลท์จะต้องพัฒนาอุตสาหกรรมด้านภาพยนตร์กับเกมด้วย เพราะอุปสรรคระหว่างคนเก่งทั้งสองฝั่งได้ถูกเชื่อมถึงกันแล้ว คุณถูกอกถูกใจนักดนตรีของฉัน แล้วทำไมฉันจะชอบคนมีฝีมือด้านภาพยนตร์ของคุณบ้างไม่ได้ล่ะ

ฉีโจวโหดเรื่องสเปเชียลเอฟเฟ็กต์?

ฉีโจวตัดต่อซีรีส์เก่ง?

ฉีโจวมีผู้กำกับฝีมือดี?

ยามที่บุคลากรเหล่านี้เข้ามาในฉินโจว ฉินโจวยังจะต้องกังวลว่าอุตสาหกรรมด้านภาพยนตร์และซีรีส์จะไม่รุดหน้าอีกหรือ ถึงอย่างไรแต่ละทวีปก็ไม่ได้มีพรมแดนของแต่ละชาติ ศิลปะก็ยิ่งปราศจากสิ่งที่เรียกว่าพรมแดน สรุปแล้วนี่ก็เป็นเรื่องของเงินล้วนๆ

ลองเปลี่ยนมุมมองพิจารณาดู

ถ้าเรื่องนี้เกิดขึ้นบนโลก ลำพังเรื่องอุตสาหกรรมภาพยนตร์ ภาษาในการสื่อสารที่แตกต่างกันของแต่ละประเทศย่อมก่อให้เกิดอุปสรรคต่อการเชื่อมต่อกันได้ทันตาเห็น ถ้าทุกสิ่งในฮอลลีวูดเปิดกว้างต่อจีน เช่นนั้นสักวันหนึ่งฮอลลีวูดก็จะเป็นฮอลลีวูดของทุกคนได้เหมือนกัน!

นี่เป็นสถานการณ์ที่จะต้องเกิดขึ้นอย่างแน่นอน

ต่อให้ไม่ยกอุตสาหกรรมภาพยนตร์มาเป็นตัวอย่าง ลองนึกถึงประเทศจีนในโลกเดิมดูก็ได้ ในทัวร์นาเมนต์สูงสุดของการแข่งขันเกม League of Legends (LOL) ทีมจากประเทศจีนเอาชนะทีมจากเกาหลีใต้ไม่ได้สักที สุดท้ายแล้วสโมสรจึงไปกว้านซื้อตัวนักกีฬาจากเกาหลีใต้มาหลายคน เพื่อให้นักกีฬาเหล่านี้ช่วยเสริมทัพให้ทีมจากจีน

แต่ถึงอย่างไรก็มีความแตกต่างกันเรื่องของประเทศ

มีบางคนอาจปฏิเสธสัญญาเพราะรู้สึกว่านั่นไม่ใช่ที่ของตน แต่ในความจริงไม่มีใครจะปฏิเสธงานในทวีปอื่นเพียงเพราะตนเป็นคนฉีโจวหรือเขาเป็นคนฉินโจวหรอก เพราะว่าที่นี่คือบลูสตาร์ เดิมทีทุกคนก็นับเป็นคนประเทศเดียวกันอยู่แล้ว ดังนั้นจึงไม่มีใครวิตกกังวลเรื่องสถานภาพของตน

คุณจะปฏิเสธงานในอำเภอข้างๆ หรือ?

หรือว่าคุณจะปฏิเสธงานในมณฑลข้างๆ ?

เมื่อปัญหาที่การติดต่อสื่อสารทั้งหมดถูกสะสางแล้ว นี่เป็นความกลมกลืนของบลูสตาร์ที่แท้จริง ที่ความผสมผสานของผู้คนจะยิ่งล้ำลึกขึ้นไปอีกหลังจากที่บลูสตาร์ผนวกรวมกันแล้ว ดังนั้นการที่เจี่ยนอี้ดีใจก็เป็นเรื่องธรรมดามาก

สำหรับแต่ละทวีปหรือแม้แต่แต่ละสายอาชีพแล้ว

นี่ล้วนเป็นทั้งความเสี่ยงและความท้าทาย

ตัวอย่างเช่นคนฉินโจวชอบใช้โซเชียลมีเดียที่เรียกว่าปู้ลั่ว ขณะที่โซเชียลมีเดียซึ่งเป็นที่นิยมใจฉีโจวเรียกว่าบล็อก หลังจากที่ทั้งสองทวีปผนวกรวมกันแล้ว พวกเขาก็คงจะต้องเลือกว่าหลังจากนี้ทุกคนจะใช้บล็อกหรือปู้ลั่ว

ความเคยชินนั้นเปลี่ยนกันได้

เพื่อให้ความกลมกลืนนี้ราบรื่นมากขึ้น เพื่อให้สภาพแวดล้อมของการสื่อสารผ่อนคลายกว่าเดิม ท้ายที่สุดแล้วทุกคนจะตัดสินใจได้ นี่จึงจะนับว่าเป็นความขัดแย้งที่นำมาซึ่งการเปลี่ยนแปลงของทั้งสองทวีปและทั่วทั้งบลูสตาร์ ไม่มีอุตสาหกรรมใดที่ยืนหยัดได้เพียงลำพัง ทุกคนทำได้เพียงต่อสู้กันสุดแรงเกิดเพื่อไขว่คว้าโอกาสในตลาดซึ่งไม่เหมือนเดิมอีกต่อไปแล้ว

แต่กลายเป็นตลาดที่ใหญ่กว่าเดิม!

หลินเยวียนเชื่อว่าทางสตาร์ไลท์จะใช้มาตรการบางอย่างอย่างแน่นอน เพียงแต่เขาไม่รู้รายละเอียดว่าสตาร์ไลท์คิดจะทำอย่างไรกันแน่ ท่ามกลางการถาโถมเข้ามาของมหาคลื่นแห่งยุคสมัยลูกนี้ การหยุดอยู่กับที่หมายถึงการถูกตลาดใหม่กำจัดทิ้ง ไม่มีนักลงทุกคนไหนอยากถูกตลาดกำจัดทิ้งหรอก ทุกคนคงจะก้าวไปข้างหน้าเพื่อไขว่คว้าโอกาสที่ไม่ได้มาบ่อยครั้ง เพราะตอนนี้เป็นเวลาทองของพวกเขาแล้ว

“ติ๊งต่อง!”

ระบบของหลินเยวียนถึงกับได้รับผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงในครั้งนี้แล้ว ขณะที่เขายังไม่ทันมองการเปลี่ยนแปลงในครั้งนี้ออกอย่างทะลุปรุโปร่ง ระบบก็ออกประกาศการอัปเกรด “ยุคสมัยแห่งศิลปะวัฒนธรรมและความบันเทิงกำลังจะมาถึง ระบบจะทำการอัปเกรดเป็นเวลาสองเดือน”

……………………………………….

Full-time Artist ใครว่าผมไม่เหมาะเป็นศิลปิน

Full-time Artist ใครว่าผมไม่เหมาะเป็นศิลปิน

Status: Ongoing

‘เขา’ ทะลุมิติมายังจักรวาลคู่ขนานซึ่งมีชื่อว่า ‘บลูสตาร์’

ดินแดนซึ่งอบอวลไปด้วยกลิ่นอายของศิลปะวัฒนธรรม ศาสตร์ทุกแขนงซึ่งเกี่ยวข้องกับศิลปะ

ไม่ว่าจะเป็นภาพยนตร์ ดนตรี จิตรกรรม วรรณกรรม หรือการเขียนพู่กันก็ล้วนเฟื่องฟูอย่างยิ่ง

ร่างที่เขามาสิงอยู่คือ ‘หลินเยวียน’ นักศึกษาปีสองที่กำลังจะเดบิวต์

แต่โชคชะตากลับเล่นตลกให้หลินเยวียนป่วยเป็นโรคที่รักษาไม่หาย ทำให้ร้องเพลงไม่ได้ และมีชีวิตอยู่ได้อีกไม่นาน

ครอบครัวก็หมดเงินไปกับค่ารักษาจนอยู่ในภาวะการเงินขัดสน

เป็นเหตุให้หลินเยวียนตัดสินใจจบชีวิตของตัวเองเพื่อไม่ให้เป็นภาระของครอบครัวต่อไป

แต่ ‘เขา’ ไม่คิดจะปลิดชีพตัวเองเหมือนหลินเยวียน

ถึงแม้ร่างนี้จะมีชีวิตอยู่ได้อีกไม่นาน แต่ก็ยังพอเหลือเวลาให้ทำอะไรอยู่บ้าง

และแม้จะเปลี่ยนแปลงโชคชะตาของตัวเองไม่ได้ ก็ยังพอจะเปลี่ยนแปลงโชคชะตาของครอบครัวได้

เขาจะเขียนเพลง เขียนหนังสือ ถ่ายทอดความรู้ หารายได้ให้ครอบครัว!

ทันใดนั้น…

[กำลังตรวจเลือด…กำลังตรวจยีน…กำลังตรวจม่านตา…

ระดับความเข้ากันได้ร้อยละ 99.36…ตรงตามมาตรฐาน…

เลือกจากฐานข้อมูล…โลกในระบบสุริยจักรวาล…ระบบกำลังเชื่อมต่อ…]

[ดาวน์โหลดสำเร็จ เชื่อมต่อระบบศิลปะเสร็จสมบูรณ์!]

[สวัสดีโฮสต์ ยินดีสำหรับการเชื่อมต่อกับระบบศิลปะ

ระบบของเราจะช่วยเหลืออย่างเต็มที่เพื่อให้ท่านได้เป็นศิลปินของบลูสตาร์!]

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท