บทที่ 217 ฮือ ๆๆ คาดไม่ถึง…เป็นเพราะข้าไม่ใช่ลูกสาวแท้ ๆ
ดาบมารอมตะ อ๊ะ! ไม่สิ ๆ หลังจากจอบเซียนทะยานออกไป หัวหน้าเผ่าอสูรโลหิตอัสนีกับยอดฝีมือเผ่าอื่น แต่ละคนต่างแสดงสีหน้ามากมายไม่ซ้ำกัน
และแน่นอนว่าพวกเขาล้วนแต่เบิกตากว้าง เพราะไม่มีผู้ใดคาดคิดว่าจะเกิดเรื่องเช่นนี้ขึ้นได้!
นี่มัน…แปลกประหลาดพิสดารเกินไปแล้ว!
ดาบมารอมตะ…ตกต่ำจนกลายเป็นจอบ!
หากไม่ได้เห็นด้วยตาตัวเอง ฆ่าให้ตายพวกเขาก็ไม่เชื่อ!
เดิมทีดาบมารอมตะหยิ่งผยองเสียยิ่งกว่าอะไร ครั้งเมื่อสมัยโบราณมันดูถูกสิ่งมีชีวิตทั้งหมด ไม่เห็นผู้แข็งแกร่งหน้าไหนอยู่ในสายตาทั้งนั้น
ดาบมารอมตะหยิ่งยโสเช่นนี้ กลายเป็นจอบถากหน้าดินไปเสียแล้ว…
ในใจของพวกเขา…เฮ้อ ไม่ต้องพูดถึงว่ารู้สึกซับซ้อนเพียงใด!
“พวกเราควรทำอย่างไรต่อไปดี?” พลันมียอดฝีมือเผ่าปีศาจถามขึ้นมา
“กลับสิ ข้ายังจะทำอะไรได้อีก!” หัวหน้าเผ่าอสูรโลหิตอัสนีถอนหายใจ
ไม่ว่าดาบมารอมตะจะเป็นบ้าจริงหรือบ้าปลอม เขาก็ไม่กล้าแตะต้องมันแล้ว
ไม่เห็นหรือไร… เมื่อครู่เขาเกือบต้องตายที่นี่แล้ว!
หากยังยั่วยุดาบมารอมตะอีก เขาย่อมไม่รอดอย่างแน่นอน ถึงตอนนั้นดาบมารอมตะได้ฆ่าเขาเป็นแน่!
“นี่มัน…ราวกับเรื่องตลกอย่างไรอย่างนั้น!”
“เฮ้อ!”
บรรดายอดฝีมือเผ่าปีศาจกลุ่มนั้นส่ายหัวอย่างช่วยไม่ได้ ก่อนจะตัดสินใจล่าถอยกลับไป
…
ชิงโจว
ณ ตระกูลหยวน
ในเวลานี้ หยวนอีได้กลับมาถึงก่อนแล้ว
ตระกูลของนางสืบสานมาอย่างยาวนาน และบรรพบุรุษทุกคนก็เป็นถึงมหาจักรพรรดิ มิฉะนั้น พวกเขาคงจะไม่ถูกเรียกขานว่า ตระกูลจักรพรรดิ
บนร่างของนางมีค่ายกลเคลื่อนย้ายโบราณอยู่ จึงสามารถไปมาระหว่างแคว้นได้โดยไม่เป็นปัญหา
เวลาเพียงวันเดียว นางก็เดินทางกลับจากเหยียนโจวมาถึงชิงโจว
“อีเอ๋อร์กลับมาแล้ว!”
ปรมาจารย์ตระกูลหยวนพอรู้ข่าวว่าหยวนอีกลับมาแล้ว ก็รีบมาหาทันที
และบรรพจารย์ตระกูลหยวนก็อยู่ที่นี่เช่นกัน!
“ท่านพ่อ! บรรพจารย์!”
หยวนอีคารวะบิดากับบรรพจารย์ของนาง
“ตอนหลังเกิดอะไรขึ้นกับดาบมารอมตะกันแน่? เจ้ารู้ภูมิหลังของผู้อาวุโสเซี่ยเหยียนหรือไม่?”
บรรพจารย์ถามอย่างกระวนกระวายใจ
ก่อนหน้านี้ หยวนอีได้ส่งคนกลับมารายงานว่า ดาบมารอมตะอยู่ในมือของผู้อาวุโสเซี่ยเหยียนแล้ว
หยวนอีแย้มยิ้มกล่าวว่า “ดาบมารอมตะหายไปแล้ว อืม…ตอนนี้มันกลายเป็นจอบไปเสียแล้วเจ้าค่ะ”
“จอบ?”
บรรพจารย์ลูบเคราหรี่ตาจ้องมองหยวนอี นางกำลังกล่าวถึงอะไรกัน?
หายไป… หมายความว่าอย่างไร?
แล้วกลายเป็นจอบ… นี่หมายความว่าอย่างไร?
“อีเอ๋อร์ กล่าววาจาดี ๆ ต่อหน้าบรรพจารย์อย่าได้กล่าววาจาไร้สาระ!”
ผู้อาวุโสของตระกูลตีหน้าขรึมกล่าว
เขาคิดว่าหยวนอีกำลังเล่นตลก ไม่ว่าอย่างไรสิ่งที่หยวนอีกล่าวมานั้นก็แทบจะเป็นไปไม่ได้เลยจริง ๆ
“ท่านพ่อ บรรพจารย์ พวกท่านตั้งใจฟังอีเอ๋อร์ให้ดี”
แล้วหยวนอีก็เล่าทุกอย่างโดยไม่ขาดตกบกพร่อง
มิหนำซ้ำ นางยังเล่าเรื่องราวทั้งหมดที่เจอกับท่านเซียนด้วย
นางกลับมาครานี้ สิ่งนี้ก็เป็นเหตุผลหนึ่งที่นางกลับมา
กระถางดอกไม้ที่ท่านเซียนต้องการนั้นหาใช่ของสามัญธรรมดา ดังนั้นนางจึงเล่าเรื่องทั้งหมดออกมาให้บิดาและบรรพจารย์ฟัง เผื่อจะช่วยเหลือนางได้
หลังจากฟังคำบอกเล่าของหยวนอี บิดากับบรรพจารย์ของหยวนอีต่างก็ตกตะลึง
สิ่งที่หยวนอีกล่าวเกี่ยวกับผู้อาวุโสเซี่ยเหยียนนั้นยังพอได้รับได้ และอยู่ในขอบเขตความอดทนของพวกเขา
แต่หลังจากบอกว่าหลี่จิ่วเต้าเป็นเซียนนั้น… มันเกินขีดความอดทนมากกว่าพวกเขาจะรับได้!
ทุกภาพวาดที่เขาสร้างขึ้นสอดคล้องกับหลักเต๋าและจังหวะแห่งเต๋าสูงสุด ซ้ำแล้วหยกที่เขาแกะสลักทั้งหมดยังสามารถทำลายฟ้าดินได้ด้วย!
เครื่องมือทำอาวุธแต่ละชิ้นแฝงไปด้วยคลื่นจังหวะแห่งเซียน!
ดอกไม้ใบหญ้าปลูกทั่วไปในลานบ้านนั้น ล้วนแล้วแต่เป็นสมุนไพรจักรพรรดิอันน่าอัศจรรย์ใจ!
สวรรค์! มีตัวตนเช่นนี้ดำรงอยู่บนโลกนี้ด้วยหรือ?
“อีเอ๋อร์ เจ้าโดนวิชาลวงตาใช่หรือไม่?”
บิดาของหยวนอีกล่าวขึ้น คิดว่าหยวนอีต้องโดนอาคมภาพลวงตาเป็นแน่!
นับตั้งแต่สมัยโบราณมา ไม่มีผู้ใดสามารถบรรลุเป็นเซียนได้ กระทั่งเซียนเองก็ไม่เคยปรากฏสู่สายตาโลกมาก่อน พวกเขาจึงไม่แน่ใจว่าเซียนมีตัวตนและดำรงอยู่จริงหรือไม่!
คาดไม่ถึงว่าหยวนอีจะกล่าวว่าตอนนี้ยังมีเซียนดำรงอยู่…
หากนี่ไม่ใช่วิชาลวงตาแล้วเช่นนั้นมันคืออะไร?
เขาไม่ลังเล เคลื่อนไหวฝ่ามือออกไปทางหยวนอีทันที!
คลื่นพลังอันทรงพลังเพิ่มพูนขึ้นอย่างกะทันหัน และเขาก็ใช้พละกำลังตรึงหยวนอีไว้กับที่ ทำให้หยวนอีขยับไม่ได้
เพราะกลัวว่าหยวนอีจะตกอยู่ในวิชาลวงตา กลายเป็นเบี้ยล่างของผู้อื่น ดังนั้นเขาจึงฉวยโอกาสนี้ควบคุมหยวนอีเสียก่อนค่อยพูด
“อย่ากลัวไปเลยอีเอ๋อร์ บรรพจารย์จะช่วยเจ้าทำลายวิชาลวงตาเอง!”
บรรพจารย์ตะโกนออกมา รู้สึกเช่นเดียวกันว่าหยวนอีกำลังต้องอาคมวิชาลวงตาอยู่
มิฉะนั้น หยวนอีจะกล่าวคำไร้สาระเช่นนี้ออกมาได้อย่างไร?
สองมือของเขาประกบเข้าด้วยกัน ก่อนจะเริ่มโคจรวิชาโบราณบางอย่าง นี่เป็นวิชาโบราณที่ใช้สำหรับกำจัดอาคมภาพลวงตาโดยเฉพาะ
“ท่านพ่อ บรรพจารย์ พวกท่านกำลังทำอะไร!?”
หยวนอีตกตะลึงกับการกระทำของบิดาและบรรพจารย์
ไฉนกลายเป็นนางต้องอาคมวิชาลวงตาเสียอย่างนั้นเล่า!
แม้ว่าทุกสิ่งที่นางประสบจะเหลือเชื่อไปหน่อย แต่นางก็ชัดแจ้งในทุกสิ่งอย่างที่นางประสบมา ว่านั่นเป็นของจริงหาใช่ของปลอม!
ฟิ้ว ฟิ้ว ฟิ้ว!
บรรพจารย์ออกฝ่ามือ ก่อนที่แสงเจิดจ้าจะโคจรหมุนเวียนไม่หยุด แล้วเขาก็ใช้วิชาโบราณนั้นโจมตีเข้าใส่ร่างของหยวนอี
สิ้นท่าทีนั้น เขาก็ยิ้มพลางกล่าวว่า “อืม ไม่เป็นไรแล้ว”
วิชาโบราณทำลายอาคมลวงตานี้ เหล่าบรรพบุรุษมหาจักรพรรดิในตระกูลหยวนของพวกเขาเป็นผู้คิดขึ้นมาเอง
ขอบเขตของเขาอยู่สูงมากนัก เพียงพอที่จะใช้วิชาโบราณทรงพลังเช่นนี้ออกมาได้
ในความคิดของเขา วิชาโบราณนี้เพียงพอจะทำลายวิชาลวงตาที่หยวนอีกำลังต้องอาคมอยู่
“ปลอดภัยแล้ว รอมั่นใจว่าทุกอย่างเรียบร้อยดี แล้วข้าจะดึงพลังที่ตรึงนางไว้กลับมา”
บิดาของหยวนอีกล่าว ยังคงใช้พลังของเขาจับตัวหยวนอีไม่ยอมคายออก
“ท่านพ่อ ข้ายังเป็นลูกสาวแท้ ๆ ของท่านอยู่หรือไม่!?”
หยวนอีกำลังจะร่ำไห้ จะมีบิดาบังเกิดเกล้าที่ใดปฏิบัติกับลูกสาวแท้ ๆ ของตัวเองเช่นนี้ได้?
“ข้าเตือนเจ้าแล้วว่าอย่าได้พูดประโยคเช่นนี้!”
คาดไม่ถึงหลังจากที่หยวนอีกล่าวเช่นนี้ บิดาของหยวนอีก็ทำเสียงรีบผละออกไปทันที ซ้ำยังทำตัวห่างเหินกับหยวนอี!
ยิ่งไปกว่านั้นบิดาของหยวนอีก็จ้องมองหยวนอีอย่างระมัดระวัง
“หมายความว่าอย่างไร ข้าไม่ใช่ลูกสาวแท้ ๆ ของท่านหรือ???”
หยวนอีตกตะลึงราวกับถูกฟ้าผ่ามิปาน สมองคล้ายถูกทัณฑ์อัสนีฟาดลงมาอย่างจัง!
สวรรค์…นางไม่ใช่ลูกสาวแท้ ๆ ของบิดา!
นางเป็นลูกสาวบุญธรรมของบิดา?
นาง…ถูกเก็บมาเลี้ยง?
“หืม!?”
บรรพจารย์มองบิดาของหยวนอีด้วยท่าทีงุนงง
ช่างดีนัก เจ้าเด็กคนนี้หลอกลวงเขามาตลอดอย่างนั้นหรือ?
“ท่านพ่อ…ท่านบอกข้าทีเถิด ผู้ใดคือบิดามารดาแต่กำเนิดของข้า”
หยวนอีกล่าวพลางร้องไห้
หลายปีที่ผ่านมา นางย่อมคิดว่าเขาคือผู้ให้กำเนิด ทว่าแท้จริงแล้วกลับไม่ใช่!
นาง…ใจสลาย น้ำตาไหลไม่หยุด
“เจ้ากล้าปิดบังเรื่องใหญ่โตเช่นนี้กับข้าได้อย่างไร?”
บรรพจารย์จ้องบิดาของหยวนอีด้วยความโมโห เขายกมือขึ้นตบบิดาของหยวนอีไปหนึ่งฉาด ก่อนจะทุบตีบิดาของหยวนอีจนล้มไปกองกับพื้น สมควรเป็นสุนัขเลียมือเลียเท้าอยู่บนพื้น!
เจ้าเด็กคนนี้ไม่บอกเขาก่อน!
หลายปีที่ผ่านมา เขาสนิทสนมกับหยวนอีมากกว่าผู้ใด!
เจ้าเด็กคนนี้… ผลสุดท้ายเป็นเขาสนิทสนมเสียเปล่าหรือ?
หยวนอีเป็นลูกของคนอื่น ไม่ใช่ธิดาของตระกูลหยวนเขา!
“ข้าฆ่าเจ้าไม่ได้ก็คงเป็นได้แค่ขยะคนหนึ่งแล้ว!”
ยิ่งบรรพจารย์คิดถึงเรื่องนี้ เขาก็ยิ่งโกรธมากขึ้น จึงตบบิดาของหยวนอีคลายความโกรธ!
เขาเดินไปหาบิดาของหยวนอีจากนั้นก็ฟาดไปที่อีกฝ่ายอย่างแรง ฟาดเสียจนบิดาของหยวนอีจมูกช้ำ ใบหน้าบวมจนผีเห็นยังผวา ฟันหลุดไปหลายซี่อย่างน่าเวทนา!
“บรรพจารย์อย่าตีท่านพ่ออีกเลย! ทุกอย่างเป็นความผิดของอีเอ๋อร์เอง!”
หยวนอีร้องไห้ขอความเมตตาจากบรรพจารย์
ถึงแม้ว่าอีกฝ่ายจะไม่ใช่บิดาของนาง แต่อย่างไรก็เลี้ยงดูนางมาหลายปี นางทนเห็นฉากเช่นนี้ไม่ได้
“บรรพจารย์อย่าตี มันไม่ใช่อย่างที่ท่านคิด!”
บิดาของหยวนอีร้องตะโกนเสียงดัง มิต้องพูดถึงว่าเขาอึดอัดเพียงใด
บรรพจารย์…ท่านเข้าใจผิดแล้ว!