องค์ชายสาม หยุดไล่ตามข้าเสียที! – บทที่ 217

บทที่ 217

ใน​ตอนกลางคืน​ ​ดวงจันทร์​ถูก​เมฆ​บดบัง​ไว้​ ​ด้านนอก​หน้าต่าง​ ​เงา​ของ​ต้นไม้​รวมตัว​กับ​ความมืด​มิด

สาวใช้​ของ​คฤหาสน์​ผู้พิทักษ์​ถือ​ตะเกียง​อยู่​ด้านนอก​ประตู​ ​และ​มอง​ซ้าย​มอง​ขวา​ ​ราวกับ​กำลัง​รอ​ใคร​บางคน

เมื่อ​เห็น​รถม้า​คัน​หนึ่ง​เข้ามา​ใกล้​ ​นาง​ก็​รีบ​เดิน​เข้าไป​ ​และ​พูด​ด้วย​ความเคารพ​ ​“ฮู​หยิน​เจ้า​คะ​”

ปรากฏ​ว่า​คนที​่​มาตอ​นก​ลาง​ดึก​นั้น​คือ​ซู​เหยี​ยน​โม่​ที่​อดีต​ฮ่องเต้​ได้​สั่ง​ให้​อยู่​ที่​วัด​ ​เพื่อ​สวดมนต์​ต่อ​พระพุทธเจ้า

การ​เดินทาง​ไป​ที่​วัด​หลิง​อิ่น​ครั้งนี้​ทำให้​นาง​เสียชื่อเสียง​ ​ยัง​ไม่ต้อง​พูดถึง​เรื่อง​ที่นาง​ไม่​สามารถ​ทำ​อะไร​ผู้หญิง​คน​นั้น​ได้​ ​หาก​ตระกูล​ทั้งสองฝ่าย​ไม่ได้​ขอร้อง​แทน​นาง​ ​นาง​ก็​คง​ต้อง​อยู่​ที่​วัด​แห่ง​นั้น​อีก​เป็นเวลา​กว่า​สอง​สัปดาห์​หรือ​มากกว่า​นั้น

อย่างไรก็ตาม​ ​แม้ว่า​จะ​อยู่​ที่นั่น​เป็นเวลา​เพียง​สาม​วัน​ ​แต่​หัวใจ​ของ​ซู​เหยี​ยน​โม่​ก็​เต็มไปด้วย​ความโกรธแค้น​ ​นาง​มอง​ไป​ทาง​สาวใช้​ด้วย​สายตา​เย็นชา​ ​ก่อน​จะ​พูดว่า​ ​“​แล้ว​เรื่อง​ที่​ข้า​สั่ง​ให้​เจ้า​ทำ​ล่ะ​ ​เป็น​อย่างไรบ้าง​”

“ฮู​หยิน​โปรด​วางใจ​เจ้าค่ะ​ ​บ่าว​รู้​มา​ว่า​ตอนนี้​ ​เวย​เจ๋อ​กำลัง​ทำ​ระบบ​สมาชิก​อยู่​ ​และ​บ่าว​ก็ได้​นัดพบ​กับ​คนที​่​จัดการ​ธุระ​เรื่อง​นี้​ให้​แล้ว​เจ้าค่ะ​ ​ใน​วันพรุ่งนี้​ ฮู​หยิน​สามารถ​พา​คุณหนู​ไป​ที่นั่น​ ​และ​เข้าร่วม​การประมูล​อาวุธ​ดี​ๆ​ ​ได้​อย่างแน่นอน​”​ ​สาวใช้​ถือ​ตะเกียง​ด้วยมือ​ข้าง​หนึ่ง​ ​ในขณะที่​เดิน​ไป​ทาง​ด้านหลัง​ของ​รถม้า

ซู​เหยี​ยน​โม่​พยักหน้า​อย่าง​พึงพอใจ​ ​และ​พูด​ขึ้น​ ​“​แล้ว​นัง​แพศยา​คน​นั้น​เล่า​ ​ช่วงนี้​ ​นาง​กำลัง​ทำ​อะไร​อยู่​หรือ​”

“​คุณหนู​ใหญ่​ไม่มี​พลัง​ปราณ​เลย​แม้แต่น้อย​ ​และ​ใน​ช่วงนี้​ ​สำนัก​ไท่​ไป๋​ก็​ให้ความสำคัญ​กับ​พลัง​ปราณ​ ​นาง​คงจะ​รู้สึก​อับอาย​ ​จึง​ขอลา​ไป​เจ้าค่ะ​”

สาวใช้​คน​นั้น​รายงาน​เรื่อง​ที่นาง​ได้รับ​รู้​มาจาก​สำนัก​ศึกษา​ต่อ​อย่าง​พอสังเขป

ซู​เหยี​ยน​โม่​หัวเราะ​ ​และ​ท่าที​อัน​เย่อหยิ่ง​ตามปกติ​ก็​ปรากฏ​ขึ้น​บน​ใบหน้า​ของ​นาง​ ​นาง​ยิ้ม​เย้ยหยัน​ ​“​ไม่มี​อะไร​แล้ว​ ​เจ้า​ไป​ได้​ ​พรุ่งนี้​เช้า​ ​พวกเรา​จะ​ออกเดินทาง​ไป​ยัง​เวย​เจ๋อ​”

หลังจาก​วางแผน​มา​เป็นเวลา​หลาย​ปี​ ​นาง​ก็​รู้จัก​นัง​แพศยา​คน​นั้น​ดีกว่า​ใคร

นาง​มี​ความสามารถ​ที่ต่ำ​ต้อย​ ​แต่​ยัง​อยาก​ทำตัว​โดดเด่น​และ​พิสูจน์​ตัวเอง​อีก​เช่นนั้น​หรือ​ ​หึ​ ​ตอนนี้​ ​นาง​คงจะ​เริ่ม​รู้ตัว​บ้าง​แล้ว

รอ​จนกว่า​การ​ประลองยุทธ์​จะ​สิ้นสุดลง​ก่อน​เถอะ​ ​จากนั้น​ ​นัง​แพศยา​นั่น​ก็​จะ​ได้​เข้าใจ​ว่า​ตัวเอง​ไม่มี​อะไร​เทียบเท่า​ลูกสาว​สุดที่รัก​ของ​นาง​ได้​เลย​ ​และ​พวก​นาง​ก็​ไม่เคย​อยู่​ใน​ระดับ​เดียวกัน​เลย​ด้วย

เดิมที​ ​นาง​เป็น​เพียง​คน​ไร้ค่า​ที่​ไม่รู้​อะไร​เลย​ ​แม้แต่​ตอนที่​นาง​ถูก​ไล่ออก​จาก​ตระกูล​ ​นาง​ก็​ยัง​ทำตัว​เฉิดฉาย​อีก​ต่างหาก

ใน​ตอนนั้น​ ​นาง​น่าจะ​มีส​ภาพเหมือน​ขอทาน​ผู้ยากไร้​ ​และ​ควรจะ​มา​ขอร้อง​ให้​พวกเขา​รับ​นาง​กลับ​เข้า​ตระกูล​สิ​ ​นาง​ควรจะ​อ้อนวอน​เพื่อ​ขอก​ลับ​มา​อยู่​ที่​คฤหาสน์​ผู้พิทักษ์​ไม่ใช่​หรือ​อย่างไร

ยิ่ง​ซู​เหยี​ยน​โม่​คิด​เกี่ยวกับ​เรื่อง​นี้​ต่อไป​ ​รอยยิ้ม​บน​ใบหน้า​ของ​นาง​ก็​ยิ่ง​ปรากฏชัด​เจน​ขึ้น

คน​คน​นี้​…​ ​ก็​ไม่ใช่​ว่า​จะ​ไร้เดียงสา​จริงๆ

ชีวิต​ของ​เฮ่อ​เหลียน​เวย​เวย​ยุ่งเหยิง​จน​ลืม​สถานะ​ของ​ตนเอง​ ​แล้วยัง​กล้า​ที่จะ​ลองดี​กับ​นาง​อีก​เช่นนั้น​หรือ

ไม่ช้าก็เร็ว​ ​นัง​แพศยา​คน​นั้น​จะ​ต้อง​คุกเข่า​ต่อหน้า​นาง​ ​และ​เลีย​เท้า​ของ​นาง

นาง​ไม่ได้​รีบร้อน​อะไร​ ​เรื่องราว​ต่างๆ​ ​เพิ่งจะ​เริ่มต้น​ขึ้น​เท่านั้น

 

กลางดึก​ ​ดวงจันทร์​เสี้ยว​ส่องแสง​สว่าง​อยู่​บน​ท้องฟ้า

ใน​วัง​ที่​หรูหรา​ ​มี​ผ้าไหม​สีขาว​บาง​พาด​ไว้​เหนือ​กรง​สีทอง​ขนาดใหญ่​อัน​งดงาม​ที่ตั้ง​อยู่​ตรงกลาง​ห้องนอน​ ​ด้าน​ข้าง​มีส​ระ​น้ำ​ใส​สีฟ้า​ ​และ​ยัง​มี​เตียง​แกะสลัก​จาก​ไม้​ชั้นดี​อย่างประณีต​วาง​อยู่​ตรงกลาง​กรง

มีบา​งอย​่าง​ที่​มี​ลักษณะ​คล้าย​สร้อยข้อมือ​ที่​ทำ​ด้วย​ทองคำบริสุทธิ์​ห้อย​อยู่​ตรง​เตียง​ขนาดใหญ่​ ​มันตก​แต่ง​ด้วย​ลวดลาย​ที่​ซับซ้อน​ ​ช่าง​ดู​งดงาม​และ​ละเอียดอ่อน​ ​และ​ขนาด​ของ​มัน​ก็​พอดี​กับ​ข้อมือ​ของ​คน​ๆ​ ​หนึ่ง​ ​ด้านใน​สร้อยข้อมือ​เส้น​นั้น​บุด​้วย​ขน​กระต่าย​ที่​อ่อนนุ่ม​ ​ทำให้​มัน​มีสัม​ผัส​ที่​นุ่ม​และ​สบาย​ ​เมื่อ​สวมใส่​จึง​ไม่​ทำให้​รู้สึก​เจ็บ​ ​นอกจากนี้​ยัง​มี​แผ่นทอง​คำบาง​ๆ​ ​อยู่​ด้านใน​อีกด้วย​ ​คนที​่​กำลัง​มองดู​มัน​จาก​ด้าน​ข้าง​นั้น​สวมใส่​ชุด​คลุม​สีขาว​ ​และ​กำลัง​นั่ง​บน​เก้าอี้​อย่าง​ผ่อนคลาย​ ​มือ​ข้าง​หนึ่ง​ของ​เขา​กำลัง​ประคอง​ศีรษะ​ ​ในขณะที่​มือ​อีก​ข้าง​นั้น​กำลัง​ถือ​ม้วน​ตำรา​เล่ม​หนึ่ง​ ​สีหน้า​ของ​เขา​ดู​พึงพอใจ​อย่างมาก​ ​ขณะที่​มอง​กรง​ทองคำ​ที่​เพิ่งจะ​สร้าง​เสร็จ​ใหม่​ๆ​ ​ริมฝีปาก​ของ​เขา​ยกขึ้น​เป็น​รอยยิ้ม​ที่​มีเสน่ห์​ ​เขา​กำลัง​มองดู​มัน​อย่างชื่นชม

รอยยิ้ม​ของ​เขา​ทำให้​หนา​นกง​เลี่ย​ที่นั่ง​อยู่​ฝั่ง​ตรงข้าม​รู้สึก​หวาดผวา​ ​“​อา​เจ​วี​๋ย​ ​เจ้า​อยาก​จะ​นอน​ที่นี่​จริงๆ​ ​หรือ​”

“​ใช่​”​ ​ไป๋​หลี​่​เจีย​เจ​วี​๋ย​ตอบกลับ​อย่าง​ไม่​ยี่หระ

หนา​นกง​เลี่ย​จิบ​ชา​ ​ก่อน​จะ​เอ่ย​ถาม​ต่อ​ ​“​เจ้า​ไม่​คิด​ว่า​สิ่ง​นี้​ดู​สะดุดตา​เกินไป​หรือ​”​ ​การ​สร้าง​กรง​ทองคำบริสุทธิ์​เป็น​เตียงนอน​นั้น​ ​มี​เพียงแต่​เขา​เท่านั้น​ที่สามา​รถ​คิดได้

ไป๋​หลี​่​เจีย​เจ​วี​๋ย​ค่อยๆ​ ​พลิก​ม้วน​ตำรา​ใน​มือ​ ​พร้อมกับ​ตอบคำถาม​อย่างสบายใจ​ ​“​ข้า​ไม่​คิด​เช่นนั้น​”

หนา​นกง​เลี่ย​:​ ​“​…​”

“​ประเด็นสำคัญ​คือ​เจ้า​สร้าง​สิ่ง​ๆ​ ​นี้​ขึ้น​ ​แล้ว​ต้องการ​จะ​ทำ​อย่างไร​กับ​มัน​เช่นนั้น​หรือ​ ​อย่า​บอก​นะ​ว่า​เจ้า​ต้องการ​ที่จะ​ขัง​เฮ่อ​เหลียน​เวย​เวย​ไว้​ที่นี่​จริงๆ​”​ ​หนา​นกง​เลี่ย​คิด​ว่า​ครั้งก่อน​ ​อีก​ฝ่าย​เพียงแค่​พูดเล่น​ ​เขา​ไม่​คิด​ว่า​ชายหนุ่ม​จะ​จริงจัง​กับ​เรื่อง​นี้

ไป๋​หลี​่​เจีย​เจ​วี​๋​ยม​อง​ดู​เขา​อย่าง​เหยียดหยาม​ ​“​มัน​เกี่ยว​อะไร​กับ​เจ้า​หรือ​”

“​ข้า​ก็​แค่​สงสัย​…​ ​แค่​สงสัย​เท่านั้น​”​ ​หนา​นกง​เลี่ย​รีบ​ตอบ​และ​อธิบาย​ ​“​ไม่มีใคร​อยาก​ถูก​ขัง​หรอก​ ​อา​เจ​วี​๋ย​ ​เจ้า​จะ​ต้อง​ทำความเข้าใจ​ก่อน​ ​ใน​สายตา​ของ​เจ้า​ ​นาง​อาจจะ​ดูเหมือน​เป็น​เหยื่อ​ที่​น่าสนใจ​ ​แต่​เมื่อ​นาง​เห็น​ของ​แบบนี้​ ​นาง​จะ​ต้อง​วิ่งหนี​อย่างแน่นอน​”

คำ​สอง​คำ​ที่ว่า​ ​“​วิ่งหนี​”​ ​ทำให้​ประกาย​ใน​ดวงตา​ของ​ไป๋​หลี​่​เจีย​เจ​วี​๋ย​เย็นชา​ ​ขณะที่​เขา​ยืน​ขึ้น​ขยับ​ตำแหน่ง​ของ​ตนเอง​เล็กน้อย​ ​แม้ว่า​ท่าที​ของ​เขา​จะ​ดู​สบาย​ๆ​ ​แต่​เขา​ก็​ดู​น่ากลัว​อย่างมาก​ ​“​นาง​จะ​ไม่มี​โอกาส​ได้​ทำ​เช่นนั้น​”

เมื่อ​เหล่า​ขันที​ที่อยู่​นอก​ห้อง​ได้ยิน​ความเคลื่อนไหว​ใน​ห้อง​ ​ต่าง​ก็​แหงนคอ​มอง​ ​และ​คิด​หาวิ​ธี​ต่างๆ​ ​ที่จะ​เข้าไป​ด้านใน​อยู่​หลายครั้ง​ ​เพราะ​พวกเขา​อยาก​จะ​ถาม​ไป๋​หลี​่​เจีย​เจ​วี​๋ย​ว่า​อยาก​จะ​อาบน้ำ​เมื่อไหร่​ ​แต่​พวกเขา​ก็​ไม่กล้า​เข้าไป

ในที่สุด​ ​พวกเขา​ก็​รอ​จนถึง​เวลา​ที่​ไป๋​หลี​่​เจีย​เจ​วี​๋ย​วาง​ม้วน​ตำรา​ใน​มือ​ลง​ ​แล้ว​ลุกขึ้น​ยืน​ ​เหล่า​ข้า​รับใช้​ที่​รอ​อยู่​ ​ก็​รีบ​เดิน​เข้ามา​ช่วย​เขา​สวม​รองเท้า​ทันที

เขา​กำลัง​สวม​เสื้อคลุม​ยาว​สีขาว​ที่​ทำ​มาจาก​ขน​สุนัขจิ้งจอก​แดง​ขนาดใหญ่​ ​และ​กำลังจะ​เปลี่ยนเป็น​ชุด​เครื่องแบบ​ของ​สำนัก​ไท่​ไป๋​ ​จากนั้น​ ​เขา​ก็​เห็น​เงา​ทมิฬ​เข้ามา​หา​และ​คุกเข่า​ลง​ด้วย​ความเคารพ​ ​ก่อน​จะ​รายงาน​ ​“​ฝ่า​บาท​ ​พวกเรา​คลาด​กับ​นาง​พ่ะ​ย่ะ​ค่ะ​”

นิ้ว​เรียว​ยาว​ของ​ไป๋​หลี​่​เจีย​เจ​วี​๋ย​หยุดชะงัก​ไป​ครู่หนึ่ง​ ​ก่อนที่​เขา​จะ​มอง​ร่าง​นั้น​ด้วย​สายตา​ที่​เยือกเย็น​ราวกับ​น้ำแข็ง​ ​“​คลาด​กับ​นาง​เช่นนั้น​หรือ​”

“​ดูเหมือนว่า​คุณหนู​เฮ่อ​เหลียน​กำลัง​เตรียมตัว​ออก​ไป​พบ​ใคร​บางคน​พ่ะ​ย่ะ​ค่ะ​ ​และ​ระหว่างทาง​ ​ก็​ดูเหมือนว่า​นาง​จะ​สังเกตเห็น​พวกเรา​ ​ก่อน​จะ​สลัด​พวกเรา​ทุกคน​ไป​ได้​พ่ะ​ย่ะ​ค่ะ​”​ ​เงา​ทมิฬ​รายงาน​อย่าง​เคร่งขรึม​พร้อมกับ​ก้ม​ศีรษะ​ลง

ไป๋​หลี​่​เจีย​เจ​วี​๋ย​ไม่ได้​พูด​อะไร​ ​ขณะที่​มือ​ของ​เขา​กำ​เสื้อคลุม​แน่น​ขึ้น​ ​แสงสว่าง​จาก​ด้านนอก​ส่อง​กระทบ​ตัว​เขา​ ​ทำให้​เขา​ดูรา​วกับ​เป็น​ของ​สะสม​ล้ำค่า​ใน​พิพิธภัณฑ์​ ​เขา​ดูรา​วกับ​เป็น​รูปปั้น​งาช้าง​ราคา​สูง​ที่​ดู​เรียบง่าย​และ​เรียบ​หรู

หนา​นกง​เลี่ยวิ​เคราะห์​ ​“​นาง​ต้อง​ไป​พบ​คนสำคัญ​อย่างแน่นอน​ ​มิเช่นนั้น​ ​นาง​คง​ไม่​สลัด​เงา​ทมิฬ​ออก​ไป​ ​อืม​…​ ​บางที​นาง​อาจจะ​ไปหา​เฮย​เจ๋อ​ก็ได้​ ​อา​เจ​วี​๋ย​ ​เจ้า​รู้สึก​หรือไม่​ว่า​ตอนที่​พวกเรา​แข่งขัน​กัน​ ​มีบา​งอย​่าง​แปลก​ๆ​ ​ระหว่าง​เฮย​เจ๋อ​กับ​นาง​…​”

“​เพล้ง​!​”

ก่อนที่​หนา​นกง​เลี่ย​จะ​พูด​จบ​ ​ถ้วย​น้ำชา​ใน​มือ​ของ​เขา​ก็​แตก​ออก​ด้วย​พลัง​ที่​มองไม่เห็น​ ​หนา​นกง​เลี่ย​อ้าปากค้าง​ ​สีหน้า​ของ​เขา​ดู​ตกตะลึง​ ​ในขณะที่​ใบหน้า​ด้าน​ข้าง​ของ​เขา​มีน​้ำ​ชา​ไหล​ลงมา​ ​และ​หยด​ลง​บน​โต๊ะ​ทีละ​หยด

เขามอง​ไป​ทาง​ไป๋​หลี​่​เจีย​เจ​วี​๋ย​ ​และ​เห็น​เพียง​ร่าง​ที่​ดู​เคร่งขรึม​เท่านั้น​ ​ผู้ชาย​คน​นั้น​ที่​ไม่เคย​แยแส​ต่อ​ทุกสิ่ง​รอบตัว​มาโดยตลอด​ ​กลับ​ชก​กำแพง​จน​ทำให้​เลือด​ไหล​เต็ม​ฝ่ามือ​ ​ดูเหมือนว่า​เขา​จะ​ไม่รู้​ตัว​เลย​ด้วยซ้ำ​ว่า​ตนเอง​กำลัง​ยิ้มอยู่​ ​ผนัง​นั้น​มี​รอยแตก​ ​และ​เมื่อ​ลม​พัดผ่าน​มา​ ​เส้น​ผม​ของ​เขา​ก็​ถูก​พัด​ขึ้น​ ​และ​อุณหภูมิ​บริเวณ​โดยรอบ​ก็​กลายเป็น​เย็นยะเยือก

หนา​นกง​เลี่ยม​อง​ดู​เหตุการณ์​ตรงหน้า​ ​แล้ว​ดวงตา​ของ​เขา​ก็​หรี่​ลง​ ​ช่าง​ดุดัน​ยิ่งนัก​…​ ​ดู​ไม่​เหมือน​ลักษณะนิสัย​ตามปกติ​ของ​เขา​เลย​…

องค์ชายสาม หยุดไล่ตามข้าเสียที!

องค์ชายสาม หยุดไล่ตามข้าเสียที!

Status: Ongoing

นิยายโรแมนติก นักรบหญิงย้อนเวลามาเจอสังคมอุดมพลังปราณ…และองค์ชายสายคลั่งรัก!

“เจ้าต้องรับผิดชอบ”

“ก็ได้ ท่านต้องการให้ข้ารับผิดชอบอย่างไรหรือ อย่าบอกนะว่าท่านอยากให้ข้าแต่งงานด้วย”

“แต่งงานหรือ…” ไป๋หลี่เจียเจวี๋ยจับคางของเฮ่อเหลียนเวยเวยอย่างหยอกล้อ

“ไหนๆ เราก็จะแต่งงานกันอยู่แล้ว ลองมาตรวจสอบเรื่องนี้กันก่อนดีไหม…

ไปเตรียมห้อง!”

เฮ่อเหลียนเวยเวย ราชินีนักรบแห่งศตวรรษที่ 21 ย้อนเวลามาอยู่ในร่างคุณหนูใหญ่ชื่อเดียวกัน

ย้อนมาวันแรกก็พบว่านางถูกยกเลิกงานแต่งงาน ทั้งยังเจอแม่เลี้ยงและน้องสาวต่างมารดาหมายหัวเอาชีวิต

ทั้งยังต้องพบว่า โลกนี้วัดค่าของคนด้วยพลังลมปราณ ทว่าร่างนี้ไม่มีลมปราณ จึงถูกเรียกว่า ‘นังคนไร้ค่า’

แต่จู่ๆ โชคชะตาให้นางได้บังเอิญพบหนังสือโบราณ ทำพันธะสัญญากับคนหูหมาป่า ทั้งยังมีหนังสือเรียกตัวจากสำนักไท่ไป๋

ยิ่งไปกว่านั้นยังมีบุรุษรูปงามที่ใครต่างก็เกรงใจ นาม ไป๋หลี่เจียเจวี๋ย ไล่ตามนางไปทุกที่

เพราะในเมื่อนางเคยขโมยจูบแรกเขามา และเขาก็คือบุรุษหน้ากากเงินที่นางเคยพบมาก่อน

ชีวิตใหม่นี้มีของดีอยู่ในมือ จะแกร่งขึ้น จะแก้แค้น จะร้ายกว่าเดิมจนทั่วหล้าต้องตกตะลึง นางไม่เคยกลัว!

กลัวเพียงอย่างเดียว… เขาคนนั้นจะไม่คืนชีวิตสุขสงบให้นาง เล่นไล่จับมันเหนื่อยมากนะรู้ไหม?!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท