ตอนที่ 175 บรรพบุรุษตำหนักเซียน สร้างร่างกายเซียนขึ้นมาใหม่!
แคว้นเซียน ตำหนักเซียน!
ยามนี้ ภายในตำหนักเซียน ไม่เพียงแต่มีเหล่าผู้คนของตำหนักเซียนเพียงเท่านั้น แต่ยังมีเหล่ากองกำลังชั้นหนึ่งอย่างสามขุนเขา ห้าพรรค เจ็ดสำนักรวมตัวอยู่ด้วย!
ตอนนี้เป็นเวลากว่าครึ่งปีแล้วที่หนิงฝานจากไปพร้อมกับการปิดผนึกแคว้นเซียนเอาไว้ ช่วงเวลาที่ผ่านมานี้ เหล่ากองกำลังต่างพากันคิดหาวิธีเพื่อจะทำลายค่ายกลผนึกสวรรค์ อย่างเช่น การรวบรวมเหล่าผู้ฝึกยุทธ์อิสระจำนวนมากเพื่อทำลายผนึก หรือการรวบรวมเหล่ายอดฝีมือด้านค่ายกล และอื่น ๆ แต่ทุกวิธีก็ไม่เป็นผล!
นี่ทำให้เหล่ากองกำลังชั้นหนึ่งต่างรู้สึกโกรธแค้น และเกลียดชังหนิงฝานมากยิ่งขึ้น!
แต่ยามนี้ แคว้นรกร้างเป็นดินแดนที่มีพลังจิตวิญญาณระดับสุริยันฟื้นฟูในตำนาน มิต้องบอกกล่าว ก็ย่อมทราบกันดีว่ามันมีประโยชน์อย่างมาก ทว่าตอนนี้ พวกเขาได้แต่เพียงติดอยู่ในแคว้นเซียน และมองข้ามทะเลไปเท่านั้น!
มันเหมือนกับความงามของโฉมสะคราญที่เราสามารถเล่นกับนางได้ตามต้องการ แต่เรากลับพบว่า ตนเองไม่สามารถปลดเข็มขัดได้… ภายในใจย่อมวิตกกังวล ได้แต่เพียงจินตนาการ!
และเมื่อทุกคนกำลังจะหมดหวัง เจ้าตำหนักเซียนอย่างเยี่ยฉิงชางก็พูดขึ้นมาว่ามีวิธีที่สามารถทำลายค่ายกลผนึกสวรรค์ลงได้ ซ้ำยังเชิญให้เหล่ากองกำลังชั้นหนึ่งเข้าไปในตำหนักเซียนด้วย!
ในเวลานี้ เจ้าขุนเขาทั้งสามก็พูดขึ้น “เจ้าตำหนักเยี่ย ท่านพูดว่ามีวิธีที่จะปลดค่ายกลผนึกสวรรค์ได้ ต้องใช้วิธีไหนงั้นหรือ!”
“ใช่แล้ว! วิธีอะไรนั้น พวกเราคิดไม่ออกแล้ว!”
“เรื่องมาถึงเช่นนี้ ท่านเจ้าตำหนักเยี่ยอย่าทำให้พวกข้าต้องกังวลอีกเลย!”
“ท่านเจ้าตำหนักเยี่ย รีบบอกพวกข้ามาเถอะ!”
“…”
เจ้าขุนเขาพูดเร่ง เหล่ากึ่งเซียนต่างพากันเร่งเร้า!
เห็นเช่นนั้นแล้ว เยี่ยฉิงชางไม่ได้พูดออกมาตรง ๆ เพียงแค่กล่าวว่า “ทุกท่านน่าจะทราบกันดีว่าที่แดนลับธุลีสีชาด ซึ่งเป็นตำหนักเซียนของข้าได้รับอะไรมา?”
“อะไรรึ?”
ได้ยินเช่นนั้น เหล่าผู้คนต่างก็ตกตะลึง ไม่คิดว่าอยู่ดี ๆ เยี่ยฉิงชางจะกล่าวถึงแดนลับธุลีสีชาดขึ้นมา
และเมื่อนึกถึงแดนลับธุลีสีชาดขึ้นมา ผู้คนก็รู้สึกไม่พอใจ!
เพราะการเดินทางไปยังแดนลับธุลีสีชาดครั้งที่แล้ว เหล่ากองกำลังชั้นหนึ่งไม่เพียงแต่ไม่ได้รับอะไรกลับไปเลย ทว่ายังได้รับผลกระทบกลับมาอีกด้วย จนกระทั่งเมื่อไม่นานมานี้ มันถึงได้ค่อย ๆ หายไป!
เมื่อเห็นว่าผู้คนไม่ค่อยพอใจ เยี่ยฉิงชางก็พูดต่อ “วันนี้ข้าจะบอกกับพวกเจ้าถึงวันที่ข้าอยู่ในแดนลับธุลีสีชาด ภายในนั้น ข้าไม่ได้รับมรกดสืบทอดจากเซียนธุลีสีชาดเลย แต่ว่า…”
แล้วเยี่ยฉิงชางก็เล่าเรื่องราวต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นในกระท่อมหลังนั้นให้กับผู้คนฟัง!
“อันใดนะ?”
“เซียนธุลีสีชาดถือกำเนิดใหม่จากความตาย?”
“เขายังเป็นบรรพบุรุษตำหนักเซียนและเป็นผู้สร้างตำหนักเซียนขึ้นมาเมื่อหนึ่งแสนปีที่แล้วด้วย?”
“หึ! ถึงว่า ตำหนักเซียนและสำนักเซียนกระบี่ ล้วนแล้วแต่ไม่มีผู้ใดพูดถึงเรื่องราวเมื่อปีที่แล้วเลย!”
“…”
ฟังจบ เหล่าผู้คนล้วนตื่นตระหนก!
หน้าตาที่ตื่นตกใจของฝูงชนเป็นไปตามที่เยี่ยฉิงชางคาดหวังไว้ เขาจึงอธิบายต่อในทันที “ทุกท่าน หากต้องการทำลายค่ายกลผนึกสวรรค์ คงมีเพียงแค่นำเอาความหวังทั้งหมดวางไว้ที่ร่างกายของท่านบรรพบุรุษตำหนักเซียนแล้ว หากพวกเราสามารถสร้างร่างกายของท่านบรรพบุรุษตำหนักเซียนขึ้นมาใหม่ได้ ทำให้ท่านบรรพบุรุษกลับมามีชีวิตอีกครั้ง ถึงตอนนั้น พลังทั้งหมดของเซียนธุลีสีชาดก็จะสามารถทำลายค่ายกลผนึกสวรรค์ได้อย่างง่ายดาย!”
“นี่มัน…!”
ได้ยินเช่นนั้นแล้ว กองกำลังทั้งหมดก็เงียบพร้อมกัน!
แต่อย่างไรแล้ว บรรพบุรุษตำหนักเซียนก็เป็นถึงเซียนธุลีสีชาดอย่างแท้จริง หากสามารถคืนชีพให้กับผู้ฝึกยุทธ์ที่แข็งแกร่งเช่นนี้ได้ ตำหนักเซียนย่อมต้องเหนือกว่าเหล่ากองกำลังชั้นหนึ่งอย่างแน่นอน!
เมื่อเห็นว่าทุกคนเริ่มลังเล เยี่ยฉิงชางก็พูดขึ้นด้วยน้ำเสียงทุ้มลึก “หากพวกท่านยังคงรู้สึกลังเล หรือว่าพวกท่านอยากถูกขังไว้ในแคว้นเซียนแห่งนี้ไปตลอดกาล?”
“อีกอย่าง ข้าว่าพวกท่านก็น่าจะทราบดีถึงพลังบ่มเพาะของหนิงฝาน หากยังให้เวลาแก่เขาต่อไป เขาย่อมต้องสามารถฝึกฝนจนมีพลังเหนือกว่าพวกเราเป็นแน่ หรือบางทีอาจจะกลายเป็นเซียนธุลีสีชาดได้อย่างแท้จริง! เมื่อถึงเวลานั้น พวกท่านคิดว่าเขาจะปล่อยพวกเราไปหรือ?”
หลังจากที่คำพูดนั้นออกมา สีหน้าของผู้คนก็ดูมืดมนลงในทันที!
ทว่าภายในใจก็ยังคงคิดพิจารณาข้อดีและข้อเสียอยู่!
แต่เพียงไม่นาน อู๋เซียนเหรินแห่งสำนักเซียนยุทธ์ก็พูดขึ้น “ที่ท่านเจ้าตำหนักเยี่ยพูดมาก็มิผิด ตอนนี้พลังของเจ้าหนิงฝานยังอ่อนแอ ถึงได้เลือกที่จะปิดผนึกแคว้นเซียน หากรอให้เขาฝึกฝนได้มากกว่านี้ เขาย่อมต้องกลับมาชำระแค้นกับพวกเราแน่นอน! ดังนั้นสำนักเซียนยุทธ์ของข้า ขอสนับสนุนท่านเจ้าตำหนักเยี่ย ข้าเห็นด้วยที่จะสร้างร่างกายของท่านบรรพบุรุษตำหนักเซียนขึ้นมาใหม่!”
“สำนักปีศาจโบราณของข้าก็เห็นด้วยกับการสร้างร่างกายของท่านบรรพบุรุษตำหนักเซียนขึ้นมาใหม่!”
“สำนักโลกใต้พิภพของข้า ก็เห็นด้วยกับการสร้างร่างกายของท่านบรรพบุรุษตำหนักเซียนขึ้นมาใหม่!”
“สำนักญาณเซียนของข้า ก็เห็นด้วยกับการสร้างร่างกายของท่านบรรพบุรุษตำหนักเซียนขึ้นมาใหม่ !”
“…”
หลังจากสิ้นเสียงสำนักเซียนยุทธ์ สำนักปีศาจโบราณ สำนักโลกใต้พิภพ สำนักญาณเซียนและสำนักอื่น ๆ ก็แสดงความคิดเห็นออกมา!
ท้ายที่สุดแล้ว สำหรับพวกเขานั้น แม้ตำหนักเซียนจะไม่มีท่านบรรพบุรุษตำหนักเซียนอยู่ ทว่าความแข็งแกร่งของทั้งเจ็ดสำนักนั้นอ่อนแอกว่าตำหนักเซียนโดยสิ้นเชิง
เมื่อเห็นท่าทีของทั้งเจ็ดสำนักแล้ว ผู้นำกองกำลังอื่นต่างก็รู้สึกหวั่นไหวไปด้วย!
“พรรคเมฆาครามของข้าเห็นด้วย!”
“พรรคเมฆาม่วงของข้าเห็นด้วย”
“พรรคเซียนโบยบินของข้าเห็นด้วย!”
“…”
ในไม่ช้า ผู้นำของอีกห้าพรรคก็พยักหน้าเห็นด้วย!
และท้ายที่สุด ผู้คนก็หันมองไปที่เจ้าขุนเขาทั้งสาม!
นอกจากเยี่ยฉิงชางแล้ว พลังของเจ้าขุนเขาทั้งสามก็ไม่เป็นสองรองจากตำหนักเซียนเลย แม้ว่าเจ้าขุนเขาทั้งสามจะไม่เห็นด้วยที่จะให้ตำหนักเซียนมีอำนาจเหนือกว่า แต่ตอนนี้ทั้งห้าพรรคและเจ็ดสำนักต่างก็เห็นด้วยกันหมด พวกเขาจึงทำได้เพียงพยักหน้าว่าเห็นด้วย!
“ดี!”
เมื่อเห็นว่าเหล่าผู้คนต่างเห็นด้วย เยี่ยฉิงชางก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกดีใจ!
เป็นเรื่องยากมากที่จะสร้างร่างกายเซียนขึ้นมาใหม่ สองปีมานี้สมบัติในคลังของตำหนักเซียนถูกนำออกมาจนหมด แต่ก็ยังไม่สามารถสร้างร่างกายเซียนขึ้นมาได้!
ดังนั้นครั้งนี้จึงเป็นโอกาสที่จะสามารถร่วมมือกับสามขุนเขาห้าพรรคเจ็ดสำนักได้!
บึ้ม!
ในเวลาต่อมาเยี่ยฉิงชางก็โบกมือขึ้น ทันใดนั้น หม้อขนาดใหญ่ก็ปรากฏขึ้นในตำหนักใหญ่ ภายในหม้อมีร่างของมนุษย์ที่ถูกคลุมเอาไว้!
“ทุกท่าน นี่คือสมบัติเซียนเรียกว่าหม้อหลอมสวรรค์ การใช้สมบัติเพื่อสร้างร่างกายเซียนนั้นจะได้ผลลัพธ์ที่ดีขึ้นเป็นสองเท่าด้วยการลงมือเพียงครั้งเดียว!”
“ทว่าการสร้างร่างกายเซียนนั้นเป็นเรื่องที่ยากมาก พวกท่านคงไม่สามารถซ่อนความลับเอาไว้ได้! แน่นอนว่า เมื่อข้าสร้างร่างกายของท่านบรรพบุรุษตำหนักเซียนกระบี่ขึ้นมาใหม่ได้ ข้าจะไม่มีทางลืมบอกกับท่านบรรพบุรุษถึงความพยายามของพวกท่านทุกคน!”
หลังจากที่เยี่ยฉิงชางพูดจบ เดิมทีที่ใบหน้าของพวกเขาที่ดูมืดมนก็พลันสดใสขึ้นมา!
เซียนธุลีสีชาดท่านหนึ่ง มีค่าเสียยิ่งกว่าสมบัติเซียน!
“บนขุนเขาของข้ามีสมบัติเซียนที่เรียกว่า ศิลาคงกระพัน ผ่านการขัดเกลาด้วยอสนีบาตนับร้อยนับพันครั้ง แข็งแกร่งจนหาที่เปรียบไม่ได้ ซึ่งเป็นสมบัติเซียนเพียงชิ้นเดียวที่สามารถสร้างร่างกายเซียนขึ้นมาใหม่ได้!”
ในเวลานี้ ท่านเจ้าขุนเขาหยิบศิลาคงกระพันก้อนหนึ่งขึ้นมา มันล้อมรอบไปด้วยเสียงฟ้าร้องที่ดังสนั่น จากนั้นเขาก็นำาศิลาใส่ลงไปในหม้อหลอมสวรรค์!
“ขุนเขาม่านหมอกของข้าก็มีสมบัติเซียนอยู่ชิ้นหนึ่ง เรียกว่า หยกเซียนโลหิต ภายในประกอบไปด้วยหยดโลหิตแห่งเซียน ซึ่งเป็นสมบัติเซียนอันล้ำค่าสำหรับการสร้างร่างกายเซียน!”
เจ้าขุนเขาม่านหมอกได้ให้หยกสีเลือดเพื่อใส่ลงในหม้อหลอมสวรรค์!
“ข้าขุนเขาพุทธจิตมีปราณพฤกษาพุทธะ!”
“ข้าพรรคเมฆาครามมีเส้นเอ็นแห่งมังกร!”
“ข้าพรรคเมฆาม่วงมีไขกระดูกแห่งเมฆาม่วง”
“ข้าพรรคเซียนโบยบินมีกระดูกเซียนบรรพกาล!”
“…”
หลังจากนั้นเหล่ากองกำลังต่างหยิบสมบัติเซียนออกมา และใส่ลงไปในหม้อหลอมสวรรค์!
เห็นเช่นนั้นแล้ว เยี่ยฉิงชางก็หัวเราะออกมาในทันที “ดี ๆๆ! มีสมบัติเซียนมากมาย จะต้องสามารถสร้างร่างกายเซียนธุลีสีชาดของท่านบรรพบุรุษตำหนักเซียนได้แน่!”
“ข้าขอสาบานต่อพวกท่าน หากท่านบรรพบุรุษตำหนักเซียนถือกำเนิดขึ้นมาใหม่ได้ ข้าจะไปตั้งถิ่นฐานที่แค้วนรกร้าง เมื่อถึงเวลานั้นแคว้นรกร้างจะต้องมีพื้นที่สำหรับพวกท่านทุกคน!”
“ฮ่า ๆ! เช่นนั้นข้าขออวยพรให้ท่านบรรพบุรุษแห่งตำหนักเซียนถือกำเนิดขึ้นมาใหม่ได้ราบรื่น!”
เหล่ากองกำลังทั้งหลายต่างหันมองหน้ากัน และทุกคนก็หัวเราะออกมา!