ร้อยรักปักดวงใจ – ตอนที่ 237 ถกเถียง(ปลาย)

ตอนที่ 237 ถกเถียง(ปลาย)

เจียงฮู​หยิน​ได้ยิน​เช่นนี้​ก็​หยิบ​ผ้าเช็ดหน้า​ออกมา​ซับ​น้ำตา​แล้ว​พูด​อย่าง​สะอึกสะอื้น​ ​“​ท่าน​พ่อ​ไม่ได้​อยาก​ทำ​เช่นนั้น​ ​ล้วนแต่​เป็นความ​คิด​ของ​คน​พวก​นั้น​ ​บอก​ตามตรง​ ​ข้า​ไม่​อยาก​ให้​เขา​รับ​บุตรบุญธรรม​ตอนนี้​ ​ต้อง​จับ​คนที​่​ฆ่า​น้อง​หลัง​ให้​ได้​ก่อน​แล้ว​ค่อย​พูด​เรื่อง​นี้​ ​ไม่เช่นนั้น​ ​คนอื่น​ก็​จะ​พากัน​หัวเราะเยาะ​เอา​ได้​ ​โชคดี​ที่​ท่าน​พ่อ​ฟัง​ข้า​…​ดังนั้น​คน​พวก​นั้น​ถึง​ได้มา​หา​ข้า​”​ ​พูด​จบ​นาง​ก็​มอง​ไป​ที่​สือ​อี​เหนียง​ ​“​จะ​ว่า​ไป​แล้ว​ ​ข้า​เป็น​บุตรสาว​ที่​แต่งงาน​ออกเรือน​ไป​แล้ว​ ​จัดการ​ได้​แค่​ช่วงนี้​ ​จัดการ​ตลอดไป​ไม่ได้​ ​ตอนนี้​ท่าน​พ่อ​ยอม​ฟัง​ข้า​ ​ก็เพราะว่า​เขา​สงสาร​น้อง​หลัง​ที่​ตาย​ไป​ ​แต่ว่า​ท่าน​พ่อ​นอกจาก​จะ​เป็น​ท่าน​พ่อ​แล้ว​ ​ยัง​เป็น​คน​ของ​สกุล​หวัง​ ​อยู่​ต่อหน้า​หลักการ​ที่​ถูกต้อง​ ​เขา​ไม่กล้า​เห็นแก่ตัว​ ​เรื่อง​ของ​ทายาท​ ​ไม่ช้าก็เร็ว​ก็​ต้อง​จัดการ​ ​โชคดี​ที่​สกุล​เรา​ไม่​เหมือน​สกุล​อื่น​ ​ยัง​มีตำ​แหน่ง​บรรดาศักดิ์​ ​แต่​ทายาท​ไร้​ตำแหน่ง​กับ​ไม่มี​ทายาท​มัน​แตกต่าง​กันที่​ใด​หรือ​ ​ตำแหน่ง​บรรดาศักดิ์​เป็นความ​เมตตา​ของ​ฮ่องเต้​ ​แต่​จะ​ให้​ใคร​ไป​สืบทอด​ตำแหน่ง​กลับเป็น​เรื่อง​ของ​สกุล​หวัง​ ​โชคดี​ที่​ยัง​มี​ข้า​ ​ไม่เช่นนั้น​ ​สกุล​ญาติ​พวก​นั้น​ก็​คงจะ​ทำให้​มัน​เดือนร้อน​ไปมา​กก​ว่านี​้​”

สือ​อี​เหนียง​รู้สึก​ว่า​คำพูด​ของ​เจียงฮู​หยิน​ไม่น่าฟัง​สัก​เท่าไร

เห็นได้ชัด​ว่านา​งกำ​ลัง​บอก​ตน​ว่า​ ​เรื่อง​ที่นาง​ให้ความสำคัญ​มาก​ที่สุด​คือ​ใคร​เป็น​คน​ฆ่า​หวัง​หลัง​ ​ให้​สวี​ลิ่ง​อี๋​ช่วยเหลือ​ ​อย่า​ปล่อย​ให้​เริ​่​นคุ​นลอ​ยน​วล​ ​ไม่เช่นนั้น​ ​ถึง​ตอนนั้น​ ​เมื่อ​จวน​เม่ากั​๋​วกง​ ​สกุล​หวัง​รับ​สกุล​ญาติ​เหล่านั้น​มา​เป็น​ทายาท​ตามที่​พวกเขา​บอก​นาง​จะ​ไม่สน​ใจ​ ​เช่นนี้​ ​สือ​เหนียง​ก็​จะ​กลายเป็น​ม่าย​ ​สกุล​หวัง​ไม่เพียงแต่​ไม่เกี่ยว​ข้อง​กับ​นาง​ ​แล้ว​นาง​ยัง​ต้อง​ใช้ชีวิต​ที่​คอย​ดู​สีหน้า​ของ​น้องชาย​สามี​และ​น้อง​สะใภ้​เหล่านั้น

คำพูด​ของ​นาง​ไม่มี​ความสงสาร​น้อง​สะใภ้​ที่พึ่ง​จะ​เป็น​ม่าย​เลย​แม้แต่น้อย​ ​แล้วยัง​ใช้​เรื่อง​นี้​มา​ขอความช่วยเหลือ​

ไม่เพียงแต่​จิตใจ​ไม่ดี​ ​อีกทั้ง​ยัง​เห็นแก่ตัว​อีก​ต่างหาก

เสียแรง​ตอนที่​นาง​มา​ ​สวี​ลิ่ง​อี๋​ยัง​บอก​ให้​ตน​มาหา​เจียงฮู​หยิน​มาดู​ว่า​สกุล​หวังมี​เรื่อง​อะไร​ลำบาก​ที่​พอ​จะ​ช่วย​ได้​ก็​ช่วยกัน​ไป​ ​แล้วยัง​อยาก​ให้​ตน​ใช้​ความสามารถ​ขอตัว​เอง​ ​หาก​เรื่องราว​เป็น​เหมือน​ที่นาง​พูด​ ​นาง​สามารถ​ควบคุม​สิทธิ​ของ​ทายาท​สกุล​หวัง​ได้​ ​สกุล​ญาติ​เหล่านั้น​จะ​มาบั​งอา​จกั​บนาง​เช่นนี้​ได้​เช่นไร​…​หาก​สือ​อี​เหนียง​เป็น​เพียง​เด็กหญิง​ที่​ไม่มี​ประ​ประสบการณ์​ทางสังคม​จริงๆ​ ​ตน​คงจะ​ตกใจ​กับ​ความหมาย​ที่​แฝง​อยู่​ใน​คำพูด​ของ​นาง

สือ​อี​เหนียง​อด​ไม่ได้​ที่จะ​หัวเราะ​แห้ง​อยู่​ใน​ใจ

คน​แบบนี้​ไม่คู่ควร​ที่จะ​คบหา​ ​ยิ่ง​ไม่ต้อง​พูดถึง​เรื่อง​ที่จะ​ปล่อย​ให้​อนาคต​ของ​สือ​เหนียง​ตก​อยู่​ใน​เงื้อมมือ​ของ​นาง

ดูเหมือนว่า​เรื่อง​นี้​คง​ต้อง​ไป​ปรึกษา​กับ​สวี​ลิ่ง​อี๋

สือ​อี​เหนียง​ก้มหน้า​จิบ​ชา​ ​หลบสายตา​ของ​เจียงฮู​หยิน

ในเมื่อ​นาง​ฟังออก​ ​แน่นอน​ว่า​คุณนาย​สี่​ก็​ต้อง​ฟังออก​ ​เงยหน้า​ขึ้น​ก็​เห็น​คุณนาย​ใหญ่​กำลังจะ​อ้า​ปาก​ ​ท่าที​เหมือน​มี​อะไร​อยาก​จะ​พูด​ ​นึกถึง​ตอนที่​อยู่​บน​รถม้า​ ​สือ​อี​เหนียง​บอกว่า​สวี​ลิ่ง​อี๋​ลาออก​จาก​ตำแหน่ง​แล้ว​ ​นาง​ก็​เป็นกังวล

เห็น​การกระทำ​ของ​เจียงฮู​หยิน​ ​เห็นได้ชัด​ว่านาง​ไม่ธรรมดา​ ​หาก​คุณนาย​ใหญ่​ยัง​ไม่รู้​ว่า​ท่าน​โหว​ลาออก​จาก​ตำแหน่ง​แล้ว​ ​แล้ว​สัญญา​อะไร​ไป​อย่าง​บุ่มบ่าม​ ​เกรง​ว่า​เจียงฮู​หยิน​คงจะ​ไม่ยอม​ปล่อยไป​ง่ายๆ

หาก​เป็นปกติ​นาง​จะ​ไม่​ออกความเห็น​ใด​ ​แต่​เมื่อ​เทียบ​กับ​สือ​เหนียง​ที่​ไม่เคย​ไปมาหาสู่​กับ​สกุล​เดิม​แล้ว​ ​นาง​คิด​ว่า​สือ​อี​เหนียง​ที่​ฉลาด​และ​มีไหวพริบ​นั้น​เป็นมิตร​มากกว่า

หาก​สวี​ลิ่ง​อี๋​ช่วย​สกุล​หวัง​ไม่ได้​ ​หรือว่า​จะ​บังคับ​เขา​อย่างนั้น​หรือ

นาง​แสร้งทำ​เป็น​ฟัง​ไม่เข้าใจ​ความหมาย​ของ​เจียงฮู​หยิน​ทันที​ ​รีบ​พูด​ตัดหน้า​คุณนาย​ใหญ่​และ​สือ​อี​เหนียง

“​ลำบาก​คุณหนู​ใหญ่​แล้ว​เจ้าค่ะ​”​ ​คุณนาย​สี่​พูด​ด้วย​น้ำเสียง​ที่​ซาบซึ้ง​ ​“​คุณนาย​สิบ​ของ​เรา​มีท​่า​นคอ​ยป​กป​้​อง​ ​เช่นนั้น​เรา​ก็​หมด​ห่วง​แล้ว​”

คุณนาย​ใหญ่​รู้เรื่อง​ที่​สวี​ลิ่ง​อี๋​ลาออก​จาก​ตำแหน่ง​ตั้งแต่​เมื่อวาน​แล้ว​ ​ได้ยิน​ที่​เจียงฮู​หยิน​พูด​ ​บอกว่า​หาก​สวี​ลิ่ง​อี๋​ไม่​ช่วย​สกุล​หวัง​นาง​ก็​จะ​ไม่​ช่วย​สือ​เหนียง​ ​นาง​กลัว​ว่า​สือ​อี​เหนียง​จะ​สนใจ​แต่​สือ​เหนียง​แล้ว​รับปาก​ ​กำลัง​อยาก​จะ​พูด​ขัด​ ​แต่​คิดไม่ถึง​ว่า​คุณนาย​สี่​จะ​พูด​ตัดหน้า​นาง​ ​โชคดี​ที่นาง​พูด​ได้​อย่างเหมาะสม​ ​นาง​จึง​กลืน​คำพูด​ของ​ตัวเอง​ลง​ไป

แต่​เจียงฮู​หยิน​กลับ​ไม่เห็น​คุณนาย​สอง​คน​ของ​สกุล​หลัว​อยู่​ใน​สายตา​ ​นาง​สนใจ​แค่​ท่าที​ของ​สือ​อี​เหนียง​ ​หรือ​จะ​พูดว่า​ ​นาง​สนใจ​แค่​ท่าที​ของ​สวี​ลิ่ง​อี๋​ที่อยู่​ข้างหลัง​สือ​อี​เหนียง​ ​เช่นนี้​จึง​ไม่สน​ใจ​คุณนาย​สี่​ ​แต่​มอง​ไป​ที่​สือ​อี​เหนียง​อยู่​ตลอด​

สือ​อี​เหนียง​เห็น​เช่นนี้​ก็​ตกใจ​ ​นาง​พูดตาม​คำพูด​ของ​คุณนาย​สี่​ ​“​พี่​หญิง​สิบ​ของ​ข้า​พึ่ง​เจอ​กับ​เรื่อง​เช่นนี้​เป็นครั้งแรก​ ​ใน​ใจ​ของ​นาง​คงจะ​สับสน​ไป​หมด​ ​มีคุณ​หนู​ใหญ่​คอย​ช่วย​นาง​เช่นนี้​ ​ก็​คือ​ความโชคดี​ใน​ความ​โชคร้าย​ ​วัน​ขึ้นปีใหม่​ข้า​ไป​สวัสดี​ปีใหม่​พี่สะใภ้​ ​ก็ได้​เจอ​หน้า​กับ​คุณชาย​และ​คุณหนู​ ​ท่าน​เอาแต่​ยุ่ง​อยู่​กับ​เรื่อง​ของ​สือ​เหนียง​ ​คิด​ว่า​คง​ไม่มีเวลา​อยู่​กับ​พวกเขา​ ​คิด​เช่นนี้​ ​พวกเรา​ล้วนแต่​ไม่สบายใจ​เจ้าค่ะ​”

ได้ยิน​สือ​อี​เหนียง​พูดถึง​สกุล​เจียง​ ​เจียงฮู​หยิน​ก็​หยุดชะงัก​ไป

สกุล​เจียง​ไม่พอใจ​กับ​พฤติกรรม​ของ​หวัง​หลัง​มาตั​้ง​นาน​แล้ว​ ​ยิ่ง​ไม่ต้อง​พูดถึง​ว่า​เกิดเรื่อง​อะไร​ขึ้น​แล้ว​จะ​ช่วย​หวัง​หลัง​ ​ใน​เยี​่​ยน​จิง​ไม่มี​ความลับ​อะไร​ ​ไม่เช่นนั้น​ ​สกุล​ญาติ​พวก​นั้น​จะ​รีบร้อน​เช่นนี้​ได้​เช่นไร​กัน​ ​แต่ว่า​ที่​สือ​อี​เหนียง​พูด​หมายความว่า​อย่างไร​ ​หรือว่า​กำลัง​ปฏิเสธ​นางอ้อม​ๆ​?

นาง​คาดเดา​แล้ว​พูดว่า​ ​“​ขอบคุณ​ที่ฮู​หยิน​เป็นห่วง​ ​พวกเขา​มีพี​่​สะใภ้​ใหญ่​ของ​ข้า​คอย​ดูแล​อยู่​ ​ดูแล​ดีกว่า​ข้า​เสียอีก​ ​ทำให้​ท่าน​เป็นห่วง​แล้ว​”

“​เช่นนั้น​ก็ดี​ ​เช่นนั้น​ก็ดี​”​ ​สือ​อี​เหนียง​ตอบรับ​แล้ว​ขยิบตา​ให้​คุณนาย​สี่

คุณนาย​สี่​ก็​พูด​ทันที​ว่า​ ​“​ไม่รู้​ว่างาน​ศพ​ของ​ท่าน​เขย​สิบ​จะ​จัด​ขึ้น​เมื่อไร​เจ้า​คะ​ ​เรา​จะ​ได้​เตรียมการ​ ​ท่าน​อา​สอง​อยู่​ที่​มณฑล​ชาน​ตง​ ​ท่าน​อาสา​มอยู​่​ที่​มณฑล​ซื่อ​ชวน​”​ ​พูด​จบ​นาง​ก็​ถอนหายใจ​ ​“​ตอนนี้​พวกเรา​ยัง​ไม่รู้​เลย​ว่า​จะ​บอก​พวกเขา​เช่นไร​”​ ​จากนั้น​ก็​พึมพำ​เบา​ๆ​ ​“​เพราะว่า​เป็นเรื่อง​ที่​ต้อง​ขึ้นศาล​”

ที่จริง​แล้ว​นาง​ไม่พอใจ​ที่​เจียงฮู​หยิน​เอาเรื่อง​ทายาท​มา​เจรจา​เงื่อนไข

หาก​สกุล​หลัว​ไม่มี​หย่ง​ผิง​โหว​ ​หาก​สกุล​หลัว​ช่วย​อะไร​ไม่ได้​ ​เช่นนั้น​สือ​เหนียง​ก็​ต้อง​ถูก​สกุล​หวัง​รังแก​เช่นนั้น​หรือ

คนโบราณ​มักจะ​คิด​ว่า​คนที​่​ขึ้นศาล​ไม่ใช่​คนดี

คำพูด​ของ​คุณนาย​สี่​กำลัง​บอกว่า​การตาย​ของ​หวัง​หลัง​เป็นเรื่อง​อับอาย​ขาย​ขี้​หน้า

ถึงแม้ว่า​ความจริง​จะ​เป็น​เช่นนั้น​ ​แต่​มี​คน​มา​พูด​เช่นนี้​ต่อหน้า​ตัวเอง​ ​เจียงฮู​หยิน​ก็​โมโห​จน​หน้าดำหน้าแดง​

คุณนาย​ใหญ่​เห็น​ว่า​บรรยากาศ​ผิดปกติ​ ​ก็​กอบกู้​สถานการณ์​ ​“​เรื่อง​นี้​ต้อง​ให้​บรรดา​ท่าน​อา​ปรึกษา​กันเอง​ ​หญิง​อย่าง​พวกเรา​ ​ทำตาม​ที่​พวกเขา​จัดการ​ก็​พอแล้ว​”​ ​จากนั้น​ก็​เรียก​จิน​เหลียน​และ​อิ​๋น​ผิง​เข้ามา​ ​“​ทำไม​ถึง​ไม่เห็น​คนอื่น​ล่ะ​ ​ตอนนี้​คุณนาย​ใหญ่​ของ​เจ้า​กำลัง​เสียใจ​ ​พวก​เจ้า​ต้อง​ดูแล​นาง​ให้​ดี​ ​อย่า​คิด​ว่า​ไม่มีใคร​สนใจ​แล้ว​จะ​ทำ​อะไร​ก็ได้​ ​พวก​เจ้า​ล้วนแต่​เป็น​คน​ของ​ข้า​ ​หาก​ทำให้​ข้า​ขายหน้า​ ​ก็​คง​เสียแรง​ที่​ข้า​สั่งสอน​พวก​เจ้า​มา​…​”​ ​กล่าว​สั่งสอน​พวก​นาง​สอง​คน

เจียงฮู​หยิน​รู้สึก​ปวดใจ​ ​มักจะ​รู้สึก​ว่า​คุณนาย​ใหญ่​พูดเป็นนัย​ ​พูดจา​กระแทกแดกดัน​ ​พลัน​นึกถึง​สกุล​ญาติ​ของ​สกุล​หลัว​ขึ้น​มา​ ​จากนั้น​ก็​นึก​ขึ้น​ได้​ว่า​ ​หาก​ตอนนั้น​ตัวเอง​ไม่​ยืนกราน​ที่จะ​หา​คนที​่​ระดับ​ใกล้เคียง​กัน​ ​หาก​ไม่ได้​แต่งงาน​กับ​สกุล​หลัว​ ​แต่​ไป​แต่งงาน​กับ​สะใภ้​สกุล​ธรรมดา​ทั่วไป​ ​ปล่อย​ให้​หวัง​หลัง​เลี้ยง​คณิกา​ชาย​ใน​จวน​ ​หวัง​หลัง​ก็​คงจะ​ไม่​ออก​ไป​ทำ​อะไร​เหลวไหล​ ​คงจะ​ไม่ต้อง​ไป​เจอ​กับ​เริ​่​นคุน​ ​แล้วก็​คงจะ​ไม่​ตาย​เร็ว​เช่นนี้​ ​จากนั้น​ก็​คิด​อีกว่า​ ​หาก​ตอนนั้น​แต่งงาน​กับ​อู่​เหนียง​ ​ด้วย​อายุ​ของ​นาง​ ​เกรง​ว่า​คงจะ​มีบุ​ตร​ตั้ง​นาน​แล้ว​ ​คง​ไม่ต้อง​เผชิญ​กับ​สถานการณ์​เช่นนี้​ ​ตน​ก็​ไม่ต้อง​แบกหน้า​ไป​ขอความช่วยเหลือ​จาก​ใคร

นาง​ยิ่ง​คิด​ก็​ยิ่ง​เสียใจ​ ​ยิ่ง​เสียใจ​ก็​ยิ่ง​รู้สึก​ว่าการ​แต่งงาน​ครั้งนี้​ไม่ดี​เอา​เสีย​เลย​…​เหลือบตา​มอง​สือ​เหนียง​ที่นั่ง​เหม่อลอย​อยู่​ตรงนั้น​ราวกับ​พระโพธิสัตว์​ ​อด​ไม่ได้​ที่จะ​กัดฟัน​ ​รู้สึก​โมโห​อยู่​ใน​ใจ

ช่าง​ไร้ประโยชน์​เสีย​จริง​!

คุณนาย​ใหญ่​คิด​ว่า​ต่อไป​สือ​เหนียง​ยัง​ต้อง​ใช้ชีวิต​อยู่​ใน​สกุล​หวัง​ ​จะ​ทำให้​คุณหนู​ใหญ่​ผู้​นี้​ไม่พอใจ​ไม่ได้​ ​เห็น​ว่า​คุณนาย​สี่​พูดจา​ทำให้​เจียงฮู​หยิน​ไม่พอใจ​ ​แน่นอน​ว่านาง​จึง​ต้อง​ออกหน้า​แก้ต่าง​ ​คุณนาย​สี่​รู้อยู่​แล้ว​ ​นาง​จึง​คล้อยตาม​คุณนาย​ใหญ่​ ​พวก​นาง​สอง​คนพูด​นั่น​พูด​นี่​อยู่นาน​ ​เมื่อ​เห็น​ว่า​เริ่ม​สาย​แล้วก็​อ้างว่า​นาย​หญิง​ใหญ่​สกุล​หลัว​ไม่สบาย​ต้องการ​คนดู​แล​และ​ขอตัว​กลับ

เจียงฮู​หยิน​บอก​ให้​พวก​นาง​อยู่​ทานข้าว​ด้วยกัน

มีบ​่า​วรับ​ใช้​เข้ามา​รายงาน​พอดี​ ​“​จิ​้ว​เหยีย​ทั้งสอง​ท่าน​และ​นายท่า​นบ​อก​ว่า​จะ​ไปดู​เรื่อง​ของ​คุณชาย​น้อย​ที่​ศาลปกครอง​ ​บอก​ให้​คุณนาย​ทั้งสอง​ท่าน​และฮู​หยิน​เชิญ​ตามสบาย​ขอรับ​”

เช่นนี้​พวก​นาง​ก็​ไม่อยู่​ทานข้าว​ด้วย​แล้ว

เจียงฮู​หยิน​เห็น​ว่า​พวก​นาง​ยืนกราน​ที่จะ​ไป​ ​ก็​ออก​ไป​ส่ง​พวก​นาง​ที่​ประตู​ฉุยฮ​วาด​้วย​ตัวเอง​

คุณนาย​สี่​ยังคง​นั่ง​รถม้า​คัน​เดียว​กับ​สือ​อี​เหนียง​ ​ระหว่างทาง​ ​นาง​เตือน​สือ​อี​เหนียง​เบา​ๆ​ ​“​คุณหนู​ใหญ่​สกุล​หวัง​คน​นี้​ไม่ธรรมดา​ ​เกรง​ว่า​ต่อไป​คุณหนู​สิบ​คงจะ​ลำบาก​ไม่น้อย​”

สือ​อี​เหนียง​ยิ้ม​อย่าง​เฉยเมย​ ​“​สกุล​ญาติ​เหล่านั้น​ของ​สกุล​หวัง​พูด​ถูก​ ​นาง​เป็น​บุตรสาว​ที่​แต่งงาน​ออกเรือน​ไป​แล้ว​ ​ด้วย​สถานะ​แล้ว​นาง​ทำ​อะไร​ไม่ได้​”

คุณนาย​สี่​เห็น​ว่า​สือ​อี​เหนียง​เข้าใจ​ความหมาย​ของ​ตัวเอง​ ​ก็​ยิ้ม​แล้ว​ไม่​พูด​อะไร

กลับมา​ถึง​ตรอก​กง​เสียน​ ​พวก​นาง​พากัน​ไป​ที่​ห้อง​หนังสือ​ของ​หลัว​เจิ​้น​ซิ่ง​ก่อน

คุณนาย​ใหญ่​เล่าเรื่อง​บ่าย​วันนี้​ให้​หลัว​เจิ​้น​ซิ่ง​และ​คนอื่นๆ​ ​ฟัง

หลัว​เจิ​้น​ซิ่ง​ได้ยิน​เช่นนี้​ก็​คิ้ว​ขมวด​ ​เฉียน​หมิง​กระโดด​ออกมา​คน​แรก​ ​“​เมื่อวาน​ท่าน​โหว​ลาออก​จาก​ตำแหน่ง​แล้ว​ ​ทุกคน​รู้​หรือไม่​”

ทุกคน​ล้วน​ดู​สงบ

“​รู้​แล้ว​”​ ​หลัว​เจิ​้น​ซิ่ง​พูด​ ​“​เมื่อวาน​ข้า​บอก​แล้ว​”

“​เช่นนั้น​ก็​จะ​ลาก​ท่าน​โหว​ลง​น้ำ​เพราะ​สือ​เหนียง​ไม่ได้​”​ ​เฉียน​หมิง​พูด​อย่าง​เคร่งขรึม​ ​“​ตอนนี้​ ​ฮ่องเต้​คงจะ​ไม่พอ​พระทัย​ท่าน​โหว​อยู่​ ​ท่าน​โหวต​้​อง​หลีกเลี่ยง​ ​จะ​ให้​เขา​ออกหน้า​เพราะ​เรื่อง​นี้​ได้​เช่นไร​”​ ​พูด​จบ​ก็​มอง​ไป​ที่​สือ​อี​เหนียง​ ​“​ตอนนี้​คง​ต้อง​ยอม​เสีย​เรือ​เพื่อ​รักษา​ขุน​”

หลัว​เจิ​้น​ซิ่ง​ครุ่นคิด​ ​จากนั้น​ก็​พูด​กับ​คุณนาย​ใหญ่​ ​“​ข้า​ ​เฉียน​หมิง​และ​สือ​อี​เหนียง​จะ​ไปหา​ท่าน​โหว​ ​หาก​ท่าน​พ่อ​ถาม​ ​เจ้า​ก็​บอกว่า​พวกเรา​อยู่​ทานข้าว​ที่​จวน​สกุล​หวัง​”

คุณนาย​ใหญ่​พยักหน้า​และ​ส่ง​พวกเขา​ออก​ไป​ที่​ประตู

หลัว​เจิ​้น​ซิ่ง​และ​เฉียน​หมิง​มาถึง​จวน​สกุล​สวี

สวี​ลิ่ง​อี๋​เห็น​ว่า​พวกเขา​สาม​คน​มาด​้ว​ยกั​นก​็​ตกใจ​ ​บอก​ให้​สือ​อี​เหนียง​ไป​จัด​อาหาร​และ​เตรียม​สุรา​ ​แล้ว​เชิญ​หลัว​เจิ​้น​ซิ่ง​และ​เฉียน​หมิง​ไป​นั่ง​ที่​ห้อง​หนังสือ​ลาน​ข้างใน

หลัว​เจิ​้น​ซิ่ง​เล่า​แผนการ​ของ​สกุล​หลัว​และ​ความคิด​ของ​สกุล​หวัง​ให้​สวี​ลิ่ง​อี๋​ฟัง

สวี​ลิ่ง​อี๋​ฟัง​อย่าง​เงียบๆ​ ​ไม่​ปริปาก

หลัว​เจิ​้น​ซิ่ง​มองหน้า​เฉียน​หมิง​ ​จากนั้น​ก็​เล่าเรื่อง​ที่ปรึกษา​กัน​มาระ​หว่าง​ทาง​ ​“​…​สกุล​หวัง​ทำให้​เรา​ลำบากใจ​ ​เรา​คิด​ว่า​จะ​ทำ​เช่นนี้​ไม่ได้​จริงๆ​ ​จึง​จะ​ให้​สือ​เหนียง​พาสาว​ใช้​และ​ป้า​รับใช้​ที่​ติดตาม​ไป​ด้วย​ย้าย​ไป​ใช้ชีวิต​อยู่​ที่​เรือน​นอก​เล็ก​ๆ​ ​มอบ​เงิน​ให้​นาง​ปี​ละ​หนึ่งร้อย​ตำลึง​เงิน​ ​หาก​เป็น​เช่นนี้​ ​สือ​เหนียง​ก็​ยัง​สามารถ​มีชีวิต​ที่​มีความสุข​ได้​”

นี่​คือ​วิธี​ที่​ไม่มีทาง​เลือก

หาก​มีชีวิต​อยู่ยัง​พอได้​ ​แต่​หาก​ตาย​ไป​จะ​ทำ​เช่นไร

ถ้า​สกุล​หวัง​ไม่ยอม​ฝัง​สือ​เหนียง​ไว้​ใน​หลุมศพ​ของ​บรรพชน​ ​หรือว่า​จะ​ต้อง​ยก​ป้าย​จารึก​มา​ไว้​ที่​ห้อง​บรรพชน​ของ​สกุล​หลัว​?

คำพูด​ของ​เจียงฮู​หยิน​ ​พูดตรงๆ​ ​ก็​คือ​มุ่ง​เป้า​มาที​่​สวี​ลิ่ง​อี๋​ ​หลัว​เจิ​้น​ซิ่ง​ทำ​เช่นนี้​ ​ก็​เพื่อ​ทำให้​สวี​ลิ่ง​อี๋​สบายใจ​

สวี​ลิ่ง​อี๋​จะ​ไม่รู้​ได้​เช่นไร

แต่ว่า​เขา​คาด​ไว้​อยู่​แล้ว​ ​แค่​ตอนนี้​ยัง​ไม่​มั่นใจ​ ​อีกทั้ง​ยัง​ไม่ได้​บอก​กับ​สือ​อี​เหนียง​ ​มีบาง​เรื่อง​ที่​ตน​ยัง​ไม่เข้าใจ​ ​ยัง​พูด​กับ​หลัว​เจิ​้น​ซิ่ง​ไม่ได้​ ​เขา​จึง​แค่​ยิ้ม​แล้ว​ตบ​ไหล่​หลัว​เจิ​้น​ซิ่ง​เบา​ๆ​

“​กองทัพ​ต้อง​เดิน​ด้วย​ท้อง​ ​เรา​ทานข้าว​กัน​ก่อน​เถิด​”

หลัว​เจิ​้น​ซิ่ง​พูด​ใน​เรื่อง​ที่​ตัวเอง​อยาก​พูด​แล้ว​ ​เขา​ก็​โล่งใจ​แล้ว​ ​ทานข้าว​ที่​จวน​สกุล​สวี​ ​จากนั้น​ก็​ออก​ไป​จาก​เหอฮ​วาห​ลี่​กับ​เฉียน​หมิง​

สวี​ลิ่ง​อี๋​กลับ​ไป​ที่​เรือน​ของ​ตัวเอง

ร้อยรักปักดวงใจ

ร้อยรักปักดวงใจ

Status: Ongoing

เมื่อจวนสกุลหลัว มีภรรยาเอกหนึ่งคนและอนุภรรยาอีกหกคน จึงตามมาด้วยพี่น้องต่างมารดามากมาย

หลัวหยวนเหนียง บุตรีคนโตจากนายหญิงใหญ่ ได้แต่งเป็นภรรยาเอกของ สวีลิ่งอี๋ ที่มีบรรดาศักดิ์เป็นถึงหย่งผิงโหว แม่ทัพใหญ่

ทว่า ช่างโชคร้ายที่หลัวหยวนเหนียงล้มป่วนหนักและรู้ดีว่าใกล้ถึงวาระสุดท้าย นางจึงวางแผนการใหญ่กับมารดา

นั่นคือ การเลือกหนึ่งในหญิงสาวพี่น้องสกุลหลัวที่ยังไม่ได้ออกเรือนมาคอยดูแล จุนเกอ บุตรชายสุดที่รักเพียงคนเดียว และ...

คอยรักษาอำนาจของสกุลหลัวไว้ในฐานะภรรยาเอก โดยการแต่งงานกับหย่งผิงโหวเพื่อเป็นภรรยาตัวแทน!

สุดท้าย ผู้ถูกเลือกนั้นกลับกลายเป็นบุตรีของอนุภรรยา คุณหนูสิบเอ็ดผู้รักความสงบอย่าง สืออีเหนียง

แม้ไม่อาจหนีพ้นชะตากรรมที่มีผู้กำหนดมาให้ มีแต่ต้องเผชิญกับความวุ่นวายตรงหน้าต่อไป

ทักษะการปักผ้า ไหวพริบที่ติดตัวมา และเสน่ห์สุขุมดั่งน้ำนิ่ง อาจนำไปสู่กระแสน้ำพัดพาเหนือใครจะคาดเดา!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท